ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนเรื่อยเปื่อย

    ลำดับตอนที่ #66 : บ่นเรื่อยเปื่อย : สรุปอนิเมะซีซั่นฤดูหนาวปี 2018 หนึ่งในซีซั่นที่ดีที่สุด

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 61


    Image result for anime winter 2018
    คนเขียนเคยกล่าวไปแล้วว่าจะไม่ทำตอนซีซั่นอนิเมะเนื่องจากเวลาว่างที่ไม่แน่นอน แต่ทว่าเนื่องด้วยซีซั่นฤดูหนาวปี 2018 ที่พึ่งจะจบไปนั้นได้มีอนิเมะสนุกๆหลากหลายแนวที่คนเขียนชอบอยู่หลายเรื่อง แถมบางเรื่องก็ดังมากจนเป็นกระแสทำให้ซีซั่นนี้มีสีสันเอามากๆ อาจจะเรียกได้ว่านี้เป็นนี้เป็นซีซั่นอนิเมะที่ดีที่สุดในรอบหลายปีจนคนเขียนต้องกลับมาทำสรุปซีซั่นอนิเมะอีกครั้ง

    Related image
    overlord 2 
    เริ่มต้นด้วยอนิเมะภาคต่อที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากภาคแรกและต้นฉบับนิยายอย่าง overlord ที่ยังคงได้ได้สตูดิโอ Madhouse และ ผู้กำกับ Itou Naoyuki และ ทีมงานจากภาคแรกมาดูแลภาคต่อเหมือนเดิมแถมเพลงเปิดและเพลงปิดก็ยังได้ OxT และ MYTH & ROID  ที่เคยมาร้องให้กับภาคแรกกลับมาร้องเพลงให้ภาคต่อ ส่วนเนื้อเรื่องของภาคนี้นั้นจะอยู่เนื้อหาของช่วงศึกกับริลซาดแมน กับ ช่วงศึกกับพวกองกรแปดนิ้ว  ตัวอนิเมะคุณภาพงานภาพยังคงรักษามาตราฐานภาคแรกได้แต่ตัวที่ดรอปลงมานั้นคือด้านเนื้อเรื่องที่เล่นยืดเรื่องให้ยาวกับเป็นช่วงเนื้อเรื่องที่ตัวพระเอกอย่าง โมมอนกะและแก็งนาซาริคที่บทน้อยมากๆซึ่งก็ต้องเข้าใจว่าในตัวเนื้อเรื่อง overlord ในช่วงนี้นั้นเป็นการขยายจักรวาลให้กว้างขึ้นทำให้ตัวเนื้อเรื่องต้องไปเจาะจงกับตัวละครพวกอื่นๆบางส่งผลให้ภาคนี้เราได้เห็นฉากกิ้งก่าจีบกันทั้งครึ่งแรก และ เซบาสเตียนที่ได้ภรรยาใหม่อีกตั้งบทน้ำเน่าระหว่างเจ้าหญิงกับองครักษ์(เหรอ) บทปาหี่ของโมมอนกะกับเดมิวอุสในครึ่งสอง ถึงเนื้อเรื่องดรอปแต่ก็ยังคงมาตราฐานยังพอดูได้แค่ความมันลดลง


