ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สลับร่างวุ่น บารามอสชุลมุน

    ลำดับตอนที่ #5 : กลับร่าง(?)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 276
      1
      6 ม.ค. 49

                  “เฟริน” บุรุษเบื้องหน้าส่งเสียงเรียกหลังเข้าใจเรื่องทุกสิ่งอย่างกระจ่างชัด

                  “โร นายเข้าใจแล้วใช่ไหม”

                  “ใช่ เข้าใจ แต่..ฉันว่า..” มันยังไม่เข้าใจอะไรอีกนะ

                  “แต่ว่งแต่ว่าอะไร รีบๆพูดมาฉันจะได้รีบไป นัดพวกมันไว้ก่อนกินข้าวเย็น”

                  “ฉันว่า................ฉันรับไม่ได้”

                  “รับไม่ได้บ้าไรของแก ฉันชอบเมื่อไหร่เล่าที่เป็นแบบนี้” เฟรินโกหกแบบตายด้าน ความจริงการ แกล้งเป็นคาโล ก็สนุกดี “ว่าแต่นาย อย่าไปปากพล่อยบอกชาวบ้านเค้าไปนะเฟร้ย เดื๋ยวร่างสาวน้อยอรชนอ้อนแอ้นของชั้นจะเดือดร้อน คาโลมันยิ่งใจง่ายปฏิเสธใครไม่เป็นอยู่ด้วย” เจ้าตัวยุ่งหยอดลูกสุดท้ายก่อนจรลี พอดีได้ยินเสียงนายขอทานตอบคำ “ที่ฉันห่วงคือคาโลมากกว่านะ เสียชื่อ...” แต่เขาก็พูดได้ไม่จบ เพราะฝ่าพระบาทเจ้าชายแห่งคาโนวาลฟาดเต็มๆที่ลูกกระเดือก “อ้าวเล็งท้องแท้ๆ นายไปโกรธคาโลที่ขายาวเองก็แล้วกัน”

                  “เดี๋ยว ไปหาของให้อลิซาเบ็ธด้วยกันหน่อยสิ” ตาสีเขียวมันวอนขอซะขนาดน้าน

                  “เออก็ได้ พรุ่งนี้สิบโมงเจอกันที่โรงอาหาร”

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                  แอ้ดดดดดดด

                  เสียงฝืดๆของกลอนประตูที่ประมาณว่า ไม่ได้หยอดน้ำมันมาเกือบห้าสิบปีถูกหมุน ดัน แล้วก็เปิด โอ้ว มันช่างยากเย็นแสนเข็ญอะไรเยี่ยงนี้ ประตูห้องหัวหน้าป้อมอัศวินปีสี่นี่มันฝืดเหลือเกิน หนักด้วย เปิดยากอะไรอย่างนี้ คุณผู้อ่านสงสัยใช่มั้ยคะว่าคนเขียนจะพรรณนาประตูไปถึงไหน ที่ทำแบบนี้เพราะคาโลเค้ากระซิบมาข้างหูเลยว่า ช้าๆน้า เพราะผมคาดว่าจะไม่มีใครในห้องเลย คงไม่ได้แล้วล่ะนะคาโล ถึงเราจะชอบเธอมาก แต่คงช้าได้แค่นี้แหละค่า

                  ภาพภายในห้องปรากฏสู่สายตาของบุรุษทั้งสอง ชายหนุ่มที่นอนพังพาบ กับสาวน้อยหน้าตาเหมือนจะร้องไห้ เจ้าหญิงเรนอนทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็ต้องทรุดตัวนั่งอย่างหมดเรี่ยวหมดแรงตา คู่สวยเหลือบไปที่คิล ฝ่ายคิลเพื่อนสนิทกำลังทำอะไรไร้สาระโดยการพยายามเอาหัวโขกกำแพงข้างเตียง

                  “เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ” คาโลถาม “เฟรินไปไหน”

                  เรนอนรวบรวมกำลังพูดได้สำเร็จ “ยังไม่มาค่ะ”

                  “นี่” เขาพยายามจะแนะนำคนที่พามาด้วยให้เรนอนรู้จักแต่เจ้าคิลตัวดีก็ทำเรื่องบ้าๆซะก่อน มันเอาหัวโขกผนังจนเลือดโชกแล้ว!!! “เฮ้ย เป็นไรอ่ะ” คาโลเริ่มโวยวายเล็กน้อย

