ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Speed And Send Station ; ความเร็ว & สถานที่ส่งของ
Almost  ;  เฮ้อ...เกือบแล้วอีกนิดเดียว
        อัญมณี  คือ  สิ่งที่งดงาม  ใครต่อใครหลายคน  ใครปรารถนาอยากจะได้มาไว้ในครอบครอง  จะมีก็แต่คนที่มีความสุขแล้ว  หรือ  คนที่ปลงแล้ว  นั้นแหละคือคนที่สามารถตัดใจต่อสิ่งของนอกกายพวกนั้นได้กระมั้ง    ทำไมนะ ? เดี๋ยวนี้คนเหล่านี้กลับหาได้ยากเย็นซะเหลือเกิน  หรือว่าคนเหล่านี้จะถูกกลืนไปพร้อมกับความโลภซะแล้ว
          ความโลภ  คือ  การที่อยากได้สิ่งของต่างๆ  มาไว้ในครอบครอง  เรียกอีกอย่าง  คือ  ความไม่รู้จักพอ  อยากได้สิ่งเหล่านั้นมาก็แค่เพื่อต้องการความมีอำนาจ  ความเป็นใหญ่  ความร่ำรวย  และความสะดวกสะบาย  คนเหล่านี้  นับวันก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ 
        แสงของอัญมณีบัดนี้ได้หายไปอย่างไร้ล่องลอยภายใต้ค่ำคืนแห่งแสงจันทร์  ซึ่งตอนนี้มันอยู่กับเธอ  เธอผู้ซึ่งไม่อยากได้มัน  แต่เมื่อนี่คืองานของเธอ  เธอก็จะต้องทำ  คุณอาจจะคิดว่าเธอเห็นแก่ตัว  แต่ความจริงแล้ว  คุณจะพบว่าเธอต้องทำสิ่งเหล่านี้ด้วยเหตุใด ..........
“เฮ้อ .เหนื่อยจัง .ทำไมนายนั่นต้องมายุ่งกับเรื่องของฉันด้วยนะ”  อลิซบ่นขณะที่กำลังจะหลับ  แต่ก็หลับไม่ลงซะทีไม่รู้ทำไม
******************************************************************************
          เช้าวันใหม่มาถึงแล้ว  พระอาทิตย์ซึ่งได้ลาจากไปเมื่อวาน  ได้กลับมาส่องแสงใหม่อีกครั้ง  อย่างเช่นทุกๆวัน  ไม่เปลี่ยนแปลง  เธอซึ่งหลับใหลด้วยความเหนื่อยล้า  อยากจะพักให้เต็มที่  แต่กลับทำเช่นนั้นดั่งใจปรารถนาไม่ได้  แล้วทำไมถึงต้องเป็นเช่นนั้นนะ
ก๊อก  ๆ  ๆ  ๆ
“อลิซตื่นได้แล้ววันนี้สายแล้วนะ”  เสียงผู้หญิงแก่ๆพูด
ก๊อก  ๆ  ๆ  ๆ 
“นี่อลิซตอนนี้  7 โมงครึ่งแล้ว  ถ้าไม่รีบจะไปโรงเรียนไม่ทันนะ”
“อะไรกันยังไม่เช้าเลย”  อลิซพูดแล้วหาว 
แต่พอตาหันไปมองนาฬิกา !!!  เท่านั้นแหละ  เช้าแห่งความโกลาหลก็เริ่มขึ้น
“โอ๊ย !!! แย่แล้วสายแล้ว  สายมากๆ ด้วย”
************************************************************************
        แม้ภายในไม่กี่นาทีเธอก็มาถึงโรงเรียน  แต่ความเหนื่อยยังไม่หมดไปจากตัวเธอ  ทำให้เช้าวันนี้ของเธอ  ดูไม่ค่อยสดใสเหมือนวันก่อนๆ  (ปกติมันก็ไม่สดใสอยู่แล้วแหละ  แค่วันนี้มันแย่กว่าเก่าก็เท่านั้น)  มันเป็นเพราะความผิดของใครกันนะ
 
“เฮ้อ โชคดีที่ยังทัน เพราะตาบ้านั่นทำให้เรานอนไม่หลับ แย่จริงๆ”  อลิซบ่นพึมพำพึมพำเบาๆ  ขณะนั่งเรียนอยู่ข้างๆ พอล
“อะไรหรออลิซ”  พอลถามแล้วมองอลิซ  อลิซไม่รู้ว่าพอลได้ยินรึเปล่า  แต่เธอก็เฉยๆเหมือนเดิม  แต่พอมองไปที่พอลอีกทีกลับเห็นพอลนั่งอมยิ้มไปทั้งชั่วโมง  ทำให้อลิซแอบคิดในใจว่า  ‘ ตานี่บ้าแน่ๆ ’
+ + + + + + +  เลิกเรียน  + + + + + + +
“อลิซ อลิซ รอก่อนสิ”  พอลเรียกหญิงสาวที่เดินจ่ำเอาจ่ำเอาอยู่ด้านหน้า  แต่เธอก็ยังคงเดินต่อ  ทำให้พอลต้องวิ่งตาม  แต่พอวิ่งตามมาทันอลิซแบบไล่เลี่ยกัน  อลิซก็ยังไม่หยุดเดิน  เธอยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ  ทำเหมือนกับว่าเธอกำลังเดินหนีจากพวกโจรล้วงกระเป๋า
“เธอเป็นอะไรรึเปล่า อลิซ”  พอลเดินไปข้างหน้าอลิซ  แต่เธอก็ไม่ยอมตอบแล้วยังไม่หยุดเดินด้วย  ทำให้พอลต้องเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ
“ถ้าให้ฉันนับนะ ตั้งแต่เธอเข้ามาโรงเรียนนี้ เธอพูดแบบจริงๆจังๆ  ก็แค่ครั้งเดียวเองมั้งตอนเธอแนะนำตัวในวันแรก” 
“เธอจะไม่พูดกับใครเค้ามั่งหรอ” พอลถามแล้วทำหน้าทะเล้น 
