ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวม SHORT FIC แล้วแต่อารมณ์

    ลำดับตอนที่ #1 : HBD^ ^ JAEJUNG ANGLE

    • อัปเดตล่าสุด 30 ม.ค. 52



    HBD^ ^ JAEJUNG ANGLE

     

     

     

     

     

    นู๋เงาะ :: อ่านะจ๊ะ^ ^ ฮิฮิ  เนื่องจากวันเกิดแจแจเงาะมิสามารถมาได้เลยเซ็งจิตเลย  เอาเป็นว่าHBDย้อนหลังยาวหน่อยนะ^ ^ 

    ตอนนี้เข้าค่ายญี่ปุ่นอยู่  เพราะงั้นเลยหายยาว  ฝากเพื่อนมาลงแล้วแต่ดูเหมือนเพื่อนมันจะลืม T^T ลงไม่ถูก

     

    งัยก็.....อืม....นะ

     

     

    ===================

     

     

     

     

     

    ผมไม่เคยเชื่อว่านางฟ้ามีจริงเลยสักครั้ง...จนวันนั้น...ผมได้เจอเธอ...

     

    ผมคิดว่าเธอคือนางฟ้า...นางฟ้าผู้ถูกกักขังและพันธนาการไว้ในความมืด...

     

    นางฟ้าผู้ถูกทอดทิ้ง...เดียวดายบนโลกมนุษย์...ที่แสนโหดร้าย...

     

     

     

     

     

     

    เฮ้ย!  เหม่ออะไรของนายวะยุนโฮ

     

    แรงสะกิดกับเสียงเรียกดังๆของเพื่อนทำให้ยุนโฮที่กำลังเช็ดจานอยู่หลังร้านอย่างเหม่อลอยสะดุ้งสุดตัว  จานที่กำลังเช็ดอยู่หลุดออกจากมือหล่นตามแรงโน้มถ่วงของโลก

     

    เพล้ง!!

     

    ยุนโฮกับยูชอนมองสบตากันก่อนจะรีบเอามืออุดหูทันที  พร้อมกับเสียงแหลมปรี๊ดของเจ้าโลมาตัวแสบที่กำลังจะแผลงฤทธิ์รอบที่ห้าของวัน

     

    อ๊า!!!  นายทำอะไรของนายห๊ะยุนโฮ๊~!!  จานนั่นมันแพงมานะรู้มั้ยแล้วนายก็ทำมันแตกไปแล้วสี่ใบรวมใบนี้เป็นห้า!!!”

     

    ขอโทษจ๊ะ^ ^;” ยุนโฮขอโทษขอโพยกำลังจะก้มเก็บกวาดชางมินก็แย่งหน้าที่ไปทำก่อน 

     

    เหม่ออะไรนักหนาน่ะพี่ยุนโฮ?  รอใครอยู่หรือไง?” ชางมินเปรยถาม

     

    ห๊า??  ฉันเนี่ยนะกำลังรอใครอยู่??” ยุนโฮถามกลับชี้หน้าตัวเองอย่างเอ๋อๆ

     

    แล้วอยู่ๆก็คิดไปถึงใครบางคนที่เหมาะสมกับคำว่ากำลังรอใครอยู่มากกว่าเขา  ชายหนุ่มหันไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่  เข็มนาฬิกาบอกว่ากำลังจะทุ่มหนึ่งแล้ว  เขารีบถอดผ้ากันเปื้อนออกอย่างรวดเร็ว  เก็บของใส่กระเป๋าอย่างรีบร้อน

     

    อ้าวๆจะไปไหนน่ะยุนโฮ?” ยูชอนร้องถามก่อนที่ยุนโฮจะวิ่งออกไปจากร้าน

     

    มีธุระน่ะ!  วันนี้ขอกลับก่อนนะ โบกมือลาเพื่อนก่อนจะวิ่งไปอย่างรวดเร็ว 

     

    ยุนโฮยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูถี่ยิบเพราะกลัวว่าจะเลยว่าลาที่ใครบางคนจะมาที่สวนสาธารณะแถวบ้านเขา  พอเข็มชี้บอกเวลาหนึ่งทุ่นยุนโฮก็มาถึงหน้าสวนสาธารณะพอดี

