ลำดับตอนที่ #63 : เจาะประวัติอนิเมะแนวไอดอลสาว // ฉบับเรื่อยเปื่อย ตอนที่ 2

อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 61

ยุคทองไอดอล 2011 - ปัจจุบัน

ในปี 2010 ก็เกิดปรากฏการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับวงการไอดอลญี่ปุ่นเมื่อวง ABK 48 กลายเป็นวงไอดอลที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากเพลง Heavy Rotation เพลงที่โด่งดังมากที่สุดของ ABK 48 จนกลายเป็นเพลงประจำชาติของวง กระแสความนิยมอย่างล้นหลามทำให้ AKB 48 ก้าวขึ้นมาเป็นวงไอดอลชั้นนำของญี่ปุ่นกลายเป็นประตูจุดเริ่มต้นให้วงการไอดอลเข้าสู่ยุค 48 Grop ที่มีลักษณะขายความเป็นเอกลักษณ์ของวงและตัวไอดอลโดยที่ตัววงจะสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองที่ไม่เหมือนใครไม่ว่าจะเป็น เพลง ท่าเต้น ชุด หรือ ธีมของวง ส่วนตัวไอดอลนั้นจะขายเสน่ห์ของเด็กสาววัยรุ่นที่มีความน่ารักสดใสและโมเอะ ที่สำคัญไอดอลจะมีคาแร็คเตอร์เป็นของตัวเองเพื่อเป็นที่จดจำของแฟนๆ และช่วงยุค 48 Grop นั้นถือได้ว่าเป็นยุคที่วงการไอดอลญี่ปุ่นรุ่งเรื่องมากที่สุดจนถึงปัจุบันนี้

AKB48 - Heavy Rotation

ส่วนทางอนิเมะแนวไอดอลนั้นก็เริ่มที่จะปรับตามกระแสวงการไอดอลของจริงมีการเปลี่ยนการตลาดมาเน้นขายผู้ชายมากขึ้นจากแต่ก่อนขายเด็กผู้หญิง จนกระทั้งปี 2011 โปรเจคเกมไอดอลชื่อดังอย่าง The iDOLM@STER ก็ได้กลายเป็นอนิเมะอีกครั้งโดยได้สตูดิโอ A-1 Pictures มาดูแล ผลปรากฏการณ์อนิเมะ The iDOLM@STER ประสบความสำเร็จอย่างมากหลังจากล้มลุกคลุกคลานกว่า 5 ปี วง 765 Production ภายในเรื่องนั้นโด่งดังไม่ต่างจากไอดอลของจริงจนมีคอนเสิร์ตและอีเว้นที่เอานักพากย์มาสมบทบาทตัวละคร ความสำเร็จของ The iDOLM@STER เวอร์ชั่นอนิเมะทำให้โปรเจคเกมที่เกือบใกล้ตายนี้กับมามีชีวิตอีกครั้งพร้อมต่อยอดสร้างผลงานต่างๆ ทั้ง อนิเมะภาคต่อและภาคเสริม เกมมือถือ มังงะ นิยาย หรือ สร้างทีมไอดอลใหม่ๆขึ้นมา นอกจากนี้ความดังของอนิเมะ The iDOLM@STER นั้นได้ยกระดับอนิเมะแนวไอดอลกลายเป็นแนวอนิเมะกระแสหลักของวงการอนิเมะ เป็นประตูเข้าสู่ยุคอนิเมะไอดอล

The Idolmaster Cinderella Girls The Idolmaster: Million Live! Yukiho Hagiwara Iori Minase Chihaya Kisaragi Yayoi Takatsuki Ami Futami pink anime mangaka art

