ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Meet ; เวลานัดหมาย
Meet ; เวลานัดหมาย
              อลิซเดินออกจากตึกของโรงเรียน  หน้าโรงเรียนสนามหญ้ากว้างๆ  ที่พวกพอลใช้เล่นเตะฟุตบอลกัน  อลิซเดินมาเรื่อยๆ  และหยุดมองพอลอยู่ใต้ต้นไม้  เธอก็ไม่รู้ถึงสาเหตุที่ต้องหยุดและมองพอลเช่นนี้  เธอเคยสงสัยกับคำถามต่างๆ  ที่ผุดขึ้นมาในความคิดของเธอ  และเธอไม่ยังไม่สามารถหาคำตอบที่ทำให้ตัวเองพอใจได้เช่นกัน 
“เอ๋ !!! ทำไมเราต้องไปมองด้วย”  พอคิดได้ก็เริ่มเดินออกจากโรงเรียน
“อ้าว...อลิซจะกลับบ้านหรอ” 
“จ้า” 
“เอ้อ...ลืมไปนี่  เอฟ กับ ออฟ  เป็นฝาแฝดกัน  เอฟ  ออฟ  นี่อลิซนะเป็นเพื่อนใหม่ของฉัน”  แมรี่แนะนำ  ฝาแฝด 2 คนที่หน้าตาเหมือนกันมากๆ  แต่ก็มีจุดต่างคือ  เอฟ จะมีผมยาว  ส่วนออฟจะมีผมสั้น  ทั้งสองคนสูง +  อวบๆนิดๆ  ก็ไม่นิดเท่าไหร่  หน้าตาใช้ได้เลยที่เดียวถ้าจะให้เล่นเป็นซาลาเปา  ( ก็หน้าตาประมาณนั้นแหละใส้อะไรไปคิดเองละกัน  แล้วก็ขาวๆ  อวบๆ )
“ยินดีที่ได้รู้จัก”
“เช่นกันจ้า”  ออฟ และ เอฟพูด
“ไม่กลับกับพอลหรอวันนี้”  “เห็นทุกทีกลับด้วยกันนี่” 
“พอลเล่นฟุตบอลอยู่น่ะ...ก็เลยกลับคนเดียว” อลิซพูดแล้วมองไปที่พอล  และก็เหมือนว่าพอลจะมองกลับมาด้วย
“ไปก่อนนะ”  อลิซพูด
“BYE  BYE” 
“เฮ้ย...วันนี้ฉันขอกลับก่อนนะ”  พอลพูดแล้วก็วิ่งออกไปทันที
“อ้าว...จะไปแล้วหรอหมู่นี้กลับเร็วทุกวันเลยนะ”  วีสพูด  วีสเป็นเพื่อนสนิทของพอล  หน้าตาก็หล่อดี  แต่คงโดนรัศมีของนักสืบพอลบดบังละมั้ง  เลยดูว่าเป็นคนหน้าตาธรรมดามากกว่า  แต่ไม่ได้รับคำตอบจากพอล  !!!
“อลิซรอด้วย”  พอลเรียก  อลิซทำเป็นไม่ได้ยิน  พอลก็รีบวิ่งตาม
“ขอโทษที่ทำให้รอนะ”  พอลพูดไปหอบไป
“ใครรอนายยะ”  อลิซพูดในลำคอแต่พอลไม่ได้ยิน
“อะไรนะ” 
“ไม่มีอะไรนี่” 
“โกรธรึเปล่า”  พอลนึกว่าอลิซโกรธที่ทำให้เธอต้องรอ
“เปล่า”  อลิซทำหน้างอ
“แล้วเป็นอะไร” 
“เป็นอลิซ” 
“ใช่สินะ  อลิซก็ต้องเป็นอลิซสิจะเป็นคนอื่นไปได้ยังไง...จริงไหม???”  พอลพูด
              อลิซมองพอลและคิดว่า  ถ้าพอลรู้ว่าเธอเป็น . . . กำลังเป็นที่ต้องการจับของทุกคน . . . จะทำยังไง  หน้าอลิซดูกลุ้มใจกับคำพูดของพอลมากๆ  ทั้งๆที่เมื่อก่อนเธอไม่เคยจะกังวลคำพูดของใคร
“เป็นอะไรไปอีก อลิซ”
“อลิซ”พอลเรียกดังๆ
“อะไร !!!” อลิซตกใจ
“ถามว่าเป็นอะไรไปอีก” 
“ไม่เป็นอะไรสักหน่อยอย่าคิดมากสิ...เอ่อนี่แมรี่เค้าฝากบทมาให้หนะ”  อลิซพูดและหยิบบทที่แมรี่ฝากมาให้พอล
“แล้วก็บอกว่าพรุ่งนี้ตอน12.00น.  ซ้อมด้วย” 
“อ้าว...พรุ่งนี้วันเสาร์นี่” 
“ใช่ก็วันเสาร์ไง...หาวันเสาร์” อลิซลืมอีกแล้วว่าพรุ่งนี้เธอต้องไปประชุมตอนเช้าแล้วก็ไปกับพอลแล้วก็ต้อง เฮ้อ เหนื่อย
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย”
“พรุ่งนี้ที่เรานัดก็เลื่อนเป็นเก้าโมงก็ได้นี่” 
“ไม่ได้นะ” 
“ทำไมล่ะ  อลิซมีธุระที่ไหนหรอ”  พอลถามสงสัยว่าอลิซจะยุ่งอะไรนักหนา
“10.00น.ได้ไหม  ตอนเช้าฉันต้องพายายไปโรงพยาบาลหนะ  ไปเช็คสุขภาพ”อลิซโกหกพอล
“ได้สิ  ที่ร้าน...MCD...ละกัน”
              หลังจากทั้งสอง  แยกกันเมื่อถึงหน้าบ้านของอลิซ  อลิซก็รีบวิ่งเข้าห้องนอนของตัวเองเมื่อทานอาหารเย็นเสร็จ  เพื่อเตรียมการอะไรบางอย่าง
“เฮ้อเหนื่อยจัง” 
“พรุ่งนี้  9.00 น. ไปพบ Mas  เพื่อทำงานครั้งใหญ่  10.00  ไปหาพอลที่  MCD  แล้ว 12.00 ต้องไปซ้อมละคร” อลิซบ่น
“จะไปทันไหมเนี่ย” และเธอก็ล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยล้า
+ A Rainway + ;  ทางรถไฟ
ตี๊ด ๆ  ตี๊ด ๆ
              เธอตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่ตัวเธอเองได้ตั้งไว้ก่อนนอนเมื่อคืน  เธอลุกขึ้นอย่างอ่อนล้าเมื่อนึกถึงงานที่ต้องกระทำในวันนี้  แสงแดดสาดส่องเข้ามาที่หน้าต่าง  พร้อมกับสายลมอ่อนๆที่ทำให้ผ้าม่านโบกสะบัดไปตามแรงลมเอื่อยๆ
“วันนี้ต้องเป็นวันที่ฉันซวยที่สุดแน่ๆเลย” อลิซพูดพลางหยิบตารางนัดหมายที่เขียนไว้ก่อนนอนขึ้นมาดู
“ยายคะ...วันนี้หนูต้องไปซ้อมละครที่โรงเรียน...คงกลับเย็น...ยายไม่ต้องรอนะคะ”
“อ้าว...แล้วจะกลับมาทานข้าวเย็นไหม ???”
