[Shinee SF] Raining Day :: Minho x Taemin
ความสุขเล็กๆน้อยๆของ ชเวมินโฮ
ผู้เข้าชมรวม
992
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เมื่อประมาณสี่เดือนก่อนเป็นวันที่อากาศร้อนมาก ผู้คนมากมายต่างยืนรอและนั่งรถรถเมล์สายที่ตัวเองกำลังจะไปกันอย่างหนาแน่นเหมือนอย่างทุกๆวัน แต่วันนี้คงเป็นวันที่อากาศร้อนที่สุดของปีเลยล่ะมั้ง เพราะพี่ชายคนที่เขาแอบมองอยู่ทุกวันดูจะหงุดหงิดมากเป็นพิเศษ แต่ถ้าเดี๋ยวรถเมล์มาแล้วพี่เขาก็คงจะขึ้นไปนั่งที่เดิมแล้วก็หลับไปอย่างทุกที ดวงตากลมโตปรายตามองพี่ชายที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากที่เขายืนอยู่เป็นระยะๆ เพราะกลัวคนๆนั้นจะรู้ตัว แล้วเสียงคุ้นเคยข้างๆตัวก็ดังขึ้นทำลายความสุขในการมองของเขา
“นั่นเหรอพี่ชายสุดหล่อของนาย หล่อแฮะ ตาถึงไม่เบาเลยนะแทมิน” จงฮยอนไม่แซวเปล่าแถมยังเอานิ้วจิ้มไปที่หน้าผากของแทมินเบาๆ อย่างหมันไส้
“ไอ้บ้าจงฮยอน ของฉันที่ไหนกันเล่า แล้วนี่ตามมาทำไม ทำไมไม่กลับบ้าน” เสียงเล็กๆต่อว่าเพื่อนซี้ที่ตอนนี้ยืนทำท่าขบขันกับอาการของคนตัวเล็กข้างหน้า ก็เมื่อกี้นี้น่ะยังทำเป็นเขินหน้าแดงอยู่เลย ตอนนี้ทำมาเป็นเก๊กเสียงดุเขา มีหรือว่าคนอย่างจงฮยอนจะกลัว
“ก็ตามมาดูพี่ชายที่นายชอบเพ้อให้ฟังบ่อยๆ ว่าหล่อนักหล่อหนายังไงล่ะ แหมผู้ชายในอุดมคติของสาวๆ ตาโต จมูกโด่ง ผิวคล้ำ แถมยังสูงเป็นเสาไฟฟ้า” จงฮยอนกระแนะกระแหนอีกฝ่ายไม่เลิก
“พอเลย ก็เห็นแล้วนี่กลับไปได้แล้ว ไปเลย” มือบางผลักไสคนข้างตัวออกไปเป็นพัลวัน ทำให้คนขี้แกล้งหัวเราะขึ้นมา
“ไม่กลับหรอก ฉันจะยืนรอส่งนายกลับบ้านก่อน” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ทำเป็นยืนกอดอกตัวแข็งไม่ยอมขยับ แทมินเลยทำหน้าพองลมเพราะโดนขัดใจ แล้วริมฝีปากบางก็เริ่มยิ้มเหยียดไปให้กับคนข้างตัว รอยยิ้มที่ใครๆมาเห็นเข้าก็ต้องหลง แต่สำหรับจงฮยอนแล้ว มันเป็นรอยยิ้มอาฆาต
“ได้... นายจะเอาอย่างนี้ใช่ไหม” แล้วนิ้วเรียวก็เริ่มตรงเข้าไปจี้เอวคนที่ทำเป็นยืนตัวแข็ง คนใจแข็งตอนนี้เริ่มทำตัวยุกยิกเพราะเริ่มจะทนไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องปล่อยหัวเราะออกมาอย่างยอมแพ้
เสียงหัวเราะทำให้ใครบางคนที่นั่งออกไปไม่ห่างหันมามองด้วยสายตาที่ไม่พอใจ แล้วพลันสายตานั้นก็กลายเป็นอ่อนโยนขึ้นมาในทันที ทำให้เสียงหัวเราะที่ดังอยู่เมื่อครู่จึงต้องเงียบลงไปแล้วกลายเป็นเสียงกระซิบแทน
“แทมิน เมื่อกี้ฉันเห็นพี่เขามองมาทางนายด้วยแหละ” เสียงทักของจงฮยอนทำให้ร่างบางตรงหน้าที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนานที่ได้แกล้งเขาถึงกับหยุดชะงักในทันที พลันใบหน้าได้รูปก็ขึ้นสีชมพู ใบหน้าที่หวานอยู่แล้วก็เลยยิ่งดูน่ารักเข้าไปอีก
“จริงเหรอ ไม่ต้องมาโกหกเลยนะ” แทมินทำเสียงดุเจ้าเพื่อนสนิทที่ชอบแกล้งเขา พร้อมเอามือเล็กๆตีไปที่แขนของจงฮยอนสองสามที
“จริงสิ ไม่เชื่อนายก็หันไปดูเองแล้วกัน”
แต่ว่าไม่ทันแล้วเพราะกว่าคนตัวเล็กจะยอมหันหน้าไปมอง ใบหน้าหล่อเหลากับดวงตาคู่สวยนั้นก็หันไปมองทางอื่นซะแล้ว
เอี๊ยด...... ฟู่....