     

    แสงไฟที่น้อยนิดส่องสว่างให้พอเห็นร่างบางที่กำลังนั่งอยู่บนชิงช้าเพียงคนเดียวในสวนสาธารณะเก่าแห่งนี้  ใบหน้านวลสวยหวานเหมือนผู้หญิงก้มมองเท้าของตัวเองที่กำลังแกว่งไกวตามแรงชิงช้า  ผมขาวกับเสื้อผ้าสีขาวทั้งชุดทำให้ดูส่องสว่างในความมืด  ดวงตากลมสวยดูหมองเศร้าและเหมือนกำลังเฝ้ารอใครบางคนอยู่  ริมฝีปากชมพูเม้มเข้าหากันแน่น

     

    ยุนโฮบอกตัวเองว่าเขาไม่เคยเชื่อเรื่องนางฟ้า  แต่คนที่นั่งอยู่บนชิงช้าตรงหน้ากลับทำให้เขาเปลี่ยนความคิดเสียใหม่  คนๆนี้จะมานั่งที่ชิงช้าในสวนสาธารณะนี้ทุกวันที่เข็มนาฬิกาบอกเวลาทุ่มหนึ่ง  และจะเดินหายไปจากที่นี่เมื่อเข็มชี้เวลาสามทุ่มแล้ว

     

    ที่ยุนโฮรู้เพราะตั้งแต่เริ่มทำงานที่ร้านเขาต้องผ่านทางนี้ทุกวัน  แล้วจะได้เจอกับคนๆนี้ตลอด  คนคนนี้มานั่งคนเดียว  บางครั้งก็มองไปรอบๆเหมือนกำลังรอใครอยู่  หลายครั้งที่เขาคิดอยากเข้าไปถามเข้าไปหา  แต่ก็ไม่กล้า...

     

    คนคนนี้เหมือนกับนางฟ้า...นางฟ้าผู้ถูกกักขังพันธนาการอยู่ในความมืด...ถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างเดียวดายบนโลกมนุษย์ที่แสนโหดร้ายนี้...

     

    ทุกครั้งที่เห็นเขาเกิดความรู้สึกอยากปลดปล่อยคนคนนี้ให้ออกมาจากสิ่งที่จองจำเค้าไว้  ไม่รู้ว่าทำไม...แต่เขารู้ว่าเขาต้องทำ...และเขาก็เลือกวันนี้...เขาจะเข้าไปคุยกับคนคนนี้วันนี้

     

    มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวน่ะ  มันอันตรายนะ ประโยคแรกที่ยุนโฮพูดออกไปทำให้หน้าสวยหวานเงยขึ้นมามองเขา  ตากลมโตฉายแววสงสัยอย่างไม่ปิดบัง  ช่างดูจริงใจและไร้เดียงสาเสียจนยุนโฮกลัว 

     

    ผมกำลังรอคนอยู่น่ะ เสียงใสตอบฟังแผ่วเบาและไพรเราะจนยุนโฮไม่คิดว่านี่เป็นเสียงของคน  ถ้าเขาไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้และเห็นกับตาว่าคนคนนี้มีตัวตนอยู่จริง

     

    นายรอใครอยู่ล่ะ  ฉันเห็นนายมารอที่นี่ทุกวันเลยนะ  เค้าคนนั้นคงไม่มาแล้วล่ะ ยุนโฮพยายามชวนคุย

     

    มาสิ^ ^  เพราะเค้าไม่เคยผิดคำสัญญากับผมเลย รอยยิ้มอ่อนหวานชวนให้ยุนโฮล่องลอย  เขารีบดึงสติกลับมาทันที

     

    งั้น...ฉันจะรอเป็นเพื่อนนะ ยุนโฮถือวิสาสะนั่งลงที่ชิงช้าข้างๆ  ร่างบางเพียงส่งยิ้มและเอียงคอให้  ก่อนจะกลับไปมองเท้าของตัวเองอีกครั้ง

     

