ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    <ลานเรื่องสั้น, 3> - เปลือยสวาททาสพรหมจรรย์

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่๑๓ โอกาสอีกครั้ง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 61
      1
      28 มี.ค. 62

    ชายหนุ่มรีบมาที่บ้าน

    เป้ย

    ไปหาลูกกัน

    คุณจะไปหาที่ไหน?”

    ฉัน…”

    มันบ้าไปแล้ว เป็นไปได้ยังไงที่ทุกคนจะจำข้าวปั้นไม่ได้?”

    เหมือนกับเขาไม่เคยเกิดมา รูปที่รูปก็หายไป ของเล่นก็ไม่มี การ์ดที่ลูกทำให้วันเกิด ผมแปะอยู่ก็หายเหมือนกัน ผมไม่อยากเชื่อ เอกสารทุกอย่าง ตรงที่เป็นชื่อเขาก็หาย ไปถามเพื่อนสนิทผมที่เคยซื้อของขวัญให้ลูกก็หัวเราะใส่ หาว่าผมบ้าฟังคล้ายเป็นการอำเล่น ซึ่งชายหนุ่มไม่สนุก

    เราไม่มีอะไรยืนยันว่าเคยมีเขา

    ไปโรงพักก็แจ้งความไม่ได้

    หรือว่าเราสองคนบ้ากันไปเอง? ความจริงเราไม่เคยมีลูกด้วยกัน?”

    มันจะเป็นไปได้เหรอ?”

    อย่าบอกนะว่าเป็นโลกคู่ขนานแบบในหนังไซไฟ?”

    ฉันไม่เชื่อ

    แต่มันไม่มีคำตอบอื่น คนตายยังมีศพ หรือหลักฐานให้ตามบ้าง แต่นี่หาย ไม่ใช่หนีออกจากบ้านหรือใครจับตัวไป เพราะต่อให้ลักพาตัว ใครจะมีปัญญาลบทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นได้ ลบหลักฐานราชการ ลบความทรงจำของญาติพี่น้องเรา คนธรรมดาจะทำอย่างนั้นได้ยังไง?”

    ใช่ จะเป็นไปได้หรือ ขโมยของไปยังพอว่า แต่ลบข้อมูลตามโรงเรียน โรงพยาบาล สูติบัตร ทะเบียนบ้าน ถ้าจะทำจริงคงเป็นเรื่องอาชญากรรมร้ายแรงที่ต้องปิดเป็นความลับ แต่เธอเป็นคนธรรมดา ใครจะมาทำกันขนาดนั้น หรือต่อให้ทำ แต่กับปู่ย่าตายายของข้าวปั้น จะถูกล้างสมองให้จำหลานชายตัวเองไม่ได้เหรอ คิดยังไงก็ไม่อาจเป็นไปได้

    เพราะฉะนั้นคำตอบเดียวก็คงเป็นโลกคู่ขนาน เธอกับเขาคงหลุดมาอยู่อีกโลก

    เมื่อวานเขายังอยู่ไหม?

    “เขาอยู่”

    มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”

    ฉันทะเลาะกับข้าวปั้นหญิงสาวตอบ ห่อไหล่ลง รู้สึกแย่กับสิ่งที่ตัวเองทำไปเมื่อวาน บางครั้งคนเป็นแม่ก็คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชีวิตของลูก จนลืมไปว่าลูกก็มีความคิดกับความรู้สึกเป็นของตัวเอง ต๊อดเห็นภรรยาเก่ามักดุด่าข้าวปั้นอยู่เป็นประจำ ก็ไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ไม่มีอำนาจจะช่วยห้าม

    อีกแล้วเหรอ?”

    ใช่ แต่ครั้งนี้แรงกว่าครั้งอื่น

    ยังไง?”

    ......................................................................................................................................................

    “แม่ใจร้าย แม่ไม่เข้าใจผม”

    “ทำไมแม่จะไม่เข้าใจ?”

    “ฮึก... แม่ไม่รักผม ผมไม่รักแม่แล้ว”

    พูดจบ เด็กชายก็วิ่งเข้าไปขังตัวเองในห้อง เป้ยหงุดหงิดกับความเอาแต่ใจของลูก ทำไมลูกไม่เข้าใจความหวังดีของคนเป็นแม่ ที่อยากให้ลูกตัวเองเรียนเก่งมีอนาคตที่ดี อุตส่าห์ทำงานหนักส่งลูกโดยแทบไม่แตะเงินของสามีเก่า ลูกก็ยังงอแง และก็ชอบเล่นกีฬาเหมือนพ่อไม่มีผิด

    ความโมโหทำให้หลุดปากไป

    “แม่ก็ไม่อยากเลี้ยงปั้นแล้วเหมือนกัน”

    ......................................................................................................................................................