“เอ่อ...คงไม่ละคะ หนูไปก่อนนะคะ”
“อุ๊ย...อะไรกันเด็กคนนี้”ยายของอลิซอดบ่นในท่าทีที่รีบร้อนของหลานสาวไม่ได้
              อลิซวิ่งออกจากบ้านและแวะเข้าห้องน้ำที่สถานีรถไฟ  พอออกจากห้องน้ำอลิซก็กลายเป็นสาว Office ที่สวยสง่าด้วยชุดสูทหญิงสีดำมีโค๊ตเนมว่า A25/26  ชื่อ เจนนี่  เธอเดินขึ้นรถไฟ  อย่างไม่รีบร้อนนัก  แต่ที่นั่งในรถไฟกลับถูกอัดแน่นและเต็มไปด้วยผู้คน
“ตรงนี้มีคนนั่งไหมคะ” อลิซในร่างสาว Office ถาม
“ไม่มี”ชายหนุ่มตอบ  ด้วยเสียงที่ดูคุ้นๆ  แต่อลิซก็ไม่ได้สนใจ
              อลิซในร่างสาว Office นั่งลงข้างๆชายหนุ่มคนหนึ่งเพราะมีที่นั่งเหลือแค่ที่เดียว  อลิซไม่เห็นหรอกว่าเป็นใครเพราะชายหนุ่มคนนั้นนั่งหันหน้าเข้าหน้าต่าง  แต่พอเขาหันหน้ามากลับเป็น พอล !!!  แต่เขาไม่เหมือนพอลคนเดิม  พอลมีสีหน้าที่ดูเหมือนผิดหวังจากใครหรืออะไรสักอย่าง
“เฮ้อ” พอลถอนหายใจ
“เอ่อ...ขอโทษนะ...ฉันก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของใคร...แต่...คุณเป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่า” พอลพูดแต่สีหน้าแสดงถึงความตรงข้ามกับคำตอบ
“ตอนนี้คุณกำลังมีปัญหา” อลิซในร่างสาว Office ยังคงตื้อถามไม่เลิก
“ใช่” พอลตอบเสียงเบามากๆ  แต่น้ำเสียงก็บอกได้ชัดเจนมากว่าปัญหาของพอลหนักมากมายเหลือเกิน  รถไฟยังคงแล่นไปเรื่อยๆ  ผ่านแม่น้ำ  ผ่านเมือง ดูแล้วพาให้สดชื่น  แต่ผิดกับความรู้สึกกับพอล  อลิซไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้เธอถึงรู้สึกไม่สบายใจมากๆ  ทั้งๆที่เธอก็ไม่มีเรื่องให้น่ากังวล 
“บางที่ถ้าคุณพูดหรืออยากระบายให้ใครฟังพูดกับฉันก็ได้นะ...แต่ถ้าไม่พูดก็ไม่เป็นไรหรอก”
“ขอถามเธออย่างได้ไหม .... เธอเป็นใคร ???”  อลิซในร่างสาว Office ตกใจกับคำถามของพอลมากๆ  พอลรู้แล้วหรือว่าเธอเป็นใคร
“หมายความว่า คุณชื่ออะไร เป็นใคร”  พอลพูดสีหน้าดีขึ้นกว่าเก่านิดหน่อย  แต่อลิซถึงกับถอนหายใจแบบโล่งอก
“อ๋อ...ฉันเป็นสาว Office ชื่อ เจนนีเฟอร์  เรียกว่า เจนนี่ เฉยๆก็ได้” อลิซในร่างสาว Office ตอบ  หลังจากนิ่งคิดไปพักหนึ่ง
“คุณรู้ไหม...เสียงคุณคล้ายๆกับคนที่ผมรู้จัก” พอลพูดแล้วสีหน้ากลับกลายเป็นเศร้าเหมือนเดิม
“ใครหรอ” เจนนี่ แกล้งถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ
“เธอชื่ออลิซ”  พอลพูด   
“เธอคนสวย...ผมชอบเธอตั้งแต่เธอเดินเข้ามาในโรงเรียนวันแรก...แต่เธอเป็นคนเงียบไม่ยอมพูดกับใคร...วันหนึ่ง...ผมจึงเดินตามเธอกลับบ้าน...แล้วพบว่าบ้านเธออยู่ห่างจากบ้านผมแค่ไม่กี่หลัง...พักหลังนี้เธอเริ่มพูดกับผม...ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงพูด...เพราะอยู่ดีๆเธอก็พูดออกมา...ผมสงสัยอยู่เหมือนกัน...แต่ความดีใจที่เธอพูดมันมากกว่าความสงสัย...ผมจึงลืมข้อสงสัยของผมไป” 
“วันนี้เป็นวันที่ผมกับอลิซ...ไปเที่ยวกัน...ผมดีใจมากตอนที่เธอตอบตกลงว่าเธอจะไปเที่ยวกับผม...ตอนเช้าของวันนี้ผมไปหาเธอที่บ้าน...” 
