ตอนที่ 4 : ตอนที่๓ ความจริงที่ต้องยอมรับ
ดวงตาคู่หนึ่งพยายามปรือขึ้นมาทั้งความหนักอึ้ง
ห้องที่เขาอยู่ขณะนี้ตกแต่งอย่างหรูหราแต่ตุ๊กตาผ้านั้นทำให้ดูเป็นห้องของสตรีมากกว่าบุรุษ สีผ้าชมพูนุ่มนวลทำให้เฮียคุขมวดคิ้วช้าๆ แล้วยันตัวขึ้นมา
เฮียคุถึงกับใจหายวาบ มือที่เคยแข็งแกร่งของเขากลับกลายเป็นมือเรียวเล็กนุ่มนิ่ม เขาเอามือมาสัมผัสหน้าก็ได้พบกับผิวพรรณอันเรียบลื่นไร้หนวดเครา เฮียคุที่ถูกฝึกมาอย่างดีให้มีจิตใจหนักแน่นถึงกับตะลึงลานทำอะไรไม่ถูก เขารีบวิ่งไปส่องกระจกที่อยู่ในห้องน้ำ
และเขาก็พบกับ...
กับ...
กับ...
กับ...
กับ... ผู้หญิง... ที่กำลังอยู่ในวัยสวยสะพรั่ง ทรวดทรงพอเหมาะพอเจาะเข้ากับใบหน้าหวานละมุน นางช่างงดงามเหมือนตุ๊กตากระเบื้องตัวน้อยๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่สาระสำคัญอีกต่อไป เฮียคุไม่ได้สนใจว่านางสวยหรือไม่ เขาสนแค่ว่าเขาเป็นผู้ชายและควรจะอยู่ในร่างที่สูงใหญ่กำยำของผู้ชาย
“ไม่...”
มือไปไวกว่าความคิด เขายกมันขึ้นมาสัมผัสเนินอกอวบอิ่มที่อยู่บนอกตัวเอง เท่านั้นเขาก็น่าซีดเผือด เฮียคุเอามือถูกหน้าจนหน้าดำหน้าแดงหวังว่าจะมีใครกลั่นแกล้งเอาหน้ากากให้เขาใส่ แต่พอไม่มีประโยชน์อะไรเขาก็เปลี่ยนมาตีอกชกหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่งแม้ว่าเรี่ยวแรงนั้นจะน้อยลงทุกขณะ ท่ามกลางจิตใจที่ว้าวุ่น ความคิดบางอย่างก็ถูกจุดประกายขึ้น ในสถานการณ์แบบนี้อย่าหาว่าเขาลามกหรือใฝ่ต่ำอะไรเลย
เรื่องบางอย่างต้องได้รับการพิสูจน์...
เฮียคุถลกกิโมโนขึ้นมาเปิดส่วนสงวนขึ้นมาดู ทั้งสติสัมปชัญญะที่ลดน้อยถอยลงทุกขณะ ชายหนุ่มตะลึงตาค้างกับภาพที่เห็นเป็นภาพแรกในชีวิต
เพราะมันเป็นอย่างที่คิดไม่มีผิด!!
“ไม่จริง!!”
เสียงเล็กๆ บาดเสียดไปถึงรูหู เฮียคุที่ไม่แสดงอารมณ์ทางสีหน้ามานานแล้วถึงกับหน้าซีดเผือดและถอยหลังไปหลายจังหวะ ดวงตากลมโตเบิกกว้างราวไข่ห่านกับสภาพร่างกายที่เห็น มือถูกยกขึ้นมาทึ้งศีรษะข้าๆ เขาไม่อยากเชื่อว่าเรื่องพรรค์นี้จะมีอยู่บนโลก
ไม่อยากเชื่อว่าจะมีเรื่องบ้าๆ พรรค์นี้อยู่บนโลก!!