เสียงรถเมล์คันที่แทมินจะต้องไป มาจอดเทียบท่าแล้ว แต่เจ้าคนตัวเล็กยังไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่คุยอยู่กับเพื่อนซี้จนลืมสนใจที่จะดูรถไปซะสนิท จนเพื่อนซี้ข้างตัวต้องตัดบทให้หยุดคุยแล้วไล่เจ้าตัวเล็กให้รีบไปขึ้นรถได้แล้ว
แทมินหันมาเห็นร่างสูงของพี่ชายที่เค้าแอบชอบอยู่เดินขึ้นรถไปแล้ว จึงนึกขึ้นได้ว่าเขาเองก็ต้องกลับด้วยเหมือนกัน ร่างบางหันมาโบกมือลาเพื่อนที่ยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ก่อนจะวิ่งขึ้นรถไป
“งั้นเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะจงฮยอน ขอบใจที่มาส่ง” ร่างบางเดินขึ้นมาบนรถก่อนที่ประตูรถจะปิด ดวงตากลมโตมองไปยังที่นั่งที่ประจำของพี่ชายสุดหล่ออย่างเคย แต่วันนี้กลับไม่เหมือนทุกวันเพราะสายตาที่แทมินใฝ่หามานานด้วยความต้องการให้สายตานั้นหันมามองเขาบ้าง ตอนนี้กลับมองมาทางเขาเหมือนตั้งใจ แค่แวบเดียวที่สายตาต้องกัน คนตัวเล็กเลยรีบแสร้งทำเป็นมองหาที่นั่งเหมาะๆ ของตัวเอง แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นที่นั่งเดี่ยวซึ่งเยื้องๆกับพี่นั่งของพี่ชาย ร่างบางเดินไปนั่งตรงนั้นอย่างจำใจ เพราะต้องรีบกลบเกลื่อนใบหน้าที่ตอนนี้ร้อนวูบวาบอย่างที่ยากจะเย็นลงได้ ปกติขึ้นรถกลับบ้านคันเดียวกัน ได้ใช้อากาศหายใจร่วมกันก็ดีใจจะแย่อยู่แล้ว แล้ววันนี้บังเอิญได้สบตากันอีก คนอย่างแทมินคงทำได้แค่นั่งสงบสติอารมณ์สะกดความเขินอายที่ตอนนี้มันจะพุ่งล้นทะลักออกมาให้เขาจับไต๋ได้อยู่แล้ว
ร่างบางนั่งลงปรับท่าทางให้นั่งสบายก่อน มือเรียวหยิบเครื่องเล่น MP3 ตัวโปรดขึ้นมากดสองสามปุ่มแล้วเสียงเพลงป๊อปสบายๆที่เจ้าตัวชอบฟังก็ดังขึ้น แทมินหยิบหูฟังเฮดโฟนขึ้นมาครอบศรีษะ แล้วพร้อมที่จะจมไปกับท่วงทำนองของเสียงเพลงอย่างที่เคยทำเป็นประจำทุกวัน โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าได้มีสายตาคมๆของใครคนหนึ่งนั่งมองการกระทำทุกอย่างของเขาอย่างไม่วางตา
เมื่อนั่งรถมาได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง หนทางข้างหน้าที่คุ้นตาบ่งบอกว่าอีกไม่ไกลก็จะถึงจุดหมายที่เขาจะต้องลงแล้ว ร่างบางเก็บข้าวของเตรียมพร้อมจะลุกขึ้น ก่อนจะลงแทมินก็ไม่ลืมที่จะหันหน้ากลับมามองยังที่นั่งหลังสุดอย่างเคยนิสัย ใบหน้าหล่อเหลากำลังหลับอยู่อย่างเป็นสุข ทำให้แทมินแอบอมยิ้มออกมาเล็กน้อย แค่ได้เห็นใบหน้านี้แทมินก็มีความสุขแล้ว ร่างบางเดินลงจากรถไปพร้อมกับรอยยิ้มในใจเฉกเช่นทุกๆวันที่ผ่านมา
นี่แหละฮะความสุขเล็กๆน้อยๆ ของ ลี แทมิน
................................
