ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    <ยวนสยอง, 2> - มึง F กู

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่๑๓ เวลาลวง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 48
      3
      28 พ.ค. 61

    “มันดูเหลือเชื่อ แต่ว่าเรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ”

    “อืม เราเชื่อนะ” ปิยังกูรตอบพลางจ้องแววตากังวลของหญิงสาว “เราเห็นมานานแล้วล่ะ ว่าเธอชอบพูดคนเดียว บางทีก็สะดุ้งกลัวเหมือนมีคนมาเรียก ขนาดทำแลปยังใจลอย ทั้งที่เจอกันครั้งแรก เธอออกจะน่ารำคาญ แต่เธอก็กลายเป็นคนขี้ตกใจไปได้ แล้วยังแอบได้ยินเธอพูดชื่อเกนหลงน่ะ”

    “ผีเกนหลง ผีรุ่นพี่ที่ตายไปในแลป”

    แอฟเล่าบ้าง เพราะตอนนี้ทั้งสามมานั่งคุยกันในห้องของชยาภรณ์

    “ฉันต้องหาให้ได้ว่าใครเป็นคนให้เอฟเกนหลงก่อนจบเทอม”

    “มันไม่จบง่ายๆ แบบนั้นหรอกชา เราว่าเกนหลงไม่ได้อยากให้เธอมาหาความจริงหรอก มันเป็นเรื่องที่เขาทำเองได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งเธอ ถึงไม่มีเธอ เขาก็หาข้อสอบเก่าได้ เราว่าเขาต้องมีเหตุผลมากกว่านั้น แค่เราเองก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร เอาอย่างนี้ เธอยังรักพี่เทสอยู่ไหม?” ปิยังกูรถามขึ้น หญิงสาวเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีแฟน

    “เขาเกี่ยวอะไรเหรอ?”

    ......................................................................................................................................................

    เทสนอนอยู่ในโรงพยาบาลน้ำตาร่วง

    แผลฉีกขาดบริเวณลำไส้ทำให้เจ็บมาก โดยเฉพาะเวลาปวดถ่ายหนักเรียกได้ว่าเจ็บแสบและมีเลือดไหลไม่หยุด ยังไม่นับการเสียงนินทาหรือสายตาจากคนรอบข้าง ชนิดไม่อยากเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดูเลย เพราะคงไม่พ้นมองว่าเขาเป็นพวกโรคจิต บางคนแชร์ทำล้อเลียน เขาอับอายอย่างหนัก ไม่อยากเจอใคร แต่แฟนสาวก็เดินเข้ามา

    ชา

    พี่ทำอะไรลงไปอะ? โคตรทุเรศมากเลยรู้เปล่า?”

    ฟังพี่ก่อน พี่ไม่ได้เป็นคนแบบนั้น พี่โดนทำร้ายนะ ใครจะบ้าเอาหลอดแก้วไปยัดตูดตัวเองล่ะ?” เทสอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเขาใช่ว่าสนุกไปกับการทำเรื่องแบบนั้น แต่ผีร้ายเป็นผู้สั่งให้หญิงสาวอีกสองคนทำ พูดถึงก็มาพอดี ชยาภรณ์หันกลับมาด้วยรอยยิ้มเหยียด

    หึ ดูเหมือนมดจะตัวใหญ่ไปหน่อยเนอะ

    อีเกน!?

    พอรู้ว่าเป็นฉันดันตกใจเชียว แค่จะรับแกกลับไปเรียน เห็นว่าอยู่โรงพยาบาลนานแล้ว

    ไม่ ฉันไม่ไป

    เลิกทำหน้าแบบนั้น ยิ้มหน่อยไม่ก็ยิ้มอ่อย ถ้าไม่ยิ้มฉันหักไอ้นั่นแกทิ้งคามือเลยนะเกนหลงสะกดชายหนุ่มให้คลี่มุมปากขึ้น ดวงตาแดงก่ำจ้องไปยังอวัยวะที่อีกฝ่ายหวงแหน เหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าเพราะความกลัว เกนหลงในร่างชยาภรณ์หันไปพูดกับพยาบาล คุณคะ พอดีคนไข้มีเรื่องด่วนต้องกลับบ้านค่ะ

    ไม่ได้นะคะ แก้วบาดเข้าไปลึกมาก ถ้าไม่ได้ดูแลอย่างถูกวิธีอาจทำให้อักเสบติดเชื้อได้ค่ะ