“คุณหนูคะ คุณหนู” และเสียงโหวกเหวกนั้นก็ทำให้หญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้อง เฮียคุยังตื่นตะลึงไม่พร้อมรับรู้อะไรที่เกิดขึ้น
“ไม่... มันไม่ใช่เรื่องจริง... ข้าฝันไป...” เฮียคุยังคงทึ้งศีรษะและทำร้ายตัวเองซ้ำๆ ไม่ว่าจะตบหน้าตัวเองหรือหยิกจนเนื้อเขียว แต่เขาก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ เขากลายเป็นผู้หญิงบอบบางที่หน้าซีดจนเป็นสีขาวโพลนอย่างไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย
“คุณหนูเป็นอะไรไปคะคุณหนู?”
“มันเป็นไปไม่ได้!! มัน...”
พูดได้เท่านั้นความมืดก็เข้ามาครอบครองหัวสมอง เขารู้สึกได้ถึงความวิงเวียนครู่หนึ่ง ร่างสูงโปร่งล้มลง โลกของเฮียคุมืดลงไปอีกครั้ง
......................................................................................................................................................
ผ้าหมาดๆ ถูกใช้เช็ดใบหน้านวลเนียนของหญิงสาววัยประมาณยี่สิบปี
“ฟื้นหรือยังคะคุณหนู?” เสียงใสแจ๋วดังเข้าโสตประสาท เฮียคุปรือตาขึ้นมาอีกรอบด้วยความทรมานใจ คราวนี้เขาเห็นหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักของสตรีนางหนึ่ง น่าจะเป็นคนเดิมกับที่เขาเห็นตอนแรกแต่ตอนนี้เขามีสติพอจะเพ่งพินิจพิจารณานางได้ นางมีตากลมๆ และจมูกเล็กๆ โด่งรั้น รูปร่างของหญิงสาวค่อนข้างเล็กแต่ดูกระฉับกระเฉงแข็งแรง
เฮียคุยังไม่ตอบ สบตานางปริบๆ
“รู้สึกดีขึ้นหรือยังคะ?”
“เอ่อ... คือ... ข้า... เอ่อ...” อดีตหนุ่มยอดฝีมือพึมพำด้วยเสียงเล็กๆ เขามองมือมองเท้าตัวเอง สีนวลของเนื้อและขนาดเรียวเล็กบ่งบอกได้ว่ามันยังคงเป็นของอิสตรี บ่งบอกได้ว่าสิ่งที่เขาเห็นมันเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ความฝันหรือภาพมายาอย่างที่เขาต้องการ
“คุณหนูหาหมอเถอะนะคะ วันนี้คุณหนูเป็นลมไปสามรอบแล้วนะคะ”
“สามรอบ!?”
“ตกใจทำไมกัน? จำไม่ได้เหรอคะ?” ไอโกะขมวดคิ้วกับพฤติกรรมผิดปกติของเจ้านายพลางเอามือแตะหน้าผากวัดไข้อย่างเบามือราวกับว่าถ้าสัมผัสแรงกว่านี้ร่างสูงโปร่งจะแตกสลายอย่างไรอย่างนั้น “วันนี้คุณหนูดูแปลกๆ ไปนะคะ มีอะไรหรือเปล่า?”
“เอ่อ... จำได้สิ”
“แล้วนี่ตกลงคุณหนูไปเป็นลมนอกคฤหาสน์ได้ยังไงคะ?”
“เป็นลมนอกคฤหาสน์?”
“ก็ใช่น่ะสิคะ ตอนเย็นๆ คนสวนไปเจอคุณหนูสลบนิ่งอยู่นอกคฤหาสน์ พวกข้าต้องช่วยกันอุ้มกลับมา” ไอโกะเล่าได้เท่านั้นเฮียคุก็ถามแทรกขึ้นมาก่อน
“ข้าไปอยู่นอกคฤหาสน์?”
“ใช่ค่ะ นึกยังไงถึงไปคะ? ปกติคุณหนูเดินไม่ค่อยไหวนี่นา?”
