ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ill Blood

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่สอง 100%

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 49


             คฤหาสน์ตระกูลทาคายามะ..

    แกร๊งๆ

              เสียงมีดและส้อมที่กำลังลงมือหัดสเต๊กชิ้นใหญ่ในแต่ละจานดังแผ่วมาให้ได้ยินเป็นระยะ ท่ามกลางความเงียบวังเวงในห้องรับประทานหารของคฤหาสน์แบบญี่ปุ่นโบราณแห่งตระกูลทาคายามะ สมาชิกทั้งห้าคนของบ้านต่างก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารในจานของตนโดยไม่สนใจจะปริปากพูดเลยแม้สักเล็กน้อย ประมุขของตระกูล.. ทาคายามะ ซาโตริ นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะตัวยาว ทางด้านขวามีริวงะ และนาโอมินั่งเรียงกันตามลำดับ ส่วนทางด้านซ้ายมือก็มีทาคายามะ เซ็ตสึนะ คุณผู้หญิงคนใหม่ของบ้าน เรียวสุเกะ ลูกชาย และสุดท้าย...ซาโต้ ฮิโระ ลูกบุญธรรมที่ติดมากับเซ็ตสึนะ 

              แม่บ้านต่างพากันรู้ดีว่าเซ็ตสึนะ ริวงะ นาโอมิ และเรียวสุเกะไม่ถูกกัน จนแทบจะไม่พูดคุยกันเลย ถึงกระนั้นทุกคนก็คิดว่าความเงียบนี้ช่างชวนอึดอัดใจเสียจริง แม้จะต้องเผชิญกับความวังเวงแบบนี้มานานนับหลายปีแล้วก็เถอะ..

              "ได้ข่าวว่าครูที่โรงเรียนเสียชีวิตลงหรือ.. ถึงได้กลับบ้านเร็ว" ในที่สุดคุณผู้หญิงคนใหม่ก็เอ่ยปากพูดขึ้นเป็นคนแรก หลังจากดื่มน้ำในแก้วเจียระไนชั้นหรูเสร็จแล้ว ดวงตาสีดำคู่โตที่ถ่ายทอดให้เรียวสุเกะไม่มีผิดเพี้ยนกวาดตามองทายาทของบ้านทั้งสี่คน ไม่มีใครตอบ.. ริวงะและนาโอมิแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน พอดีกับฮิโระจะอ้าปากตอบ เรียวสุเกะก็ขัดขึ้นเสียก่อน

              "ครับ เห็นว่าเสียชีวิตในห้องน้ำหญิงน่ะครับ"

              "งั้นหรือ.. แหม น่าสงสารจริง"คำอุทานอันเสแสร้งดังออกมาจากริมฝีปากอิ่มเต็มซึ่งถูกฉาบด้วยลิปสติกสีแดงสด นาโอมิเหลือบตาสีน้ำตาลสวยขึ้นไปมองเล็กน้อย ก่อนจะกระตุกยิ้มบนมุมปาก

              อยากเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสังเวยของฉันหรือไง... เซ็ตสึนะ

              "แล้วตายยังไงหรอ เรียวสุเกะ" หล่อนถามต่อ ราวเห็นเป็นเรื่องน่าซักถามเต็มที ดวงหน้าสวยสดราวดรุณีแรกรุ่นทอแววใคร่รู้

              "โดนเชือดคอครับ"

              มีดเงินแท้ในมือบอบบางฉาบทาเครื่องสำอางจิ้มลงบนมะเขือเทศลูกเล็ก...น้ำฉ่ำสีแดงสดซึมออกมาราวโลหิตข้นไหลหลั่งจากบาดแผล

              "โอ เหมือนเอโกะเลย... ตายเหมือนเอโกะเลย" เสียงหวานของเซ็ตสึนะรำพึงขึ้นมาลอยๆ แต่ประโยคนั้นสร้างความเสียหายได้อย่างน่าพรั่นพรึง ซาโตรินั่งตัวแข็งทื่อ ริวงะทิ้งมีดส้อมลงจนส่งเสียงเคร้งสะท้อนก้องทั่วห้องอาหาร เรียวสุเกะและฮิโระนั่งก้มหน้านิ่ง ส่วนบุตรสาวคนเดียวของตระกูลกำลังตัวสั่นเทิ้ม

              เมฆหมอกทะมึนกำลังแผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ...