    Related image
    Karakai Jouzu no Takagi-san
    ผลงานอนิเมะสุดฟิว กู๊ดที่ทำให้หลายคนเคลิ้มไปกับความหว๊านหวานของคู่พระนางในเรื่องกับ Karakai Jouzu no Takagi-san จากต้นฉบับมังงะของ Yamamoto Souichirou โดยอนิเมะได้สตูดิโอ Shin-Ei Animation และผู้กำกับอย่าง Enomoto Takahiro มาดูแลเนื้อเรื่องไม่มีอะไรมากเป็นเรื่องราวของพ่อหนุ่ม Nishikata ที่เขามักถูก Takagi เพื่อนสาวโต๊ะข้างๆแกล้งอยู่เป็นประจำแต่นั้นก็แฝงไปด้วยความรักสุดน่ารักอยู่ จุดที่คนเขียนและหลายคนดูเรื่องนี้เพราะมันอนิเมะที่ดูสบายหัวมากไม่ต้องคิดอะไรกับมันมากตัวงานภาพดูดดีแถมตัวนางเอกอย่าง Takagi ก็โมเอะสุดๆ แต่คนเขียนกับติดปัญหากับเรื่องอยู่สองอย่างคือ เวลาดูเรื่องนี้นานๆสมองมันก็มักขึ้นว่า "ถ้ามีผู้หญิงมาแกล้งแบบนี้จริงๆไม่น่าหวานแบบหรอก" และ "นี้มันเข้าข่าย bully ไม่ใช้เหรอ" แถมบางครั้งก็รู้สึกว่ามันหวานเลี้ยนเกินไปด้วยทำให้เวลาดูเรื่องนี้ต้องอย่าไปคิดอะไรมากมายและดูแล้วคงมีภาคต่อมาแน่ๆ เป็นอนิเมะที่เหมาะสำหรับคนที่อยากเพิ่มน้ำตาลให้กับหัวใจ 

    Related image
    Koi wa Ameagari no You ni
    หากว่า Takagi-san หวานเลี้ยนเกินไปซีซั่นก็มีอีกอนิเมะรักแนวโรแมนติกอีกหนึ่งสไตล์การ์ตูนโชโจอย่าง Koi wa Ameagari no You ni จากผลงานมังงะของ Mayuzuki Jun ที่เปิดตัวผลงานแรกก็ได้เป็นอนิเมะเลยโดยได้สตูดิโอ Wit Studio มาดูแลกำกับโดย Watanabe Ayumu เป็นเรื่องราวของ Tachibana Akira เด็กสาว ม.ปลายหน้านิ่งผู้น้อยซึ่งเธอได้ไปแอบตกหลุมรัก Kondou Masami ตาลุงวัย 40 กว่า มาดเฉิ่มผู้จัดการร้านอหารที่เธอทำงานพิเศษเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องความรักต่างวัยอันแสนโรแมนติก จุดเด่นเรื่องนี้คืองานภาพที่สวยมากๆอีกเรื่องในซีซั่นโดยเฉพาะฉากฝนตก เนื่อเรื่องก็จัดอยู่ในระดับโอเคแต่รู้สึกว่าตัวอนิเมะมันยึดเรื่องไปนิดหนึ่ง และพิเศษสุดที่ทำให้คนเขียนมาดูเรื่องนี้ทั้งที่ไม่ใช้แนวที่ตัวเองดูมากนั้นก็คือเพลงปิดอย่าง Ref:rain ที่ร้องโดย Aimer  ที่ไพเราะเอามากๆ จนอาจ ED ที่เยี่ยมที่สุดในซีซั่นนี้เลยก็ได้