                  “ฮือๆๆ เรนอนขอโทษ เรนอนเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณคิลเป็นอย่างนี้ ฮือๆขอโทษค่ะ” เรนอนครวญ

                  “เรนอน เดี๋ยว อย่าเพิ่งร้อง เรนอนทำอะไรคิล” คาโลลำบากใจ พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง อย่าเพิ่งร้องเด้ เอวิเดสไม่ช่วยกันเลย-เสียงในใจ

                  “มานี่” เอวิเดสฉุดกระชากลากถูคิลไปห้องน้ำแล้วเริ่มล้างแผล ทิ้งคาโลกับภารกิจสำคัญยิ่ง แกะปริศนาคำพูดเรนอน...

                  “เรนอน คิลมันไม่เป็นไรหรอก ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

                  “คุณคิลตายแน่ฮือ คุณคิลบอกว่าเหมือนยาพิษ ฮือ คุณคิลบอกว่าหิว” คาโลไม่เก็ท คิลกินยาพิษแล้วหิว?

                  “เรนอน ลองเล่าใหม่ตั้งแต่ต้นได้มั้ย หลังคิลโรคกำเริบแล้วเป็นไงต่อ”

                  “งาย ชั้นกลับมาทันกินข้าวเย็นช่ายปะ” เฟรินใช้ร่างคาโลพูด ตาสีฟ้ากวาดไปมองเห็น-เห็น-เห็นคาโล(ตัวเอง)นั่งปลอบเรนอนที่ร้องไห้อยู่ “คาโล นาย ทำอะไรเรนอน”

                  “เรนอนชวนคุณคิลให้กลับโรงเรียนค่ะ แล้วก็พยุงคุณคิลกลับมา แต่พอกลับมาถึงที่นี่ คุณคิลเค้าก็เป็นลมไปเลยค่ะ เรนอนนั่งรอคุณๆกลับมากันจะได้ช่วยดูคุณคิล เป็นนักฆ่าแล้วเป็นโรคหัวใจคงลำบาก ทีนี้อยู่ๆคุณคิลก็บอกว่าหิว เรนอนเลยลงไปหาอะไรมาให้ทานค่ะ ฮือฮือ”

                  ตกลงจุดสำคัญคือ อาหาร ของกินงั้นเรอะ  เรนอนเผลอหยิบยาพิษให้คิลกิน หรือว่าอะไรบางอย่างที่กินแล้วเหมือนยาพิษ...........ความทรงจำเก่าๆ............................ไม่อร่อย จนเหมือนยาพิษ?

    (ความทรงจำเก่าๆของคาโลคือวันวาเลนไทน์ค่ะ อยากอ่านใช่ม้า พิมพ์ald_aruzaลงไปที่ช่องผู้เขียนเลยค่า ขอบคุณค่ะ)

                  “คาโล”เฟรินเอ่ยซ้ำอีกครั้ง “เกิดอะไรขึ้น”

                  ตรู้ดดดดดดดด ตรู้ดดดดดดดด ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายปลายทางที่ท่านเรียก ดิสนัมเบอร์... คาโลตกอยู่ในภวังค์ซะแล้ว

                  “เฮ้ย คาโล ไอ้ก้อนน้ำแข็งเดินได้ หูหนวกเหรอไงฟะ ขานรับหน่อยเด้” ยังไม่มีเสียงตอบรับ

                  “เฟลิโอน่า” เอวิเดสโผล่ออกจากห้องน้ำมือเปรอะไปด้วยเลือด “มาจับเจ้านี่หน่อย”

                  “เหวอ! เสด็จพ่อ” เฟรินร้อง  “มาทำอะไรที่นี่ฮะ

                  “มาหาลูก พอดีได้ยินเรื่องพิลึกเข้าเลยแวะมาดู มาช่วยจับเจ้านี่หน่อย”

                  “จับอะไร ทำไมมันมีแต่เลือดงั้นอ่ะ อ้าวคิลนายเป็นไร โชกเลือดเชียว” เฟรินที่ยังใช้ร่างของคาโลคอล็อคคิลแล้วจับหัวมันหันไปทางอ่างล้างหน้าซึ่งท่านพ่อของเธอกำลังง่วนอยู่กับการชุบสำลีจนชุ่มไปด้วยยาแดง (ไม่ใช่เลือดทั้งหมด มันไม่ได้เยอะขนาดนั้น แค่ทีหัวคิลอย่างเดียวที่มือท่านเค้าไม่เกี่ยว)