“นอกจากข้าจะเป็นลมบ่อยข้ายังเดินไม่ไหวอีกเหรอ?” เฮียคุมึนตึบถึงสิ่งที่ได้ยิน นอกจากจะต้องมาอยู่ในร่างผู้หญิงแล้วเขายังต้องมาอยู่ในร่างผู้หญิงที่อ่อนแออีกหรือนี่
“ก็ใช่น่ะสิคะ ข้ายังงงอยู่เลยว่าคุณหนูนึกยังไงถึงออกไปอย่างนั้นได้ จริงสิคะ คุณหนูคิดยังไงถึงออกไปเดินนอกคฤหาสน์คะ? คนอื่นเป็นห่วงหมดรู้ไหม?”
“ข้า... เบื่อๆ น่ะ เลยออกไปเดินเล่น”
“ตอนเช้าข้าชวนคุณหนูแต่คุณหนูไม่ไปนะคะ?”
“ก็นั่นแหละ พอดีข้าอยากไปตอนเย็นไง”
“แต่ปกติตอนเย็น คุณหนูจะเตรียมตัวอาบน้ำนอนแล้วนะคะ” ไอโกะสงสัยหนักกว่าเก่า คุณหนูคิโยมิมักจะนักเศร้าซึมไม่ยอมออกไปไหน กิจวัตรประจำวันก็มีแค่ นอน กิน อาบน้ำ แล้วก็หลับไป เรื่องอยากเดินชมนกชมไม้เหมือนผู้หญิงสุขภาพดีคนอื่นๆ ไม่ค่อยจะมี
“วันนี้ข้ายังไม่อยากนอนไง”
“แล้วไม่ง่วงหรือคะ? เมื่อคืนคุณหนูก็บ่นปวดท้องจนแทบไม่ได้นอน...”
“และข้าชักจะปวดหัวแล้วด้วย”
“อะไรกันคะ? ปวดหัวอีกแล้วเหรอ? ล่าสุดท่านหมอเพิ่งรักษาอาการท่านหายเองนะคะ!” ไอโกะขมวดคิ้วมุ่น “วันนี้คุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ข้าก็เป็นของข้าอย่างนี้แหละ เจ้าจะมาสงสัยอะไร?”
“สงสัยสิคะ ก็ปกติคุณหนูไม่ใช่แบบนี้เลย มีอย่างที่ไหนลุกขึ้นมาเดินออกไปนอกคฤหาสน์คนเดียว?” ไอโกะยังคงงงกับปัญหาที่หาคำตอบไม่ได้ อยู่ดีๆ คุณหนูของนางก็ออกไปข้างนอกทั้งร่างกายที่บอบบางเหมือนจะแตกสลายได้ทุกเมื่อแล้วยังจะคำพูดคำจาไม่คุ้นหูอีก
“เอาเถอะน่า เจ้าก็อย่าขยันจับผิดข้านักเลย คนเรามันก็มีเปลี่ยนแปลงกันได้ ใครมันจะคิดอ่านเหมือนเดิมได้ตลอดเวลาเล่า เวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน การที่ตอนเช้าไม่อยากไปเดินเล่น ไม่ได้แปลว่าตอนเย็นข้าต้องไม่อยากไปเดินเล่น อย่าเพิ่งมองอื่นไกลเลย เจ้าไม่เคยหรือไงที่ตอนยังไม่หิวข้าวก็ไม่อยากกินข้าว มีคนเอามาป้อนถึงที่ก็ยังไม่อยากกินข้าว แต่พอผ่านไปหลายชั่วโมงหรือทำอะไรเหนื่อยๆ ขึ้นมาก็หิวแล้วอยากกินข้าว ทีนี้ต่อให้ไม่มีกิน ก็ต้องขวนขวายออกไปหากิน เรื่องพรรค์นี้มันธรรมดาสามัญ ไม่เห็นใช่เรื่องใหญ่อะไรที่น่าเอะใจสักหน่อย ไม่มีความจำเป็นที่เจ้าต้องเอามาถามข้าให้มากความเลย” อดีตหนุ่มหล่อส่ายศีรษะไปมา เขาคร้านจะพูดมากเพราะขืนพูดไปแล้วมีพิรุธจะเดือดเนื้อร้อนใจตัวเองเปล่าๆ สู้สงบปากสงบคำไว้จะดีกว่า ในเมื่อนี่ไม่ใช่ความฝัน ถึงจะเหลือเชื่อไปมากก็ไม่ใช่ความฝัน เขากลายเป็นผู้หญิงไปแล้วจริงๆ ครั้นจะให้อาละวาดตอนนี้คงไม่มีประโยชน์กับตัวเองนัก เพราะเขาอาจโดนหาว่าเป็นคนบ้าแล้วถูกจับมัดไว้กับเสาอย่างที่คนบ้าหลายคนโดนกัน และนั่นจะทำให้เขาทำอะไรได้ยากลำบากกว่าเดิม และเรื่องกลับคืนร่างจริงของตัวเองไปทำภารกิจตามหน้าที่ของเพชฌฆาตร้อยปรลัยคงเป็นเรื่องที่ฝันไปได้เลย
“ก็จริงแหละค่ะ แต่...”