    ถ้ามันติดเชื้อก็ดีจริง เอ้ย แต่คนไข้มีความจำเป็นจริงค่ะ เขายินยอมออกจากโรงพยาบาลเอง ขอบคุณมากนะคะที่เตือนวิญญาณร้ายตอบแทน โดยที่เทสไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยิ้มและเซ็นยินยอมพร้อมกับฟังอะไรนิดหน่อย เกนหลงเข็นรถมาจนถึงทางออก เนื่องจากมหาวิทยาลัยมีโรงพยาบาลอยู่ใกล้

    การเดินทางจึงไม่ยากลำบากนัก ชายหนุ่มไม่สามารถขัดขืนได้แม้แต่น้อย เป็นได้แค่หุ่นตัวหนึ่งให้ชัก หญิงสาวโบกรถพาชายหนุ่มเข้าคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งเธอก็ทำได้คล่อง เพราะสมัยมีชีวิตก็เรียกรถบ่อย ก็เหมือนรำลึกความหลังไปในตัว วันแรกเข้าเธอก็มาทางนี้ มันเป็นความทรงจำนานมา

    เป็นความทรงจำที่เธอไม่ลืม

    ดูนั่นดิ ไอ้โรคจิตนั่นอะ ที่เอาหลอดแก้วยัดตูด

    อุบาทว์เนอะ ช่วยตัวเองในแลป สงสารคนที่ต้องทดลองห้องนั้นต่อเลยว่ะ

    ไม่รู้เจ็บแค่ไหน ยัดเข้าไปสิบสองอัน แหกหมด

    ขี้คล่องแน่ แต่จะเบ่งไหวไหมอีกเรื่อง

    การเป็นฝ่ายเสียหาย โดนนินทา เล่นงานเทสเต็มเปา เขาอยากลุกไปเตะปากแต่ไม่มีแรงลุกขึ้น แต่เทสลุกได้แม้ไม่มีแรงลุกขึ้น วิญญาณร้ายเข้าสิงและเดินขึ้นตึก ด้านชยาภรณ์ที่กลับเป็นคนเดิมก็เลือกที่จะอยู่นิ่ง เพราะน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องรับบาดเจ็บ และความรู้สึกลดลงไม่ได้รักใคร่แบบนั้นอีก

    เทสเดินไปจนถึงแลปชีววิทยาที่เพิ่งเกิดเรื่องหลายวันก่อน เกนหลงพุ่งออกจากร่าง

    ได้เวลาของแกแล้ว

    เกน ปล่อยฉันไปเถอะ แค่นี้ฉันก็เจ็บแล้วก็อายจนไม่มีหน้าจะอยู่แล้ว

    ทีแกทำฉันล่ะ?”

    มันตั้งสามปีแล้วนะเกน ตอนนั้นฉันยังเด็ก คึกคะนอง ไปเกิดนะเกนหลง ฉันจะทำบุญไปให้ ฉันบวชให้เลยก็ได้ชายหนุ่มร้องด้วยความหวาดกลัว เพราะในแลปไม่มีใครช่วยตนได้แม้แต่นิด มีแค่ผีนักศึกษาไล่ต้อนให้เขาต้องถอยหนีทั้งก้นเปื้อนเลือด ผ้าผืนเล็กที่ปิดไว้ตรงทวารหนักชุ่มโชก

    คนอย่างแกบวชไปก็มั่วสีกา ไม่มีประโยชน์ ฉันทำอะไรที่มันบันเทิงเริงใจกว่านี้ดีกว่าเกนหลงหยิบกรรไกรขึ้นมาเล่มหนึ่ง รอยยิ้มยียวนปรากฏเต็มแก้มช้ำ เทอมแรกที่เข้ามา เจนไบโอเราเรียนเรื่องผ่ากบ แต่วันนี้น่าจะสนุกกว่า เพราะเรากำลังจะมาผ่าคนกันค่ะ ตั้งใจเรียนกันแทนเด็กเรียนไม่จบอย่างฉันด้วยนะคะ

    ไม่เอา อย่านะเกน

    เริ่มผ่ายังไงดี เรียนมาตั้งสามปีแล้ว ก่อนอื่นขอดูก่อนนะ ตา เยื่อหนังตา รูจมูก ปาก มีโคเอกาไหมนะ ไม่แน่ใจ อวัยวะภายในเป็นยังไง ต้องใช้ที่คีบดึงหนังท้องขึ้นมาก่อนสินะผีร้ายคีบหนังขึ้นและใช้กรรไกรคมกริบตัดเข้าเป็นรู เลือดท่วมนองจากปากแผล ชายหนุ่มกรีดร้องจนหัวคลอน