“อะไรนะ”อลิซตกใจจนอุทานออกมาเสียงดังจนพอลเริ่มสงสัย
“อ๋อ...เปล่า...ไม่มีอะไร”
“ผมพบว่าเธอออกจากบ้านไปซ้อมละคร...ซึ่งความจริงละครมันมีตั้งตอน 12.00 น.  เธอนัดผมตอน 10.00 น.  เธอบอกว่าเธอไม่ว่างจะพายายไปตรวจสุขภาพ...เธอโกหกผม......” พอลระบายอารมณ์ออกมา
“เธออาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้นะ”
“แต่ความจริงผมไม่ได้โกรธเธอเพราะแค่นั้นหรอก...ผมแคร์เธอมากกว่าใคร...แต่เธอจะไปไหนก็ไม่เคยบอก...เป็นอะไรก็ไม่บอก...มีอะไรก็ไม่ยอมบอก...เธอรู้เรื่องของผม...แต่ผมไม่เคยรู้เรื่องของเธอเลย...เธอเคยวิ่งหนีผมไปตั้งหลายครั้ง...โดยที่มีข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผล...วันนี้เธอก็มาโกหกผมอีก” 
“ฉันว่าคุณคงมองอลิซผิดไป... คุณก็บอกเองนี่ว่าเธอเป็นคนเงียบเธออาจจะไม่แสดงอะไรออกมาให้นายเห็น......ทุกครั้งที่อลิซวิ่งหนีคุณไปอาจจะเป็นเพราะเธอมีธุระที่สำคัญมากก็เป็นได้... เอาเป็นว่าคุณลองไปคิดถึงอลิซในอีกแง่ที่ว่า...คุณไว้ใจเธอ...เห็นใจเธอ... อะไรประมาณนั้นน่าจะดีกว่า  มานั่งกลุ้มใจแบบนี้นะ”
“จริงสินะ...ผมคงมองเธอผิดไป” พอลพูด  พร้อมกับยิ้ม
“ขอบคุณ...คุณเจนนี่มากนะครับ...ผมสบายใจขึ้นมากเลย”
“ลาก่อนนะคะ...ขอให้สมหวังกับเธอคนนั้นละกัน...เธอคงดีใจมากถ้ารู้ว่ามีคนคนหนึ่งซึ่งแคร์เธอมากขนาดนี้” เจนนี่พูดและลงจากรถไฟไปในทันที
Secret Code  ;  รหัสลับ
                หลังจากที่เจนนี่ลงจากรถไฟแล้วเธอก็ตรงไปยัง  ตึกแห่งหนึ่งที่สูงถึง  300  เมตร  ภายในตึกเป็นโรงแรมระดับ  5  ดาวเลยทีเดียว  เจนนี่เดินขึ้นลิฟท์เธอกดที่ชั้นหมายเลข 99 ซึ่งเป็นที่อยู่ของหัวหน้าของเธอ  โค๊ตเนมชื่อ  MAS
ปิ๊ง  ป่อง  ลิฟท์ขึ้นมาถึงชั้นที่ 99 แล้ว  เจนนี่เดินตรงไปยังห้องหมายเลข 099 และเปิดประตู
“ขอดู รหัส หน่อย” ยามที่เฝ้าประตู  ผู้มีรูปร่างสูงใหญ่โต  ดูแล้วค่อนข้างน่ากลัว  เจนนี่ยื่นบัตรแข็งสีขาวและมีตัวอักษรสีดำให้ยามดู
“เชิญ” ยามพูดเสียงแข็งและผายมือต้อนรับอย่างเป็นพิธีการ
“อย่าทำเย็นชาอย่างนั้นสิ P100 ” เจนนี่พูดกับยามคนที่เฝ้าประตูอยู่ 
“ 555 ... ถึงฉันจะเปลี่ยนหน้าตา  บุคลิกยังไง  อลิซก็ดูออกทุกทีเลยนะ” P100 พูดพร้อมกับฉีกหน้ากากที่ตัวเองใส่อยู่  เขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อเอาการทีเดียวเลย  และดูเหมือนจะชอบคนคนเดียวกับพอลอีกต่างหาก
“เชิญครับ...คุณผู้หญิง” P100 พูดพร้อมกับเปิดประตูให้  ภายในห้องดูเหมือนจะเป็นห้องประชุม  เจนนี่เดินเข้าห้องพร้อมกับนั่งประจำตำแหน่งของตัวเอง และ P100 ก็เข้ามานั่งข้างๆ เจนนี่ 
------------------------- เวลาผ่านไป  5  นาที -------------------------
              ประตูห้องประชุมเปิดออก  พร้อมกับชายคนหนึ่งเดินเข้ามา  ทุกคนในห้องประชุมยืนขึ้นและโค้งคำนับรับเหมือนการต้อนรับประธาน
“สวัสดี ทุกท่าน” ชายคนที่เดินเข้ามาในห้องประชุมทักหลังจากเข้าไปยืนตรงหัวโต๊ะประชุม 
“สวัสดี ท่าน MAS ” ทุกคนพูดพร้อมกัน  Mas พยักหน้ารับและนั่งลง ทุกคนก็นั่งลงตาม
“ผมภูมิใจกับผลงานของคุณมากนะคุณ A25/26 คุณไม่เคยพลาดและไม่เคยทำให้ผมผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียว ...”