    Related image
    Ryuuou no Oshigoto!
    กลับมาอีกครั้งของสตูดิโอ Project No.9 ที่ขึ้นชื่อในการทำอนิเมะแนวโลลิ ( Ro-Kyu-Bu!, Tenshi no 3P!) โดยคราวนี้ในเอาผลงานไลท์โนเวลของ Shiratori Shirow และวาด Shirabii นั้นคือ Ryuuou no Oshigoto! กำกับโดย Yanagi Shinsuke เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ Kuzuryuu Yaichi เด็กหนุ่ม ม.ปลายผู้เป็นเซียนหมากรุกญี่ปุ่น "โชงิ" จนได้รับฉายาว่า ริวโอ โดยยาอิจิได้พบ Hinatsuru Ai เด็กสาวอายุ 9 ขวบที่ชื่นชอบฝีมือการเล่นโชงิของยาอิจิเธอจึงมาขอให้เขารับเธอเป็นศิษย์ ตอนแรกคนเขียนแทบไม่สนใจเรื่องนี้เลยเพราะคิดว่าคงเป็นอนิเมะเซอร์วิสโลลิเสี่ยงคุกเหมือนกับเรื่องอื่นๆของสตูดิโอ Project No.9 แต่ด้วยกระแสที่แรงเหลือเกินก็เลยลองไปดูปรากฏว่า เรื่องนี้กับไม่เหมือนอนิเมะขายโลลิเรื่องอื่นๆ Ryuuou no Oshigoto! เป็นอนิเมะขายโลลิที่มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นมากพร้อมกับฉากดวลโชงิสุดมันและชวนลุ้นมากๆราวกับเอากลิ่นอายแบบการ์ตูนโชเน็นมาใช้ที่สำคัญอนิเมะเรื่องนี้ให้ความสำคัญกับการดำเนินเรื่องและการเล่นโชงิมากกว่าการเซอร์วิสโลลิเหมือนกับเรื่องอื่นๆทำให้ Ryuuou no Oshigoto! กลายเป็นอนิเมะที่ดีมากถ้าเทียบกับอนิเมะโลลิด้วยกันปอนต่อปอน ถึงจะบอกว่าเรื่องนี้ให้ความสำคัญกับการดำเนินเรื่องและการเล่นโชงิมากกว่าการเซอร์วิส แต่ยังไงมันก็มันก็เป็นอนิเมะขายโลลิอยู่วันยังค่ำยังคงมีฉากเซอร์วิสล่อหมีอยู่มากสมควร(เน้นโชว์ความน่ารักมากกว่าวาบหวิว) และที่สำคัญ Yashajin Ai (หัวแดง) บทน้อยไป!


    Related image
    Fate/Extra: Last Encore
    หลังจากปล่อย Fate/ Apocrypha ปีแล้วทาง Type Moon  ก็ปล่อยอนิเมะจาก Fate Series อีกหนึ่งเรื่องอย่าง Fate/Extra ที่เป็นเกมเครื่อง PSP มาก่อนโดยอนิเมะใช้ชื่อว่า  Fate/Extra: Last Encore ซึ่งผลงานตกไปอยู่ในกำมือของสตูดิโอ  Shaft และแน่ผู้กำกับเรื่องก็คือคนที่คุณก็รู้ว่าใคร Akiyuki  Shinbo หลังจากที่ปล่อยให้ติดโรคเลื่อนมา ส่วนย่อนั้นคนเขียนขอไม่ไม่เขียนเรื่องนี้แล้วกันเพราะว่าไม่รู้จะเล่าแบบย่อมันยังไงดี โดย Fate/Extra: Last Encore เป็นผลงานอนิเมะแบบสไตล์ Shaft แท้ๆเลย แต่ยังดีหน่อยที่งานภาพเรื่องนี้ไม่ค่อยเผาเท่าไรทำออกมาสวยพอสมควรเพิ่มเติมคือความอาร์ตจ้าตามสไตล์ Shaft  แต่ทว่า ตัวงานแบบสไตล์ Shaft  ก็ได้สร้างปัญหาใหญ่หลวงให้กับเรื่องนี้นั้นคือด้านเนื้อเรื่อง Fate/Extra: Last Encore เป็นอนิเมะที่มีเนื้อเรื่องและการเล่าเนื้อเรื่องที่ชวนงงและเข้าใจยากมาก เนื้อเรื่องไม่ค่อยจะอธิบายอะไรบทสนทนาที่ยากแก่การเข้าใจบวกความอาร์ตและแล้วของ Shaft ทำให้ Fate/Extra: Last Encore เป็นอนิเมะที่ดูยากพอสมควรบางตอนคนเขียนดูนั้นแทบปวดหัวเลยเพราะต้องใช้หัวคิดไปกับเรื่องตลอด เหมาะสำหรับคนที่เข้าใจ Fate/Extra มาก่อน (ทั้งที่ Fate/Extra มันก็เป็นซีรีย์ Fate ที่เข้าใจยากอยู่แล้ว) และไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอนิเมะ  Shaft สุดๆ    
       