    ความเงียบมาเยือนให้ชวนวังเวงเมื่อไม่มีใครเริ่มบทสนทนาอีก  ยุนโฮอึดอัดแต่ก็ไม่กล้าส่งเสียงรบกวนอะไรร่างบางอีก

     

    รู้มั้ย...วันนี้เป็นวันเกิดของผม^ ^” อยู่ๆร่างบางก็พูดขึ้นมาทำเอายุนโฮสะดุ้ง  แอบลูบอกตัวเองให้หัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติอีกครั้ง

     

    เค้าสัญญาว่าจะเอาของขวัญวันเกิดมาให้ผมที่นี่  เค้าให้ผมนั่งรอเค้า...ผมรอเค้ามา 16 ปีแล้วนะ^ ^” ร่างบางหันมาเอียงคอยิ้มให้ยุนโฮอีกครั้ง

     

    เขาล่ะแปลกใจจริงๆที่ตอนนี้ร่างบางไม่ได้มีวี่แววแห่งความเศร้าอย่างที่เขาเห็นทุกครั้ง  วันนี้รอบตัวของคนคนนี้กลับเปล่งประกายสดใส  เขาอยากจะรู้ว่าใครที่ทำให้สิ่งสวยงามขนาดนี้ต้องหมองเศร้าเพียงลำพังมาตั้ง 16 ปี

     

    รู้มั้ยนั่นเค้าเรียกว่าอะไร  มือเรียวบางชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า  กลุ่มดาวอะไรที่เขาไม่รู้จักเรียกตัวกันอย่างสวยงามส่องประกายเจิดจ้ายิ่งกว่าดาวดวงอื่นๆ

     

    สวยจังนะ ยุนโฮหลุดปากชมอย่างไม่รู้ตัว

     

    ใช่^ ^  นั่นเป็นดาวของผมกับเค้าน่ะ เสียงร่าเริงตอบกลับ

     

    ดาวอะไรเหรอ?” ยุนโฮถามอย่างสนใจ

     

    “Cassiopeia”

     

    อ๊ะ  เพราะดีจังนะ...ฟังดูดีจัง^ ^” ยุนโฮชมเรียกรอยยิ้มกว้างๆจากคนข้างๆ

     

    นายชื่ออะไรเหรอ?” ยุนโฮผลอถามออกไปอย่างไม่รู้ตัว  อยากจะตบปากตัวเองจริงๆ  มันเหมือนเขาอยากรู้จักคนสวยนี้เลยเดินเข้ามานั่งเป็นเพื่อนเลย

     

    แจจุง...ผมชื่อคิม แจจุง

     

    งั้น...แจจุงเราไปเที่ยวด้วยกันมั้ย?” ยุนโฮเอ่ยปากชวน

     

    เลยจากที่นี่ไปหน่อยมีงานวัดน่ะ  เราไปเดินเที่ยวเลยฉลองวันเกิดของนายดีมั้ย

     

    เอาสิ แจจุงพยักหน้า  ยุนโฮถือวิสาสะจับมือนุ่มนั้นเดินออกไปจากสวนสาธารณะ

     

     

     

     

     

     

     

    ยุนโฮเที่ยวเพลินและสนุกกับการทำให้แจจุงยิ้มจนลืมดูเวลา  อีกไม่นานก็จะสามทุ่มแล้ว  เขาไม่รู้ว่าแจจุงจะกลับไปที่สวนสาธารณะนั้นอีกหรือเปล่า  พอกำลังจะหันมาถามก็เห็นว่าดวงตากลมโตจับจ้องเครื่องเล่นที่มีแสงไฟประดับอย่างสวยงามเครื่องใหญ่อยู่

     

    อยากเล่นชิงช้าสวรรค์เหรอ?”