ฝนที่หล่นร่วงลงมาเป็นสายตกกระทบกระจกหน้าต่างที่รายล้อมรถเมล์คันที่เขานั่งกลับบ้านอยู่ทุกวัน ภาพภายนอกหน้าต่างที่เขาเห็นมาจนชินตา แต่บัดนี้กับพร่าเลือนเพราะน้ำฝนที่ตกกระหน่ำลงมา บรรยากาศแบบนี้ถ้าเป็นเวลาปกติแล้วผมคงจะชอบใจไม่น้อยเลยฮะ เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะผมได้กลับบ้านกับคนที่ผมแอบชอบเขาอยู่น่ะสิฮะ แต่พี่เขาไม่รู้หรอกนะฮะว่าผมแอบชอบเขาอยู่ ตอนนี้เขานั่งอยู่ข้างหลังผมถัดไปสองเบาะเท่านั้นเอง ป่านนี้พี่เขาคงจะยังหลับอยู่ หรือไม่ก็คงมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอยเหมือนทุกที แต่ว่าวันนี้ผมไม่มีอารมณ์สุนทรีย์อะไรเลยล่ะฮะ ก็วันนี้น่ะ ผมลืมเอาร่มมาจากบ้าน ทั้งๆที่วางเอาไว้ใกล้กับกระเป๋านักเรียนแล้วแท้ๆ แต่ก็ดันลืมจนได้ นี่ถ้าพี่จินกิรู้ผมคงจะต้องโดนมะเหงกแน่ๆเลย แล้วอีกอย่างผมก็ไม่อยากตัวเปียกกลับบ้านด้วย ถ้าพี่คนที่ผมแอบชอบเขาอยู่เห็นล่ะก็ ผมต้องอายเค้าแน่ๆเลยฮะ
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ระยะทางที่นั่งมาก็หดลงเรื่อยๆ สุดท้ายผมก็ต้องหยิบมือถือคู่ใจขึ้นมากดหาเบอร์โทรที่คุ้นเคย ผมโทรหาพี่จินกินั่นแหละฮะ แล้วก็อย่างที่คาดเดาเอาไว้ ผมโดนพี่จินกิบ่นจนหูชาเลย แต่พี่เค้าก็ยอมออกมารับผมจนได้ เป็นไงล่ะฮะ พี่ชายผมใจดีมั้ย ตอนนี้ผมก็เริ่มจะสบายใจขึ้นมานิดหน่อยแล้วฮะ
ผมเตรียมพร้อมที่จะลงไปลุยกับฝนแล้วล่ะ วันนี้ผมเป็นกังวลกับเรื่องฝนมากจนผมลืมที่จะหันหน้าไปมองที่นั่งเบาะหลังสุด วันนี้ผมไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่เลย ผมก้าวลงจากบันไดรถเมล์ขั้นสุดท้ายแล้วก็รีบวิ่งจ้ำอ้าวไปยืนอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆ แต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่เลย สุดท้ายผมก็เปียกอยู่ดี ตอนนี้ตัวของผมก็เริ่มจะสั่นเพราะความหนาวแล้วด้วย
แต่แล้ว....