    Image result for Yuru Campâ–³
    Yuru Camp△
    อีกหนึ่งอนิเมะม้ามืดนอกสายตาแต่กับความนิยมได้เทียบเท่ากับอนิเมะระดับตัวเต็งได้กับเรื่อง Yuru Camp△ ผลงานมังงะของ Afro ส่วนอนิเมะได้สตูดิโอหน้าอย่าง C-Station  และ ผู้กำกับ Kyougoku Yoshiaki เนื้อเรื่องเริ่มต้นที่ Shima Rin เด็กสาว ม.ต้น ผู้ชื่นชอบกิจกรรมตั้งแคมป์ระหว่างที่เธอออกไปตั้งแคมป์ฤดูหนาวใกล้กับบริเวณภูเขาไฟฟูจิจนกระทั้งเธอได้มาพบกับ  Kagamihara Nadeshiko เด็กสาวที่พึ่งย้ายมาบริเวณนี้ที่เผลอหลับอยู่ที่ป้ายรถเมลล์จนติดอยู่กลางดึกทำให้ Rin ชวน Nadeshiko มาแคมป์ก่อนที่มีกองไฟอุ่นๆ บะหมี่ถ้วยรถราเม็งร้อนๆ พร้อมกับวิวภูเขาฟูจิทำให้ Nadeshiko เริ่มหลงใหลและสนใจกิจกรรมตั้งแคมป์ขึ้นมาเป็นจุดเริ่มของเหล่าก๊วนสาวตั้งแคมป์ อนิเมะเรื่องนี้แทบไม่ต่างอะไรอนิเมะในเครือ Time Kirara ซะส่วนใหญ่คือเป็นแนว Slice of Life เบาๆดูสบายๆมีตลกคอมเมดี้เน้นขายตัวละครสาวโมเอะ (ค่อนไปทางโลลิ) อย่าง K-on!, Blend S New Game! เป็นต้น แต่ทว่าเสน่ห์ของ Yuru Camp△ที่ทำให้โด่นเด่นกว่าเรื่องอื่นคือตัวผลงานสามารถดึงธีมหลักเรื่องที่เป็นการตั้งแคมป์ได้อย่างดีเยี่ยมอย่างตัวงานภาพในเรื่องที่ทำบรรยากาศทิวทัศน์ของ ภูเขา ป่าไม้ และ สถานที่ท้องเที่ยวไว้สวยมากๆราวได้บรรยากาศที่นั้นจริงๆ ตัวที่ดึงเสน่ห์อีกอย่างที่ไม่แพ้กันคือเพลงประกอบที่เลือกใช้พวกแนวเพลงคันทรีเบาๆซึ่งมันเขากับบรรยากาศตั้งแคมป์ในเรื่องอย่างลงตัว ส่วนตัวละครก็มีเสน่ห์น่ารักและค่อนข้างเ่นมุกตลกได้ไหลลื่น เลยทำให้   Yuru Camp△ อนิเมะที่แทบไม่มีใครมองกลายเป็นกระแสดังขึ้นมา โดยที่ญี่ปุ่นนั้น  Yuru Camp△  ได้กระตุ้นกระแสตั้งแคมป์ที่ญี่ปุ่นฟรีเวอร์เหมือนกับแต่งชุเไทยในช่วงนี้บ้านเรา นอกจากนี้ Yuru Camp△ ยังสามารถทำยอดขายแผ่นเกินหมื่นได้กลายเป็นอนิเมะเครือ Time Kirara  เรื่องที่สองที่ขายเกินหมื่นต่อจาก K-on!  เป็นอนิเมะดูผ่อนคลายที่ไม่ควรพลาดเรื่องนี้ 