“วันนี้ที่ผมเรียกพวกคุณมาหวังจะให้ทำงานใหญ่ชิ้นหนึ่ง...มันเป็นงานที่หนักเอาการเลยทีเดียวและสำคัญมาก”
“มันเป็นงานที่ผมจะสามารถพิสูจน์ความสามารถและฝีมือของพวกคุณแต่ละคนได้...แน่นอนว่ามันเป็นงานที่จะต้องทำเพียงผู้เดียว...” Mas พูดพลางยื่นกระดาษให้ทุกคนในห้องประชุม  ซึ่งมีประมาณ 3-4 คน  มี A25/26  P100  M987  C654 
“ผมอยากให้พวกคุณทั้ง 4 แสดงฝีมือให้ผมเห็นโดยการไปเอาสิ่งที่อยู่ในกระดาษบนมือของพวกคุณตอนนี้นำมาให้ผม...วัน เวลา และ สถานนี้ ผมแจ้งให้พวกคุณเรียบร้อยแล้ว  เหลือแค่ความสำเร็จของพวกคุณเท่านั้น”
“ขอให้ทุกคนโชคดี”
“ค่ะ/ครับ ท่าน”
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
              หลังจากออกจากห้องประชุมแล้ว  ทุกคนก็แยกออกจากกัน  เจนนี่เดินออกไปกับ P100  ทั้งสองเดินไปที่ห้องพัก  ซึ่งเป็นห้องของ  P100
“นี่ A เธอว่างานชิ้นนี้เป็นยังไงบ้าง” P  ถาม  ขณะนั่งลงที่โซฟาในห้องของตน
“ก็ไม่เป็นไรนี่”
“งานยากออกนะ...ลองอ่านสิ...ให้ไปเอาคริสตอลสีขาวใสบริสุทธิ์ในงานเสดงละครที่จัดบนเรือลำใหญ่...พอเอาของเสร็จแล้วจะให้โดดลงทะเลหนีรึไง...บ้าที่สุด...งานแบบนี้ใครจะไปทำได้...ว่าไหม ???”
“ไม่หรอก...ถึงจะยากแค่ไหนก็ต้องทำให้ได้...ฉันชอบออกสิ่งที่ท้าทาย...”
“เธอก็เป็นซะอย่างนี้ทุกที...ชอบสิ่งที่อันตราย...ท้าทาย...ถามจริงๆเถอะ...เธอเอาเงินที่ได้จากการเป็นอย่างนี้ไปทำอะไร” P100 พูด  แต่ A25/26 กลับเงียบสีหน้าเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจมากๆ
“ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรหรอก...เอ่อจริงสิวันนี้เธอจะไม่ไปไหนต่อหรอ”
“เออ...ใช่ลืมสนิทเลย...ฉันมีธุระสำคัญไปก่อนนะ...แล้วเจอกันในงานละกัน”  เจนนี่มองดูนาฬิกาตอนนี้มัน 10  โมงแล้ว  เธอรีบเรียกรถมอเตอร์ไซด์
“ไปสถานีรถไฟด่วนเลยนะ...เร็วที่สุดด้วย” เจนนี่บอกคนขับรถ  พร้อมกับโดดขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์ 
“เร็วกว่านี้อีกไม่ได้หรอ” เจนนี่ถาม
“เร็วที่สุดของที่สุดแล้วครับ” คนขับพูด  แต่มันไม่ทันใจเจนนี่  นี่ !!! 
“จอดรถก่อน” เจนนี่พูด  คนขับรถทำตาม 
“คุณลงมา...ฉันจะขับเอง” เจนนี่สั่ง  พอคนขับทำตาม  เจนนี่ก็กระโดดขึ้นข้างหน้ารถพร้อมกับพูดว่า
“คุณขึ้นมาสิเร็วๆ” คนขับก็ซ้อนท้ายเจนนี่  เจนนี่ขับรถด้วยความเร็วสูงตรงไปสู่สถานีรถไฟ
              พอถึงสถานีรถไฟ  เจนนี่ยัดเงินใส่มือของคนขับรถที่นั่งรถมอเตอร์ไซด์อยู่ทื่อๆ  ผมตั้งขึ้นเหมือนโดนผีหลอก  เจนนี่ก็เดินกลับเข้าห้องน้ำและพอเดินออกมาเธอก็กลายเป็นอลิซคนเดิม 
              อลิซวิ่งออกจากสถานีรถไฟตรงไปที่ร้าน  MCD  ซึ่งเป็นสถานที่นัดของเธอกับพอล  เธอเดินเข้าไปในร้านและมองหาพอล  แต่ก็หาไม่เจอ  เธอมองดูที่นาฬิกาของเธอมันบอกเวลาเธอว่าตอนนี้มันเวลา 10.45 น. แล้วเธอกลุ่มใจมาก  เธอลองมองไปยังรอบๆร้านอีกที  คิดว่าเผื่อจะเจอ  แต่อลิซก็ผิดหวัง  จะโทษใครก็ไม่ได้มันเป็นความผิดของเธอเอง !!!
อลิซจึงเดินก้มหน้าก้มตาออกจากร้าน MCD  เดินไปเรื่อย ๆ  เรื่อย ๆ  อย่างไร้จุดหมาย
 
โอ๊ย !!!!  อลิซชนกับคนคนหนึ่ง 
“ขอโทษค่ะ/ครับ” อลิซพูดพร้อมกับคนคนนั้นอลิซและเขาคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองคนที่เธอเดินชน
“พอล”  “อลิซ”  ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน
“ฉันขอโทษ” ทั้งสองคนพูดพร้อมกันอีก
“คือฉัน”  แล้วก็พูดพร้อมกันอีก
“เธอพูดก่อนละกัน” พอลพูดและยิ้มให้อลิซ
“คือฉันจะพูดว่า  ฉันขอโทษที่ไม่ได้ไปตามนัด  คือ  ฉันมัวแต่เอ่อ ..” อลิซลืมคิดหาข้อแก้ตัว 
“ช่างมันเถอะ...ฉันเข้าใจว่าบางที...คนเราก็มีบางสิ่งที่บอกคนอื่นไม่ได้ และฉันก็ต้องขอโทษเธอด้วยละกันที่มัวแต่ใจลอย...ก็เลยลงจากรถไฟผิดสถานี” พอลพูดและยิ้มให้  อลิซ  อลิซก็เริ่มสบายใจขึ้นด้วย  มันเป็นบรรยกาศที่ดีมากเลยที่เดียว 
“เอ่อ...นี่ก็ใกล้เวลานัดซ้อมละครแล้วเราไปโรงเรียนด้วยกันเลยดีไหม”  และแล้วพอลกับอลิซก็เดินไปโรงเรียนด้วยกัน  ขณะเดินไปก็คุยไป  คอยให้แสงแดดที่อบอุ่น  ลมเย็นๆบริสุทธิ์  และหัวใจคอยนำทาง