“อ๊ะ ขอบคุณฮะ” ผมกล่าวขอบคุณออกไปพร้อมกับยิ้มให้ก่อนที่จะหันไปมองว่าคนที่เอาร่มมากางให้ผมนั้นเป็นใคร
สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าทำให้ผมแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง พี่ชายสุดหล่อของผมยืนกางร่มให้ผมอยู่ ตอนนี้ดวงตาคู่สวยของพี่ชายกำลังมองมาที่ผมฮะ มันทำให้ผมแทบจะหยุดหายใจได้เลยทีเดียว ตอนนี้ใบหน้าของผมร้อนฉ่าเลยฮะ อาการหนาวสั่นเมื่อกี้หายไปเลยทันที ผมคิดว่าพี่เค้าคงต้องสังเกตเห็นแน่เลยว่าผมเขิน
เสียงของสายฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่องดังไปทั่วบริเวณที่ผมยืนอยู่ ผมว่าผมคงต้องพูดอะไรบ้างแล้วฮะ ก็พี่เขาเอาแต่ยืนตัวแข็งมองผมอยู่นั่นแหละ ผมเลยเอามือน้อยๆของผมกระตุกเสื้อโค้ทของพี่เค้าเบาๆเพื่อเรียกสติเค้านิดหน่อยฮะ
“เอ่อ พี่ฮะ เป็นอะไรรึเปล่าฮะ” ผมถือโอกาสถามออกไปด้วยความอยากรู้จริงๆ เพราะว่านี่ก็คือโอกาสดีแล้วที่ผมจะได้รู้จักกับพี่เค้า เพราะไม่รู้ว่าถ้าจบจากวันนี้ไปผมจะได้คุยกับพี่เขาอีกหรึอเปล่า พอพี่เขาได้สติก็อ้าปากค้าง พูดจาติดๆขัดๆ เหมือนจะทำตัวไม่ถูก พฤติกรรมแบบนี้มันช่างน่ารักอะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้ฮะ
“อะ เอ่อ..... อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่ชื่อมินโฮครับ ชเว มินโฮ แล้วน้องล่ะครับชื่ออะไร” เสียงทุ้มของพี่เค้าช่างมีเสน่ห์จังเลยฮะ ชื่อมินโฮด้วย แค่ชื่อก็เท่แล้ว แถมพี่เค้ายังถามชื่อผมอีก ไม่ได้ฮะผมต้องรีบสานสัมพันธ์เอาไว้ก่อน
“ผมชื่อลี แทมินฮะ บ้านพี่อยู่แถวนี้เหรอฮะ” ผมฉลาดมั้ยฮะบอกชื่อไม่พอยังแอบหยอดคำถามเพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูลอีกด้วย แต่ดูพี่เขาสิฮะ จะตอบผมแต่ละคำทำไมจะต้องจ้องหน้าผมขนาดนั้นด้วยล่ะ ผมเขินนะ
“เปล่าหรอกครับ บ้านพี่เลยไปอีกสองป้ายน่ะ” คำตอบของพี่มินโฮทำเอาผมงงไปเล็กน้อยฮะ เพราะถ้าบ้านของพี่เค้าไม่อยู่แถวนี้แล้วเค้าลงมาทำไมหว่า แต่ตอนนี้ลี แทมิน เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วฮะ ก็พี่เค้าเล่นมองไม่กระพริบตาเลยอ่ะ ถึงแม้ว่าอยากจะให้พี่เค้ามองอยู่อย่างนี้ก็เถอะ แต่เลือดลมมันไม่เป็นใจเอาซะเลย เล่นฉีดเลือดขึ้นหน้าซะขนาดนี้ ผมก็เขินเป็นนะฮะ
“เอ่อ พี่มินโฮฮะ พี่จะมองหน้าแทมินอีกนานมั้ยฮะ แทมินเขิน” พอผมพูดเสร็จพี่เค้าก็หน้าแดงทันทีเลย แล้วรีบหันไปอีกทางไม่กล้ามองหน้าผมอีกเลย เฮ้อ ผมไม่น่าพูดออกไปตรงๆอย่างนั้นเลย แต่ถ้าผมไม่พูดออกไปผมคงละลายเพราะสายตาคมๆของพี่เค้าเป็นแน่เลยล่ะฮะ
“พี่ขอโทษครับ” พี่เขาขอโทษผมด้วยเสียงอันเซ็กซี่นี่อีกแล้วฮะ โอย แทมินจะละลาย
“แล้วเมื่อกี้พี่มินโฮวิ่งลงมาจากรถทำไมล่ะฮะ” ผมถามออกไปทั้งๆที่รู้ว่าคำตอบมันคืออะไร แต่ใจดวงน้อยๆมันสั่งให้ต้องถามเพราะอยากฟังคำตอบจากเจ้าของเสียงนั้น แล้วเป็นการยืนยันว่าผมไม่ได้คิดไปเอง