    Related image
    Darling in the FranXX
    หนึ่งอนิเมะตัวเต๊งของซีซั่นนี้โปรเจคอนิเมะออริจินอลอนิเมะของสองสตูดิโอใหญ่อย่าง A-1 Pictures และ  Trigger  มาจับมือกันสร้างอนิเมะหุ่นยนต์ในชื่อว่า Darling in the FranXX กำกับโดย Nishigori Atsushi อดีตอนิเมเตอร์ของสตูดิโอ Gainax ที่ย้ายมา  A-1 Pictures แล้วมาปั่น The iDOLM@STER จนดังเนื้อเรื่องเกี่ยวกับโลกอนาคตทีอารธรรมมนุษย์ล้มสะลายจากการบุกรุกสัตว์ประหลาดยักษ์้เคียวริว ทำให้มนุษย์ที่เหลืออาศัยอยู่ที่ Plantation และให้เด็กหนุ่มสาวรับหน้าที่ขับหุ่นยนต์เรียกว่า Franxx ต่อสู้กับเคียวริว โดย ฮิโระ หรือ Code:016   อดีตเด็กที่เคยยกย่องอัฉริยะ แต่เขาไม่สามารถขับ Franxx  ได้ทำให้ตัวเขากลายเป็นคนไร้ค่าจนกระทั้งมาพบกับ 002 เด็กผู้มีเขาสีแเดงผู้ที่จะทำให้ชีวิตฮิโระเปลี่ยนไป Darling in the FranXX ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอนิเมะอริจินอลที่กำลังมาดีมากและหลายคยชื่นชอบจุดเด่นของเรื่องที่สำคัญเลยคือเนื้อเรื่องที่แต่งได้ยอดเยี่ยมมากที่ไม้ได้เห็นหลายปีและการดำเนินเรื่องของอนิเมะก็ชวนให้หน้าติดตามต่อไปเลยเรื่อยๆรักษาความสนุกได้โดยตลอดแถมมีจังหวะหรือฉากพีคๆที่เป็นน่าจดจำอยู่หลายฉากและอนิเมะเรื่องนี้ได้นำส่วนผสมของ หุ่นยนต์ต่อสู้ ความรัก และ ปรัชญามนุษย์ เข้ากันอย่างลงตัวอย่างมีเสน่ห์ แถมอนิเมะเรื่องนี้ยังมีกลิ่นอายของอนิเมะดังๆสมัยก่อนอย่าง Evangelion, Tengen Toppa Gurren Lagann และ Eureka Seven ซึ่งไม่น่าแปลกอะไรเพราะทีมงานเรื่องจากสตูดิโอ Trigger และผู้กำกับเป็นอนิเมเตอร์เก่า Gainax ที่ทำ  Evangelion กับ  Gurren Lagann  ส่วนคนออกแบบหุ่นยนต์อย่าง Koyama Shigeto ก็เป็นผู้แบบหุ่นยนต์ให้กับทั้งสามอนิเมะที่กล่าวข้างตน เรียกได้ว่า Darling in the FranXX หากยังรักษามาตฐานและไม่เกิดอะไรขึ้นจะเป็นอนิเมะออริจินอลอีกเรื่องที่ประสบความสำเร็จอย่างมากถึงขึ้นเบอร์หนึ่งของซีซั่นนี้ Darling in the FranXX เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่นิเมะซีซั่นฤดูหนาวปี 2018 เป็นหนึ่งในซีซั่นที่ดีที่สุด