“ว้า แย่จังอยู่กับเธอนี่เหมือนพูดกับคนใบ้เลย”  แต่ตอนนี้อลิซไม่เฉยต่อไปแล้ว  เธอหยุดและจ้องมองหน้าพอลเหมือนจะเอาเรื่อง  แต่สักพักเธอก็เปลี่ยนใจเดินต่อไป  แล้วพอลก็เดินถอยหลังพลางคิดในใจว่าเมื่อกี้เกือบสำเร็จแล้วเชียว 
“โอ๊ย !!!”  พอลมัวแต่คิดจนไม่ได้ดูทางเดินด้านหลังทำให้หัวของเขาชนเสาไฟฟ้าเข้าอย่างจังเบ้อเริ้ม 
‘ คนที่มาว่าฉันเป็นคนใบ้ก็ต้องเจออย่างนี้แหละ  สมน้ำหน้า ’  นี่แหละแผนที่เธอเพิ่งคิดได้  หลังจากเหลือบไปเห็นเสาไฟฟ้าด้านหลังพอลพอดี  อลิซคิดในใจแล้วเดินกลับบ้านต่อ  ด้วยสีหน้าเรียบๆเช่นเดิม  แต่ในใจกลับไม่ใช่  ในใจของอลิซมันเต้นเร็ว  คงเป็นเพราะเจอเรื่องเมื่อสักครู่ล่ะมั้ง
“กลับมาแล้วค่ะ”  อลิซพูดพลางเปิดประตูบ้าน 
“สวัสดีค่ะ คุณยาย” อลิซยกมือไหว้ยายที่อยู่บ้าน
“สวัสดีจ้า ไงวันนี้ไปเรียนทันไหม เมื่อเช้าปลุกอยู่ตั้งนาน”
“ทันค่ะ อลิซซะอย่าง”  อลิซพูดแล้วยิ้ม  เธออยากยิ้มแบบนี้  ไม่ใช่สิ  อยากจะยิ้มแบบสมน้ำหน้ามากกว่า  ทำไมหนะหรอ?  ก็อยากให้ยิ้มแบบนั้นกับตาบ้าที่เดินชนเสาไฟฟ้าไง
“เอ๋ แปลกจังเด็กคนนี้อยู่ดีดีก็ยิ้มขึ้นมาเฉยๆ”
“วันนี้มีข้าวหน้าไก่นะ อยู่บนโต๊ะกินข้าว เพิ่งร้อนๆทานเลยสิ ยายทำเองนะ”
“ค่ะ ”  ท่าทางวันนี้เธอจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะ
*************************************************************************
ตี๊ด ๆ  ตี๊ด ๆ
“Hello”
“นี่ B1100”
Time For Marks  ;  เวลาของคะแนน
        นั่นไงเวลาของความสุขของเธอเริ่มหายไปแล้ว  และเวลาของงานกำลังจะเริ่มดำเนินต่อ  ก็เมื่อเธอยังเหลือภารกิจอีก 1 อย่าง  ที่เธอจะต้องทำอย่างไม่สามารถขัดได้  และเธอก็อยากทำงานนี้เพราะเธอไม่ต้องการให้ใครมาพบของสิ่งนั้นที่เธอได้มา  แม้แต่ยายของเธอก็ตาม
“ท่านกำลังต้องการของ”
“พรุ่งนี้เวลา 4 โมงเย็นที่หลังตึกร้างเดิมละกัน”
“ได้แล้วจะไปรออยู่ที่เดิมละกัน”
          การสนทนาของเธอกับคนลึกลับได้  จบลงเพียงแค่นั้น  พร้อมกับเสียงถอนหายใจยาวๆของเธอ  แต่ก็อย่างที่บอกนั้นแหละ  เธออยากให้จบงานชิ้นนี้ให้เร็วที่สุด  และเมื่อสำเร็จเธอจะได้ในสิ่งที่เธอต้องการ 
******************************************************************************
“หวัดดีอลิซ”  พอลทัก  อลิซเหล่ตาไปมองพอลนิดๆ ที่หัวของพอลยังปูดอยู่เลย  ทำให้อลิซอมยิ้ม  แต่พอพอลหันมามองเธอกลับทำหน้าเรียบๆตามเดิม
“เอ่อ...เมื่อวานขอโทษด้วยนะ...ที่ฉันเผลอว่าเธอไป...แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ” พอลพูด  แต่ดูเหมือนอลิซจะไม่ได้ฟัง  ก็เธอชอบทำหน้าเรียบๆนี่  ใครจะไปดูออกล่ะ
“นี่...บอกหน่อยได้ไหมว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมพูดกับใครเลย”
“เธอจะไม่พูดกับใครจริงๆหรอ” ตอนนี้อลิซก็เริ่มเซ็งกับคำถามแบบนี้แล้วด้วย   
‘ ตาบ้านี่จะมายุ่งกับฉันทำไมนะ ’  เธอคิดในใจอย่างรำคาญ
“ช่าง...เถอะ...ถ้าเธอไม่พูด...ฉันพูดคนเดียวก็ได้...ดีซะอีกที่จะได้ไม่โดนแย่งพูด...เนอะ”  พอลพูดต่อแบบเข้าข้างตัวเอง  ในใจอลิซเริ่มหมันไส้พอลมากขึ้น  แต่ก็มีอีกความรู้สึกหนึ่งที่อลิซก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
***********************************************************************
          เวลาแห่งความน่าเบื่อเริ่มขึ้นอีกแล้ว  เธอไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมานั่งเรียนพวกสิ่งเหล่านี้ด้วย  วิชาบางวิชาก็รู้ๆกันอยู่แล้วไม่เห็นจะต้องมาเรียนซ้ำไปซ้ำมาอีก  และนี้ก็คือวิชาที่เธอเกลียดที่สุด  วิชาพละ  เพราะแน่นอน  มันเป็นของหมูๆมากสำหรับมืออาชีพอย่างเธอ