“พอดีพี่ได้ยินเราคุยโทรศัพท์น่ะ ว่าไม่ได้เอาร่มมา พี่เห็นว่าป้ายนี้มันไม่มีที่หลบฝน พี่เลยวิ่งลงช่วยแทมินไงครับ”
นี่แหละฮะคือคำตอบของพี่เค้า จะอ้อมค้อมหน่อยก็ไม่ได้เล่นตอบมาซะตรงขนาดนี้ แทมินก็เขินอีกแล้วน่ะสิฮะ ไหนจะดวงตาคู่สวยที่มองตรงมานั่นอีก ผมเลยต้องเป็นฝ่ายหลบตาพี่เค้าซะก่อน ก็มันทำให้ผมแทบจะทรุดทั้งยืนเลยล่ะ บรรยากาศในตอนนี้มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผมจะได้รู้จัก พูดคุย หรือได้เห็นท่าทางอย่างนั้นของพี่เค้า วันนี้แทมินมีความสุขที่สุดเลยฮะ
“งั้นแทมินขอบคุณพี่มินโฮมากเลยนะฮะ แต่เดี๋ยวอีกสักพักพี่จินกิก็คงออกมารับแทมินแล้วล่ะ อ๊ะ นั่นไงพูดถึงก็มาพอดีเลย งั้นแทมินไปก่อนนะฮะ” เวลาของผมกับพี่มินโฮกำลังจะหมดลงแล้วล่ะฮะ พี่จินกิยืนรอผมไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่ แต่ยังไงผมก็คงจะต้องไปอยู่ดี ผมรีบวิ่งออกไปหาพี่ชายก่อนที่ในหัวจะนึกอะไรขึ้นได้
“แล้วพรุ่งนี้เรากลับบ้านพร้อมกันอีกนะฮะพี่มินโฮ”
ผมตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่ตกลงมา ผมไม่รู้ว่าพี่มินโฮจะได้ยินเสียงที่ผมพูดหรือเปล่า แต่แล้วพี่เค้าก็ยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ลี แทมินมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมากก่อน
นี่แหละความสุขเล็กๆน้อยๆ ของ ลี แทมิน
...........................................
ฝนที่หล่นร่วงลงมาเป็นสายตกกระทบกระจกหน้าต่างที่รายล้อมรถเมล์คันที่เขานั่งกลับบ้านอยู่ทุกวัน ภาพภายนอกหน้าต่างที่เขาเห็นมาจนชินตา แต่บัดนี้กับพร่าเลือนเพราะน้ำฝนที่ตกกระหน่ำลงมา บรรยากาศแบบนี้มันทำให้ลี แทมินมีความสุขมีความสุขเหลือเกินฮะ เพราะตอนนี้ผมไม่ได้นั่งรถกลับบ้านคนเดียวอย่างแต่ก่อนแล้ว แต่กลับมาไหล่หนาของใครคนหนึ่งคอยรองรับหัวเห็ดน้อยๆของผมอยู่
สัมผัสบางเบาที่กลุ่มผมสวยบอกให้เป็นสัญญาณว่า ตื่นได้แล้ว ทั้งๆที่ดวงตากลมโตของร่างบางนั้นไม่ได้หลับอย่างที่คนตัวโตกว่าเข้าใจ แต่ก็ต้องทำเป็นแสร้งว่าหลับเพราะอยากจะอยู่ใกล้ชิดกับคนตัวสูงอีกนานๆ ดวงตากลมโตค่อยๆปรือตาขึ้นอย่างช้าๆ แล้วแย้มยิ้มให้กับคนข้างตัวอย่างทุกที
“ถึงแล้วเหรอฮะ งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะฮะ” มือบางหยิบร่มออกมาจากกระเป๋าเพื่อเตรียมพร้อมที่จะลง
ร่างบางหันหน้ามาหอมแก้มคนตัวสูงเบาๆ แล้วจึงเดินลงจากรถไป ปล่อยให้คนถูกขโมยหอมนั่งหน้าแดงอยู่บนรถอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่
นี่แหละฮะ ความสุขเล็กๆน้อยๆของ ลี แทมิน
ผลงานอื่นๆ ของ a_idear ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ a_idear
ความคิดเห็น