คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่สี่
หลังจากดูสภาพศพอันไม่น่าพิศสมัยแล้ว มาเอดะก็เดินออกมานอกห้องเพื่อสอบปากคำคนภายในบ้าน เด็กทั้งสี่ยังคงอยู่หน้าห้อง ชายหนุ่มกวาดสายตาไล่มองตั้งแต่ริวงะ เรียวสุเกะ ฮิโระ แล้วมาหยุดลงที่นาโอมิ เด็กสาวบุคลิกท่าทางเย็นชาก้มหน้านิ่ง ผมสีดำยาวถูกรวบไว้อย่างลวกๆ กรอบแว่นตาสีน้ำเงินเข้มล้อมดวงตาสีน้ำตาลคู่โต ใบหน้าใสแสนธรรมดาดูเรียบเฉย ไร้แววความเศร้าเจือปน
ทำไมถึงไม่ทุกข์ร้อนได้ขนาดนี้กันนะ? ถึงจะเป็นแม่เลี้ยงก็เถอะ อีกอย่าง..คุณเซ็ตสึนะก็ยังมีศักดิ์เป็นน้าอีกด้วย
พลันความคิดก็หยุดชะงักลงเมื่อเด็กสาวเงยหน้าขึ้นมามอง เนื่องด้วยรู้สึกตัวว่ามีคนจ้องมองตนอยู่ คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยคล้ายกับจะส่งคำถามว่ามองมาทำไม มาเอดะผงกหัวเล็กน้อยก่อนจะรีบตั้งสติ แล้วเอ่ยถามออกไป
"เอ่อ... พอมีเวลามาคุยสักหน่อยไหมครับ"
นาโอมินิ่งเงียบ ไม่ตอบคำถาม มาเอดะลอบสังเกตรูปร่างหน้าตาของเด็กสาว ดวงหน้าใสๆนั้นดูซีดเซียวราวกับคนป่วย บริเวณขอบตาดำคล้ำเหมือนอดหลับอดนอนมานาน ความเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียแฝงอยู่ภายใต้ท่าทางเย็นชา ดูยังไงก็ไม่เหมือนดรุณีแรกรุ่นเลยสักนิด
"อยากจะสอบปากคำงั้นหรือ" นาโอมิถามเสียงห้วนกระด้าง น้ำเสียงแบบนั้นยิ่งลดทอนความอ่อนเยาว์อย่างที่ควรจะเป็นให้น้อยลงไปอีก
"ครับ"
เด็กสาวพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงว่าเข้าใจ ก่อนจะลุกขึ้นเดินนำนักสืบหนุ่มออกจากห้อง นาโอมิพาเขาเดินห่างจากห้องนั้นไปพอสมควรแล้วจึงหยุดตรงห้องห้องหนึ่ง เธอเลื่อนบานประตูเข้าไปในห้องนั้น ก่อนจะเปิดไฟให้สว่าง มาเอดะก้าวตามเข้าไป กวาดสายตาสำรวจมองไปรอบๆห้อง ห้องนี้เป็นห้องนั่งเล่นขนาดประมาณสิบสองเสื่อ ตรงมุมหนึ่งจัดเป็นโทะโคะโนะมะไว้แขวนโชว์งานศิลปะ และมีภาพวาดแบบคันงะซึ่งเป็นภาพวาดขาวดำ กับแบบยามาโตะซึ่งเป็นภาพวาดพู่กันหลากสีติดอยู่ตรงประตูเลื่อน
นาโอมิทรุดกายนั่งลงบนโซฟาอย่างสงบ รอให้มาเอดะเอ่ยปากถาม ชายหนุ่มสาวเท้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับนาโอมิ หยิบสมุดโน้ตเล่มเล็กกับปากกาคู่ใจออกจากกระเป๋าเสื้อ และแล้วคำถามแรกก็ถูกยิงไปทันที
"คุณคงเป็นทาคายามะ นาโอมิ... ใช่มั้ยครับ"
"อืม"
เสียงฮึมฮัมรับคำในลำคอของเด็กสาว เรียกอารมณ์กรุ่นๆ จากชายหนุ่มเล็กน้อย แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้สึกอะไรด้วย นัยน์ตาคู่โตสาดส่องสายตาไปรอบๆห้องอย่างเฉยชา มาเอดะรีบปรับอารมณ์ให้เข้าที่ ก่อนจะส่งคำถามต่อไป
"คุณเป็นลูกเลี้ยงแล้วก็ เอ้อ.. หลาน ของคุณเซ็ตสึนะใช่ไหมครับ.."