                  “เรนอนเอาอะไรให้คิลกิน” เจ้าหญิงคนสวยปาดน้ำตาก่อนตอบคำ

                  “ข้าวต้มค่ะ แต่เรนอนคิดว่าคุณคิลน่าจะทานอะไรหวานๆจะได้มีแรง เลย เลย ใส่น้ำตาลไปเยอะเลยค่ะ ฮือ แต่มันหวานไป เรนอนเลยใส่ทั้งน้ำปลาน้ำส้มสายชูพริกไทยเม็ดเกลือกับโสมเกาหลีลงไปด้วยค่ะ ฮือ ฮือ คาโลว่าคุณคิลจะตายไหมคะ หัวแตกด้วย ถ้าเรนอนฆ่าคน ฮือฮือฮือ...”

                  “เรนอนไปวัตถุดิบทั้งหลายมาจากไหนครับนั่น ยิ่งโสมเกาหลีด้วย” เฟรินอยากรู้ทั้งๆที่แขนก็ต่อสู้กับคิลที่ร้องครวญครางเล็กน้อย(?)บวกพยายามแงะสิ่งพันธนาการออก

                  “คุณลุงที่โรงอาหารให้มาค่ะ ยังมียาสมุนไพรด้วยนะคะ เรนอนเก็บมาจากสวนของปราการปราชญ์ค่ะ”

                  “แล้วคิลเป็นไงหลังกินเข้าไปแล้ว” คาโลยังซักไม่เลิก

                  “ทำหน้าพะอืดพะอมแล้วก็เอาหัวโขกกำแพงใหญ่เลย พอดีคาโลพาใครเข้ามานะค่ะ” เรนอนยังสะอื้นนิดๆ สงสารเหมือนกันที่เธอกลัวคิลจะตาย แต่ใครกันเล่าที่ผิด-เสียงในใจผู้เขียน

                  “นั่นเอวิเดส เกรเดเวล เดอะคิง ออฟ เดมอส ตกลงเรนอนไม่ต้องร้องไห้ คิลมันไม่ตายหรอก” คาโลแนะนำท่านจ้าวปีศาจแบบขอไปทีก่อนปลอบแบบส่งๆแล้วเดินเข้าไปดูสถานการณ์ในห้องน้ำ

                  มือเล็กๆผลักร่างที่ตัวเคยอาศัยมาสิบกว่าปีออกก่อนจับแขนคิลแทน

                  “นายออกไปดูเรนอนดีกว่า ล็อคอย่างนี่คิลมันหายใจไม่ออก” อ้อ ทีครวญครางเพราะงี้เอง

                  เฟรินก้าวเท้าออกจากห้องน้ำแล้วทรุดตัวลงข้างเรนอน มือเรียวงามของสตรีเบื้องหน้าจับหมับที่แขนเสื้อ

                  “คาโล ถ้าคุณคิลเป็นอะไรไปเรนอนต้องเสียใจมากแน่ๆ ยืนยันสิคะว่าจะไม่เป็นไร”

                  “เอ่อ เมื่อกี้คาโลมันก็ยืนยันไปแล้วนี่ฮะ” เฟรินตอบโดยลืมไปว่าการสลับร่างยังมีผล เรนอนเองก็คงลืม

                  “เรนอนอยากได้ยินคำยืนยันจากปากคาโล ด้วยเสียงของคาโลนี่คะ” ฉับพลันนั้น เฟรินจึงได้สติว่าตนนั้นถูกมองเป็นใครอื่น ใครคนนั้น เธอจึงทำได้เพียงตอบไปว่า “คิลจะไม่เป็นไร”

                  ทางด้านคาโลและเอวิเดสนั้น คนป่วยได้รับการทำแผลจนเสร็จสิ้น ทั้งสองจึงช่วยกันลากมันอกจากห้องน้ำ คิลเอามือกุมหัว ทำหน้าบูดเล็กน้อยระหว่างที่คาโลให้กินใบไม้หน้าตาพิกลสีเขียวอ่อนปนเทา

