ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    <ลานเรื่องสั้น, 3> - เปลือยสวาททาสพรหมจรรย์

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่๙ รักไม่มีกฎ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 115
      3
      4 ก.พ. 62

    มิ้งแววตาเหม่อขณะเดินกลับหอพัก เธอเห็นชายที่เคยบอกรักเธอควงไปกับเพื่อนในรุ่น 

    “พี่รักหนูนะ”

    “เมียที่บ้านพี่ล่ะคะ?”

    “พี่กับเขาไม่ได้มีอะไรกัน เราอยู่กันแบบเพื่อน”

    “แล้วกับมิ้งล่ะคะ? พี่เลิกแน่นะ?”

    “แน่สิ มิ้งนั่นพี่ไม่ได้จริงจัง แค่คุยเอง ผู้หญิงคนนั้นสู้หนูไม่ได้สักนิด ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ คืนนี้พี่จะบอกให้ฟังอีกที” หน่องโอบเอวเด็กสาวเข้าใกล้ เธอเองก็ซบลงบนบ่า ปล่อยให้มิ้งที่แอบมองรู้สึกเจ็บปวด เพราะนั่นหมายความว่าเขาไม่เคยมีใจให้เธอและเห็นเธอมีค่าแค่เอาไว้ข้างกาย

    ในขณะที่เธอรักเขา

    “เอ้า มิ้ง”

    เพื่อนสาวเรียกด้วยรอยยิ้ม กอดแขนแน่น

    “มีอะไร?”

    “เปล่า ก็แค่วันนี้จะไปกินข้าวกับพี่หน่อง แล้วก็กะว่าจะไปหาซื้อของสักหน่อย ของใหม่นะ ไม่ใช่ของเก่า” ประโยคนั้นด่ามิ้งเข้าอย่างจัง ชายหนุ่มก็ทำหน้าเฉยไม่สะท้าน ก็แค่คนที่เขาเคยได้จนพอใจ จะทิ้งไปหาคนที่ใหม่กว่าก็ไม่มีอะไรเสียหาย มิ้งน้ำตานองหน้า โกรธและอับอายปนกัน 

    แต่อีกคนไม่โกรธและไม่อับอาย

    เธอคนนั้นคือมุกดา ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของหน่อง

    “มุกดา”

    ชายหนุ่มครางชื่อด้วยความตระหนก

    “อ่อ มากับคนใหม่อีกแล้วเหรอคะ?” มุกดาสำรวจเด็กสาวสองคน ที่ความสวยเทียบเธอไม่ได้สักนิด เนื้อตัวผิวพรรณเธอก็นวลเนียนกว่า หน้าตาเธอก็ดีกว่า คงมีแต่ความเป็นวัยสาว ที่ถึงแม้หญิงวัยสี่สิบจะปรนนิบัติตนเองอย่างไร อาจจะพอทำให้ลดอายุลงไปสิบปี แต่จะให้อ่อนเท่าวัยนักศึกษาคงยาก

    ผู้ชาย ในวัยเริ่มแตกหนุ่มก็อยากได้รุ่นพี่สักคน ให้เขาถูกยอมรับในความโตเป็นผู้ใหญ่

    แต่พอตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่ จะด้วยวัยหรืออะไรก็แล้วแต่ เมื่อตระหนักชัดเจนว่า ผมเริ่มบาง พุงเริ่มย้อย ผิวเริ่มเหี่ยว ไม่ได้เป็นเด็กหนุ่มเนื้อแน่นแบบในอดีต ก็ล้วนโหยหาเนื้อหนังเต่งตึง กับน้ำเสียงฉอเลาะของเด็กสาวสักคนหรือหลายคน ให้ชุ่มชื่นใจ อย่างน้อยก็คงดีกว่าเสียงบ่นเรียกให้ไปตากผ้าของเมียที่บ้านหลายขุม

    “ป้าเป็นใครอะ? เมียแก่ของพี่หน่องเหรอ?

    “หยุดนะ!”

    ผู้ชายสาธารณะห้ามปราม

    “หน่องคะ ถึงจะเป็นแค่เนื้อสดที่หิ้วมา กิโลล่ะก็คงไม่เท่าไร แต่จะหิวยังไงเลือกหน่อยก็ดีนะคะ ถ้าท้องเสียขึ้นมาจะลำบาก ของก็ไม่น่าจะมีคุณภาพ” มุกดาส่ายศีรษะ เด็กสาวปากจัดคนนั้นถึงกับตาเหลือกที่โดนด่า คนแถวนั้นเริ่มหันมามองเหยียด “พวกเมียน้อย ไม่สิ ซื้อเอา คิดเป็นคืนหรือคิดเป็นคนคะ?”

