ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { Au Fic KHR } Android's Assassin : My Sin Against God

    ลำดับตอนที่ #3 : ◤My Sin Against God : The Intro◢

    • อัปเดตล่าสุด 2 มี.ค. 56


     

    My Sin Against God : The Intro

     

     

    My Dear … Lying Cold

     

     ( นายอันเป็นที่รัก ค่อยๆเย็นยะเยือกลงเรื่อยๆ )

     

    I will Spend All My Life For You … As I Swore On That Day

     

    ( ฉันจะมอบทุกสิ่งของฉัน ให้แด่เธอเช่นดั่งที่ฉันเคยได้สาบานไว้ในวันนั้น )

     

    My Sin Against God

     

    ( บาปของฉันที่คิดต่อต้านพระเจ้า )

     

    All My Acts Of Treachery Should Be Paid By My Death

     

    ( ก็ควรจะจ่ายค่าตอบแทนของบาปทั้งหมด ด้วยความตายของฉันเอง )

     

    So I will Die For You…

     

    ( ดังนั้นชีวิตของฉัน ฉันขอมอบให้แด่นาย )

     

    I Believe , That’s My Fate

     

    ( ฉันเชื่อว่านี่เป็นโชคชะตาของฉัน )

     

    … I Love You …

     

    ( ฉันรักนาย )

     

     

     

    เสียงใต้จิตสำนึกของหญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามราวกับเทพีแห่งชัยชนะที่คอยโปรยยิ้มแด่ผู้ที่ครอบครองชัยชนะ หากแต่สตรีผู้นี้นั้นปราศจากรอยยิ้มให้ใคร หาใช่ว่าเธอเย็นชา หากแต่ว่าเธอผู้นี้ยิ้มไม่ได้เสียมากกว่า

     

    รอยยิ้มบางละไมถูกละเลียดประดับบนดวงหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยรอยเลือดและเศษดินที่เปื้อนตามตัว หญิงสาวผู้นี้ที่ไม่เคยยิ้มให้แก่ใครกลับยิ้มให้แด่บุคคลอันเป็นที่รัก ..รักที่ไม่มีวันสมหวังได้..เพราะว่าเธอนั้นได้ทำบาปครั้งใหญ่หลวง โดยการที่ไปรัก เขาผู้ซึ่งเป็นชายหนุ่มไร้หัวใจ

     

    คำสัตย์ที่ให้แก่พระเจ้ากลับกลายเป็นบาปที่ไม่น่าให้อภัยเสียได้ เพราะงั้นเธอจึงอยากเห็นชายหนุ่มอันเป็นที่รักได้สิ่งที่เขาปรารถนาก่อนที่ตนนั้นจะสิ้นลมหายใจไปเสียก่อน หากแต่ว่า เวลาของเธอใกล้จะหมดลงแล้ว ริบหรี่เต็มทน จะแสดงความอ่อนแอให้เขาต้องเป็นห่วง

     

    เพราะงั้นพูดสิ...พูดมันออกมา

     

    “…ฉันไม่เป็นอะไรหรอกอย่าแพ้กลับมาล่ะ ไม่งั้นนายไม่ต้องกลับมาหาฉันเป็นครั้งที่สอง เข้าใจสินะ…” แม้ว่าปากจะเอื้อนเอ่ยออกมาด้วยวาจาเชิงบังคับ หากแต่ฝ่ายตรงข้ามรู้ดีว่าเธอนั้นกำลังให้กำลังใจเขาอยู่ ความสั่นเทาเล็กน้อยที่เกิดจากการฝืนตัวให้ยืนอยู่ตรงหน้าของอีกฝ่าย ริมฝีปากที่ยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก อาและมันคงเป็นครั้งสุดท้ายของเธออีกด้วย

     

    “Oya ในที่สุดก็ยิ้มมาซักทีนะครับเทพีของผม..ในเมื่อคุณโปรยรอยยิ้มให้ผมแล้วชัยชนะคงอยู่แทบเท้าผมแล้วล่ะครับ คึหึหึ ชายหนุ่มปรายตาสองสีราวอัญมณีหลากหลายให้เลือกสรรดวงตาข้างหนึ่งที่ดูเย็นยะเยือกราวน้ำแข็งซึ่งไม่มีวันและไม่มีทางที่จะละลาย กับดวงตาอีกข้างที่พร้อมจะเผาผลาญทุกอย่างให้เหลือเพียงเศษเถ้าธุลี ราวกับเพลิงบรรลัยกรรณ์เลยทีเดียวเชียว สองสิ่งที่ไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้กลับมารวมเอาไว้ ถ่วงสมดุลของตัวชายหนุ่มผู้นี้ไม่ปาน

     

    แม้ว่าจะแตกต่างก็สามารถอยู่ด้วยกันได้ ยิ่งแตกต่างกันมากเท่าไหร่ ทั้งสองสิ่งนั้นย่อมเข้ากันได้ดีเสมอ เป็นสัจธรรมของโลกเรา ที่ต้องมีสิ่งถ่วงดุลกันเอาไว้ยึดเหนี่ยวสิ่งต่างๆให้คงอยู่ ไม่ถูกฝ่ายใดกลืนกิน แสงย่อมคู่กับความมืด เสียงย่อมคู่กับความเงียบ หรือในโลกนี้ยังมีคำว่า มีผู้พูดย่อมที่จะมีผู้ฟังนั่นแล