              อลิซเดินออกจากตึกของโรงเรียน  หน้าโรงเรียนสนามหญ้ากว้างๆ  ที่พวกพอลใช้เล่นเตะฟุตบอลกัน  อลิซเดินมาเรื่อยๆ  และหยุดมองพอลอยู่ใต้ต้นไม้  เธอก็ไม่รู้ถึงสาเหตุที่ต้องหยุดและมองพอลเช่นนี้  เธอเคยสงสัยกับคำถามต่างๆ  ที่ผุดขึ้นมาในความคิดของเธอ  และเธอไม่ยังไม่สามารถหาคำตอบที่ทำให้ตัวเองพอใจได้เช่นกัน 
“เอ๋ !!! ทำไมเราต้องไปมองด้วย”  พอคิดได้ก็เริ่มเดินออกจากโรงเรียน
“อ้าว...อลิซจะกลับบ้านหรอ” 
“จ้า” 
“เอ้อ...ลืมไปนี่  เอฟ กับ ออฟ  เป็นฝาแฝดกัน  เอฟ  ออฟ  นี่อลิซนะเป็นเพื่อนใหม่ของฉัน”  แมรี่แนะนำ  ฝาแฝด 2 คนที่หน้าตาเหมือนกันมากๆ  แต่ก็มีจุดต่างคือ  เอฟ จะมีผมยาว  ส่วนออฟจะมีผมสั้น  ทั้งสองคนสูง +  อวบๆนิดๆ  ก็ไม่นิดเท่าไหร่  หน้าตาใช้ได้เลยที่เดียวถ้าจะให้เล่นเป็นซาลาเปา  ( ก็หน้าตาประมาณนั้นแหละใส้อะไรไปคิดเองละกัน  แล้วก็ขาวๆ  อวบๆ )
“ยินดีที่ได้รู้จัก”
“เช่นกันจ้า”  ออฟ และ เอฟพูด
“ไม่กลับกับพอลหรอวันนี้”  “เห็นทุกทีกลับด้วยกันนี่” 
“พอลเล่นฟุตบอลอยู่น่ะ...ก็เลยกลับคนเดียว” อลิซพูดแล้วมองไปที่พอล  และก็เหมือนว่าพอลจะมองกลับมาด้วย
“ไปก่อนนะ”  อลิซพูด
“BYE  BYE” 
“เฮ้ย...วันนี้ฉันขอกลับก่อนนะ”  พอลพูดแล้วก็วิ่งออกไปทันที
“อ้าว...จะไปแล้วหรอหมู่นี้กลับเร็วทุกวันเลยนะ”  วีสพูด  วีสเป็นเพื่อนสนิทของพอล  หน้าตาก็หล่อดี  แต่คงโดนรัศมีของนักสืบพอลบดบังละมั้ง  เลยดูว่าเป็นคนหน้าตาธรรมดามากกว่า  แต่ไม่ได้รับคำตอบจากพอล  !!!
“อลิซรอด้วย”  พอลเรียก  อลิซทำเป็นไม่ได้ยิน  พอลก็รีบวิ่งตาม
“ขอโทษที่ทำให้รอนะ”  พอลพูดไปหอบไป
“ใครรอนายยะ”  อลิซพูดในลำคอแต่พอลไม่ได้ยิน
“อะไรนะ” 
“ไม่มีอะไรนี่” 
“โกรธรึเปล่า”  พอลนึกว่าอลิซโกรธที่ทำให้เธอต้องรอ
“เปล่า”  อลิซทำหน้างอ
“แล้วเป็นอะไร” 
“เป็นอลิซ” 
“ใช่สินะ  อลิซก็ต้องเป็นอลิซสิจะเป็นคนอื่นไปได้ยังไง...จริงไหม???”  พอลพูด
              อลิซมองพอลและคิดว่า  ถ้าพอลรู้ว่าเธอเป็น . . . กำลังเป็นที่ต้องการจับของทุกคน . . . จะทำยังไง  หน้าอลิซดูกลุ้มใจกับคำพูดของพอลมากๆ  ทั้งๆที่เมื่อก่อนเธอไม่เคยจะกังวลคำพูดของใคร
“เป็นอะไรไปอีก อลิซ”
“อลิซ”พอลเรียกดังๆ
“อะไร !!!” อลิซตกใจ
“ถามว่าเป็นอะไรไปอีก” 
“ไม่เป็นอะไรสักหน่อยอย่าคิดมากสิ...เอ่อนี่แมรี่เค้าฝากบทมาให้หนะ”  อลิซพูดและหยิบบทที่แมรี่ฝากมาให้พอล
“แล้วก็บอกว่าพรุ่งนี้ตอน12.00น.  ซ้อมด้วย” 
“อ้าว...พรุ่งนี้วันเสาร์นี่” 
“ใช่ก็วันเสาร์ไง...หาวันเสาร์” อลิซลืมอีกแล้วว่าพรุ่งนี้เธอต้องไปประชุมตอนเช้าแล้วก็ไปกับพอลแล้วก็ต้อง เฮ้อ เหนื่อย
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย”
“พรุ่งนี้ที่เรานัดก็เลื่อนเป็นเก้าโมงก็ได้นี่” 
“ไม่ได้นะ” 
“ทำไมล่ะ  อลิซมีธุระที่ไหนหรอ”  พอลถามสงสัยว่าอลิซจะยุ่งอะไรนักหนา
“10.00น.ได้ไหม  ตอนเช้าฉันต้องพายายไปโรงพยาบาลหนะ  ไปเช็คสุขภาพ”อลิซโกหกพอล
“ได้สิ  ที่ร้าน...MCD...ละกัน”
              หลังจากทั้งสอง  แยกกันเมื่อถึงหน้าบ้านของอลิซ  อลิซก็รีบวิ่งเข้าห้องนอนของตัวเองเมื่อทานอาหารเย็นเสร็จ  เพื่อเตรียมการอะไรบางอย่าง
“เฮ้อเหนื่อยจัง” 
“พรุ่งนี้  9.00 น. ไปพบ Mas  เพื่อทำงานครั้งใหญ่  10.00  ไปหาพอลที่  MCD  แล้ว 12.00 ต้องไปซ้อมละคร” อลิซบ่น
“จะไปทันไหมเนี่ย” และเธอก็ล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยล้า
+ A Rainway + ;  ทางรถไฟ
ตี๊ด ๆ  ตี๊ด ๆ
              เธอตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่ตัวเธอเองได้ตั้งไว้ก่อนนอนเมื่อคืน  เธอลุกขึ้นอย่างอ่อนล้าเมื่อนึกถึงงานที่ต้องกระทำในวันนี้  แสงแดดสาดส่องเข้ามาที่หน้าต่าง  พร้อมกับสายลมอ่อนๆที่ทำให้ผ้าม่านโบกสะบัดไปตามแรงลมเอื่อยๆ
“วันนี้ต้องเป็นวันที่ฉันซวยที่สุดแน่ๆเลย” อลิซพูดพลางหยิบตารางนัดหมายที่เขียนไว้ก่อนนอนขึ้นมาดู
“ยายคะ...วันนี้หนูต้องไปซ้อมละครที่โรงเรียน...คงกลับเย็น...ยายไม่ต้องรอนะคะ”
“อ้าว...แล้วจะกลับมาทานข้าวเย็นไหม ???”