    คุณพูดอย่างนี้ได้ยังไง?”

    ฉันขอโทษ ฉันไม่คิดว่า…”

    คุณไม่ควรพูดกับเขาแบบนั้น

    ฉันเองก็เสียใจ แต่ข้าวปั้นดื้อเหมือนคุณ

    ไหนว่ารักลูก เลี้ยงได้ดีกว่าผม ข้าวปั้นอยู่กับคุณ ผมไม่ให้เขาจะมีความสุข ทั้งวันเอาแต่เรียน จะได้ออกมาวิ่งเล่นบ้างก็ไม่มี ตัวเองเก่งหนักหนา แค่จิตวิทยาในการคุยกับเด็กยังไม่มี เด็กมันไม่ได้ออกกำลังกาย อยู่ในห้องเรียนทั้งวัน โดยที่ใจมันไม่ชอบ ร่างกายจะแข็งแรงได้ยังไง พอมันเป็นภูมิแพ้ก็บ่น

    งั้นจะให้วิ่งขายของตามสี่แยกหรือไงล่ะ?”

    คุณเถียงไม่เข้าเรื่อง

    คุณไม่เข้าใจฉัน

    คุณไม่เข้าใจลูก

    อย่าพูดแบบนี้นะ คุณไม่ได้เลี้ยง ไม่ได้เหนื่อย ตอนข้าวปั้นเกิดคุณอุ้มไม่กี่นาทีก็วาง คิดว่าลูกเหมือนเกมอยากหยิบขึ้นมาเล่นตอนไหนก็ได้ ขนาดบอกให้ป้อนข้าวลูกยังทำลูกสำลัก ถ้าข้าวปั้นอยู่กับคุณนะ คงตกบันไดตั้งแต่หัดเดิน เพราะคุณคงเล่นเกมอยู่ หันมาอีกที เอ้า คอหัก

    งั้นต้องเลี้ยงให้ทำอะไรไม่เป็นนอกจากเรียน เข้าใจหนังสือ แต่ไม่เข้าใจชีวิต อย่าพูดให้ตัวเองเป็นคุณแม่ดีเด่น ผมยอมรับว่าทำงานทั้งปี เงินเก็บผมไม่เท่าเงินเดือนคุณ แต่ผมก็อยู่ของผมปกติ ยิ้มแย้มได้ อยู่กับคุณไม่พ้นโตมาเป็นโรคประสาท ผมแค่คุยด้วยไม่กี่นาทียังเวียนหัว

    ฉันอยากให้เขามีชีวิตที่ดี

    คนมีชีวิตที่ดีเขานั่งร้องไห้กันเหรอ?”

    คนที่ชงนมไม่ละลายอย่างคุณรู้เหรอว่าชีวิตที่ดีเป็นยังไง?

    เถียงอยู่นั่น คุณยังไม่รู้ตัวสินะ ที่ข้าวปั้นหายไปก็เพราะคำพูดของคุณ

    พูดเท่านั้นหญิงสาวก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม

    ฉัน…”

    เห็นผมปัญญาอ่อน แต่ผมยังรู้สึกผิด ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะทำตัวให้ดีกว่านี้ ให้คุณไว้ใจที่จะให้ผมดูแลเขา ผมจะไม่เอาแต่เที่ยวเล่นทำตัวไร้สาระ ผมจะตั้งใจชงนมให้เขากิน ผมอยากทำอะไรให้เขาบ้าง ไม่ใช่เป็นไอ้ห่วยไร้อนาคตที่คุณไม่อยากปล่อยให้ลูกอยู่กับผมสองคน

    จริงอยู่ที่ทั้งคู่ไม่เคยรักกัน และยากที่จะรักในแบบชู้สาว แต่ถ้าต๊อดทำตัวพึ่งพาได้ ต่อให้อย่างไรก็ต้องเลิกสถานะสามีภรรยา แยกย้ายใช้ชีวิตตามแบบของตัวเอง หรืออาจไปเจอคู่รักของตัวเอง แต่ก็สามารถเป็นพ่อแม่ที่ดีต่อกัน ช่วยกันดูแลลูก ให้ข้าวปั้นมีครอบครัวที่อบอุ่น

