ตอนที่ 79 : Spin-Off : How to Love your Rabbit 1
สวัสดีค่ะคนอ่าน #ในปกครอง ทุกคน
ต้นปีหน้าแบมจะมีโปรเจ็คทำบุญค่ะ โดยจะเปิดขายเรื่องสั้น
Spin-off : How to Love your Rabbit
ภาค ศรราม กับ น้องนุ่ม
นำรายได้ส่วนหนึ่งไปทำบุญให้กับโรงพยาบาล
ถ้าจำได้คือ ศรรามกับน้องนุ่มเป็นกระต่ายของเจ้าจันทร์ที่ออกลูกด้วยกันถึง 9 ตัว
แต่ภาคนี้จะเป็นน้องนุ่ม เวอร์ชั่นเด็กผู้ชาย ที่ตัวเตี้ยกว่า ศรรามถึง 30 เซ็นติเมตร
จะอัพตัวอย่างให้อ่านทั้งหมด 2 ตอนนะคะ
ใครสนใจร่วมบุญ เดี๋ยวรายละเอียดการสั่งจอง ราคา จะมาแจ้งอีกทีจ้ะ
ไปอ่านตอนแรกกันเลยยยย
----------------------------------------------------------------------------------------------------
How to Love your Rabbit
“น้องนุ่ม หูออก”
“อ๊ะ”
มือหนาข้างหนึ่งรีบคว้าคนตัวเล็กเข้ามาซุกในอ้อมแขน ก่อนมืออีกข้างจะตวัดเสื้อแจ็กเก็ตหนังของตัวเองขึ้นมาปิดหัวคน ‘หูออก’ ตาคมมองซ้ายมองขวาก่อนจะรวบคนตัวเล็กที่ซุกอยู่กับตัวให้เดินหลบเข้าไปในมุมตึกด้วยกัน
“โอเคยังอ่ะ?”
เสียงอ่อยของคนในอ้อมแขนทำให้ศรรามต้องก้มหน้าลงมองเจ้าของหูยาวที่ตอนนี้กลับกลายเป็นหูคนแล้ว ‘น้องนุ่ม’ มีเชื้อสายกระต่ายที่หาได้ยากมากในโลกยุคปัจจุบันแถมเป็นพันธุ์หูยาวด้วย ไม่รู้ทำไมเวลาได้กลิ่นขนมหวานหรือตกใจทีไรหูยาว ๆ สีขาวก็เด้งออกมาทุกที มือเล็กยกปิดหูตัวเองก้มหน้างุดกับอกกว้างทำให้ศรรามยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ท่าพยายามขดตัวนี่เป็นท่าประจำเวลาน้องนุ่มตกใจกลัว
“หายแล้ว”
“ขอบคุณนะศรราม”
“ระวังหน่อยสิ ดีนะคนไม่เยอะ”
เมื่อกี้ที่หูยาว ๆ มันโผล่มาก็เพราะคนตัวเล็กรีบเดินจนสะดุดขั้นบันไดต่างระดับของอาคาร ตกใจจนหูกระเด้งออกมา ดีที่ศรรามจัดการได้ว่องไว หูยาว ๆ ก็เลยหายไปแล้ว
“ก็เรากลัวเข้าเรียนไม่ทันอ่ะ อ้ะ! ศรรามสายแล้ว รีบไปกันเถอะ”
“ไม่ต้องวิ่งเลยนุ่ม มานี่ จับมือเราดี ๆ”
“ศรรามชอบดุอ่ะ”
ยู่ปากงอนแต่ก็ยอมยกมือเล็กขึ้นไปให้มือหนากุมกระชับไว้ ส่วนสูงของน้องนุ่มกับศรรามต่างกันถึงสามสิบเซนติเมตร เพราะเป็นเผ่าพันธุ์กระต่ายทำให้น้องนุ่มโตเต็มวัยสูงเพียง 155 ซม.พอดีเป๊ะ ต่างกับศรรามที่สูงถึง 185 ทำให้ระดับหัวน้องนุ่มอยู่ในระดับอกศรราม แถมยังตัวเล็ก แต่พุงนิ่ม นุ่มไปทั้งตัวเหมือนชื่อนั่นแหละ
ก็เพราะมันนุ่มมันนิ่มไปหมดนี่ไง คนตัวสูงก็เลยต้องคอยกังวลอยู่เรื่อย เพราะเจ้าตัวไม่ค่อยจะระวังเอาเสียเลย แถมยังมองโลกในแง่ดีเกินไปอีก หรือมันเป็นนิสัยกระต่ายที่แก้ไม่หาย?