    Related image
    Poputepipikku (Pop Team Epic)
    อีกหนึ่งตัวอนิเมะตัวเต็ง? ของซีซั่นนี้ที่มาจากหลุมไหนก็ไม่รู้จนกลายเป็นอนิเมะฮิตเป็นกระแสไปทั่วโลกกับ Poputepipikku หรือที่รู้จักในชื่อว่า Pop Team Epic ผลงานมังงะ 4 ช่องของ  Ookawa หรือที่รู้จักในนาม Bukubu  ผู้สถาปนาแนวมังงะใหม่ที่เรียกว่า  'Kuso Manga Boy' ที่มีเนื้อหา What The ..... ที่หลายคนเจอใน Pop Team Epic โดยเนื้อเรื่องนี้เกี่ยวกับ 2 ตัวละครหลัก Popuko กับ Pipimi สร้างวีรกรรมแสนวินาศสันตะโรต่างๆ พอเรื่องนี้ประกาศเป็นอนิเมะหลายคนก็สงสัยแล้วว่ามันจะออกมาเป็นยังไรแถมตัวอย่างก็แอบไม่บอกอะไรเกี่ยวกับตัวอนิเมะเลยนอกจากทีมงานไปสัมภาษณ์คนรัสเซียว่าชอบติดตามการ์ตูนเรียกไหนเจ้าตัวเลยบอกเบอร์เซิร์กเลยโดน Popuko กับ Pipimi  ลากขึ้นรถตู้พออนิเมะฉายอนิเมะเรื่องนี้ก็กวนคดดูตั้งเริ่มเลยเพราะอนิเมะเริ่มมันกลายเป็นอนิเมะไอดอลที่ชื่อว่า Hoshiiro girl Drop จนหลายคนคิดเปิดผิดเรื่องพอจบ OP ก็เป็น Popuko มาเฉลย 'ไม่ใช้แล้วโว้ย' เนื้อจริงเลยเริ่มซึ่งพอดูจบหลายคนที่ต้องอุทาน 'นี้มันอนิเมะบ้าอะไรกัน' มันไม่มีเนื้อเรื่องเลย 2 ตัวละครหลัก Popuko กับ Pipimi ออกมาเล่นมุกที่โครตบรรทอนปัญหายิ่งกว่าคุโรมาตี้ อยากจะทำอะไรก็ทำ แถมในเรื่องเต็มไปด้วยการล้อการ์ตูน เกม หนัง อย่างไม่บรรยับบรรยัง และที่เด่นสุดอนิเมะเรื่องนี้มีความยาว 23 นาทีกว่า แต่ข้างในมีแค่ 12-13 นาทีเท่านั้นพอจบไปแล้วก็เอามาฉายซ้ำใหม่เปลี่ยนแค่ละเอียดนิดหน่อยกับนักพากย์ (ครึ่งแรกผู้หญิงครึ่งหลักผู้ชาย)  ซึ่งหลายคนไม่ชอบเรื่องนี้แต่อีกหลายคนกับชอบมากๆ แต่พอฉายเรื่อยๆคนชอบก็เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแถมไม่คนที่ไม่ชอบก็เริ่มมาชอบกันซะอย่างนั้น (เพื่อนคนเขียนหลายคนเลย) จนทำให้ Pop Team Epic  โด่งดังเป็นกระแสโดยเฉพาะในโลกอินเตอร์เน็ตที่กลายเป็นมีม ส่วนที่ญี่ปุ่น Pop Team Epic โด่งดังและเข้าถึงคนทุกกลุ่มอย่างมากจนมีคนญี่ปุ่นเรียกอนิเมะเรื่องนี้ว่า วัฒกรรมใหม่เลย อาจเรียกว่า Pop Team Epic  ได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการอนิเมะญี่ปุ่นในปีนี้โดยการเอ็นเตอร์เทรนคนดูให้สนุก กล้าที่จะเล่นอะไรใหม่ๆแปลกอยู่ตลอด มีเซอร์ไพร์ต่างๆมากมาย ซึ่งเรื่อง  Pop Team Epic  คนเขียนขอเก็บพูดไว้ในตอนใหม่ว่าทำไมการ์ตูนแบบนี้มันถึงดังได้ และ อีกหนึ่งเหตุผลที่นิเมะซีซั่นฤดูหนาวปี 2018 เป็นหนึ่งในซีซั่นที่ดีที่สุด(ตรงนี้ไม่น่าใช้ล่ะ)