              ความทรงจำมากมายที่เด็กสาวเพียรพยายามจะลบมันไปกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง...ภาพของแม่นอนจมกองเลือดในห้องน้ำ ตรงลำคอมีรอยมีดปาดจนแผลเหวอะ ภาพพ่อกับเซ็ตสึนะกุมมือกันในงานพิธีสมรส..

              และภาพสุดท้าย... ภาพที่ทำให้เธอสาบานว่าจะต้องฆ่าทาคายามะ เซ็ตสึนะ ให้จงได้

              หลายปีก่อน หลังจากงานศพของแม่ผ่านพ้นไปได้ไม่นาน..เธอมีโอกาสได้พูดคุยกับลุง มันทำให้ได้รับรู้ว่าเซ็ตสึนะ น้องสาวแท้ๆของแม่เป็นคนก่อฆาตกรรมอันแสนโหดร้ายนั่น เพื่อที่จะได้แต่งงานกับพ่อและฮุบสมบัติทั้งหมดของตระกูลในที่สุด..

              ความเกลียด ความแค้น ความชิงชังประดังประเดเข้ามาเกาะกุมหัวใจจนร้อนรุ่มด้วยเพลิงอารมณ์ เกลียดที่มันพรากแม่ของเธอไป โกรธที่มันแต่งงานกับพ่อเพียงเพราะสมบัติ  แค้นที่มันเห็นพ่อเป็นของเล่น หลอกให้พ่อรักสุดท้ายก็จะฆ่าทิ้ง เลว..เลวมาก เลวที่สุด!

              ต้องฆ่ามัน! ฆ่ามัน! ฆ่ามัน!

                แล้วใครล่ะ..ที่จะสนองความต้องการแบบนั้นได้..?

              คุโร่...

                หัวใจของนาโอมิพองโตด้วยความปีติยินดี ความอ่อนเพลียจากเมื่อตอนบ่ายหายเป็นปลิดทิ้ง..

    ถึงวันตายของแกแล้ว ซาโต้ เซ็ตสึนะ

              เด็กสาวลุกพรวด พร้อมกล่าวออกไปอย่างรวดเร็ว แววชื่นมื่นเจือในน้ำเสียงที่มักกระด้าง

              "ขอตัวนะคะ"

              และจากไปท่ามกลางสายตาหลากหลายของผู้ร่วมโต๊ะ

              เรียวสุเกะและริวงะ มองตามด้วยสายตาเฉยเมย ไม่ทุกข์ไม่ร้อน

              เซ็ตสึนะ มองด้วยความสะใจ

              ซาโตริ มองด้วยความสงสัย

              ฮิโระ..ทอดมองด้วยสายตาห่วงหาอาทร

             

             

              ตึก     ตึก     ตึก       ตึก

              ปัง!

              "คุโร่!"

              เสียงตะโกนเรียกหาตุ๊กตาตัวโปรดดังขึ้น ทันทีที่เข้ามาในห้องนอนส่วนตัวแล้วปิดประตูลง เด็กสาวหอบหายใจเล็กน้อยเนื่องกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาและความตื่นเต้นที่ฉีดพล่านไปทั่วทั้งร่าง ไม่นานนัก..เสียงกุกกักก็ดังมาจากบนเตียง ร่างบางถลาเข้าไปหาตุ๊กตาเด็กผู้ชายตัวเล็กก่อนจะกุมไว้แน่น จนมันเริ่มขยับตัวและแหกปากร้องเสียงลั่นทันที

              "ปละ..ปล่อยก่อน หายใจไม่ออก!"

              นาโอมิรีบวางตุ๊กตาลง มันสำลักอากาศไอค่อกแค่กอยู่หลายที ก่อนจะหันมามองนายเหนือหัวของมัน

              "มีอะไรอีกล่ะ เรียกชื่อฉันซะดังเชียว"

              "มีงานให้ทำนิดหน่อยน่ะ" เจ้าของตุ๊กตาตอบทันควัน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหลังกรอบแว่นเป็นประกายระริก

              ถึงเวลาชำระบัญชีแค้นแล้ว..

