ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    <ยวนสยอง, 2> - มึง F กู

    ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่๑๖ ความเจ็บปวดที่ถูกเข้าใจ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 54
      4
      4 มิ.ย. 61

    เพื่อนทั้งสองคอยดูแลชยาภรณ์ที่หยุดเรียนไประยะหนึ่ง

    “น่าสงสารเกนหลงเหมือนกันนะ”

    “เธอจะไปสงสารผีบ้านั่นทำไม?”

    “นั่นสิ ดูที่มันทำกับเพื่อนเราก่อน”

    “ก็สงสารที่เขาบ้านั่นแหละ เราไม่ได้บอกว่าสิ่งที่เกนทำมันถูกนะ แต่เธอลองมองในมุมเกนหลงดูสิ การที่คนๆ หนึ่งจะมีความคิดที่บ้าคลั่งแบบนี้ได้ ต้องผ่านเรื่องเลวร้ายมาขนาดไหน กว่าจะทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ไปกับการเห็นคนมีชะตากรรมคล้ายตัวเอง” ปิยังกูรนึกถึงเรื่องวันนั้นแล้วยังกลัวไม่หาย 

    นึกถึงเสียงร้องวันนั้นแล้วยังกลัวไม่หาย

    “ช่างมันเถอะ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรา”

    “เพราะคนในสังคมคิดแบบนี้ไง เกนหลงถึงได้บ้า และชาก็ได้รับผลกระทบไปด้วย คนเรายุ่งเรื่องชาวบ้านในทางเสียหาย พูดให้ร้ายเขา เอาไปเล่าต่อ แต่พอเขามีปัญหาก็ปฏิเสธที่จะช่วย อันนี้เราทำเพื่อพวกเราเองนะ เกิดชมรมอะไรนั่นรับมือไม่ไหว เราต้องช่วยเกน ก่อนที่เกนจะหนีออกมาทำร้ายเราได้”

    “แล้วเราจะช่วยยังไง?”

    “มีใครที่เกี่ยวข้องกับเกนอีกไหม?”

    “ปู่สงบ เขาลือกันว่าเคยมีอะไรกับมัน”

    ......................................................................................................................................................

    “อืม ฟังแล้วมันก็เหลือเชื่อนะ”

    “แต่มันเป็นเรื่องจริงค่ะ”

    “เรื่องอื่นอาจจะจริง แต่เรื่องอาจารย์กับหนูเกนนั่นไม่จริงแน่นอน” สงบเอ่ยกับนักศึกษาทั้งสามที่เข้ามาเล่าเรื่องลึกลับทั้งหมดที่เกิดขึ้น แววตาของชายชราเต็มไปด้วยความเห็นใจ “เกนหลงเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักมาก อาจารย์เห็นตั้งแต่เทอมแรก เอ็นดูเหมือนลูกหลาน ไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน”

    “ผมก็ว่าอยู่ อาจารย์ดูไม่ใช่คนตามที่เขาเล่ามา”

    สงบพยักหน้า เขาสาบานได้ว่าความคิดอนาจารกับนักศึกษาไม่เคยมีอยู่ในหัว

    เขาเป็นอาจารย์ตั้งแต่เรียนจบ และมีใจรักด้านนี้มาก สำหรับสงบ การถ่ายทอดความรู้ให้เด็กคือการสร้างคนที่จะนำความรู้เหล่านั้นไปพัฒนาสังคมชาติ มันไม่ใช่แค่ท่องอะไรไม่รู้อยู่หน้าห้องแล้วเดินออกไป มันต้องมีความตั้งใจที่จะปั้นเด็กให้ออกมาเป็นคนเก่งและมีคุณธรรม

    ถึงเรื่องผีจะดูเหลือเชื่อ แต่การที่นักศึกษากลุ่มนี้จะรู้เรื่องของเกนหลงที่ตายไปสามปีแล้วพอสมควร ประกอบกับการมีคนตายอย่างต่อเนื่องในมหาวิทยาลัย และทุกคนก็เป็นคนที่เคยมีปัญหากับเกนหลงทั้งนั้น มันก็ฟังดูเป็นไปได้อยู่ และสงบก็คุ้นเคยกับเรื่องวิญญาณลึกลับมาหลายครั้ง