“เอ่อ...คงไม่ละคะ หนูไปก่อนนะคะ”
“อุ๊ย...อะไรกันเด็กคนนี้”ยายของอลิซอดบ่นในท่าทีที่รีบร้อนของหลานสาวไม่ได้
              อลิซวิ่งออกจากบ้านและแวะเข้าห้องน้ำที่สถานีรถไฟ  พอออกจากห้องน้ำอลิซก็กลายเป็นสาว Office ที่สวยสง่าด้วยชุดสูทหญิงสีดำมีโค๊ตเนมว่า A25/26  ชื่อ เจนนี่  เธอเดินขึ้นรถไฟ  อย่างไม่รีบร้อนนัก  แต่ที่นั่งในรถไฟกลับถูกอัดแน่นและเต็มไปด้วยผู้คน
“ตรงนี้มีคนนั่งไหมคะ” อลิซในร่างสาว Office ถาม
“ไม่มี”ชายหนุ่มตอบ  ด้วยเสียงที่ดูคุ้นๆ  แต่อลิซก็ไม่ได้สนใจ
              อลิซในร่างสาว Office นั่งลงข้างๆชายหนุ่มคนหนึ่งเพราะมีที่นั่งเหลือแค่ที่เดียว  อลิซไม่เห็นหรอกว่าเป็นใครเพราะชายหนุ่มคนนั้นนั่งหันหน้าเข้าหน้าต่าง  แต่พอเขาหันหน้ามากลับเป็น พอล !!!  แต่เขาไม่เหมือนพอลคนเดิม  พอลมีสีหน้าที่ดูเหมือนผิดหวังจากใครหรืออะไรสักอย่าง
“เฮ้อ” พอลถอนหายใจ
“เอ่อ...ขอโทษนะ...ฉันก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของใคร...แต่...คุณเป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่า” พอลพูดแต่สีหน้าแสดงถึงความตรงข้ามกับคำตอบ
“ตอนนี้คุณกำลังมีปัญหา” อลิซในร่างสาว Office ยังคงตื้อถามไม่เลิก
“ใช่” พอลตอบเสียงเบามากๆ  แต่น้ำเสียงก็บอกได้ชัดเจนมากว่าปัญหาของพอลหนักมากมายเหลือเกิน  รถไฟยังคงแล่นไปเรื่อยๆ  ผ่านแม่น้ำ  ผ่านเมือง ดูแล้วพาให้สดชื่น  แต่ผิดกับความรู้สึกกับพอล  อลิซไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้เธอถึงรู้สึกไม่สบายใจมากๆ  ทั้งๆที่เธอก็ไม่มีเรื่องให้น่ากังวล 
“บางที่ถ้าคุณพูดหรืออยากระบายให้ใครฟังพูดกับฉันก็ได้นะ...แต่ถ้าไม่พูดก็ไม่เป็นไรหรอก”
“ขอถามเธออย่างได้ไหม .... เธอเป็นใคร ???”  อลิซในร่างสาว Office ตกใจกับคำถามของพอลมากๆ  พอลรู้แล้วหรือว่าเธอเป็นใคร
“หมายความว่า คุณชื่ออะไร เป็นใคร”  พอลพูดสีหน้าดีขึ้นกว่าเก่านิดหน่อย  แต่อลิซถึงกับถอนหายใจแบบโล่งอก
“อ๋อ...ฉันเป็นสาว Office ชื่อ เจนนีเฟอร์  เรียกว่า เจนนี่ เฉยๆก็ได้” อลิซในร่างสาว Office ตอบ  หลังจากนิ่งคิดไปพักหนึ่ง
“คุณรู้ไหม...เสียงคุณคล้ายๆกับคนที่ผมรู้จัก” พอลพูดแล้วสีหน้ากลับกลายเป็นเศร้าเหมือนเดิม
“ใครหรอ” เจนนี่ แกล้งถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ
“เธอชื่ออลิซ”  พอลพูด   
“เธอคนสวย...ผมชอบเธอตั้งแต่เธอเดินเข้ามาในโรงเรียนวันแรก...แต่เธอเป็นคนเงียบไม่ยอมพูดกับใคร...วันหนึ่ง...ผมจึงเดินตามเธอกลับบ้าน...แล้วพบว่าบ้านเธออยู่ห่างจากบ้านผมแค่ไม่กี่หลัง...พักหลังนี้เธอเริ่มพูดกับผม...ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงพูด...เพราะอยู่ดีๆเธอก็พูดออกมา...ผมสงสัยอยู่เหมือนกัน...แต่ความดีใจที่เธอพูดมันมากกว่าความสงสัย...ผมจึงลืมข้อสงสัยของผมไป” 
“วันนี้เป็นวันที่ผมกับอลิซ...ไปเที่ยวกัน...ผมดีใจมากตอนที่เธอตอบตกลงว่าเธอจะไปเที่ยวกับผม...ตอนเช้าของวันนี้ผมไปหาเธอที่บ้าน...” 