สิ้นเสียงจากมาเอดะ ดวงตาหลังกรอบแว่นหันขวับมาจ้องเขม็ง หากสายตานั่นมีความสามารถทำลายล้าง เขาคงสิ้นลมหายใจด้วยความทุกข์ทรมานจากสายตาอาฆาตมาดร้ายอันพร้อมแผดเผาทุกสิ่งตรงหน้าอย่างแน่แท้
ไร้สุ้มเสียงใดเล็ดลอดมาจากริมฝีปากที่เม้มแน่น
"ช่วยตอบคำถามด้วยครับ" เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบ มาเอดะจึงส่งเสียงย้ำให้ตอบคำถาม
"ไม่จำเป็น"นาโอมิสวนขวับ เงาหม่นหมองก่อตัวขึ้นห่อหุ้มร่างของเด็กสาว ก่อนจะโหมแรงดุจเปลวไฟ วินาทีนั้นนาโอมิดูประหนึ่งแม่มดน่าขยะแขยง
ครืด...
บานประตูทางเบื้องหลังเปิดออก บรรยากาศอึมครึมหมองหม่นชวนอึดอัดคลายลงเล็กน้อย ชายวัยประมาณสี่สิบปลายๆ ก้าวเข้ามาในห้องเสื่อตาตามิ
"โอ๊ะ ขอโทษครับ... ไม่รู้ว่าสอบปากคำกันอยู่ เลยเข้ามารบกวน" ชายผู้นั้นรีบกล่าวขอโทษขอโพย มาเอดะผินหน้าหันกลับไปมอง พอดีกับที่นาโอมิหยัดกายลุกขึ้น
"ขอตัวก่อนนะคะ" พูดจบก็สาวเท้าไวๆ ออกจากห้อง ทิ้งไว้เพียงนักสืบหนุ่มที่บัดนี้อารมณ์เริ่มไม่คงที่นักกับชายแปลกหน้าอีกหนึ่งคน
"คุณคือ..."
"ทาคายามะ ซาโตริครับ" ชายวัยสี่สิบปลายแนะนำตัว มาเอดะลอบพินิจชายผู้นี้ขณะที่เขาผายมือเชื้อเชิญให้ชายหนุ่มนั่งลง
ริวงะคงถอดแบบมาจากพ่อสินะ... จะต่างกันก็เพียงสีนัยน์ตาเท่านั้น ของริวงะเป็นสีน้ำตาลอ่อนสวยชวนเคลิบเคลิ้มน่ามอง ทว่าของซาโตริกลับเป็นสีนิลสนิทดูหนักแน่น นอกจากนั้นไม่ว่าจะเป็นดวงหน้ารูปสลักหรือร่างกายอันสูงโปร่งเพรียวลม หากแต่แฝงด้วยความสง่าสมบุรุษ ล้วนถอดแบบกันมามิมีผิดเพี้ยน
"คุณอาเอยามะ คงได้คุยกับลูกๆผมครบทุกคนแล้วสินะครับ" ซาโตริเริ่มบทสนทนา มาเอดะสังเกตเห็นความเศร้าสลดเจือในน้ำเสียง ที่พยายามปรับให้ดูปกติ
"เปล่าหรอกครับ เพิ่งได้คุยกับนาโอมิ... คุยได้ครู่หนึ่งคุณซาโตริก็เข้ามานี่แหละครับ"
"เอ่อ.. ขอโทษจริงๆครับ เห็นสารวัตรโทโดโรกิบอกว่าคุณต้องการพบ เลยรีบมา ไม่นึกว่ากำลังสอบปากคำกันอยู่"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ" ชายหนุ่มส่งยิ้มให้เล็กน้อย "นี่ก็ดึกแล้ว..เด็กๆคงอยากเข้านอน คุยกันไม่ได้อะไรมากเท่าไหร่ คงต้องรบกวนของเวลาพรุ่งนี้ด้วยละกันนะครับ"
"ตามสบายเลยครับ ถ้าไม่รังเกียจ พักที่นี่สักคืนก็ได้ครับ ผมจะสั่งคนรับใช้ให้เตรียมห้องไว้..."