     

    อืม แจจุงยิ้ม

     

    ยุนโฮเดินไปซื้อตั๋วกลับมาก็ยังเห็นร่างบางเงยหน้ามองจุดสูงสุดของชิงช้าสวรรค์อยู่  ยุนโฮมองตามอย่างสงสัยว่ามีอะไรอยู่บนนั้น  แต่พอไม่เห็นอะไรกำลังจะถามแจจุง  มือบางก็คว้ามือเขาพาเดินไปขึ้นกระเช้าก่อนแล้ว 

     

    แจจุงเกาะขอบเหล็กมองดูชิงช้าค่อยๆเลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆราวกับเด็กน้อย  รอยยิ้มอ่อนโยนดูมีความสุขจนยุนโฮไม่กล้าพูดขัดบรรยากาศของแจจุง  เขาแอบมองร่างบางอยู่อย่างนั้น

     

    นี่...ถ้าคุณเฝ้ารอใครสักคนมาตลอดแต่เค้ากลับจำคุณไม่ได้คุณจะรู้สึกยังไงนะ...แล้วถ้าคุณเป็นใครสักคนคนนั้น  คุณจะรู้สึกเสียใจหรือเปล่า อยู่ๆแจจุงก็ถามขึ้น

     

    ก็คงเสียใจมั้ง  ในเมื่อผมทำให้ใครคนหนึ่งต้องรอมาตลอดนี่นา  แต่ผมกลับจำเค้าคนนั้นไม่ได้...แต่ผมเชื่อนะว่าผมจะสามารถรักษาสัญญาได้  จะไม่ให้เค้าต้องรอตลอดไป

     

    แจจุงยิ้มรับคำตอบของเขา  แล้วทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกจนยุนโฮเดินกลับมาส่งแจจุงที่สวนสาธารณะ 

     

    ขอบคุณมากนะที่คุณพาผมเที่ยว^ ^”

     

    ไม่เป็นไรหรอก^ ^  รู้มั้ยผมมีของขวัญวันเกิดให้คุณด้วยนะ ไม่พูดเปล่ายุนโฮล้วงถุงกระดาษเล็กๆออกมาให้แจจุง

     

    ร่างบางรับไปเปิดดู  แจจุงหยิบแหวนสีเงินวงเล็กขึ้นมา  ถึงมันจะเกลี้ยงเกลาแต่คำว่า Cassiopeia ที่สลักอยู่บนแหวนกลับทำให้มันดูสวยขึ้นมาอย่างประหลาด  ยุนโฮยิ้มอายๆ

     

    มันก็แหวะธรรมดาๆไม่มีราคาอะไรมากอ่ะนะ  ผมเห็นว่าคุณชอบดาวกลุ่มนั้นผมเลยให้เค้าสลักคำนี้ให้...คุณชอบมัยไหม?” ยุนโฮถามอย่างกังวล

     

    ชอบสิ^ ^  ชอบมาก ไม่พูดเปล่าแจจุงยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มร่างสูงอย่างไม่ทันตั้งตัว

     

    แจจุงยิ้มโบกมือลาแล้วเดินไปตามทางเดินมืดๆ  ไม่รู้ทำไมแต่ยุนโฮรู้สึกใจหวิวๆขึ้นมา  เขากลับหลังหันเดินไปทางทิศตรงข้ามกับร่างบาง  สายลมเย็นๆพัดมาพร้อมกับเสียงกระซิบอ่อนหวาน

     

     

     

     

     

     

    ขอบใจมากนะ...ขอบใจที่นายรักษาสัญญา...ยุนโฮ...

     

     

     

     

     

     

    ยุนโฮหันกลับไปมองทางแจจุง  แต่บนทางเดินที่มีแสงไฟเพียงเล็กน้อยไม่มีร่างในชุดขาวแล้ว  เสียงกระซิบนั้นทำให้เขานึกขึ้นได้...เขาลืมไปว่าเขายังไม่ได้บอกชื่อแจจุงเลย

     

    ...........

     

    .....

     

    แจจุง...

     

    .....

     

    ...........

     

    คิมแจจุง...

     

    ...........

     

    .....

     

    ไม่รู้ทำไม  แต่ยุนโฮนึกไปตอนเด็กๆ  เหมือนเขาเคยสัญญาอะไรกับใครไว้  จะใช่คนคนนี้หรือเปล่า

     

    นางฟ้าผู้ถูกทิ้งอยู่ในความมืด...บนโลกมนุษย์ที่แสนโหดร้าย...คิม แจจุง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×