“นักเรียนนั่งที่ได้แล้ว”  ครูคลอเทียที่เพิ่งเดินเข้ามาสักครู่หนึ่ง  พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนผู้ใหญ่กำลังดุเด็กอนุบาล
          ครูคลอเทียเป็นครูพละหญิงที่สูงมาก  ผอมมาก  ดำมาก  แถมยังโหดมากๆอีกด้วย  เหตุนี้จึงทำให้ นักเรียนที่แสนดีทั้งหลายนำไปนินทา ครูต่างๆนานา  แต่ด้วยนิสัยของครูคลอเทียที่ไม่ค่อยสนใจและยุ่งกับใครมากนัก  พอได้ยินเรื่องนี้ก็แค่รู้สึกเฉยๆ  ไม่ค่อยคิดมากเท่าไหร่นัก
“อย่างที่ได้บอกเอาไว้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า  วันนี้เราจะสอบพละกัน  ครูคาดว่าทุกคนคงไปฝึกซ้อมการวิ่งมาอย่างดีแล้วนะ”
“ . . . . . . . . . . . . . . . ”
“การสอบวันนี้คือจะให้วิ่งรอบสนาม  ภายในเวลา  2  นาที  30  วินาที  ใครทำได้ถือว่าผ่าน !!!  ให้  20  คะแนน  แต่ถ้าช้ากว่านี้ก็จะหักคะแนนออกตามวินาทีที่ช้า”  ทันทีที่พูดจบดูจากสีหน้าแล้วทุกคนเหมือนไม่พอใจกับการสอบครั้งนี้แต่ครูคลอเทียก็ไม่สนใจ
“เลขที่ 1 ...ลอยเดล...เชิญ”  ครูคลอเทียเรียก  ลอยเดลเดินออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ  ปกติเขาก็กลัวครูคลอเทียอยู่แล้ว  ไม่มีใครแปลกใจเลย  ที่ลอยเดลจะมีท่าทีสั่นกว่าคนอื่นๆ  ประมาณสองเท่า
“พร้อมนะ  เข้าที่  ระวัง !!! ไป”  ครูคลอเทียเริ่มจับเวลา  ลอยเดลวิ่งสุดชีวิต  แต่วิ่งรอบสนามที่ใหญ่มากๆภายใน  2.30 นาทีเนียนะ  มันจะเป็นไปได้หรอสำหรับคนที่เตี้ยแค่  155 ซม.  ในที่สุดลอยเดลก็ถึงจุดมุ่งหมาย  แต่ช้ากว่าตั้ง  30  วินาที  แต่ครูคลอเทียก็ไม่ถึงกับให้ตก  คะแนน 20 คะแนน เธอให้ลอยเดลแค่ 10 คะแนนเท่านั้น
“เลขที่ 2 ...เรสวิน...เชิญ”  เรสวินเป็นหนุ่มหน้าตาดีมากๆ  ถึงกับสาวหลายๆคนถึงกับกรี๊ดเมื่อครูคลอเทียเรียกชื่อเขา
“พร้อมนะ เข้าที่  ระวัง  ไป” เรสวินวิ่ง  วิ่ง  วิ่ง  และวิ่ง  เขาวิ่งได้เร็วมากเพราะรูปร่างสูง  หุ่นดี  หน้าหล่อ(เกี่ยวด้วยไหมเนี่ย)  และในที่สุด เขาก็ถึงจุดมุ่งหมายภายในเวลา  2.29 วินาทีเขาจึงได้คะแนนเต็ม  ตามมาพร้อมๆกันเสียงกรี๊ดที่บาดแก้วหูอันน่าสยองของสาวๆ
เลขที่ 3  ...  เลขที่ 4 ...  เลขที่ 5  ... 6 ... 7 ... 8 ... ได้วิ่งไปแล้วทุกคนล้วนได้แค่  10 - 16  คะแนนกันทั้งนั้น
“เลขที่ 9 ...พอล...เชิญ”
กรี๊ด ๆ  ๆ  เสียงกรี๊ดดูจะดังกว่า เรสวิน ซะอีก ทำให้เรสวินต้องทำหน้าหมันใส้ใส่แล้วเชิดไปใส่พอล  ช่างเหอะพอลไม่สนอยู่แล้ว  ในตอนนี้พอลดังที่สุดในโรงเรียน  คงไม่มีใครคนใด (ญ) ที่ไม่ชอบพอล ยกเว้นอลิซ !!!
“พร้อมนะ  เข้าที่  ระวัง  ไป” พอลวิ่ง  เขาวิ่งได้เร็วมากๆๆๆๆๆ  ทำให้เขาผ่านไปได้อย่างสบายๆ  ด้วยเวลา 2.25 วินาที  พอลได้คะแนนเต็ม แถมครูคลอเทียยังชมอีกด้วย
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว
“เลขที่  25  เคท เชิญ  เข้าที่ระวังไป”  เคทตัวอ้วนและใหญ่มากถึงจะพยายามเพียงใดก็คงไม่ทันอยู่ดี  เพราะฉะนั้นคะแนนก็คงเป็น  10  คะแนน เท่านั้น
          เลขที่  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  ได้วิ่งไปแล้ว  คะแนนที่ออกมาก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากนัก  คืออยู่ที่ประมาณ  10 - 15
“ต่อไปเลขที่  39  ...อลิซ...เชิญ  ระวัง  เตรียมตัว  ไป” 
          อลิซคาดว่าจะวิ่งเอาแค่ผ่านเท่านั้น  ขืนมานั่งทำให้คะแนนตัวเองไม่ดีมากๆก็กลัวว่ามันจะเป็นที่ผิดสังเกตมากเกินไป  เธอคาดว่าจะออกกำลังตนเองแค่  75  %  ก็คงพอ  และในที่สุดอาจจะเพราะอลิซคำนวนเวลาผิดไปมั้ง  ไม่ก็ออกแรงมากไปทำให้อลิซ  ..