"ขอบคุณครับ"
"เอ้อ... คุณอาเอยามะคุยกับนาโอมิได้ข้อมูลอะไรบ้างครับ"
"ไม่ได้อะไรเท่าไหร่หรอกครับ..." ไม่ได้อะไรเลยต่างหาก... มาเอดะแก้ในใจ "ดูท่าทางเธอไม่อยากจะให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่"
สีเรื่อจางๆแต่งแต้มลงบนโหนกแก้มคมสัน ก่อนกล่าวเป็นเชิงแก้ตัวให้บุตรสาว "ขอโทษคุณอาเอยามะด้วยละกัน... เหตุฆาตกรรมอีกครั้งภายในบ้านคงกระทบกระเทือนจิตใจแกไม่น้อย"
เอาละ.. เข้าเรื่องเสียที
นักสืบหนุ่มเอ่ยกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ
"เมื่อกี้คุณซาโตริบอกว่าเหตุฆาตกรรมอีกครั้งหรือครับ.."
ราวรู้ตัวว่าพลาดพลั้งพูดมากเกินความจำเป็น แววลังเลไหววูบในดวงตาของซาโตริ ก่อนจะตอบออกมาอย่างเสียไม่ได้ "เอ่อครับ.. ภรรยาคนก่อนของผม เอโกะ..ก็ตายคล้ายๆกับลักษณะนี้"
"กรุณาเล่าหน่อยได้ไหมครับ เผื่อจะเป็นเบาะแสอะไรสาวเข้าตัวคนร้าย"
"เอ่อ..ครับ" ชายวัยกลางคนรับคำ กระแอมในลำคอเบาๆ ก่อนจะเริ่มต้นเล่าด้วยน้ำเสียงพร่าแฝงความสะเทือนใจ "สิบสามปีก่อน... ตอนนั้นนาโอมิกับริวงะยังเด็กมาก แต่ยิ่งเด็กมากก็ยิ่งจำฝังใจมาก ภรรยาของผม..เอโกะ กรีดคอตัวเองตายในอ่างอาบน้ำ คนแรกที่มาพบศพคือนาโอมิ"
ราวมีเงาดำมืดเงื้อมมือฉุดดึงชายหนุ่มให้จมลงสู่ความอ้างว้างว่างเปล่า มาเอดะรู้สึกเหมือนตัวจะพลัดตกจากโซฟาจนต้องยันมือทั้งสองข้างไว้กับเบาะ
โอ... อะไรจะเลวร้ายถึงปานนี้ ประมาณดูแล้วนาโอมิคงอายุราวๆสิบห้าส่วนริวงะคงจะสิบแปด ถ้าอย่างนั้น..นาโอมิเห็นแม่ตัวเองนอนจมกองเลือดตอนอายุเพียงสองขวบ
ความจริงที่กระแทกตรงกลางใจ เรียกความสมเพชเวทนาจับจิตจากชายหนุ่มขึ้นมาจนล้นเหลือ ไม่แปลกใจเลยที่นาโอมิจะมีบุคลิกท่าทางเย็นชาต่อคนรอบข้างแบบนั้น
“คุณอาเอยามะครับ..”
“ว่าไงครับ”
“คือ....” ซาโตริเว้นวรรค ราวไม่แน่ใจในสิ่งที่จะพูดต่อไป “คุณช่วยอยู่บ้านนี้อีกสักพักได้ไหมครับ”
คิ้วเข้มของชายหนุ่มมุ่นขึ้นเล็กน้อยอย่างงุนงง “ทำไมล่ะครับ”
“ผมกลัวว่าจะมีการฆาตกรรมเกิดขึ้นอีก อีกอย่างตอนนี้ก็ยังจับตัวฆาตกรไม่ได้เสียด้วย กรุณาเถอะครับ คุณอาเอยามะ” แววสะทกสะท้อนฉายชัดในดวงตาของชายวัยกลางคน เป็นธรรมดาที่ซาโตริจะต้องกังวลถึงเหตุการณ์ซ้ำซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นภายในบ้าน ซ้ำทางตำรวจก็ยังหาตัวฆาตกรแถมยังหาเหตุจูงใจของการฆาตกรรมสยองขวัญครั้งนี้ไม่ได้อีก
“ได้ครับ.. ทางเราจะจัดคนไว้คอยเฝ้าด้วย ไม่ต้องกังวลไปนะครับ” มาเอดะพูดเป็นเชิงปลอบ แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ช่วยคลายความกังวลของคนตรงหน้าได้เลยซักนิด
รอยยิ้มเนือยๆฉาบลงบนริมฝีปากของซาโตริ “ขอบคุณมากครับ”