    Related image
    Violet Evergarden
    อีกหนึ่งผลงานอนิเมะของสตูดิโอ Kyoto Animation(เกียวอนิ) ตัวเต็งที่คนดูอนิเมะทั่วโลกตั้งตารอค่อยมายาวนานกว่าเกือบ 2 ปีหลังจากที่ตัวอย่างแรกปล่อยออกมากต้นฉบับไลท์โนเวลของ  Akatsuki Kana ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศThe KyoAni Awards ในปี 2014 ซึ่งเป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่ได้รางวัลนี้ส่วนอนิเมะนั้นได้ Ishidate Taichi ผู้กำกับที่เคยผ่านอย่าง Kyoukai No Kanata เนื้อเรื่องเกี่ยวของ Violet Evergarden เด็กสาวผู้มีอดีตเป็นอาวุธของกองทัพที่สังหารผู้คนในสงครามมากมาย ในภารกิจสุดท้ายเธอกับผู้พัน Gilbert Bougainvillea ผู้ดูแลคน Violet และเป็นคนสำคัญของเธอ ทั้งสองได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย Violet สูญเสียแขนทั้งสองข้างส่วนผู้พันไม่สามารถเคลื่นที่ได้จึงให้ Violet หนีไปพร้อมพูดกับ  Violet  ไว้ว่า 'จงมีชีวิตต่อไปและเป็นอิสระ' คำสุดท้ายที่ผู้พันทิ้งให้  Violet  "ฉันรักเธอ" หลังจากสงครามจบ  Violet  ถูกรักษาตัวโดยได้ต่อแขนเทียมที่ทำมาจากเหล็กพร้อมกับถูกปลดประจำการโดยเธอได้ Hodgins Claudia อดีตทหารที่เป็น้พื่อนกับผู้พันมาเป็นคนดูแลตามคำขอสุดท้ายของผู้พันก่อนเริ่มภารกิจสุดท้ายและตัวเขาได้หายสาปสูญโดย Hodgins ได้เปิดบริษัท  CH postal company ทำบริการจัดส่งจดหมายและบริการรับเขียนจดหมายทำให้ Violet ได้รู้จัก Auto Memory Doll ผู้ทำหน้าที่เขียนจดหมายลูกค้าโดยพวกเธอจะเป็นสื่อกลางถ่ายทอดความรู้สึกลูกค้าลงไปในจดหมายเพื่อให้ผู้รับจดหมายได้รับรู้ความรู้สึกต่อผู้ส่งจดหมายอย่างแท้จริงทำให้ Violet  ขอทำหน้าที่   Auto Memory Doll  เพื่อที่ตัวเองจะได้เข้าใจคำว่า  "ฉันรักเธอ"  หลังจากดูในเรื่องนี้ Netflix 13 ตอนรวดนี้คืออนิเมะซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่สุดในช่วงยุค 2010 ประทับใจเรื่องนี้มากๆ(มากจนให้เป็นอนิเมะซีรีส์ในดวงใจอันดับหนึ่งไปแล้ว) สมกับการรอค่อยเกือบ 2 ปี  โดยแก่นหลักของ Violet Evergarden แค่การผจญภัยของเด็กสาวคนหนึ่งที่ตามหาความหมายคำว่า "ฉันรักเธอ" เท่านั้นแต่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างสวยงามและทำให้คนดูรู้สึกอินไปกับเรื่องราวการผจญภัยของ Violet ไม่ว่าเจอเหตุการณ์กับความรู้สึกต่างๆ ทั้ง สุข เศร้า  และอื่นๆ คนดูจะรู้สึกตามเธอไปด้วยทำให้คนดูผูกพันกับตัวละคร และจุดเด่นของเรื่องนี้เลยคือการบิ้วอารมณ์ที่ทำได้ดีมากโดยองค์ประกอบหลักในการบิ้วอารมณ์เรื่องนั้นจะใช้ ภาพ และ เพลงประกอบ ซึ่งแต่ล่ะอย่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแถมมีคุณภาพที่เยี่ยมซึ่งเป็นข้อดีอย่างมากเลยคนดูจะล่ะเลยจุดด้อยของเรื่องไป ซึ่งคนเขียนก็อินมากๆจนน้ำตาแตกกันเลย เอาเป็นว่าคนเขียนขอพักเรื่องนี้เดี๋ยวมาเขียนอีกที่ในตอนรีวิวเรื่องนี้ไม่งั้นตอนนี้จะยาวเกินไป Violet Evergarden  เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่นิเมะซีซั่นฤดูหนาวปี 2018 เป็นหนึ่งในซีซั่นที่ดีที่สุด

    นอกจากเรื่องที่กล่าวมาแล้วก็ยังมีอนิเมะอีกหลายเรื่องที่หลายคนบอกว่าดีแต่คนเขียนยังไม่ได้ดู เช่น Sora yori mo Tooi Basho, Kokkoku, Citrus, Hakumei to Mikochi 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×