Speed And Send Station  ;  ความเร็ว & สถานที่ส่งของ
              เธอถึงจุดหมายในเวลาเพียง 2.20 น.  ทำคนถึงกับทำหน้าเหลอหลา  ไม่คิดว่าคนอย่างอลิซจะวิ่งเร็วขนาดนี้  เธอวิ่งชนะผู้ชายและผู้หญิงทุกคน  ทั้งๆที่เมื่อก่อนเธอทำคะแนนได้แย่มากๆ  จะเรียกว่าห่วยสุดๆก็ว่าได้
“เก่งมากอลิซ  เธอทำคะแนนนำอันดับ 1  ทั้งที่เมื่ออาทิตย์ก่อนคะแนนเก็บของเธอตก  ดีมาก”  ครูคลอเทียที่ปกติไม่ค่อยชมนักเรียนถึงกับเอ่ยปากชมอลิซ  ถึงตอนนี้อลิซก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองออกแรงมากเกินไป 
          ไม่ใช่จะมีแค่คนอื่นที่  ทึ่ง  อึ้ง  ตะลึง  !!!  กับอลิซ  แม้แต่ตัวเธอเองยังอึ้งๆเลย  แต่มันไม่เหมือนกันที่ว่า  อึ้งกันคนละเรื่อง
   
“เฮ้อ .... ซวยแล้วสิ”
“เผลอลืมตัวอีกแล้วเรา...แย่จัง”  ในที่สุดเธอก็อดบ่นออกมาไม่ได้
              มันคือการผิดพลาดครั้งใหญ่ของเธอ  ถึงแม้ในตอนนี้จะยังไม่มีใครสงสัยในความสามารถของเธอ  แต่สักวัน  ไม่แน่  อาจจะมีใครนำเรื่องของเธอมาประติดประต่อ  แล้วความลับของเธออาจจะแตกขึ้นมาก็ได้
- - - - -  เ ลิ ก เ รี ย น  - - - - -
“อลิซ...อลิซวันนี้เธอทำฉันทึ่งมากๆ...สุดยอดเลย...ไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่าเธอจะวิ่งเร็วขนาดนี้” พอลพูดขณะเดินตามอลิซเหมือนทุกๆวัน  แต่ก็อย่างเคยอลิซก็ยังไม่สนใจ 
“หา...นี่มัน 3.30 น. แล้วหรอเนี่ย”  อลิซลืมตัวพูดออกมาทันทีหลังจากที่เหลือเห็นนาฬิกาข้อมือของตัวเอง 
พอลก็ดันตกใจตามและรีบถามกลับอย่างรวดเร็ว  ลืมไปเลยว่านี่คือคำพูดของคนที่ไม่เคยยอมคุยกับเขาสักครั้ง  “ทำไมหรอ” 
“ ก้อ ........... ”  อลิซเพิ่งรู้ว่าตัวเองหลุดปากพูดออกไปแล้ว  ตอนนี้เธอกำลังคิด  คิด  คิด  คิด  ว่าจะทำยังไงดี  ที่จะไล่พอลไปให้พ้นพ้น  เธอจะได้เอาของไปส่ง  เรื่องจะได้จบๆกันไปซะที
“อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอก  ฉันกำลังคิดว่าทำไมฉันถึงเดินกลับบ้านช้าขนาดนี้...คือปกติฉันถึงบ้านตอน 3.15 น. เอง  ไม่มีอะไรหรอก” อลิซอธิบายอย่างแนบเนียน  แต่พอลก็ดีใจมากที่ตัวเองสามารถทำให้อลิซพูดได้  ถึงแม้มันจะเป็นการเริ่มต้นที่แปลกๆก็เถอะ
“ในที่สุดเธอก็พูดนะ...ดีใจนะที่ได้เห็นเธอพูด”
“หรอทำไมล่ะ...”
“ก็อลิซ ไม่ค่อยยอมพูดกับใครเลยนี่”
“แค่เหตุผลแค่นี้หนะหรอที่ทำให้นายดีใจ”
“มันก็มีอีกแหละ  แต่ช่างมันเถอะ  ไหนไหนเธอก็พูดแล้วนี่”
“พอลฉันว่าเราแยกกันตรงนี้ดีกว่า  คือฉันจะไปซื้อของหนะ”
“หรอแต่ไม่เป็นไรหรอกฉันรอได้” พอหันไปหาอลิซ  อลิซก็หายวับไปแล้ว
“อ้าว ไปไหนแล้วเนี่ย”  พอลบ่นแล้วก็  เอามือเกาหัว  อย่างงง
              ณ  บริเวณของตึกแห่งหนึ่ง  ที่ค่อนข้างร้าง  รกร้าง  อับๆ  มืดๆ  ซึ่งโดยทั่วไปไม่น่าจะมีคนอยู่  แต่มีชายคนหนึ่งร่างสูงผอม  อยู่ในชุดสูทสีดำ  หมวกสีดำ  แว่นตาสีดำ  เกือบทุกสิ่งของชายคนนั้นล้วนเป็นสีดำหมด  ยกเว้นผิวหนังของชายผู้นี้  ซึ่งเป็นสีขาวซีดตัดกับสีดำนั้นอย่างสิ้นเชิง
ตี๊ด  ๆ  ตี๊ด  ๆ
“B1100 นะตอนนี้ฉันถึงที่หมายแล้ว เธอถึงไหนแล้ว”
“ใกล้ถึงแล้ว ”
              ภายในเวลาไม่นานอลิซก็ถึงที่หมายแต่ก็ช้าไป  10  นาทีแล้ว  เธอเดินตรงเข้าตึกร้างอย่างเงียบที่สุด  ตอนนี้ใบหน้าของอลิซไม่เหมือนอลิซคนเดิมแล้วใบหน้าของเธอกลายเป็นผู้ชายร่างใหญ่  ที่มีรหัสว่า  A25/26
“คุณช้านะ  A25/26    ปกติมันไม่น่าจะเป็นแบบนี้”
“เอาเถอะ ... ไม่เป็นไรไหนของล่ะ”
“นี่ ค่าจ้างสำหรับของชิ้นนี้” 
    เมื่อได้แลกของกับค่าจ้างไปเรียบร้อยแล้ว  เธอก็โค้งคำนับให้ชายที่อยู่ตรงหน้าครั้งหนึ่ง  แล้วเขาและเธอก็แยกจากกันทันที  เป็นอันว่าการส่งของครั้งนี้ถือว่า  เรียบร้อย
- - - - -  ที่ บ้ า น อ ลิ ซ  - - - - -
“ยายคะ  วันนี้เงินเดือนหนูออกแล้ว” 
“นี่ค่ะส่วนของยาย”  อลิซหยิบเงินให้ยาย 5,000 บาทแล้วก็เดินขึ้นห้องนอนของตัวเองด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
              ความจริงเธออยากให้เงินยายของเธอมากกว่านี้  แต่เธอก็ต้องจำใจเก็บมันไว้  เพราะเด็กสาวอายุ  16  อย่างเธอ  จะทำงานที่ได้ค่าจ้างมากมายถึงกับให้เงินคนอื่นเป็นหมื่นๆก็คงจะทำไม่ได้  ความลับของเธอ  เธอจะไม่ให้ใครล่วงรู้เป็นอันขาด  อลิซเก็บเงินจำนวนหนึ่งไว้กับตัวเอง  และอีกจำนวนหนึ่งเธอได้นำไปใช้จ่าย  จะเป็นอะไรนั้นยังไม่มีใครรู้ว่าเธอนำเงินมากมายเหล่านั้นไปทำอะไร
        อัญมณี  คือ  สิ่งที่งดงาม  ใครต่อใครหลายคน  ใครปรารถนาอยากจะได้มาไว้ในครอบครอง  จะมีก็แต่คนที่มีความสุขแล้ว  หรือ  คนที่ปลงแล้ว  นั้นแหละคือคนที่สามารถตัดใจต่อสิ่งของนอกกายพวกนั้นได้กระมั้ง    ทำไมนะ ? เดี๋ยวนี้คนเหล่านี้กลับหาได้ยากเย็นซะเหลือเกิน  หรือว่าคนเหล่านี้จะถูกกลืนไปพร้อมกับความโลภซะแล้ว
          ความโลภ  คือ  การที่อยากได้สิ่งของต่างๆ  มาไว้ในครอบครอง  เรียกอีกอย่าง  คือ  ความไม่รู้จักพอ  อยากได้สิ่งเหล่านั้นมาก็แค่เพื่อต้องการความมีอำนาจ  ความเป็นใหญ่  ความร่ำรวย  และความสะดวกสะบาย  คนเหล่านี้  นับวันก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ 
        แสงของอัญมณีบัดนี้ได้หายไปอย่างไร้ล่องลอยภายใต้ค่ำคืนแห่งแสงจันทร์  ซึ่งตอนนี้มันอยู่กับเธอ  เธอผู้ซึ่งไม่อยากได้มัน  แต่เมื่อนี่คืองานของเธอ  เธอก็จะต้องทำ  คุณอาจจะคิดว่าเธอเห็นแก่ตัว  แต่ความจริงแล้ว  คุณจะพบว่าเธอต้องทำสิ่งเหล่านี้ด้วยเหตุใด ..........