บ้านเขากับบ้านน้องนุ่มอยู่ติดกัน ครอบครัวสนิทกันมาหลายรุ่นทำให้รู้มาตลอดว่าเพื่อนตัวเล็กจะหยุดสูงแค่ 150-160 ซม. แต่ช่วงมัธยมปลายมันเป็นช่วงที่เขาสูงพรวดทำให้น้องนุ่มนอยด์ไปเหมือนกัน
“ทำไมเราตัวนิดเดียวเอง ศรรามขี้โกง”
กระต่ายงอน...ตอนนั้นพวกเราอายุสิบเจ็ด ส่วนสูงเขาก็แตะร้อยเจ็ดสิบห้าแล้วแต่น้องนุ่มเพิ่งจะร้อยห้าสิบ พอเข้ามหา’ลัยเขาก็พรวดมาหยุดลงที่ 185 และน้องนุ่มก็ 155
เรื่องนี้ก็ไม่รู้จะง้อยังไง จำได้ว่ากระต่ายงอนจนหูยาว ๆ ลู่ไปกับกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อน กอดหมอนเน่าของตัวเองนั่งหันหลังให้ไม่ยอมคุยกัน
“น้องนุ่ม...”
“ฮึก...”
“น้องนุ่มครับ...”
“ฮือ...”
ศรรามพูดไม่เก่ง ที่ทำได้ก็แค่เขยิบเข้าไปนั่งใกล้ ๆ แล้วดึงคนเสียใจเข้ามากอดปลอบ น้องนุ่มไม่ใช่คนโกรธนานก็แค่น้อยใจบ้างเป็นครั้งคราว เวลาที่โดนล้อว่าเตี้ยบ้าง ขาสั้นบ้าง หรือวิชาพละที่ตัวเองทำได้ไม่ค่อยดี
หลังจากซึมไปสองวันศรรามก็ได้รับคุกกี้เนยสดจากคนหายงอน
“เราขอโทษที่โกรธศรรามนะ จริง ๆ ศรรามไม่ได้ผิดเลย เราเตี้ยเองไม่เกี่ยวกับศรรามสักหน่อย”
“น้องนุ่มเรียนเก่งกว่า ไม่โดนแม่ด่าเหมือนเรา”
คำปลอบใจที่ดีที่สุดเท่าที่ศรรามจะคิดออก ที่ผ่านมาสอบผ่านมาได้ก็เพราะคนตัวเล็กติวให้ตลอด เขาเรียนบ้างหลับบ้าง แถมช่วงหลังติดเกมไม่ต้องพูดถึงเรื่องเรียนเลย
“ก็ศรรามติดเกมอ่ะ”
“ก็มันสนุก”
“อย่างอื่นก็สนุก”
“เช่น!?”
“ทำขนมไง อันนี้เราทำเอง ศรรามลองชิมดูหน่อยสิว่าโอเคไหม”
เพราะไวต่อกลิ่นขนมทำให้ชาตินี้น้องนุ่มห้ามเข้าร้านกาแฟ คาเฟ่ ไอศกรีมทั้งหลายแหล่ แต่อีกฝ่ายชอบของหวานมากก็จะเป็นเขาที่เดินเข้าไปซื้อเค้ก หรือไอศกรีมในซูเปอร์มาให้ตลอด ไม่คิดว่าน้องนุ่มจะหัดทำขนมเอง
มือหนาแกะกล่องคุกกี้ออก มุมปากยกยิ้มเมื่อใบหูเล็กหายวับแล้วเจ้าหูยาวสีขาวก็ปรากฏออกมาแทนที่ ตากลมแป๋วจ้องมาด้วยสีหน้าคาดหวัง
ก็เพราะอยู่กันสองคนทำให้น้องนุ่มไม่ระวังตัวเลย...คงไม่เคยคิดล่ะสิว่าจะมีอีกคนเขาหวั่นไหว จะหูคนหรือหูกระต่าย...อะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ
ศรรามลอบถอนหายใจก่อนจะหยิบคุกกี้ขึ้นกัด ตากลมโตยิ่งฉายความมุ่งมั่นเข้าไปอีกจนเกือบหลุดหัวเราะ แต่ก็แกล้งทำเป็นขมวดคิ้วตั้งแต่กัดคำแรก
“ไม่อร่อยหรอ”
“อืม...มันก็...”