“อะไรนะ”อลิซตกใจจนอุทานออกมาเสียงดังจนพอลเริ่มสงสัย
“อ๋อ...เปล่า...ไม่มีอะไร”
“ผมพบว่าเธอออกจากบ้านไปซ้อมละคร...ซึ่งความจริงละครมันมีตั้งตอน 12.00 น.  เธอนัดผมตอน 10.00 น.  เธอบอกว่าเธอไม่ว่างจะพายายไปตรวจสุขภาพ...เธอโกหกผม......” พอลระบายอารมณ์ออกมา
“เธออาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้นะ”
“แต่ความจริงผมไม่ได้โกรธเธอเพราะแค่นั้นหรอก...ผมแคร์เธอมากกว่าใคร...แต่เธอจะไปไหนก็ไม่เคยบอก...เป็นอะไรก็ไม่บอก...มีอะไรก็ไม่ยอมบอก...เธอรู้เรื่องของผม...แต่ผมไม่เคยรู้เรื่องของเธอเลย...เธอเคยวิ่งหนีผมไปตั้งหลายครั้ง...โดยที่มีข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผล...วันนี้เธอก็มาโกหกผมอีก” 
“ฉันว่าคุณคงมองอลิซผิดไป... คุณก็บอกเองนี่ว่าเธอเป็นคนเงียบเธออาจจะไม่แสดงอะไรออกมาให้นายเห็น......ทุกครั้งที่อลิซวิ่งหนีคุณไปอาจจะเป็นเพราะเธอมีธุระที่สำคัญมากก็เป็นได้... เอาเป็นว่าคุณลองไปคิดถึงอลิซในอีกแง่ที่ว่า...คุณไว้ใจเธอ...เห็นใจเธอ... อะไรประมาณนั้นน่าจะดีกว่า  มานั่งกลุ้มใจแบบนี้นะ”
“จริงสินะ...ผมคงมองเธอผิดไป” พอลพูด  พร้อมกับยิ้ม
“ขอบคุณ...คุณเจนนี่มากนะครับ...ผมสบายใจขึ้นมากเลย”
“ลาก่อนนะคะ...ขอให้สมหวังกับเธอคนนั้นละกัน...เธอคงดีใจมากถ้ารู้ว่ามีคนคนหนึ่งซึ่งแคร์เธอมากขนาดนี้” เจนนี่พูดและลงจากรถไฟไปในทันที
Secret Code  ;  รหัสลับ
                หลังจากที่เจนนี่ลงจากรถไฟแล้วเธอก็ตรงไปยัง  ตึกแห่งหนึ่งที่สูงถึง  300  เมตร  ภายในตึกเป็นโรงแรมระดับ  5  ดาวเลยทีเดียว  เจนนี่เดินขึ้นลิฟท์เธอกดที่ชั้นหมายเลข 99 ซึ่งเป็นที่อยู่ของหัวหน้าของเธอ  โค๊ตเนมชื่อ  MAS
ปิ๊ง  ป่อง  ลิฟท์ขึ้นมาถึงชั้นที่ 99 แล้ว  เจนนี่เดินตรงไปยังห้องหมายเลข 099 และเปิดประตู
“ขอดู รหัส หน่อย” ยามที่เฝ้าประตู  ผู้มีรูปร่างสูงใหญ่โต  ดูแล้วค่อนข้างน่ากลัว  เจนนี่ยื่นบัตรแข็งสีขาวและมีตัวอักษรสีดำให้ยามดู
“เชิญ” ยามพูดเสียงแข็งและผายมือต้อนรับอย่างเป็นพิธีการ
“อย่าทำเย็นชาอย่างนั้นสิ P100 ” เจนนี่พูดกับยามคนที่เฝ้าประตูอยู่ 
“ 555 ... ถึงฉันจะเปลี่ยนหน้าตา  บุคลิกยังไง  อลิซก็ดูออกทุกทีเลยนะ” P100 พูดพร้อมกับฉีกหน้ากากที่ตัวเองใส่อยู่  เขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อเอาการทีเดียวเลย  และดูเหมือนจะชอบคนคนเดียวกับพอลอีกต่างหาก
“เชิญครับ...คุณผู้หญิง” P100 พูดพร้อมกับเปิดประตูให้  ภายในห้องดูเหมือนจะเป็นห้องประชุม  เจนนี่เดินเข้าห้องพร้อมกับนั่งประจำตำแหน่งของตัวเอง และ P100 ก็เข้ามานั่งข้างๆ เจนนี่ 
------------------------- เวลาผ่านไป  5  นาที -------------------------
              ประตูห้องประชุมเปิดออก  พร้อมกับชายคนหนึ่งเดินเข้ามา  ทุกคนในห้องประชุมยืนขึ้นและโค้งคำนับรับเหมือนการต้อนรับประธาน
“สวัสดี ทุกท่าน” ชายคนที่เดินเข้ามาในห้องประชุมทักหลังจากเข้าไปยืนตรงหัวโต๊ะประชุม 
“สวัสดี ท่าน MAS ” ทุกคนพูดพร้อมกัน  Mas พยักหน้ารับและนั่งลง ทุกคนก็นั่งลงตาม
“ผมภูมิใจกับผลงานของคุณมากนะคุณ A25/26 คุณไม่เคยพลาดและไม่เคยทำให้ผมผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียว ...”