“เฮ้อ .เหนื่อยจัง .ทำไมนายนั่นต้องมายุ่งกับเรื่องของฉันด้วยนะ”  อลิซบ่นขณะที่กำลังจะหลับ  แต่ก็หลับไม่ลงซะทีไม่รู้ทำไม
******************************************************************************
          เช้าวันใหม่มาถึงแล้ว  พระอาทิตย์ซึ่งได้ลาจากไปเมื่อวาน  ได้กลับมาส่องแสงใหม่อีกครั้ง  อย่างเช่นทุกๆวัน  ไม่เปลี่ยนแปลง  เธอซึ่งหลับใหลด้วยความเหนื่อยล้า  อยากจะพักให้เต็มที่  แต่กลับทำเช่นนั้นดั่งใจปรารถนาไม่ได้  แล้วทำไมถึงต้องเป็นเช่นนั้นนะ
ก๊อก  ๆ  ๆ  ๆ
“อลิซตื่นได้แล้ววันนี้สายแล้วนะ”  เสียงผู้หญิงแก่ๆพูด
ก๊อก  ๆ  ๆ  ๆ 
“นี่อลิซตอนนี้  7 โมงครึ่งแล้ว  ถ้าไม่รีบจะไปโรงเรียนไม่ทันนะ”
“อะไรกันยังไม่เช้าเลย”  อลิซพูดแล้วหาว 
แต่พอตาหันไปมองนาฬิกา !!!  เท่านั้นแหละ  เช้าแห่งความโกลาหลก็เริ่มขึ้น
“โอ๊ย !!! แย่แล้วสายแล้ว  สายมากๆ ด้วย”
************************************************************************
        แม้ภายในไม่กี่นาทีเธอก็มาถึงโรงเรียน  แต่ความเหนื่อยยังไม่หมดไปจากตัวเธอ  ทำให้เช้าวันนี้ของเธอ  ดูไม่ค่อยสดใสเหมือนวันก่อนๆ  (ปกติมันก็ไม่สดใสอยู่แล้วแหละ  แค่วันนี้มันแย่กว่าเก่าก็เท่านั้น)  มันเป็นเพราะความผิดของใครกันนะ
 
“เฮ้อ โชคดีที่ยังทัน เพราะตาบ้านั่นทำให้เรานอนไม่หลับ แย่จริงๆ”  อลิซบ่นพึมพำพึมพำเบาๆ  ขณะนั่งเรียนอยู่ข้างๆ พอล
“อะไรหรออลิซ”  พอลถามแล้วมองอลิซ  อลิซไม่รู้ว่าพอลได้ยินรึเปล่า  แต่เธอก็เฉยๆเหมือนเดิม  แต่พอมองไปที่พอลอีกทีกลับเห็นพอลนั่งอมยิ้มไปทั้งชั่วโมง  ทำให้อลิซแอบคิดในใจว่า  ‘ ตานี่บ้าแน่ๆ ’
+ + + + + + +  เลิกเรียน  + + + + + + +
“อลิซ อลิซ รอก่อนสิ”  พอลเรียกหญิงสาวที่เดินจ่ำเอาจ่ำเอาอยู่ด้านหน้า  แต่เธอก็ยังคงเดินต่อ  ทำให้พอลต้องวิ่งตาม  แต่พอวิ่งตามมาทันอลิซแบบไล่เลี่ยกัน  อลิซก็ยังไม่หยุดเดิน  เธอยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ  ทำเหมือนกับว่าเธอกำลังเดินหนีจากพวกโจรล้วงกระเป๋า
“เธอเป็นอะไรรึเปล่า อลิซ”  พอลเดินไปข้างหน้าอลิซ  แต่เธอก็ไม่ยอมตอบแล้วยังไม่หยุดเดินด้วย  ทำให้พอลต้องเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ
“ถ้าให้ฉันนับนะ ตั้งแต่เธอเข้ามาโรงเรียนนี้ เธอพูดแบบจริงๆจังๆ  ก็แค่ครั้งเดียวเองมั้งตอนเธอแนะนำตัวในวันแรก” 
“เธอจะไม่พูดกับใครเค้ามั่งหรอ” พอลถามแล้วทำหน้าทะเล้น 
“ว้า แย่จังอยู่กับเธอนี่เหมือนพูดกับคนใบ้เลย”  แต่ตอนนี้อลิซไม่เฉยต่อไปแล้ว  เธอหยุดและจ้องมองหน้าพอลเหมือนจะเอาเรื่อง  แต่สักพักเธอก็เปลี่ยนใจเดินต่อไป  แล้วพอลก็เดินถอยหลังพลางคิดในใจว่าเมื่อกี้เกือบสำเร็จแล้วเชียว 
“โอ๊ย !!!”  พอลมัวแต่คิดจนไม่ได้ดูทางเดินด้านหลังทำให้หัวของเขาชนเสาไฟฟ้าเข้าอย่างจังเบ้อเริ้ม 
‘ คนที่มาว่าฉันเป็นคนใบ้ก็ต้องเจออย่างนี้แหละ  สมน้ำหน้า ’  นี่แหละแผนที่เธอเพิ่งคิดได้  หลังจากเหลือบไปเห็นเสาไฟฟ้าด้านหลังพอลพอดี  อลิซคิดในใจแล้วเดินกลับบ้านต่อ  ด้วยสีหน้าเรียบๆเช่นเดิม  แต่ในใจกลับไม่ใช่  ในใจของอลิซมันเต้นเร็ว  คงเป็นเพราะเจอเรื่องเมื่อสักครู่ล่ะมั้ง
“กลับมาแล้วค่ะ”  อลิซพูดพลางเปิดประตูบ้าน 
