ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fiction Singular : Who Cares?? เด็กกว่าแล้วไง!!!

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 133
      0
      10 มี.ค. 57

    -ลานจอดรถ-

    หลังจากแยกจากท่านผอ.มาแล้ว ผมก็รีบตรงดิ่งมารถทันที คิดไว้ว่าจะแวะห้างหาอะไรกินแล้วก็เดินเล่นเพลินๆสักหน่อย ไหนๆก็ออกมาแล้ว แต่ระหว่างทางก็มีเสียงเรียกที่คุ้นๆดังทักมาซะก่อน

     

    “ซิน! ใช่ซินรึเปล่าน่ะ?”

     

    ใครวะ?! เสียงคุ้นจัง เหมือนเคยได้ยินที่ไหนน้า มันคุ้นๆ คุ้นมากมาย คุ้นสุดๆ เฮ้ย...ต้องใช่แน่ๆ ต้องใช่แน่เลยว่ะ

     

    “ก็หันมาดูสิไม่หันมาจะรู้มั้ยฮะ? เอ้อ!! ไม่เคยจะเปลี่ยนอ่ะ”

     

    “พี่โต๋!! เฮ้ย พี่โต๋จริงๆด้วยอ่ะ! คิดถึงมากอ่ะ”

     

    พอหันไปเห็นหน้าพี่โต๋ รุ่นพี่ที่สนิทกันตอนเรียนมหาลัยผมก็กระโดดกอดพี่เขาซะเต็มที่เลย ก็พอพี่เขาไปเรียนต่อที่อังกฤษ ก็ไม่ได้เจออีกเลยนี่ โห..พอพี่ไปอยู่นอก ออร่า จับขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย

     

    “เอ้าๆ กอดเข้าไปๆ ใจจะขาดละโว้ย!! 5555

     

    “โห พี่โต๋พอไปอยู่นอกเนี่ย ออร่าจับซะอลังการเลยนะ 55555 แล้วมาทำอะไรที่นี่อ่ะพี่!

     

    “แกก็พูดเว่อร์ไปซิน ออร่า อะไร นี่ก็มาสมัครงานเนี่ย! อยากเป็นคุณครูสอนที่นี่ว่ะ 5555”

     

    “ว้า....ช้าไปละพี่ ผอ.เพิ่งรับผมเข้าทำงานเมื่อกี้นี้เองอ่ะ โทดทีนะพี่!

     

    พอเห็นว่าพี่โต๋จะมาสมัครงาน ผมก็เกิดอารมณ์อยากจะแหย่สักหน่อย แหม..หนุ่มนักเรียนนอกมาสมัครงานมีเหรอจะถูกปฏิเสธ ต้องโดนแกล้งสักหน่อย รับน้องๆ 555555

    “เฮ้ย ไม่จริงใช่ป่ะ นี่พี่อยากอยู่ที่นี่มากนะ เฮ้ย ซินทำงี้ได้ไงวะ!

     

    พี่โต๋โวยวายใส่ผมใหญ่เลยว่ะ 55555 สะใจดีเว้ย เอ้าๆ โวยวายอย่างเดียวไม่พอ ผลักหัว ขยี้หัวอีก เลิกแกล้งก็ได้ว้า เดี๋ยวจะเสียใจตายไปซะก่อน

     

    “55555 ผมล้อเล่นน่า ผมสอนที่นี่ได้สองปีละ ถ้าพี่เข้ามาใหม่ก็เป็นรุ่นน้องผมอ่ะนะ น้องโต๋! อย่างพี่อ่ะ ผอ. รับอยู่แล้วแหละ รีบไปสมัครเลยพี่ สู้ๆ!

     

    “โหย..ใจหายหมดว่ะ เล่นไรวะ รุ่นพี่รุ่นน้องไรกัน ชั้นเข้ามาทีหลังแต่พี่ก็แก่กว่าแกนะ ลามปามๆ พี่ไปละ เดี๋ยวมีคนตัดหน้า แล้วเจอกันนะ มาๆ กอดอีกทีๆ คิดถึงๆ 5555”

     

    ผมเข้าไปกระโดดกอดพี่โต๋อีกที ก่อนที่จะมีเสียงบีบแตรรถดังสนั่นดังขึ้นมา

     

    #ปรี้นนนนนนนน ปรี้นนนนนนน ปรี้นนนนนนนน#

     

    บีบไรวะน่ะ จะเอาที่จอดหรอ ที่ว่างเยอะแยะ ไม่จอดวะน่ะ ยังไม่ทันที่ผมจะเดาอะไรต่อไป ไอ้คนบีบแตรรถมารยาททรามนั่น ก็ลดกระจกรถสีแดงคันหรูสุดแพงของมัน ตะโกนใส่ผมกับพี่โต๋เสียงดัง