“วันนี้ที่ผมเรียกพวกคุณมาหวังจะให้ทำงานใหญ่ชิ้นหนึ่ง...มันเป็นงานที่หนักเอาการเลยทีเดียวและสำคัญมาก”
“มันเป็นงานที่ผมจะสามารถพิสูจน์ความสามารถและฝีมือของพวกคุณแต่ละคนได้...แน่นอนว่ามันเป็นงานที่จะต้องทำเพียงผู้เดียว...” Mas พูดพลางยื่นกระดาษให้ทุกคนในห้องประชุม  ซึ่งมีประมาณ 3-4 คน  มี A25/26  P100  M987  C654 
“ผมอยากให้พวกคุณทั้ง 4 แสดงฝีมือให้ผมเห็นโดยการไปเอาสิ่งที่อยู่ในกระดาษบนมือของพวกคุณตอนนี้นำมาให้ผม...วัน เวลา และ สถานนี้ ผมแจ้งให้พวกคุณเรียบร้อยแล้ว  เหลือแค่ความสำเร็จของพวกคุณเท่านั้น”
“ขอให้ทุกคนโชคดี”
“ค่ะ/ครับ ท่าน”
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
              หลังจากออกจากห้องประชุมแล้ว  ทุกคนก็แยกออกจากกัน  เจนนี่เดินออกไปกับ P100  ทั้งสองเดินไปที่ห้องพัก  ซึ่งเป็นห้องของ  P100
“นี่ A เธอว่างานชิ้นนี้เป็นยังไงบ้าง” P  ถาม  ขณะนั่งลงที่โซฟาในห้องของตน
“ก็ไม่เป็นไรนี่”
“งานยากออกนะ...ลองอ่านสิ...ให้ไปเอาคริสตอลสีขาวใสบริสุทธิ์ในงานเสดงละครที่จัดบนเรือลำใหญ่...พอเอาของเสร็จแล้วจะให้โดดลงทะเลหนีรึไง...บ้าที่สุด...งานแบบนี้ใครจะไปทำได้...ว่าไหม ???”
“ไม่หรอก...ถึงจะยากแค่ไหนก็ต้องทำให้ได้...ฉันชอบออกสิ่งที่ท้าทาย...”
“เธอก็เป็นซะอย่างนี้ทุกที...ชอบสิ่งที่อันตราย...ท้าทาย...ถามจริงๆเถอะ...เธอเอาเงินที่ได้จากการเป็นอย่างนี้ไปทำอะไร” P100 พูด  แต่ A25/26 กลับเงียบสีหน้าเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจมากๆ
“ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรหรอก...เอ่อจริงสิวันนี้เธอจะไม่ไปไหนต่อหรอ”
“เออ...ใช่ลืมสนิทเลย...ฉันมีธุระสำคัญไปก่อนนะ...แล้วเจอกันในงานละกัน”  เจนนี่มองดูนาฬิกาตอนนี้มัน 10  โมงแล้ว  เธอรีบเรียกรถมอเตอร์ไซด์
“ไปสถานีรถไฟด่วนเลยนะ...เร็วที่สุดด้วย” เจนนี่บอกคนขับรถ  พร้อมกับโดดขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์ 
“เร็วกว่านี้อีกไม่ได้หรอ” เจนนี่ถาม
“เร็วที่สุดของที่สุดแล้วครับ” คนขับพูด  แต่มันไม่ทันใจเจนนี่  นี่ !!! 
“จอดรถก่อน” เจนนี่พูด  คนขับรถทำตาม 
“คุณลงมา...ฉันจะขับเอง” เจนนี่สั่ง  พอคนขับทำตาม  เจนนี่ก็กระโดดขึ้นข้างหน้ารถพร้อมกับพูดว่า
“คุณขึ้นมาสิเร็วๆ” คนขับก็ซ้อนท้ายเจนนี่  เจนนี่ขับรถด้วยความเร็วสูงตรงไปสู่สถานีรถไฟ
              พอถึงสถานีรถไฟ  เจนนี่ยัดเงินใส่มือของคนขับรถที่นั่งรถมอเตอร์ไซด์อยู่ทื่อๆ  ผมตั้งขึ้นเหมือนโดนผีหลอก  เจนนี่ก็เดินกลับเข้าห้องน้ำและพอเดินออกมาเธอก็กลายเป็นอลิซคนเดิม 
              อลิซวิ่งออกจากสถานีรถไฟตรงไปที่ร้าน  MCD  ซึ่งเป็นสถานที่นัดของเธอกับพอล  เธอเดินเข้าไปในร้านและมองหาพอล  แต่ก็หาไม่เจอ  เธอมองดูที่นาฬิกาของเธอมันบอกเวลาเธอว่าตอนนี้มันเวลา 10.45 น. แล้วเธอกลุ่มใจมาก  เธอลองมองไปยังรอบๆร้านอีกที  คิดว่าเผื่อจะเจอ  แต่อลิซก็ผิดหวัง  จะโทษใครก็ไม่ได้มันเป็นความผิดของเธอเอง !!!
อลิซจึงเดินก้มหน้าก้มตาออกจากร้าน MCD  เดินไปเรื่อย ๆ  เรื่อย ๆ  อย่างไร้จุดหมาย
 
โอ๊ย !!!!  อลิซชนกับคนคนหนึ่ง 
“ขอโทษค่ะ/ครับ” อลิซพูดพร้อมกับคนคนนั้นอลิซและเขาคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองคนที่เธอเดินชน
“พอล”  “อลิซ”  ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน
“ฉันขอโทษ” ทั้งสองคนพูดพร้อมกันอีก
“คือฉัน”  แล้วก็พูดพร้อมกันอีก
“เธอพูดก่อนละกัน” พอลพูดและยิ้มให้อลิซ
“คือฉันจะพูดว่า  ฉันขอโทษที่ไม่ได้ไปตามนัด  คือ  ฉันมัวแต่เอ่อ ..” อลิซลืมคิดหาข้อแก้ตัว 
“ช่างมันเถอะ...ฉันเข้าใจว่าบางที...คนเราก็มีบางสิ่งที่บอกคนอื่นไม่ได้ และฉันก็ต้องขอโทษเธอด้วยละกันที่มัวแต่ใจลอย...ก็เลยลงจากรถไฟผิดสถานี” พอลพูดและยิ้มให้  อลิซ  อลิซก็เริ่มสบายใจขึ้นด้วย  มันเป็นบรรยกาศที่ดีมากเลยที่เดียว 
“เอ่อ...นี่ก็ใกล้เวลานัดซ้อมละครแล้วเราไปโรงเรียนด้วยกันเลยดีไหม”  และแล้วพอลกับอลิซก็เดินไปโรงเรียนด้วยกัน  ขณะเดินไปก็คุยไป  คอยให้แสงแดดที่อบอุ่น  ลมเย็นๆบริสุทธิ์  และหัวใจคอยนำทาง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น