“สวัสดีค่ะ คุณยาย” อลิซยกมือไหว้ยายที่อยู่บ้าน
“สวัสดีจ้า ไงวันนี้ไปเรียนทันไหม เมื่อเช้าปลุกอยู่ตั้งนาน”
“ทันค่ะ อลิซซะอย่าง”  อลิซพูดแล้วยิ้ม  เธออยากยิ้มแบบนี้  ไม่ใช่สิ  อยากจะยิ้มแบบสมน้ำหน้ามากกว่า  ทำไมหนะหรอ?  ก็อยากให้ยิ้มแบบนั้นกับตาบ้าที่เดินชนเสาไฟฟ้าไง
“เอ๋ แปลกจังเด็กคนนี้อยู่ดีดีก็ยิ้มขึ้นมาเฉยๆ”
“วันนี้มีข้าวหน้าไก่นะ อยู่บนโต๊ะกินข้าว เพิ่งร้อนๆทานเลยสิ ยายทำเองนะ”
“ค่ะ ”  ท่าทางวันนี้เธอจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะ
*************************************************************************
ตี๊ด ๆ  ตี๊ด ๆ
“Hello”
“นี่ B1100”
Time For Marks  ;  เวลาของคะแนน
        นั่นไงเวลาของความสุขของเธอเริ่มหายไปแล้ว  และเวลาของงานกำลังจะเริ่มดำเนินต่อ  ก็เมื่อเธอยังเหลือภารกิจอีก 1 อย่าง  ที่เธอจะต้องทำอย่างไม่สามารถขัดได้  และเธอก็อยากทำงานนี้เพราะเธอไม่ต้องการให้ใครมาพบของสิ่งนั้นที่เธอได้มา  แม้แต่ยายของเธอก็ตาม
“ท่านกำลังต้องการของ”
“พรุ่งนี้เวลา 4 โมงเย็นที่หลังตึกร้างเดิมละกัน”
“ได้แล้วจะไปรออยู่ที่เดิมละกัน”
          การสนทนาของเธอกับคนลึกลับได้  จบลงเพียงแค่นั้น  พร้อมกับเสียงถอนหายใจยาวๆของเธอ  แต่ก็อย่างที่บอกนั้นแหละ  เธออยากให้จบงานชิ้นนี้ให้เร็วที่สุด  และเมื่อสำเร็จเธอจะได้ในสิ่งที่เธอต้องการ 
******************************************************************************
“หวัดดีอลิซ”  พอลทัก  อลิซเหล่ตาไปมองพอลนิดๆ ที่หัวของพอลยังปูดอยู่เลย  ทำให้อลิซอมยิ้ม  แต่พอพอลหันมามองเธอกลับทำหน้าเรียบๆตามเดิม
“เอ่อ...เมื่อวานขอโทษด้วยนะ...ที่ฉันเผลอว่าเธอไป...แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ” พอลพูด  แต่ดูเหมือนอลิซจะไม่ได้ฟัง  ก็เธอชอบทำหน้าเรียบๆนี่  ใครจะไปดูออกล่ะ
“นี่...บอกหน่อยได้ไหมว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมพูดกับใครเลย”
“เธอจะไม่พูดกับใครจริงๆหรอ” ตอนนี้อลิซก็เริ่มเซ็งกับคำถามแบบนี้แล้วด้วย   
‘ ตาบ้านี่จะมายุ่งกับฉันทำไมนะ ’  เธอคิดในใจอย่างรำคาญ
“ช่าง...เถอะ...ถ้าเธอไม่พูด...ฉันพูดคนเดียวก็ได้...ดีซะอีกที่จะได้ไม่โดนแย่งพูด...เนอะ”  พอลพูดต่อแบบเข้าข้างตัวเอง  ในใจอลิซเริ่มหมันไส้พอลมากขึ้น  แต่ก็มีอีกความรู้สึกหนึ่งที่อลิซก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
***********************************************************************
          เวลาแห่งความน่าเบื่อเริ่มขึ้นอีกแล้ว  เธอไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมานั่งเรียนพวกสิ่งเหล่านี้ด้วย  วิชาบางวิชาก็รู้ๆกันอยู่แล้วไม่เห็นจะต้องมาเรียนซ้ำไปซ้ำมาอีก  และนี้ก็คือวิชาที่เธอเกลียดที่สุด  วิชาพละ  เพราะแน่นอน  มันเป็นของหมูๆมากสำหรับมืออาชีพอย่างเธอ
“นักเรียนนั่งที่ได้แล้ว”  ครูคลอเทียที่เพิ่งเดินเข้ามาสักครู่หนึ่ง  พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนผู้ใหญ่กำลังดุเด็กอนุบาล