765 Production (Pro)

READY - OP1

หลังประสบความสำเร็จของ The iDOLM@STER ก็มีโปรเจคไอดอลสาว 2 D ออกมามากมายทั้ง อนิเมะ เกม มังงะ แม้กระทั้งทาง 48 Grop ก็ตั้งทีมไอดอลอนิเมะของตัวเองในชื่อว่า AKB0048 ปี 2012 โดยได้สตูดิโอ Satelight ซึ่งเนื้อเรื่องกล่าวถึงในอนาคตข้างหน้า AKB48 คือวงในตำนานของโลกจนกระทั้งอารยธรรมมนุษยชาติล่มสลาย มนุษย์อาศัยอยู่บนดาวต่างๆในอวกาศซึ่งไอดอลหรือสิ่งบรรเทิงเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมายแต่ได้มีวงที่สืบเจตนารมย์ของ AKB48 คือ AKB0048 โดยพวกเธอจะต้องต่อสู้เพื่อมอบเสียงเพลงแห่งความหวังให้กับผู้คน AKB0048 เป็นแนวไอดอลเนื้อหาตรงที่ผสมกับแนวหุ่นยนต์อวกาศได้อย่างลงตัวซึ่งสมาชิกของ AKB0048 ในเรื่องที่เป็นตัวเอกนั้นใช้ไอดอลของ AKB48 มาพากย์เอง อย่างเช่น Iwata Karen, Watanabe Mayu(มายูยุ), Nakaya Sayaka นอกจากนี้ยังมีตัวละครที่อ้างอิงจากสมาชิก AKB48 ของจริงอย่าง Maeda Atsuko (อัตจัง) และ Watanabe Mayu (คนเขียนงงมากมีตัวละครมายูยุแต่ไม่ได้พากย์ตัวเอง) ซึ่งทั้งสองคือสมาชิกตำนานรุ่นแรกของ AKB48 ปัจจุบันได้จบการศึกษาไปแล้ว ตัวอนิเมะค่อนข้างประสบความสำเร็จพอสมควรจนมีภาคต่ออย่าง AKB0048 Next Stage ปี 2013 แถมคุณภาพอนิเมะก็ยอดเยี่ยมทั้งเนื้อเรื่องและภาพ เป็นอนิเมะไอดอลอีกหนึ่งเรื่องที่โด่งดังจนเกือบเทียบเท่า The iDOLM@STER (มันมีจะยุค 3 ไอดอล นั้นคือ ไอมาส, AKB0048, และเลิฟไลฟ์ แต่เหมือน AKB48 จะไม่ต่อยอดไปอีกหลังภาค 2 ทำให้ AKB0048 ดรอปไป)

AKB0048

Kibou Ni Tsuite - OP 1

นอกจากนี้ AKB0048 แล้วช่วงเวลาใกล้ๆกันสตูดิโอ Satelight ที่เรียกว่าเป็นสตูดิโอที่เชี่ยวชาญทำอนิเมะไอดอลก็สร้างอนิเมะออริจินอลแนวสาวน้อยสวมเกราะที่ใช้ธีมไอดอลมาผสมและเป็นหนึ่งผลงานที่มีคุณภาพมากอย่างเรื่อง Senki Zesshou Symphogear ปี 2012 ที่ได้นักพากย์นักร้องแห่งแก๊ง 17 ตลอดกาลอย่าง Mizuki Nana มาร่วมงานทำให้งานเพลงของ Senki Zesshou Symphogear นั้นเพราะเอามากๆ เสียงตอบค่อนข้างดีพอสมควรจนทำภาคต่อถึง 5 ภาค

Senki Zesshou Symphogear

Synchrogazer-OP1

ถึงจะมีอนิเมะไอดอลใหม่ๆมาตลอดแต่ก็แทบไม่มีเรื่องที่ประสบความสำเร็จเทียบเท่าเบอร์ใหญ่อย่าง The iDOLM@STER ได้เลย จนกระทั้งมีอนิเมะไอดอลเรื่องหนึ่งที่สามารถขึ้นมาเทียบเท่าหรือแซงหน้า The iDOLM@STER ได้ซึ่งเป็นโปรเจคร่วมระหว่าง Dengeki G's Magazine (ASCII Media Works), Lantis, และ Sunrise ในปี 2010 ที่ต้องการสร้างวงไอดอล 2D ที่มีธีมหลักคือไอดอลสาวโรงเรียนมัยธมปลาย จนกระทั้งได้เป็นอนิเมะปี 2013 นั้นก็คือ Love Live School Idol Project โดบสตูดิโอ Sunrise มีธีมเรื่องก็คือไอดอลสาวผู้ปกป้องโรงเรียนจากการถูกปิด Love Live ประสบความสำเร็จอย่างมากกระแสฮิตมาแรงจนโด่งดังไปนอกญี่ปุ่น และ วง u's นั้นกลายเป็นวงไอดอล 2 D ที่โดด่งดังมากที่สุดในวงการ์ตูนญี่ปุ่นจนมีคอนเสิร์ตและอีเว้นที่เอานักพากย์สมบทบาทตัวละครพร้อมกับต่อยอดผลงานทั้งเกม มังงะ นิยาย และ อื่นๆอีกมากมายแถมมีภาคต่อในปี 2014 เรียกได้ว่าช่วงปีประมาณปี 2013 - 2014 นั้นเป็นยุคของ Love Live อย่างแท้จริง (ดังขนาดไหนจน Sunrise โดนบ่นเพราะสนใจแต่ Love Live อย่างเดียวไม่สนใจโปรเจคอนิเมะอื่นๆ)