    “อีแก่! นี่แกกล้าด่าฉันเหรอ?”

    “อย่าลามปามเมียพี่นะ”

    “พี่หน่องคะ ไหนว่าไม่รักอีแก่นี่ แต่รักหนูคนเดียวไง”

    “ถ้ายังไม่หยุด อย่าหาว่าพี่ใจร้ายนะ ไป! บอกให้ไป!” หน่องกระชากแขนของเด็กสาวคนนั้นจนห้อเลือดแล้วลากออกไปพ้นสายตา มุกดาเบะริมฝีปาก ไม่ได้โกรธที่สามีคบหากับหญิงอื่น แต่หงุดหงิดที่โดนด่าว่าแก่ ในขณะที่มิ้งยืนน้ำตาไหลพราก อับอายและรู้สึกผิดต่อหญิงสาวอย่างมาก

    มือเรียวยกพนมขึ้น

    “คุณคะ”

    “หืม?”

    “หนูขอโทษนะคะ... ฮึก”

    “นี่เธอร้องไห้ทำไม?” มุกดาขมวดคิ้ว เดินตรงไปหาเด็กสาวด้วยความอยากรู้ ผู้หญิงคนนี้ก็น่าจะเป็นเด็กอีกคนของสามีเธอ แต่กลับไม่เหมือนคนอื่นที่เคยผ่านมา แววตาใสซื่อจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นผู้หญิงของเขา ทั้งยังมาขอโทษเธอที่เป็นเมียหลวง น้ำตาหรือก็นองหน้า ตัวสั่นเทิ้มเหมือนยังเด็ก

    “หนูขอโทษที่ทำร้ายคุณ หนูสมควรที่ถูกคุณด่าค่ะ ถ้าจะตบหนูก็ได้นะคะ”

    “ฉันไม่ได้ด่าเธอนะ”

    “แต่ว่าหนูก็เป็น...”

    “เธอเป็นคนที่ถูกเขาหลอกเหมือนกัน... เหมือนฉัน” แม้จะเป็นเมียหลวง ยังมีคำว่าเมีย แต่เป็นเมียแต่ในนาม เมียตามกฎหมาย แน่นอนว่าไม่เหลือความรักใคร่ห่วงใย สามารถยืนมองเขาไปกับคนอื่นได้ด้วยสายตาว่างเปล่า ขอแค่คนนั้นไม่มาก่อเรื่องให้ปวดประสาทอย่างเมื่อครู่

    “เขาหลอกหนูค่ะ หลอกด้วยว่ายังไม่มีใคร ถ้าหนูรู้ว่าเขามีคุณ หนูคงไม่...”

    “เขาหลอกขนาดนั้นเหรอ?”

    “ค่ะ หนูคิดว่าเขารักหนูจริง แต่ไม่ใช่”

    “เขาไม่เคยรักใคร นอกจากตัวเอง” คำพูดนั้นทำเอามิ้งร้องไห้หนักกว่าเก่า มุกดายืนมอง พาลนึกถึงตัวเองในอดีต วันที่รู้ว่าเขานอกใจครั้งแรก เธอก็ร้องไห้ไม่ต่างจากมิ้งตอนนี้ หญิงสาวเข้าไปกอด ตบบ่าแผ่วเบา “เธอไม่ได้ทำร้ายฉันนะ ฉันไม่ได้รักเขาแล้ว ไม่สักนิด ฉันด่าผู้หญิงคนนั้นเพราะโกรธที่มาเรียกฉันแก่”

    “คุณไม่แก่นะคะ คุณยังสาว และก็สวยกว่าหนูอีกค่ะ”

    แววตาอันเคยคลอไปด้วยหยาดน้ำกลับมีประกาย

    มุกดาเองก็เช่นกัน

    “ไม่ต้องคิดมากนะ นึกว่าฉันเป็นเพื่อนเธอคนหนึ่ง เพื่อนที่เจอผู้ชายชั่วคนนั้นหลอกเหมือนกัน ถึงตอนนี้เธอจะเสียใจ แต่สักวันเธอจะแกร่งขึ้นเหมือนฉัน อืม... ถ้าส้วมที่บ้านเต็ม แล้วมีคนดูดไปทิ้งให้ ก็น่าจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ? เอาของเสียออกไป? เอาคนนิสัยเสียออกไป?”