          ครูคลอเทียเป็นครูพละหญิงที่สูงมาก  ผอมมาก  ดำมาก  แถมยังโหดมากๆอีกด้วย  เหตุนี้จึงทำให้ นักเรียนที่แสนดีทั้งหลายนำไปนินทา ครูต่างๆนานา  แต่ด้วยนิสัยของครูคลอเทียที่ไม่ค่อยสนใจและยุ่งกับใครมากนัก  พอได้ยินเรื่องนี้ก็แค่รู้สึกเฉยๆ  ไม่ค่อยคิดมากเท่าไหร่นัก
“อย่างที่ได้บอกเอาไว้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า  วันนี้เราจะสอบพละกัน  ครูคาดว่าทุกคนคงไปฝึกซ้อมการวิ่งมาอย่างดีแล้วนะ”
“ . . . . . . . . . . . . . . . ”
“การสอบวันนี้คือจะให้วิ่งรอบสนาม  ภายในเวลา  2  นาที  30  วินาที  ใครทำได้ถือว่าผ่าน !!!  ให้  20  คะแนน  แต่ถ้าช้ากว่านี้ก็จะหักคะแนนออกตามวินาทีที่ช้า”  ทันทีที่พูดจบดูจากสีหน้าแล้วทุกคนเหมือนไม่พอใจกับการสอบครั้งนี้แต่ครูคลอเทียก็ไม่สนใจ
“เลขที่ 1 ...ลอยเดล...เชิญ”  ครูคลอเทียเรียก  ลอยเดลเดินออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ  ปกติเขาก็กลัวครูคลอเทียอยู่แล้ว  ไม่มีใครแปลกใจเลย  ที่ลอยเดลจะมีท่าทีสั่นกว่าคนอื่นๆ  ประมาณสองเท่า
“พร้อมนะ  เข้าที่  ระวัง !!! ไป”  ครูคลอเทียเริ่มจับเวลา  ลอยเดลวิ่งสุดชีวิต  แต่วิ่งรอบสนามที่ใหญ่มากๆภายใน  2.30 นาทีเนียนะ  มันจะเป็นไปได้หรอสำหรับคนที่เตี้ยแค่  155 ซม.  ในที่สุดลอยเดลก็ถึงจุดมุ่งหมาย  แต่ช้ากว่าตั้ง  30  วินาที  แต่ครูคลอเทียก็ไม่ถึงกับให้ตก  คะแนน 20 คะแนน เธอให้ลอยเดลแค่ 10 คะแนนเท่านั้น
“เลขที่ 2 ...เรสวิน...เชิญ”  เรสวินเป็นหนุ่มหน้าตาดีมากๆ  ถึงกับสาวหลายๆคนถึงกับกรี๊ดเมื่อครูคลอเทียเรียกชื่อเขา
“พร้อมนะ เข้าที่  ระวัง  ไป” เรสวินวิ่ง  วิ่ง  วิ่ง  และวิ่ง  เขาวิ่งได้เร็วมากเพราะรูปร่างสูง  หุ่นดี  หน้าหล่อ(เกี่ยวด้วยไหมเนี่ย)  และในที่สุด เขาก็ถึงจุดมุ่งหมายภายในเวลา  2.29 วินาทีเขาจึงได้คะแนนเต็ม  ตามมาพร้อมๆกันเสียงกรี๊ดที่บาดแก้วหูอันน่าสยองของสาวๆ
เลขที่ 3  ...  เลขที่ 4 ...  เลขที่ 5  ... 6 ... 7 ... 8 ... ได้วิ่งไปแล้วทุกคนล้วนได้แค่  10 - 16  คะแนนกันทั้งนั้น
“เลขที่ 9 ...พอล...เชิญ”
กรี๊ด ๆ  ๆ  เสียงกรี๊ดดูจะดังกว่า เรสวิน ซะอีก ทำให้เรสวินต้องทำหน้าหมันใส้ใส่แล้วเชิดไปใส่พอล  ช่างเหอะพอลไม่สนอยู่แล้ว  ในตอนนี้พอลดังที่สุดในโรงเรียน  คงไม่มีใครคนใด (ญ) ที่ไม่ชอบพอล ยกเว้นอลิซ !!!
“พร้อมนะ  เข้าที่  ระวัง  ไป” พอลวิ่ง  เขาวิ่งได้เร็วมากๆๆๆๆๆ  ทำให้เขาผ่านไปได้อย่างสบายๆ  ด้วยเวลา 2.25 วินาที  พอลได้คะแนนเต็ม แถมครูคลอเทียยังชมอีกด้วย
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว
“เลขที่  25  เคท เชิญ  เข้าที่ระวังไป”  เคทตัวอ้วนและใหญ่มากถึงจะพยายามเพียงใดก็คงไม่ทันอยู่ดี  เพราะฉะนั้นคะแนนก็คงเป็น  10  คะแนน เท่านั้น
          เลขที่  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  ได้วิ่งไปแล้ว  คะแนนที่ออกมาก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากนัก  คืออยู่ที่ประมาณ  10 - 15
“ต่อไปเลขที่  39  ...อลิซ...เชิญ  ระวัง  เตรียมตัว  ไป” 
          อลิซคาดว่าจะวิ่งเอาแค่ผ่านเท่านั้น  ขืนมานั่งทำให้คะแนนตัวเองไม่ดีมากๆก็กลัวว่ามันจะเป็นที่ผิดสังเกตมากเกินไป  เธอคาดว่าจะออกกำลังตนเองแค่  75  %  ก็คงพอ  และในที่สุดอาจจะเพราะอลิซคำนวนเวลาผิดไปมั้ง  ไม่ก็ออกแรงมากไปทำให้อลิซ  ..