“เฮ้อ ไว้เราทำให้ใหม่นะ”
มือเล็กยื่นมาจะแย่งขนมคืน แต่ศรรามเบี่ยงตัวหนี แล้วหันไปยักคิ้วใส่
“ของเรา ไม่คืนให้หรอก... อร่อยแล้ว กำลังดี”
“โธ่... ดีจัง คราวหน้าเราจะเอาไปให้พี่นัทชิม”
ชื่อของบุคคลที่สามทำเอาศรรามเซ็งขึ้นมาทันที เพื่อนตัวเล็กของเขามีรุ่นพี่ชมรมฟุตบอลที่ปลื้มนักปลื้มหนา เพียงแค่ตอนนั้นเขาไปเข้าห้องน้ำแล้วมีพวกห้องท้าย ๆ มาพูดจาไม่ดีใส่น้องนุ่ม...ไอ้นัทมันเลยได้เป็นพระเอกเข้ามาช่วย
ปกติมันก็หน้าที่เขาเหอะ...น้อยใจที่แม่งช่วยครั้งเดียวดันทำให้เจ้าตัวเล็กประทับใจจนวันนี้ ส่วนเขาที่อยู่ข้าง ๆ มาตลอดไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษ
“เรากลับบ้านแล้วนะ จะไปเล่นเกม”
“อื้อ อย่าลืมทำการบ้านนะศรราม เราไม่ให้ลอกด้วย”
ศรรามนึกว่าเรื่องพี่นัทจะจบลงตอนอีกฝ่ายเรียนจบไป แต่เปล่า...เขากับน้องนุ่มดันสอบติดมหา’ลัยเดียวกันกับพี่นัท นุ่มเลือกเรียนบริหาร เขาเรียนเศรษฐศาสตร์ ถึงจะเรียนห่วยทุกวิชาแต่ดันเก่งเลขก็เลยคิดว่ามาสายนี้ดีกว่า แล้วไอ้พี่นัทนั่นก็เรียนบริหารไง
ปีแรกมันก็ยังเรียนรวมกันอยู่เพราะวิชาใกล้ ๆ กัน แต่ปีหน้ายอมรับว่ากังวลมาก ห่วงไปหมด ไม่รู้จะไปหูโผล่ตอนไหน แล้วไหนจะไอ้พี่นัทนั่นอีก
นัท มันรู้ว่าน้องนุ่มปลื้มแล้วตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้วแต่ชอบมาชวนน้องนุ่มคุยเหมือนเต๊าะเล่นไปวัน ๆ คนตัวเล็กก็ดูไม่ออกเอาซะเลย ยิ้มแป้นแล้นให้มันอยู่เรื่อย
“ศรรามมีแข่งบอลใช่ไหม”
“ใช่ แข่งกับคณะน้องนุ่มไง”
“เรียกนุ่มเฉย ๆ ก่อน เพื่อนอยู่เยอะ”
ปากเล็กบ่นอุบอิบ จริง ๆ ก็ชื่อ นุ่ม เฉย ๆ แต่ทั้งบ้านเขาแล้วบ้านเจ้าตัวก็จะติดเรียก พี่ศรราม กับ น้องนุ่ม ตั้งแต่ไหนแต่ไร ชื่อเขาแม่งก็สองพยางค์เพราะแม่เป็นแฟนคลับดารา แถมหมอดูทักว่าไม่ควรมีชื่อเล่น
“งั้นเราไปรอห้องสมุดนะ”
“เดี๋ยวขับไปส่ง แข่งจบมารับอีกที”
ไม่อยากให้มาเชียร์เขาเตะบอล คนมันเยอะ สภาพแวดล้อมต่าง ๆ มันอาจจะทำให้เจ้าตัวหูโผล่ออกมาได้ น้องนุ่มเองก็รู้ว่าควรระวัง บางทีก็สงสารที่ต้องใช้ชีวิตเหนื่อยกว่าคนอื่น
“ขอบคุณนะ ศรรามเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในโลกเลย”
เหอะ...ใครเขาอยากเป็นเพื่อนด้วย กระต่ายขี้มโน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้องนุ่มน่ารักจัง หันมองคนข้างตัวบ้างจิน้องนุ่ม