ร่างสูงบนฟูกหนานุ่มพลิกตัวไปมาท่ามกลางความมืดมิด หลังจากเสร็จสิ้นบทสนทนาอันแทบจะไม่ได้อะไรกับทาคายามะ ซาโตริ สาวใช้ก็ได้พาเขามาพักที่เรือนรับรองซึ่งปลีกแยกมาจากเรือนใหญ่ โดยมีทางเดินยาวเชื่อมต่อกันไว้ ชายหนุ่มเพิ่งจะได้สังเกตว่านอกจากเรือนใหญ่กับเรือนรับรองที่เขาพักอยู่นี้แล้ว ยังมีเรือนเล็กอีกสองเรือนแยกไปอีกต่างหาก
ไม่รู้ว่าใครพักอยู่ที่นั่นกันนะ... พรุ่งนี้คงต้องถามจากสาวใช้ดู
ชายหนุ่มคิดขณะพลิกตัวนอนตะแคงข้าง เขาอยากจะรีบหาตัวคนร้ายให้ได้เร็วๆ เพื่อที่จะได้ไปจากบ้านนี้เสียที เงาหม่นหมองประหลาดที่ปกคลุมไปทั่วคฤหาสน์แสนสวยนี้มันชวนให้อึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก คืนนี้เขาตั้งใจจะกลับไปนอนขดบนฟูกในห้องขนาดสี่เสื่อครึ่งของตัวเองที่ถึงแม้จะเล็ก แต่ก็ให้ความรู้สึกปลอดภัยแทนที่จะนอนในห้องสุดหรูขนาดใหญ่ ทว่าเต็มไปด้วยเงาดำน่าสะอิดสะเอียนเช่นนี้
การตายของคุณเอโกะเกี่ยวข้องอะไรกับการตายของคุณเซ็ตสึนะหรือเปล่านะ...
มาเอดะมุ่นหัวคิ้วโดยไม่รู้ตัว
ทั้งสองคนนี้มีอะไรบางอย่างที่เหมือนกัน.. เป็นคนในตระกูลซาโต้ด้วยกันทั้งคู่ และ..
...เป็นคุณนายแห่งบ้านทาคายามะ...
แต่มันจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันได้ยังไง คุณเอโกะฆ่าตัวตายขณะที่คุณเซ็ตสึนะโดนฆาตกรรม แต่ที่เขายังไม่รู้คือว่าอะไรเป็นเหตุจูงใจให้คุณเอโกะปลิดชีพตัวเองตั้งแต่ยังสาว พอถามคำถามนี้กับซาโตริ ก็ได้คำตอบเพียงความปวดร้าวในดวงตา และคำว่าไม่รู้ ทราบแค่ว่าก่อนหน้านั้นคุณเอโกะมักมีอาการเหม่อลอยบ่อยครั้ง
ถ้าอย่างนั้นการฆ่าตัวตายของคุณเอโกะคงเป็นเพราะความผิดปกติทางจิตบางอย่างที่ไม่มีใครอาจล่วงรู้ได้ ส่วนคดีของเซ็ตสึนะ..
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ติดตามข่าวคราวของคนในแวดวงไฮโซมากนัก แต่ก็พอจะรู้ว่าคุณนายคนที่สองแห่งบ้านทาคายามะไม่เคยมีเรื่องอื้อฉาวหรือไปทำอะไรใครให้เกิดความไม่พอใจ เซ็ตสึนะปรากฏตัวในงานเลี้ยงบ้างบางครั้ง แต่ทุกครั้งหล่อนจะเผยความงดงามเฉิดฉายราวดอกไม้ประดิษฐ์อันไม่มีวันร่วงโรย จนอาจทำให้สุภาพสตรีบางคนเกิดความริษยาตามประสาผู้หญิงด้วยกัน แต่หากจะมาฆ่ามาแกงกันด้วยเหตุนี้ก็ดูจะเกินจริงไป
อีกอย่าง...ฆาตกรเข้ามาในบ้านหลังนี้โดยไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ได้อย่างไร
คำถามที่คิดยังไงก็ยังคิดไม่ตก ผุดลอยขึ้นมาในสมองอีกครั้ง มาเอดะพลิกกายอีกรอบ คำนึงถึงความเป็นไปได้ต่างๆนาๆสำหรับคดีนี้จนผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
สวัสดีครับ ^^
เหลิ่มลองเปลี่ยนขนาดตัวอักษรดูนะ เล็กไปหรือยังไง บอกด้วยละกันนะครับ
สุดท้ายก็เหมือนเดิม ช่วยๆกันติหน่อยนะครับ เหลิ่มขอความกรุณาหน่อยเถอะ ติกันเข้ามาเถอะครับ...
ขอบคุณครับ
ความคิดเห็น