    อ๊า

    เกนหลงสอดกรรไกรเข้าไปในรูโหว่และตัดขึ้นเป็นแนวสูงขึ้นไป ชั้นไขมันกล้ามเนื้อเป็นไปตามระบบร่างกายดังที่เคยอ่านในตำราผ่าตัดมนุษย์ เธอตัดปากแผลผ่าตัดเป็นรูปตัวไอ แน่นอนว่าไม่มีการใช้ยาสลบ มีแต่จะหาวิธีเพิ่มความเจ็บปวดให้สัตว์เดรัจฉานในร่างมนุษย์มากขึ้น

    จะร้องอะไรนักหนา!?”

    หยุดได้แล้วอีผีบ้า

    หึ ผีบ้าก็รู้ไว้ ผีกระสือเอาไส้ตัวเองให้คนอื่นดู แต่อีผีบ้านี่จะเอาไส้แกให้แกดู คิดว่าอะไรมันจะน่ากลัวกว่ากัน?” เธอควักลำไส้โยนออกนอกช่องท้อง เลือดท่วมพื้นกระจาย ชายหนุ่มที่เจ็บอยู่แล้วพอเห็นอวัยวะยาวร่วมหลายเมตรกองเป็นกลุ่มเหมือนเครื่องในสัตว์ก็กรีดร้องหมดสภาพ

    อ๊าาาาา

    ขอดองหน่อยจะเป็นอะไรไป ทำไมแค่นี้ต้องมาแหกปาก ยังไงก็จะตายห่าอยู่แล้ว จะได้เป็นตัวอย่างว่าคนเลวอย่างแกมันต้องตาย เอาฟอร์มาลินคงดีกว่าเนอะ แต่ฉันขอกรอกปากแล้วกันเกนหลงหยิบขวดฟอร์มาลินเทเข้าทางปากคนโฉด เทสดิ้นแต่ยิ่งทำให้อวัยวะทะลัก ผิวหนังที่โดนสารแสบร้อน

    คนโฉดปวดตั้งแต่ปากลงไปจนถึงกระเพาะ และขาดใจตายด้วยสภาพน่าเวทนาไปอีกราย  

    ......................................................................................................................................................

    เต้ยใช้มืออันเจ็บปวดเขียนรายงาน

    ถ้ามองให้ดี ทุกนิ้วของเธอบวมเป่งและอักเสบจนร้อน แต่ก็ต้องทำงานเพราะถ้าส่งล่าช้าหมายถึงคะแนน ความยุ่งยาก และปัญหาที่จะตามมา ยาทาเต็มนิ้วแต่ก็ไม่ช่วยเมื่อเจ็บลาม แผลเต้นตุบเป็นจังหวะ วันนี้เป็นวันสอบวิชาฟิสิกส์พื้นฐาน ที่เริ่มสอบก่อนและอาจารย์ก็ใจดีพอที่จะให้รายงานเป็นคะแนนช่วยแต่ต้องเขียนเท่านั้น

    มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเขียนหนังสือด้วยสภาพกล้ามเนื้อบาดเจ็บทุกชิ้นส่วน เต้ยกัดฟันเขียนจนร้อนไปทั้งมือจนเสร็จ เธอรีบวิ่งจากห้องสมุดไปยังห้องสอบที่อยู่อีกตึก โดยปกติแล้วน่าจะใช้เวลาประมาณสิบนาที หลายคนอาจเคยดูหนังผี ที่วิญญาณหลอนให้ไปไม่ถึง และตอนนี้เต้ยกำลังเจอ

    เธอวิ่งกี่ทีก็วนกลับมาที่เดิม!

    หญิงสาววิ่งมองไปข้างหน้า แต่กายเป็นว่าทุกที่ก็เป็นตึกเดิม มันเป็นตึกที่โถงล่างใช้เป็นลานรับน้อง สถานที่อันควรเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพ เต้ยได้ยินเพลงรับน้องดังมาพร้อมกับเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งของเกนหลง ใจหนึ่งอยากสวดมนต์ แต่ก็คิดไม่ออกว่าสวดอย่างไร เพราะไม่ได้สวดมานานมากแล้ว

    “นโม โว๊ย นโมอะไรวะ นโมตัสสะ”