Speed And Send Station  ;  ความเร็ว & สถานที่ส่งของ
              เธอถึงจุดหมายในเวลาเพียง 2.20 น.  ทำคนถึงกับทำหน้าเหลอหลา  ไม่คิดว่าคนอย่างอลิซจะวิ่งเร็วขนาดนี้  เธอวิ่งชนะผู้ชายและผู้หญิงทุกคน  ทั้งๆที่เมื่อก่อนเธอทำคะแนนได้แย่มากๆ  จะเรียกว่าห่วยสุดๆก็ว่าได้
“เก่งมากอลิซ  เธอทำคะแนนนำอันดับ 1  ทั้งที่เมื่ออาทิตย์ก่อนคะแนนเก็บของเธอตก  ดีมาก”  ครูคลอเทียที่ปกติไม่ค่อยชมนักเรียนถึงกับเอ่ยปากชมอลิซ  ถึงตอนนี้อลิซก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองออกแรงมากเกินไป 
          ไม่ใช่จะมีแค่คนอื่นที่  ทึ่ง  อึ้ง  ตะลึง  !!!  กับอลิซ  แม้แต่ตัวเธอเองยังอึ้งๆเลย  แต่มันไม่เหมือนกันที่ว่า  อึ้งกันคนละเรื่อง
   
“เฮ้อ .... ซวยแล้วสิ”
“เผลอลืมตัวอีกแล้วเรา...แย่จัง”  ในที่สุดเธอก็อดบ่นออกมาไม่ได้
              มันคือการผิดพลาดครั้งใหญ่ของเธอ  ถึงแม้ในตอนนี้จะยังไม่มีใครสงสัยในความสามารถของเธอ  แต่สักวัน  ไม่แน่  อาจจะมีใครนำเรื่องของเธอมาประติดประต่อ  แล้วความลับของเธออาจจะแตกขึ้นมาก็ได้
- - - - -  เ ลิ ก เ รี ย น  - - - - -
“อลิซ...อลิซวันนี้เธอทำฉันทึ่งมากๆ...สุดยอดเลย...ไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่าเธอจะวิ่งเร็วขนาดนี้” พอลพูดขณะเดินตามอลิซเหมือนทุกๆวัน  แต่ก็อย่างเคยอลิซก็ยังไม่สนใจ 
“หา...นี่มัน 3.30 น. แล้วหรอเนี่ย”  อลิซลืมตัวพูดออกมาทันทีหลังจากที่เหลือเห็นนาฬิกาข้อมือของตัวเอง 
พอลก็ดันตกใจตามและรีบถามกลับอย่างรวดเร็ว  ลืมไปเลยว่านี่คือคำพูดของคนที่ไม่เคยยอมคุยกับเขาสักครั้ง  “ทำไมหรอ” 
“ ก้อ ........... ”  อลิซเพิ่งรู้ว่าตัวเองหลุดปากพูดออกไปแล้ว  ตอนนี้เธอกำลังคิด  คิด  คิด  คิด  ว่าจะทำยังไงดี  ที่จะไล่พอลไปให้พ้นพ้น  เธอจะได้เอาของไปส่ง  เรื่องจะได้จบๆกันไปซะที
“อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอก  ฉันกำลังคิดว่าทำไมฉันถึงเดินกลับบ้านช้าขนาดนี้...คือปกติฉันถึงบ้านตอน 3.15 น. เอง  ไม่มีอะไรหรอก” อลิซอธิบายอย่างแนบเนียน  แต่พอลก็ดีใจมากที่ตัวเองสามารถทำให้อลิซพูดได้  ถึงแม้มันจะเป็นการเริ่มต้นที่แปลกๆก็เถอะ
“ในที่สุดเธอก็พูดนะ...ดีใจนะที่ได้เห็นเธอพูด”
“หรอทำไมล่ะ...”
“ก็อลิซ ไม่ค่อยยอมพูดกับใครเลยนี่”
“แค่เหตุผลแค่นี้หนะหรอที่ทำให้นายดีใจ”
“มันก็มีอีกแหละ  แต่ช่างมันเถอะ  ไหนไหนเธอก็พูดแล้วนี่”
“พอลฉันว่าเราแยกกันตรงนี้ดีกว่า  คือฉันจะไปซื้อของหนะ”
“หรอแต่ไม่เป็นไรหรอกฉันรอได้” พอหันไปหาอลิซ  อลิซก็หายวับไปแล้ว
“อ้าว ไปไหนแล้วเนี่ย”  พอลบ่นแล้วก็  เอามือเกาหัว  อย่างงง
              ณ  บริเวณของตึกแห่งหนึ่ง  ที่ค่อนข้างร้าง  รกร้าง  อับๆ  มืดๆ  ซึ่งโดยทั่วไปไม่น่าจะมีคนอยู่  แต่มีชายคนหนึ่งร่างสูงผอม  อยู่ในชุดสูทสีดำ  หมวกสีดำ  แว่นตาสีดำ  เกือบทุกสิ่งของชายคนนั้นล้วนเป็นสีดำหมด  ยกเว้นผิวหนังของชายผู้นี้  ซึ่งเป็นสีขาวซีดตัดกับสีดำนั้นอย่างสิ้นเชิง
ตี๊ด  ๆ  ตี๊ด  ๆ
“B1100 นะตอนนี้ฉันถึงที่หมายแล้ว เธอถึงไหนแล้ว”
“ใกล้ถึงแล้ว ”
              ภายในเวลาไม่นานอลิซก็ถึงที่หมายแต่ก็ช้าไป  10  นาทีแล้ว  เธอเดินตรงเข้าตึกร้างอย่างเงียบที่สุด  ตอนนี้ใบหน้าของอลิซไม่เหมือนอลิซคนเดิมแล้วใบหน้าของเธอกลายเป็นผู้ชายร่างใหญ่  ที่มีรหัสว่า  A25/26
“คุณช้านะ  A25/26    ปกติมันไม่น่าจะเป็นแบบนี้”
“เอาเถอะ ... ไม่เป็นไรไหนของล่ะ”
“นี่ ค่าจ้างสำหรับของชิ้นนี้” 
    เมื่อได้แลกของกับค่าจ้างไปเรียบร้อยแล้ว  เธอก็โค้งคำนับให้ชายที่อยู่ตรงหน้าครั้งหนึ่ง  แล้วเขาและเธอก็แยกจากกันทันที  เป็นอันว่าการส่งของครั้งนี้ถือว่า  เรียบร้อย
- - - - -  ที่ บ้ า น อ ลิ ซ  - - - - -
“ยายคะ  วันนี้เงินเดือนหนูออกแล้ว” 
“นี่ค่ะส่วนของยาย”  อลิซหยิบเงินให้ยาย 5,000 บาทแล้วก็เดินขึ้นห้องนอนของตัวเองด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
              ความจริงเธออยากให้เงินยายของเธอมากกว่านี้  แต่เธอก็ต้องจำใจเก็บมันไว้  เพราะเด็กสาวอายุ  16  อย่างเธอ  จะทำงานที่ได้ค่าจ้างมากมายถึงกับให้เงินคนอื่นเป็นหมื่นๆก็คงจะทำไม่ได้  ความลับของเธอ  เธอจะไม่ให้ใครล่วงรู้เป็นอันขาด  อลิซเก็บเงินจำนวนหนึ่งไว้กับตัวเอง  และอีกจำนวนหนึ่งเธอได้นำไปใช้จ่าย  จะเป็นอะไรนั้นยังไม่มีใครรู้ว่าเธอนำเงินมากมายเหล่านั้นไปทำอะไร
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น