     

    ถึงกระนั้น เธอและ เขาก็มิอาจที่จะอยู่ร่วมกันได้ เขาที่ต้องทำลายทุกสิงทุกอย่าง กับเธอที่สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ใช่ไม่มีทางและไม่มีวัน ก็เพราะถ้าหากเธอเป็นผู้ช่วยพระผู้เป็นเจ้าที่ตั้งสัตย์ว่าจะทำตามที่ท่านสั่งทุกอย่าง และจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งต้องห้าม หน้าที่ของเธอคือการคอยสร้างเหล่ามนุษย์และสัตว์ขึ้นมาอีกทั้งยังธรรมชาติต่างๆ ส่วนเขาคือชายหนุ่มที่อยู่ในอาบิสคอยทำลายทุกสิ่งให้ร่วงหล่นลงมายังขุมนรกอันมืดมิด คิดที่จะทำลายแม้กระทั่งพระผู้เป็นเจ้า

     

    ใช่แต่แล้วเมื่อเธอและเขาได้มาพบกัน เธอกลับละทิ้งคำสัตย์ที่ให้กับพระผู้เป็นเจ้า แล้วยอมจมลงไปยังอาบิสที่มืดมิด ช่วยเขาทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เธอจะต้องดึงเขาออกมาจากอาบิสให้ได้แม้ว่าบาปนี้จะเป็นการต่อต้านกับพระผู้เป็นเจ้าก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เธอต้องชดใช้คือชีวิตและตัวตนของเธอเอง

     

    นายน่ะไม่เหมือนกับตอนแรกที่ฉันเจอนายเลยซักนิดลาก่อนหญิงสาวกล่าวด้วยถ้อยคำอันแผ่วเบาไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน ได้เพียงมองแผ่นหลังของชายผู้เป็นที่รักซึ่งค่อยๆจากไปจนลับสายตาของเธอ กระนั้นร่างของหญิงสาวก็ได้ทรุดลงกับพื้นดิน สาส์นแห่งความตายที่พระเจ้าให้เธอมาคงจะมาถึงแล้วล่ะนะสาส์นที่จะนำเธอไปยังที่ที่ว่างเปล่า โดดเดี่ยวและไร้ตัวตน หากแต่เธอไม่เสียใจเลยที่ได้ช่วยชายหนุ่มให้หลุดพ้นจากคำว่า จักรกลไร้หัวใจตอนนี้เขาก็มีความรู้สึก หัวเราะได้ ร้องไห้เป็น ..และยังมีหัวใจแล้วด้วย หัวใจที่มีรักยังไงล่ะ

     

    ลมหายใจอันโรยรินของเธอค่อยๆเลือนหายไปทีละนิด รอยยิ้มที่ยังเผยประดับบนดวงหน้าหวานเอาไว้ยังไม่ถูกลบหายไปแม้แต่อย่างใด กลับยิ้มออกมาด้วยความอ่อนโยนอีกด้วย น่าขันที่เธอนั้นใกล้จะตายแล้วแท้ๆ แต่ยังยิ้มอยู่ได้ ผู้คนต่างหวาดกลัวความตายกันทั้งสิ้น หากแต่เธอผู้นี้กลับยิ้มรับความตายเสียได้ ช่างเป็นสตรีที่แปลกคนเสียงจริงเชียว ก่อนที่เธอจะหมดสิ้นซึ่งลมหายใจเธอก็ได้เอื้อนเอ่ยกล่าวคำคำนึงขึ้นมาราวกับกระซิบว่า

     

    ขอโทษนะที่ฉันทำตามคำสัญญาที่ให้กับนายไม่ได้มันคือโชคชะตาของฉันที่ต้องเลือกฉันเลือกนายนะแต่ว่า สุดท้ายฉันก็ไม่ได้บอกนายเลย…. Ti Amo Mukuro (ฉันรักนายนะมุคุโร่)สิ้นสุดประโยคแห่งจิตใจร่างของเธอก็ได้หยุดนิ่ง เสียงหัวใจที่เคยเต้นระรัวเพราะใครบางคนกลับหยุดนิ่งลงไป เสียงที่เย็นชาและเหน็บแนมชายผู้นั้นก็ไม่มีอีกแล้ว มีเพียงร่างของหญิงสาวที่แน่นิ่งราวกับเจ้าหญิงนิทราผู้ซึ่งจะไม่มีวันกลับมาได้ แม้จะมีเจ้าชายมาจุมพิตเธอเสียซักกี่รอบก็ไม่มีทางที่จะเรียกเธอกลับมาได้อีกแล้ว เสียงลมที่พัดโชยมาอย่างรุนแรงทำให้ใบไม้เสียดสีกระทบกันจนเกิดเป็นเสียงที่ราวกับความรู้สึกเศร้าสร้อย บรรดานกน้อยที่ส่งเสียงร้องอย่างไพเราะเป็นเพลงสวดส่งให้แด่สตรีผู้นี้

     

     

     

     

    Talk With Writer

     

    สวัสดีครับ ผมอลิซลงบทนำให้ตามคำขอแล้วนะครับ อาจจะทำไม่ค่อยดี ก็ขอคำติชมและแนะนำผมด้วยนะครับ ไม่ดีหรือไม่พอใจบอกได้นะครับจะแก้ให้ทันทีเลย!!

     



     

    Empire•Theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×