                  “กินซะ มันเป็นยาแก้พิษ“

                  “นายไหงมันสีประหลาดงี้อ่ะ” คิลร้องอุทรณ์

                  “ไม่กินไม่ต้องกิน” ธิดาแห่งความมืดดูโหดขึ้นเล็กน้อยด้วยความหงุดหงิดของผู้ครอบครองร่าง

                  “นี่ พวกเธอคิดจะสลับวิญญาณกันไปอีกนานเท่าไหร่ ฉันจะช่วยแก้มนตร์ให้ก็ได้นะ” ท่านเอวิเดสเสนอ

                  “งั้นรีบๆเถอะพ่อ อยู่เงียบๆนานชักจะไม่ไหว พาลจะเป็นบ้า” เฟรินเสนอโดยใช้ตัวคาโลพูด เรนอนที่หายห่วงคิลกลับมองคาโลด้วยสีหน้าประหนึ่งว่า ทำไมพูดแบบนี้ ก่อนจะนึกได้ว่าสิ่งที่ทำไปเมื่อสักครู่นั้น... ผิดตัว

                  จ้าวแห่งความมืดร่ายมนตร์อันดำสนิท แสงอันเรืองรองกำเนิดขึ้นจากอากาศธาตุอันว่างเปล่า ฉับพลันกลุ่มแสงไร้รูปร่างกลับกลายสภาพเป็นผอบแก้ววิจิตรตระการตา พระหัตถ์เอื้อมไปยังกายหยาบของบุตรสาวก่อนฉกฉวยเอากลุ่มควันบางใสออกจากร่างราวกับเป็นสิ่งของ

                  ฝาของภาขนะบรรจุวิญญาณเปิดออกก่อนรับเอาดวงวิญญาณอันบางใสของคาโลเข้าไป ภาชนะลึกลับปิดลงอีกครั้งพร้อมๆกับที่ร่างของหญิงสาวทรุดลงกับพื้น

                  ราวกับมนตร์ได้สะกดซึ่งการเคลื่อนไหว ทุกสายตาในบริเวณต่างก็จ้องมองการกระทำของปีศาจ พระหัตถ์ดึงเอาวิญญาณของบุตรีออกจากร่างและใส่คืนกายหยาบเดิม

                  เมื่อร่างไร้ซึ่งวิญญาณทรุดฮวบลง เรนอนเอื้อมมือไปคว้าอย่างไม่ตั้งใจ วินาทีที่กลัวที่สุดในชีวิตมาถึง วันที่เขาคนนั้นไร้ซึ่งลมหายใจ.........แม้รู้ว่าไม่เป็นไรแต่น้ำตาก็อดไหลไม่ได้ ประหนึ่งตกอยู่ในฝันร้ายยามนิทรา

                  เขาได้แต่มองไปยังหยาดน้ำใสที่ไหลล้นมาจากตาของเธอ ราชาแห่งบัลลังค์คนบาปยังคงทำการต่อไป กลุ่มควันบางใสยื่นเข้าใกล้ร่างคาโลมากขึ้นทุกที แต่คิลรู้สึกว่าเชื่องช้ายิ่งนัก ขอเพียงเร็วกว่านี้อีกนิด เพื่อปลุกหมอนั่นให้ฟื้นคืน เพื่อหยุดน้ำตานั้น อย่าให้ไหลมากไปกว่านี้เลย

                  คงต้องเร่งคนๆนั้น เขาขยับเข้าใกล้เอวิเดสโดยไม่รู้ตัว ได้โปรดว่องไวหน่อยเถิด หากนึกย้อนกลับไป นั่นเป็นการกระทำที่ปราศจากความยั้งคิดและงี่เง่าที่สุดในชีวิตของคิลฟีลมัส ดวงตาที่ฉายแววตกใจของท่านจ้าว ดวงวิญญาณสองดวงในร่างเดียว เอวิเดสกระชากวิญญาณออกมาดวงหนึ่งด้วยอารามตกใจก่อนยัดใส่ร่างของเจ้าชายน้ำแข็งที่กำลังเย็นสมชื่อขึ้นทุกขณะ วินาทีที่แทบจะหยุดลมหายใจของสองชีวิต ทั้งสามร่างที่ตกอยู่ในอาคมก็ลืมตาขึ้น...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×