     

    “เฮ้ย จะออกป่ะ รถอ่ะ จะจอด มัวแต่ยืมกอดกันอยู่นั่นอ่ะ โว๊ะ! หนุ่มสาวสมัยนี้ทำไรไม่อาย ขนลุกว่ะ”

     

    ผมหันไปมองไอ้คนที่เปิดกระจกขอที่จอดแบบทรามๆเต็มตา ก่อนจะพบกับผู้ชายที่หน้าตาดูเหมือนถั่วงอกป่วย เหมือนคนไม่ได้กินกาแฟตอนเช้า ผมนี่เซ็ตซะไม่ให้โผล่ชี้ออกมาสักเส้น แหม่! ใหญ่มาจากไหนวะ หน้าตาก็ดีนะ แต่มารยาทน่ะ ทรามไปป่ะ!

    “นี่คุณครับ! จะจอดก็พูดดีๆได้ครับ ผมจะออกให้เดี๋ยวนี้แหละ ไม่ต้องพูดจาห้วนอย่างนั้นก็ได้ ซินไปนะพี่ หวัดดีครับ!!

    “ฮะ! ไม่ใช่ผู้หญิงหรอ..”

     

    ผมเดินไปที่รถทันที โดยไม่หันกลับไปมองไอ้คนไร้มารยาทนั่นอีก ได้ยินแต่เสียงอุทานแบบตกใจเบาๆที่รู้ว่าผมเป็นผู้ชาย มันน่าสับสนขนาดนั้นเลยหรอ  นี่ผมเหมือนผู้หญิงตรงไหนเนี่ย!!!!!!

     

    #Nut Part#

     

    ผมรีบสาวเท้าอย่างรวดเร็วตรงไปยังห้องผู้อำนวยการด้วยความรวดเร็วแสงปานจรวดติดเทอร์โบ ก็ปู่น่ะสิ โทรไปหาผมตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ว่ามีเรื่องที่สำคัญมากๆที่จะต้องบอก มันก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก ถ้าเมื่อคืนผมไม่ได้บังเอิญไปลั้ลลาอยู่ที่หัวหิน และต้องรีบบึ่งรถมาตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อที่จะมาให้ทันเวลานัดแปดโมงครึ่งที่ปู่ไม่ได้เห็นใจผมเลย บึ่งมาแค่ไหนก็ได้เท่านี้แหละครับ เก้าโมงกว่า ต้องโทษหนุ่มสาว เอ้ย ไม่ใช่สิ สองหนุ่มที่ลานจอดรถนั่นต่างหาก จะว่าก็ว่าเถอะครับ ไอ้คุณผู้ชายผมยาวที่ลานจอดรถเมื่อกี้นี้ มันเหมือนผู้หญิงจริงๆนะครับ ผมไม่ได้เซ่อนะครับ! พอเดินถึงหน้าผมก็เปิดประตูเข้าไปในห้องทันที ก่อนจะตะโกนโวยวายตามสไตล์คนหล่อสักนิด

     

    “ปู่! เรียกผมมามีไรเนี่ย?! นี่ผมรีบมาจากหัวหินเล...”

     

    แต่กลับพบกับท่านปู่ผู้ยิ่งใหญ่กำลังนั่งฟังเพลงสากลยุคพระเจ้าเหาด้วยท่าทางเคลิบเคลิ้มมีความสุข ไม่ได้ดูรีบร้อนเหมือนอย่างผมเลยสักนิดเล่นเอาอ้าปากค้างไปเลย อีกทั้งเมื่อเห็นว่าผมเดินเข้ามาก็เพียงแค่ปรายตามามองนิดๆ ก่อนจะหมุนเก้าอี้หันมาทางผมและบอกให้นั่งลงก่อนพร้อมกับเอ่ยว่าเรื่องผมมาสายด้วยน้ำเสียงสบายๆ

     

    “นั่งก่อนสิ...แกมาสายนะ เทรนเนอร์แกกลับไปแล้ว”

     

    “เทรนนง เทรนเนอร์ไรปู่ แล้วตกลงยังไง นี่ผมรีบมาจากหัวหินเลยนะ”

     

    “ก็แค่จะให้มาเจอว่าที่เทรนเนอร์แกแค่นั้นแหละ แต่เขากลับไปแล้ว งั้นไว้เจอกันจันทร์หน้าทีเดียวละกัน ไม่มีอะไรแล้ว แกจะไปไหนก็ได้เลย...เดี๋ยวจะมีคนมาสมัครงานอีก”
     

    “ปู่ว่าไงนะ! เรียกผมมาแค่นี้! เออดีจริงๆ ดีมาก งั้นผมไปล่ะ...เหอะ!