              "จะให้ฆ่าคนใช่ไหมล่ะ" คุโร่ถามอย่างรู้ใจ เพียงแค่มองแววตาก็รับรู้ความต้องการได้ทันที.. แววตาแบบนั้นล่ะที่มันชื่นชอบนัก แววตาของผู้กระหายการฆ่าราวกับนักฆ่าผู้หิวโหยนั่นละ

              "ใคร" มันถาม

               "เซ็ตสินะ"

              น้ำเสียงเย็นเยียบดังออกมาจากริมฝีปากบางสีอ่อน คุโร่แสยะยิ้ม ก่อนจะหายตัวออกไปจากห้องนั้นอย่างไร้ร่องรอย

               
              แสงสุดท้ายแห่งดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า... ราตรีกาลมาเยือนพร้อมความมืดมิด หมู่เมฆทะมึนกลุ่มหนาลอยเข้าบดบังแสงจันทร์ จนเหลือเพียงดวงดาวระยับระยับประดับฟ้าสีอาบน้ำหมึกในค่ำคืนนี้

              แสงสีส้มนวลจากหลอดไฟภายในห้องนอนสุดหรู ส่องกระทบร่างอรชรใต้ชุดนอนสีขาวเนื้อบางจนแลเห็นเนื้อนวลผ่องบ่งบอกถึงการดูแลอย่างดีมิได้ขาด ทาคายามะ เซ็ตสึนะ กำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง นัยน์ตาจับจ้องไปยังดวงหน้าขาวเนียน ที่มีรอยเหี่ยวย่นตามวัยซึ่งเครื่องประทินโฉมมิอาจลบล้างได้ปรากฏประปราย เธอคิดว่าตัวเองแก่ตัวลงไปมากโขจากตอนที่เข้ามาในบ้านนี้ใหม่ๆ

              คิดมาถึงตรงนี้รอยยิ้มร้ายกาจที่ขัดกับใบหน้าหวานซึ้งเอาเสียจริงๆ ก็ผุดพรายขึ้นบนริมฝีปากอิ่ม ด้วยความสะใจ... เป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่เธอมีโอกาสได้พูดจาถากถางกระทบจิตใจของเด็กนอกคอกนั่น สีหน้าปวดร้าวทว่าเต็มปริ่มด้วยความเคียดแค้นทำให้เธอรู้สึกสุขสมอย่างบอกไม่ถูก

              สายใยระหว่างสายเลือดของน้าหลานไร้ตัวตนแม้ในเศษเสี้ยวของจิตใจ... ช่วยไม่ได้ เด็กนั่นอยากเกิดมาเป็นลูกของมารขัดขวางความฝันของเธอทำไมล่ะ... กว่าจะมายืนจุดนี้ก็ต้องเสียเวลาจัดการเสี้ยนหนามเสียมากมายและตอนนี้..

              เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้าย

              เซ็ตสึนะประหวัดไปถึงผู้เป็นสามี ที่กำลังสะสางงานอยู่ในห้องหนังสือ อีกไม่นานคงจะเริ่มได้แล้ว..

              ครืด

              เสียงเลื่อนประตูดังขึ้นเบาๆทางด้านหลัง เธอไม่ได้หันไปมอง... มือเรียวปัดแขนเสื้อลงเผยให้เห็นไหล่มนลาดน่าสัมผัสราวรู้ว่าใครที่เข้ามา

              ทว่า..ความเงียบกลับปกคลุมไปทั่วห้อง คิ้วโก่งเรียวขมวดมุ่นนิดๆอย่างแปลกใจ ทุกทีซาโตริต้องเป็นฝ่ายเข้าหาเธอมิใช่หรือ...

              บางทีเขาอาจจะเหนื่อย ถ้าอย่างนั้นเธอต้องเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาเสียแล้วละมัง..

              "ทำงานเสร็จแล้วหรือคะ" เสียงหวานเอื้อนเอ่ย ดังไปทั่วห้อง

              ความเงียบคือคำตอบ...