    “ต่อให้เราดีเป็นพระอรหันต์ คนจะเล่าให้เราเสียหาย มันก็เล่าได้แหละ คนพูดก็สนุกที่ทำให้คนโดนกล่าวหาเสียใจได้ ไหนจะคนเอาไปพูดต่อโดยไม่มีมูลความจริง ที่ตลกคือตอนใส่ร้ายเขา ไม่มีหลักฐานทุกคนก็พร้อมเชื่อ แต่พอเราอธิบาย ต่อให้มีหลักฐานก็หาว่าแก้ตัวซะงั้น ยิ่งเดี๋ยวนี้โซเชี่ยลแชร์กันว่อน ไม่รู้อะไรจริงไม่จริง”

    ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย

    ทุกคนพยักหน้าแม้ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องจริงจนต้องเห็นด้วย

    “นี่มั้งที่ทำร้ายคนมานักต่อนัก”

    “จิตใจแต่ละคนแข็งแกร่งไม่เท่ากัน เรื่องที่เจอก็หนักหนาไม่เท่ากัน นึกไปถึงเลยว่าหายป่วยกลับมาอีกที เกนหลงจะตายไปแล้ว อาจารย์ไม่คิดเลยว่าจะคิดสั้น อ่อ ที่เขาว่าอาจารย์เป็นมะเร็งก็ไม่จริงเหมือนกัน คนที่เป็นนะเจ้าสงัด น้องชายอาจารย์ เด็กกว่าหลายปี แต่หน้าเขาไปแล้วล่ะ”

    “ขอให้น้องอาจารย์ดีขึ้นนะคะ”

    “หวังว่าแหละครับ ว่าแต่อาจารย์รู้จักเกนได้ยังไงครับ?”

    “เกนหลงเคยมาถามเรื่องการจัดเรียงออบิทัลมั้ง อาจารย์นึกเอ็นดูในความขยันที่เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยมี อาจารย์เองก็คอยปรามพวกเกเรที่มาแกล้งเกนเหมือนกัน แต่ตอนหลังห่างๆ ไปเพราะเกนไปชอบกับเจ้าเติ้ลที่เห็นก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าชู้ เตือนไม่ฟังเลยไม่รู้จะทำยังไง แล้วตอนนั้นอาจารย์ก็ลาหยุดไปรักษาตัวด้วย ดีขึ้นแล้วเลยกลับมาสอนต่อ” ชายชราถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เกนหลงอยู่ที่ตึกเก่าใช่ไหม อาจารย์อยากไปหาเธอ”

    นักศึกษาที่อาจารย์ไปหานั่งร้องไห้อย่างว้าเหว่

    จากคนที่ถูกรังแกกลายเป็นผีที่มีอำนาจเหนือคนอื่น แต่ก็กลับมาเป็นผีอ่อนแอที่ทำได้แค่นั่งร้องไห้แม้จะรู้ว่าใครเป็นคนเลวที่กระทำเธอ และมันก็ยังมีชีวิตดีต่างจากเธอลิบลับ ร่างอรชรทิ้งตัวลงกับพื้น ครวญครางดังไปทั่วบริเวณราวกับต้องการให้ใครสักคนได้ยินความเจ็บปวดนั้น

    ใครคนนั้นคือสงบ

    “หนูเกน หนูอยู่นี่ไหม?”

    “อาจารย์?” เกนหลงหันขวับก็พบกับชายชราหน้าตาใจดีพร้อมกับคนที่เพิ่งมีปัญหากันมา ชยาภรณ์เห็นสภาพเกนหลงแล้วก็สังเวชใจ มันทั้งน่ากลัวและน่าอดสูไปในเวลาเดียวกัน เธออาสาเป็นล่ามให้เพราะรู้ว่าไม่มีใครสื่อสารกับวิญญาณร้ายได้ และตอนนี้ก็คงไม่มีปัญญามาสิงร่างใครอีก

    “หนูอยู่นี่ค่ะอาจารย์”

    “เป็นไงบ้าง?”