    ฉันขอโทษ ฉันยอมรับว่าฉันก็เป็นแม่ที่แย่ ฉันไม่เคยคิดว่าข้าวปั้นจะรู้สึกยังไง คิดในมุมของตัวเอง ลูกอยู่กับฉันคงไม่มีความสุข ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันจะเล่นกับลูก พาไปกินข้าว วันหยุดออกไปเที่ยว บอกรักเขาทุกวัน ฉันจะไม่ห้ามคุณ ไม่ว่าคุณให้ลูกฟัง ไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก

    เป้ยสะอื้นตัวโยน ชายหนุ่มกอดปลอบ เสียใจไม่ต่างกัน

    อยากขอโอกาสไม่ต่างกัน

    เป้ย!

    ชายชราร้องเสียงดังพร้อมเปิดประตูกระแทกเข้ามา หน้าตาขึงขัง

    ว่าไงคะพ่อ?”

    ยังจะว่าไงอีก ทุ่มกว่าแล้ว ยังไม่รู้ตัวว่าต้องไปรับลูกที่โรงเรียน เจ้าข้าวปั้นมันนั่งรอจนยุงกัด ครูประจำชั้นโทรมาก็ไม่รับต้องโทรเข้าบ้าน พ่อแก่ป่านนี้ต้องนั่งสามล้อไปรับหลาน รอรถอยู่ตั้งนาน ถ้าจะไม่ไปหรือติดขัดอะไรก็น่าจะบอกกันบ้าง อย่าบอกนะว่าลืม เด็กหายขึ้นมาจะรู้สึก!

    คุณพ่อว่าไงนะครับ?”

    แกก็อีกคน จะมาคุยกับเป้ยก็ตามใจ แต่ทีหลังอย่าคุยจนลืมลูกเต้า

    นี่หมายความว่า…?”

    อดีตสามีภรรยามองหน้ากัน ยิ้มร่าก่อนจะรีบวิ่งลงไป

    ข้าวปั้นยืนนิ่ง ทั้งสองรีบเข้าไปกอด

    เมื่อวานแม่ขอโทษนะเป้ยลูบหลังเด็กชาย จูบเข้าที่แก้ม ดีใจที่ได้ลูกกลับมา เขาคือสิ่งที่มีค่า คือความรักของเธอ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจะเรียนเก่งไหม ได้เกรดเท่าไร มีความสามารถอะไรบ้าง คนอื่นพูดยังไง ยุงกัดเต็มขาเชียว รอแม่นานไหม? หิวไหม? กินอะไรมาหรือยัง?”

    ยังไม่ได้กินครับแม่ วันนี้พ่อก็มาด้วยเหรอครับ?”

    ต้องมาอยู่แล้ว เพราะว่าพ่อจะมาชวนไปเที่ยววันหยุด ว่างไหม?”

    เด็กชายหันไปมองหน้าแม่

    ว่าไง จะไปกับพ่อไหม?”

    “แม่ไม่ว่าผมนะครับ?”

    “ถ้าอยากไปก็ต้องไปกันสิ ขึ้นอยู่กับข้าวปั้นนะ”  

    ไปครับเด็กชายกระโดดโลดเต้น ต๊อดปาดน้ำตาอุ้มจนตัวลอย ยิ้มให้เป้ยอย่างขอบคุณ เขาเชื่อว่าเธอจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้ต่อกัน เช่นเดียวกับที่เขาจะตั้งใจทำงานสร้างฐานะ เก็บออมเป็นเงินให้ลูก ทั้งคู่จะรับผิดชอบ ทำหน้าที่พ่อแม่ คอยดูแลให้ลูกเป็นเด็กที่มีความสุข

    งั้นออกไปกินข้าวกันนะ ไปกินร้านที่ข้าวปั้นชอบกินเป้ยกอดลูกอีกครั้ง รีบเข้าห้องน้ำไปจัดแต่งใบหน้าไม่ให้เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตากับเครื่องสำอางที่ไหลเลอะ ส่วนต๊อดก็ไปหยิบเงินอันน้อยนิดจากกระเป๋าในรถ ด้านข้าวปั้นเมื่อพ่อกับแม่พ้นจากสายตา เขาก็ยิ้มให้กับบางสิ่ง พร้อมยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม

    ขอบคุณมากนะครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×