              เซ็ตสึนะรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงลองเอ่ยปากเรียกชื่อ

    "ซาโตริ"

    ไม่มีเสียงตอบกลับมา เธอผินหน้าหันไปมอง

    "ซาโตริ"

    ตุบ!

    เรียวสุเกะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงภายในห้องนอนส่วนตัว ดวงตาสีดำกลมโตที่ทำให้เค้าหน้าอ่อนโยนแลคล้ายเด็กผู้หญิงมองร่างสูงโปร่งที่ยืนพิงผนังอยู่ฝั่งตรงข้าม... พี่ชายบุญธรรมของเขา 'ซาโต้ ฮิโระ'

    "พี่คิดว่าไงฮะ"

    หนุ่มน้อยวัยสิบสามปีโพล่งถามออกไป ฮิโระหันหน้ามาสบ รอยยิ้มอ่อนโยนอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวฉาบบนดวงหน้าละมุนชวนมอง ก่อนจะย้อนถามปนหัวเราะตามแบบฉบับ

    "เรื่องอะไรล่ะ"

    "เรื่องบนโต๊ะอาหารน่ะฮะ"

    สิ้นเสียงจากเรียวสุเกะ รอยยิ้มของชายหนุ่มหุบลงทันที ดวงตาสีนิลหม่นแสงลงอย่างสะทกสะท้อน พลางนึกหวนถึงบทสนทนาบนโต๊ะอาหารเมื่อครู่ รู้สึกสงสารเห็นใจและห่วงใยนาโอมิขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

    แต่จะทำไงได้... แม่บุญธรรมของเขาดันพูดถึงการตายของเธอเสียอย่างนั้น

     เฮ้อ!

    ฮิโระระบายลมหายใจออกมาเพื่อบรรเทาความรู้สึกทุกข์ร้อนในใจ ที่บังเกิดขึ้นเมื่อคิดถึงความรู้สึกของนาโอมิ

    "พี่ว่า.. แม่พูดแรงไปหน่อยนะ"

    เขาเอ่ยออกมาเสียงเบา ในใจของเรียวสุเกะเองก็คิดเช่นนั้นอยู่เหมือนกัน ความแค้นครั้งอดีตยังคงตรึงอยู่ในหัวใจของแม่อย่างยากจะลืมเลือน เขาอยากให้แม่ลืมเรื่องบ้าๆนั้นไปสักที เขาอยากจะคุยกับพี่นาโอมิและพี่ริวงะบ้างสักครั้ง..

    "ถ้าแม่..."

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!

    เสียงกรีดร้องอย่างพรั่นพรึงกึกก้องไปทั่วบ้าน พวกเขาคุ้นเคยเสียงนั่นดี

    "แม่!"

    เรียวสุเกะทะยานออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ฮิโระตามมาติดๆ ทั้งสองวิ่งไปตามระเบียงมืดสลัวที่มีเพียงแสงไฟริบหรี่ตามผนังให้ความสว่าง ใจเต้นระทึกด้วยความหวาดหวั่น

    เด็กหนุ่มผลักบานประตูห้องออกอย่างรุนแรง ก่อนจะโจนตัวเข้าไปในห้อง กวาดตามองไปรอบๆ ทว่าไร้วี่แววของเซ็ตสึนะ หน้าต่างบานใหญ่ถูกเปิดออก ลมหนาวพัดกรูเข้ามาในห้องชวนสะท้าน

    พลัน..กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งชวนคลื่นเหียนก็พวยพุ่งมาจากทางห้องน้ำ ทั้งสองรีบรุดเข้าไปอย่างไม่รีรอ และแล้วภาพน่าสยดสยองก็กระทบสู่สายตา
           
     ของเหลวสีแดงข้นเจิ่งนองภายในอ่างที่มีรอยเลือดย้อยอย่างน่าสะอิดสะเอียน บนขอบอ่างพาดด้วยมือแสนคุ้นตาซึ่งถูกเลือดย้อมจนกลายเป็นสีแดงฉาน เมื่อชะโงกตัวดูในอ่างพบก้อนเนื้อเละๆเหมือนถูกสับมานับครั้งไม่ถ้วน จนไม่สามารถนึกได้ว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนประกอบของสิ่งมีชีวิต
          
    "มะ...ไม่จริง"
           "แม่!"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×