     

    ผมเดินออกมาจากห้องปู่ด้วยอารมณ์ที่บูดอย่างเต็มที่ก่อนจะเดินสวนกับไอ้ผู้ชายที่ลานจอดรถที่มองผมด้วยท่าทางงงๆ แต่ผมไม่สนหรอกครับ เหอะ! นี่อะไรกันครับ บึ่งรถออกจาหัวหินตั้งแต่ 6 โมง เพื่อมาฟังปู่บอกว่า ไม่มีอะไรแล้วเนี่ยนะพอถึงรถผมก็รีบขับออกมาด้วยความเร็ว หึ! แน่นอนครับว่าจุดหมายผมไม่ใช่ที่บ้านแน่ๆ แต่จะเป็นที่ไหนน่ะเหรอครับ หึเดี๋ยวก็รู้!

     

    “ฮัลโหล...น้องกอล์ฟหรอครับ วันนี้ว่างรึเปล่า?? ออกไปเดินเล่นกับพี่ที่ห้างได้มั้ยครับ”

     

    (อ้าว! ไหนพี่ณัฐบอกว่าจะไปหัวหินสองสามวันไงคะ??)

     

    “พอดีพี่มีธุระต้องกลับมาทำน่ะจ๊ะ ตอนนี้พี่ทำธุระเสร็จแล้ว อยากเจอน้องกอล์ฟมาก ออกไปกับพี่นะครับ..น้า”

     

    (อ้อนตลอดเลยนะคะพี่ณัฐ งั้นก็ได้ค่ะ)

     

    “เย้...งั้นเดี๋ยวพี่เข้าไปรับที่บ้านะครับ แล้วเจอกันนะครับ บาย”

     

    (ค่ะ บายย)

     

    อย่าเพิ่งสงสัยกันครับ...น้องกอล์ฟเนี่ยเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ผมคุยๆด้วยอยู่ วันเซ็งๆแบบนี้ถ้ามีสาวน่ารักๆมาอยู่เป็นเพื่อนมันจะทำให้จิตใจเบิกบานขึ้นน่ะสิครับ


    -ห้างสรรพสินค้า-

     

    #Sin Part#

     

                    ผมขับรถเข้ามาในบริเวณห้างที่อยู่แถวๆบ้าน กะว่าจะไปเดินเล่นและหาอะไรกินตอนเที่ยงสักหน่อย เฮ้อ...ไม่อยากจะคิดเลยนะครับว่า ผอ.จะไว้ใจผมขนาดฝากให้คุมหลานชายของตัวเอง แต่ประเด็นคือผมจะรับมือไว้มั้ยครับเนี่ย! จากชื่อเสียงในด้านดี(หรอ?)ที่ผมได้ยินมา มันช่างสร้างความหนักใจให้ผมจริงๆนะครับ

     

                    “ครูพี่ซิน!

     

                    “ฮะ? ” เอ่อ..นี่มันวันรวมญาติผมหรอครับเนี่ยทักกันจริง

     

                    “สวัสดีค่ะ มาคนเดียวหรอคะ??

     

                    “อ้าว! สมายเองหรอ ครูก็นึกว่าใคร..พอดีเมื่อเช้าครูแวะเข้าไปโรงเรียนมา ก็เลยกะจะมาเดินเล่นแล้วก็หาอะไรกินหน่อยน่ะ..สมายล่ะมากับใคร?”

     

                    “พอดีมายมากินข้าวอ่ะค่ะ..พี่จูพามาเลี้ยง”

     

                    “อ้อ..แล้วจูเนียร์ไปไหนแล้วล่ะ? เดี๋ยวนี้สนิทกันจริงนะ!

     

                    “555555 ไปซื้อไอติมมั้งคะ ก็เจอกันบ่อยเลยสนิทกันนิดนึง งั้นเดี๋ยวมายไปหาพี่เนียร์ก่อนนะคะ หวัดดีค่า^^

     

                    “จ้า..ตามสบายเลย ครูก็จะไปหาอะไรกินละ บ้ายบาย^^

     

                    สมายเดินไปหลังจากที่ทักทายกันเล็กน้อย เธอเป็นนักเรียนโรงเรียนของผมเองล่ะครับ ผมเห็นพัฒนาการด้านความสามารถทั้งร้องและแสดงของเธอมาสองปีแล้ว เด็กคนนี้ขยันพัฒนาตัวเองจริงๆ  ผมคงจะเดินไปหาร้านอาหารนั่งกินข้าวสักร้าน ถ้าไม่ติดว่าสายตาเจ้ากรรมดันเหลือบไปเห็นร้านตุ๊กตา ซึ่งเจ้าตุ๊กตาที่นั่งตาแป๋วโชว์อยู่หน้าร้านนั้นคือ...