    “หนูเจ็บ มีแต่คนรังแกหนู ช่วยหนูด้วย”

    “เราก็กำลังช่วย... คุณ... อยู่นี่ไง” ชยาภรณ์บอกกับผีมอมแมม “ฟังฉันนะเกนหลง ฉันโคตรโกรธคุณเลยว่ะ ฉันอาจจะผิดที่ไปพูดจาลบหลู่ แต่สิ่งที่คุณทำฉันมันก็เกินไป แต่ปิ๊กบอกให้ฉันมองในมุมอื่น มองในมุมของคนที่ถูกสังคมกระทำจนกลายเป็นแบบนี้ ฉันไม่ได้หายโกรธหรอกนะ แต่ฉันมารับผิดชอบชีวิตคุณ”

    วิญญาณสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย

    “เพราะพวกเราต่างก็เกี่ยวกับคุณไงล่ะ ทั้งที่คุณตายไปแล้ว ฉันไม่เคยเจอคุณมาก่อน แต่ฉันก็นินทาเรื่องคุณกับเพื่อนกันสนุกปาก นั่นก็เท่ากับไปยุ่งเรื่องคุณแล้ว แล้วจะปฏิเสธความช่วยเหลือด้วยการพูดง่ายๆ ว่าไม่เกี่ยวได้ยังไง” แอฟพูดบ้างแม้จะดูกลัวอยู่ แต่เพราะเพื่อนก็พร้อมสู้

    “เกนหลงว่าไง?”

    “เธอบอกว่าเจ็บ ขอให้ช่วย”

    “อาจารย์จะช่วยหนูนะ ต้องทำยังไงล่ะ? ทำบุญไปให้จะได้รับไหม? หรือเรียกพระมาปล่อยวิญญาณ? ต้องทำยังไงหนูถึงจะไม่เจ็บไม่ปวดล่ะ? บอกมาเลย!” สงบถามด้วยความห่วงใยแม้จะไม่เห็นเลยก็ตาม ร่างอรชรอ้าปากอันสั่นระริก ปล่อยโฮปลดปล่อยตามอ่อนแอที่มันโถมอยู่มานาน

    “ตอนนั้นหนูน่าจะเชื่ออาจารย์ตั้งแต่แรก หนูน่าจะไม่ไปเชื่อผู้ชายคนนั้น”

    “เกนบอกว่าเธอน่าจะเชื่ออาจารย์ ไม่ไปเชื่อผู้ชายคนนั้น”

    “เรื่องมันผ่านมาแล้ว อย่าไปพูดถึงมันเลยนะ ต่อไปนี้อาจารย์จะช่วยหนูเอง”

    “เราทุกคน... รับรู้และเข้าใจความเจ็บปวดของคุณแล้วนะ”

    ปิยังกูรพูดได้เท่านั้น เกนหลงก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม เธอหันไปมองทีละคนโดยเฉพาะชยาภรณ์ ซึ่งถ้าพูดตามตรงเธอก็ตั้งใจจะใช้เป็นเหยื่อตั้งแต่แรก อยากเห็นผู้หญิงที่บุคลิกเหมือนเต้ยโดนกระทำแบบเธอ แล้วโดนเพื่อนสนิทหักหลัง คนรักทอดทิ้ง แต่มันตรงกันข้าม เพราะแอฟกับปิยังกูรก็ดูแลชยาภรณ์อย่างดี

    “ฉันขอโทษนะชา ฉันไม่น่าทำกับเธอเลย ฉันขอโทษ”

    “เอาเป็นว่าฉันให้อภัยคุณแล้วกัน”

    หญิงสาวพยักหน้าและฝืนยิ้มให้ผีโชคร้าย ทันใดนั้นเอง ชมรมกูคนเดิมได้ตายไปแล้วก็โผล่มา และก็ไม่ได้มาคนเดียวแต่ยกโขยงมากันทั้งชมรมตั้งแต่หัวหน้ายันสมาชิก ไม่เว้นกระทั่งผู้อุปถัมภ์อย่างนายตำรวจทยาทัศน์ เรียกได้ว่ามีทุกเพศทุกวัย คราวนี้ทุกตนยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร

    “คิดได้แล้วสินะเกนหลง”

    “พี่นาว?”