“อย่าเพิ่งถามน่า” เฮียคุเปลี่ยนประเด็น ใจหนึ่งก็รำคาญที่โดนถามจุ้นจ้าน แต่พอเห็นตากลมๆ แป๋วๆ คู่นั้นแล้วเขาก็โมโหไม่ลง อาจจะเพราะบางอย่างทำให้เขาสัมผัสได้ว่าสาวใช้นางนี้จงรักภักดีต่อเจ้าของร่างที่เขาอาศัยอยู่อย่างมากก็เป็นได้ “ข้าหิวแล้ว”
“มื้อนี้คุณหนูจะรับอะไรคะ?”
“เอ่อ... มีสาเกไหม?”
“สาเก!?”
“ใช่ มีสาเกไหม?”
“คุณหนูดื่มสาเกไม่ได้นะคะ!!” ไอโกะห้ามสุดฤทธิ์ ปัดโธ่ คุณหนูผู้บอบบางของนางคิดอย่างไรที่จะลุกขึ้นมาดื่มสาเก ขืนดื่มไปมีหวังท้องไส้ปั่นป่วนต้องนอนน่วมเป็นวันๆ แน่ ด้านเฮียคุโดนห้ามอะไรพอทนไหว แต่พอโดนห้ามดื่มเหล้าก็ฉุนเฉียวแทบสติขาดขึ้นมาทันที
“ทำไม? ข้าจะดื่ม!!”
“สุขภาพคุณหนูไม่ดี คุณหนูดื่มไม่ได้ค่ะ”
“ข้าจะดื่ม ยังไงข้าก็จะดื่ม”
“แต่ว่า... แต่ว่า...”
ไม่ทันจะห้ามปราม เฮียคุก็วิ่งลงจากเตียงแล้วแล่นไปหาโรงครัวโดยไม่รีรออะไรทั้งสิ้น คนอย่างเฮียคุเรียกได้ว่าเหล้าหกหยดเดียวก็ได้กลิ่น
และยิ่งเป็นสาเกแก้วโปรดก็ยิ่งได้กลิ่น
อดีตชายหนุ่มวิ่งมาจนถึงที่มาของกลิ่น เขาเจอไหสุราขนาดใหญ่ก็รีบเปิดมันขึ้นแล้วซดเสียดังพรวดๆ กลิ่นสุราหอมยวนใจบัดนี้แสบไปถึงไส้ มันเป็นความทรมานบนความสุขที่ใครก็หยุดเขาไม่ได้ เขาอยากดื่ม เขาต้องได้ดื่ม ต่อให้หลอดลมจะถูกกร่อนจนกลายเป็นเลือด เฮียคุต้องได้ดื่ม
เพราะนี่แหละ คือ ‘เฮียคุ’
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

137 ความคิดเห็น
-
#46 หิมะกลางทะเลทราย (จากตอนที่ 4)วันที่ 26 ตุลาคม 2559 / 22:46สลับร่างแล้ว#460
-
#30 ลูกชุบ (จากตอนที่ 4)วันที่ 26 ตุลาคม 2559 / 10:02ชีวิตบัดซบจริง#300
-
#7 *lจ้าxญิJกุxลาUน้ำแข็J* (จากตอนที่ 4)วันที่ 24 กรกฎาคม 2559 / 14:54555 เฮียคุผู้น่าฉงฉาน#70