     

                    จี้ *o*

     

                    อ๋า..จี้น่ารักมากมาย ไม่ได้ละ ตัวนี้ยังไม่มีด้วย โชคดีจริงๆเลยเรา ผมไม่รอช้ารีบเดินตรงไปที่ร้านนั้นทันที พอถึงก็รีบหยิบเจ้าจี้น้อยขึ้นมากอดทันที โอ๋...มาอยู่กับป๊านะลูก ฮุฮุ ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินไปจ่ายเงินเพื่อพาเจ้าจี้น้อยกลับบ้านก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

     

                    “เฮ้ยๆคุณ..อย่าเพิ่ง ตัวนั้นผมขอ!!

     

                    “ฮะ..คุณหมายถึงผมหรอ?” ผมชะงักและหันไปพบกับคนที่เรียกผม...

     

                    “เฮ้ย! นี่นายเองหรอ!/เอ้อ..เป็นนายจริงๆด้วยสินะ”

                   

                    ไอ้คนที่เรียกผมไว้คือไอ้ถั่วงอกป่วยเมื่อเช้าหรอเนี่ย...จะเรียกไว้เพื่อ! รู้มั้ยเนี่ยว่าจี้น้อยของผมอยากไปอยู่กับผมจะแย่แล้วเนี่ย!!!

     

                    “นายมีอะไร?!

     

                    “เอ่อ..ตุ๊กตานั่น ฉันขอได้ป่ะ?

     

    “ฮะ! นายจะบ้าหรอ..ใครเขาจะให้กัน”

     

     ไอ้ถั่วงอกนี่มันบ้าป่ะครับ..อยู่ๆเข้ามาขอจี้ของผม ไม่ให้หรอกครับ ไม่มีทาง!! ผมเดินหนีจากไอ้ถั่วงอกนั่นตรงไปที่เคาเตอร์เพื่อจ่ายเงินทันที แต่ดูแล้วมันไม่ยอมครับ เห็นชัดๆเลยจากการที่มันตะโกนคำนั้นออกมา

     

    “หยุด! ฉันจะให้โอกาสนายอีกครั้ง จะให้หรือไม่ให้!

    “ไม่ให้ โว้ยยยย!!! ผมตะโกนกลับไป พร้อมๆกับกระชับมือกอดจี้แน่นขึ้นไปอีก

     

    “ไม่ให้ใช่ไหม! ได้!! พนักงาน!! พนักงานอยู่ไหน!!

     

     ไอ้ถั่วงอกมันกำลังแสดงท่าทางใหญ่โตอวดร่ำอวดรวยอยู่ ผมก็เลยอาศัยช่วงนั้นวิ่งไปเพื่อจ่ายเงินทันที พนักงานที่เคาท์เตอร์ดูงงๆนิด แต่ก็รับเจ้าจี้น้อยไปใสถุงให้ผม แต่ในจังหวะที่ผมกำลังจะจ่ายเงินนั้นเอง ก็มีมือนึงยื่นเงินเข้ามาพร้อมกับแย่งถุงที่จี้น้อยอยู่ข้างในไปจากผม

     

    “ฉันขอดีๆแล้วนายไม่ให้เองนะ  เงินนี้ฉันให้เป็นสองเท่า ไม่ต้องทอนนะ เอาเป็นว่านายก็ให้พนักงานหาตุ๊กตาให้นายอีกสักตัวละกันนะ ส่วนตัวนี้ฉันขอละกันนะ บาย!!!!

     

                    “ฮะ..เฮ้ย!!!

     

                    แล้วมันก็เดินจากไป!! อ้าก..พร้อมกับจี้น้อยของผม เท่านั้นไม่พอพนักงานยังมองผมมาด้วยสายประมาณว่า จะเอายังกับเงินนี้ดีคะ??หึ..ด้านกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ผมหันไปมองพนักงานพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ จะเอายังไงดีล่ะครับ

     

                    “เอ่อ..งั้นเอาจี้มาตัวนึงก็ได้ครับ เอาเท่าที่เงินมันพอน่ะครับ”

     

                    “อ่อ..โอเคค่ะ รอสักครู่นะคะ”

     

                    ผมสาบานไว้เลยครับว่าชาตินี้ผมขอเจอไอ้ถั่วงอกเน่าปากดีอวดรวยนี่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ขอให้อย่าได้ประสบพบพานกับมันอีกเลยอ้ากกกกก!!! จี้ของผม!!!!!!!

    .................................................................................

    ดีจ้ามาแล้วครบ 100% แล้วน้า เม้นกันหน่อย

    ว่างๆก็มาที่เพจบ้างน้าhttps://www.facebook.com/imagineSN

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×