    “ค่ะ”

    ความเงียบเข้ามาแทนที่จนอึดอัด

    ถ้าไม่มีอะไรอีก คงต้องจบการสนทนา แยกย้ายกันกลับบ้าน แต่มุกดาไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเดินกลับไป โดยที่เธอไม่มีโอกาสรู้จักชื่อหรือพูดคุยมากกว่าที่เป็น แม้จะเป็นคำพูดที่ไม่ได้มีอะไรเข้าใจยาก แต่มันกลับออกมา ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากอยู่กับเด็กสาวต่อ หรือได้คุยอะไรมากขึ้น

    “นี่ จะไปเดินกับฉันไหม?”

    “หนูเหรอคะ?”

    “ก็ใช่นะสิ ฉันเดินคนเดียวก็เบื่อ”

    “แต่ว่า...” มิ้งขมวดคิ้ว ถึงอย่างไร อีกฝ่ายก็ได้ชื่อว่าเป็นเมียหลวง ส่วนเธอไม่ว่าผู้ชายนั่นจะเรียกเธอว่าอยู่ในสถานะไหน ตามปกติ เมียหลวงย่อมเกลียดชังเธอแน่ แต่กับหญิงสาวคนสวยที่เธอเห็น นอกจากจะมีท่าทางเป็นมิตร ความเข้มแข็งนั้นยังเจือไปด้วยความอ่อนโยน

    “ฉันไม่ดักเธอไปตบนะ เราเป็นเพื่อนกันไง”

    สองสาวมองตากัน ความสัมพันธ์อันเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น 

    ......................................................................................................................................................

    ความเข้าใจแปรเปลี่ยนเป็นความรัก

    คราวแรก มิ้งอาจจะรู้สึกผิด มุกดาอาจจะเห็นใจ แต่เมื่อพูดคุยกันก็เกิดความเข้าใจ คงเพราะเคยเจอเรื่องเดียวกันจากคนร้ายเดียวกันจึงคุยกันง่าย พอคุยไปก็พบว่ามีความสนใจในเรื่องคล้ายกันอีก ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารหรือจัดแต่งดูแลบ้าน ทั้งคู่สามารถพูดคุยกันได้โดยสนิท

    หัวใจที่เคยแห้งผากของมุกดากลับมาชื้นอีกครั้ง หลังจากได้พูดคุยกับอีกฝ่าย ที่ผ่านมาเธอไม่อยากเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟัง เพราะไม่อยากให้คนอ่านมายุ่งเรื่องการตัดสินใจในชีวิตคู่ของเธอว่ามันถูกหรือผิด แต่กลับมิ้ง เธอสามารถเปิดใจได้ทุกเรื่อง ใกล้ชิดกันจนผูกพันในเวลาอันสั้น

    สายตาที่มองมา กลับอบอุ่นและชวนหวั่นไหว

    “พี่มุกดาคะ ขนมอบเสร็จแล้วค่ะ”

    “มาให้พี่ชิมสิคะ”

    เด็กสาวหยิบคัพเค้กให้ พวงแก้มแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มุกดารับมากิน ความหวานของมันไม่สามารถเทียบได้กับรอยยิ้มหวานสดใสของมิ้งสักนิด เวลาที่จิตใจไม่ถูกทำร้าย ความสุขหวานชื่นย่อมปรากฏเต็มหน้า เธอทั้งสองรู้สึกดีใจกับการช่วยกันทำขนมกินในเวลาว่าง

    “อร่อยไหมคะพี่มุกดา?”

    “อร่อยมากค่ะ”

    “พี่มุกดาคะ”

    มิ้งเรียกด้วยความเก้อเขิน ทั้งคู่ใจสั่นกว่าเดิม แม้จะเป็นความรู้สึกอันรวดเร็วและผิดจากที่คาด แต่มันไม่ใช่การคิดไปเองฝ่ายเดียวหรือแค่ความเหงา เหมือนต่างฝ่ายต่างมาเติมเต็มให้กัน โดยเฉพาะอยากปกป้องอีกฝ่ายจากการถูกผู้ชายคนนั้นทำร้าย อยากเป็นคนที่ทำให้อีกคนยิ้ม

    “มีอะไรหรือเปล่า?”

    “คือว่าหนู... ไม่มีอะไรค่ะ”

    “แต่พี่ว่าพี่มี”

    “คะ?”

    มุกดาสูดลมหายใจลึก จ้องลึกไปยังดวงตาของอีกฝ่าย ใช้ความรู้สึกบ่งบอกออกมาทางการกุมมือที่อบอุ่น เมื่อก่อนมุกดาคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ไม่มีทางชอบผู้หญิงด้วยกัน แต่การได้พบเจอเด็กสาวคนนี้ กลับทำให้เธอรู้ว่า สำหรับเธอแล้วความรักคือเจ้าของมือที่เธอกุมอยู่

    “พี่รักมิ้งนะ มิ้งรักพี่ไหม?”

    “หนูรักพี่ค่ะ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×