    “ฉันเองแหละ พวกเราแอบดูเธออยู่”

    “ฉันขอโทษทุกคนนะคะที่ทำให้ชมรมเสียชื่อ”

    “คิดได้แล้วเราจะปล่อยเกนหลงดีไหมน้า?” นาวถามด้วยรอยยิ้ม แน่นอนว่าทุกตนก็พยักหน้าเห็นด้วย ผีเด็กประถมถึงกับวิ่งเข้าไปกอดร่างอรชรแล้วออกคำสั่งกับหัวหน้าชมรม เด็กน้อยทำท่าทะเล้นอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ผีในชมรมพากันรักในแก้มนิ่มยุ้ยและการพูดจาขี้ประจบ

    “ดีครับ พี่นาวต้องปล่อยพี่เกนคนสวยนะ”

    “ถ้าพี่จะลงโทษต่อล่ะ?”

    “ผมก็จะนั่งเป็นเพื่อนพี่เกน จริงไหมครับพี่ๆ ชาวชมรม?”

    “จริงจ้ะ พวกเราจะอยู่ข้างเกนหลงเอง”

    “น่าตีจริงๆ เลย เดี๋ยวนี้กล้าสั่งพี่เหรอห้ะ นี่เห็นแก่ทุกตนเรียกร้องนะเนี่ย ก็ได้ พี่ปล่อยเกนก็ได้” นาวปล่อยเกนหลงออกจากพันธนาการพร้อมกับพูดเสียงหวาน “งั้นคงต้องพูดว่า ยินดีต้อนรับเข้าสู่ชมรมกูคนเดิมได้ตายไปแล้วเหมือนเดิมนะ เกนหลงคนสวย... แต่น้อยกว่าฉันแหละ ฮ่าๆ”

    “ขอบคุณมากนะคะ”

    “มันเป็นเรื่องปกติที่สมาชิกต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว”

    “งั้นภารกิจแรกหลังเข้าชมรม เป็นจัดการกับคนไร้จรรยาบรรณนั่นหน่อยเป็นไง?” ทยาทัศน์ถามพร้อมกรอกตามาหานักศึกษาสาว เกนหลงยิ้มกว้าง เพราะนอกจากจะได้รับการปลดปล่อยและกลับมาเป็นสมาชิกอยู่ในชมรมแล้ว ยังได้รับอนุญาตให้จัดการคนชั่วที่เธอเกลียดชังอีก

    ให้จัดการคนชั่วที่ทำร้ายเธออีก

    “ได้เหรอคะ?”

    “ก็มันเป็นคนทำเธอนี่ จะจัดการก็ไม่ผิดกฎหรอกนะ”

    “ไปเลยเกนหลง อย่าให้เสียชื่อชมรมล่ะ”

    ผีสาวผมยาวยิ้มกว้างแล้วหันไปมองผู้ปลดปล่อยเธอ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนชมรม อาจารย์สงบ หรือรุ่นน้องด้วยความซึ้งใจ ทุกคนพร้อมใจกันอยู่ข้างเธอและเข้าใจความเจ็บปวดที่ถูกเพิกเฉยมาตลอด แต่วันนี้เธอไม่ใช่หญิงสาวที่ถูกทอดทิ้งอีกต่อไป เธอเป็นที่รักของคนที่นี่ เกนหลงเอ่ยกับชยาภรณ์

    “ฉันไปจัดการมันก่อนนะ เดี๋ยวจะกลับมา”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×