    เต้ยมองดูนาฬิกา เหลือเวลาอีกสองนาที เธอหยุดนิ่ง และทุกอย่างก็กลายเป็นปกติ

    ตึกสอบอยู่ทางนั้น แต่ห้องสอบอยู่ชั้นยี่สิบ เต้ยวิ่งไปกดลิฟต์ ย้ำรัวเพราะจะรีบขึ้นสอบ เธอไม่อยากลงทะเบียนวิชาฟิสิกส์ซ้ำอีกแล้ว เสียงดังติ๊ง ประตูเปิดออกกลายเป็นร่างอรชรผมยาวยืนยิ้มอยู่ เอียงคอโบกมือให้พร้อมกับเอ่ยคำทักทายที่ไม่มีใครอยากได้ยินแม้แต่น้อย

    มาคนเดียวเดินเอานะจ๊ะ เราต้องรู้จักประหยัดพลังงาน

    ตบไปก็ไม่ได้อะไรนอกจากกระแทกอากาศ คนโดนแกล้งทิ้งหมัดลงข้างตัวแล้ววิ่งขึ้นไปทั้งความปวดขา จะมีสักกี่คนสามารถเดินขึ้นตึกยี่สิบชั้นได้โดยไม่เหนื่อย เต้ยนั่งหอบหายใจพักและวิ่งสวนแรงโน้มถ่วงโลกขึ้นไปจนถึงชั้นสอบ หญิงสาวมองนาฬิกาหน้าห้อง เลยเวลาสอบมาสองชั่วโมง

    “เมื่อกี้มันเพิ่ง...”

    ฉันทำให้นาฬิกาเครื่องเธอรวนเองแหละ

    คำเฉลยดังกล่าวทำเอาเต้ยโกรธจัด ตัวสั่นหน้าแดง การที่มาสอบปลายภาคไม่ทันแปลว่าส่วนนี้ไม่มีคะแนน และช่วงกลางภาคก็ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะผ่าน จะไปเรียนซัมเมอร์ก็ไม่ทันเพราะมีอีกวิชาที่ติดอยู่ ให้ไปเรียนปีที่ห้าก็โดนสังคมรุมด่าว่าจบช้า อาจารย์คุมสอบเดินออกมาด้านนอก เธอยกมือไหว้

    อาจารย์คะ หนูขอเข้าไปสอบได้ไหมคะ?”

    ตามระเบียบของมหาวิทยาลัยไม่ได้ครับ

    แต่ว่าหนู…” เต้ยจะอ้าปากพูดแต่ก็โดนเข้าสิงก่อน เธอรู้เลยว่าสิ่งที่ไม่สมควรพูดหรือไม่สมควรทำจะถูกผีร้ายทำให้อับอาย แต่ว่าหนูจะสอบ ช่วยหนูหน่อยนะคะอาจารย์ ถ้าอาจารย์ช่วยหนูล่ะก็ หนูจะตอบแทนอาจารย์ด้วยร่างกายของหนูนี่แหละค่ะ อย่าให้ใครรู้ ก็ไม่มีปัญหาจริงไหมคะ?”

    จริตมารยามาชนิดเจ้าตัวแทบช็อก ถึงเธอจะแรดก็ไม่เคยแรดใส่อาจารย์ที่แก่คราวพ่อ เกนหลงที่เข้าสิงถอดกระดุมตัวเองโยนไปอีกทาง ด้านอาจารย์หิสิกส์ได้ชื่อว่าเมียดุมาก และเมียก็เป็นอาจารย์คุมสอบอยู่ห้องข้างๆ ชายคนนั้นรีบผลักหญิงสาวออกเพราะเกรงภรรยาจะว่าเอา

    เพราะเกรงภรรยาจะตีเข่า

    โอ๊ย แค่นี้ก็ช่วยไม่ได้ มาช้าไปแค่สองชั่วโมง ฉันจะร้องอยู่อย่างนี้จนกว่าแกจะให้ฉันสอบเกนหลงสิงร่างศัตรูแหกปากดังไปทั่วบริเวณจงใจทำให้ภาพลักษณ์เสีย อาจารย์ถึงกับเรียกยามมาจับไป เธอได้ร่างกลับมาเป็นของตัวเองอีกครั้ง กลับมาในตอนที่พูดอะไรก็ไม่มีคนเชื่อ และถึงจะขอความช่วยเหลือไปก็จะไม่มีคนสนใจ

    เพราะในเวลานี้เธอคือผู้หญิงหน้าด้านที่เอะอะถอดเสื้อผ้าไม่มียางอาย

    สังคมคนดีย่อมรุมประณามและรังเกียจเธอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×