u's

Bokura wa Ima no Naka de - OP1

นอกจากนี้ยังมีอนิเมะไอดอลโด่งดังที่น่าสนใจอย่าง Aikatsu! ปี 2012 ของสตูดิโอ Sunrise และ Bandai Namco Pictures จากเกมการ์ด Arcade ของค่าย Bandai ซึ่งตอนแรกมีเป้าหมายขายเด็กผู้หญิงแต่ทว่าเหล่ากับมีแฟนคลับเป็นผู้ชายจำนวนมากแถมเป็นวงที่มีแฟนคลับเหนี่ยวแน่นสุดๆ ตัวอนิเมะก็ประสบความสำเร็จพอสมควรจนมีภาคต่อมาเรื่อยๆ และถูกนำไปต่อยอดทั้งเกมมือถือ มังงะ เป็นต้น ส่วนอีกเรื่องที่ดังไม่แพ้กันอย่าง PriPara ของสตูดิโอ Tatsunoko Production,และDongwoo A&Eปี 2014 เกม Arcade ของค่าย syn Sophia อีกหนึ่งอนิเมะไอดอลขายเด็กผู้หญิงแต่ผู้ชายชอบเยอะโดยเรื่องนี้มีอนิเมะต่อหลายภาคแถมเวอร์ชั่นหนังโรงก็เยอะด้วย (ช่วงนี้อนิเมะไอดอลมันมีเยอะมากเอามาหมดไม่ไหวเลยขอเอาเรื่องที่เด่นๆ)

Aikatsu! และ PriPara

Aikatsu! - Signalize! OP1

PriPara - Make It OP1

อีกอนิเมะไอดอลที่เป็นที่กล่าวขวัญทั้งชื่อเสียงและชื่อเสียเมื่อ Yamamoto Yutaka หรือ ยามะคัน อนิเมะเตอร์สุดฉาวที่เคยสร้างเรื่องกับเกียวอนิได้โหนกระแสไอดอลและเหตุการณ์สึนามิที่เมืองเซนไดจนกลายเป็นอนิเมะไอดอลที่ชื่อว่า Wake Up Girl ปี 2014 ของสตูดิโอ Tatsunoko ProductionและOrdet ภายหลังเปลี่ยนมาเป็น Millepensee ไอดอลที่สู้ชีวิตมากที่สุด (ทั้งในจอและนอกจอ) ซึ่งธีมคือกลุ่มไอดอลสาวเมืองเซนไดที่พยายามสู่ใฝ่ในการเป็นไอดอลชื่อดังแถมมีความพยายามปั่นนักพากย์ให้เป็นไอดอลจริงๆเหมือนกับ Love Live และ ไอมาส ซึ่งมีกระแสของ Wake Up Girl นั้นก็มีคนชื่นชอบในเฉพาะกลุ่มที่เหนียวแน่นด้วยเนื้อหาที่ดรม่าและสะท้อนความยากลำบากของไอดอลทำให้มีโปรเจคต่างๆและอนิเมะภาคต่อจนถึงปัจจุบัน แต่ในขณะหนึ่งก็มีคนเกลียดเยอะมากของหลายคนแถมดราม่าก็เยอะ ทั้งชื่อเสียของยามะคันที่เป็นที่เหม็นขี้หน้าของวงการอนิเมะจนภายหลังต้องถอนตัวออกไปจนต้องฟอร์มทีมใหม่ในชื่อว่า Wake Up, Girls! Shin Shou คุณภาพงานที่ย้ำแย่เผาแทบทั้งเรื่องและฉากเต้นที่เซอร์วิสกางเกงในโดยไม่จำเป็น Wake Up Girl เป็นอนิเมะไอดอลที่ดีแต่ทว่าดันอยู่กับผิดคนจึงไม่สมารถโด่งดังได้ เรียกว่าเป็นตัวอย่างอนิเมะไอดอลที่ประสบความล้มเหลวไม่เป็นท่า

Wake Up Girl

Tachiagare! - OP1

ความสำเร็จของอนิเมะไอดอลโดยเฉพาะ ไอมาส และ Love Live ทำให้มีอนิเมะแนวไอดอลออกมามายที่เรียกได้ว่าเป็นแนวอนิเมะที่เยอะมากจนคนดูอนิเมะถึงกับเบื่อพอๆแนวต่างโลกสมัยนี้เลย แต่ล่ะเจ้าก็พยายามทำออกมาให้แปลกใหม่เป็นเอกลักษณ์เป็นที่จดจำ เช่น Miss Monochrome ไอดอลสาวแอนดรอยเมือนจริงที่ได้ Horie Yui มาให้เสียงเป็นอนิเมะสั้นปี 2013 มี 3 ภาคเป็นเรื่องราวของ Miss Monochrome ที่พยายามมุ่งสู่ฝันเป็นไอดอลชื่อดังที่บอกเลยว่าเรื่องราวในอนิเมะของเธอนั้นเพี้ยนและฮามาก ที่แปลกกว่านี้ก็ไอดอลมาเป็นนักมวยปล้ำหญิงอย่าง Wanna be the Strongest in the World ปี 2013(แต่ที่ญี่ปุ่นไอดอลก็มาเป็นนักมวยปล้ำก็เยอะร่วม 48 Grop ด้วย) แปลกกว่านี้เลยไอดอลนักการเมืองก็มีอย่าง Idol Jihen ปี 2017 และแปลกล่าสุดกำลังจะมาถึงนั้นก็คือไอดอลม้าแข่งอย่าง Uma Musume: Pretty Derby ที่กำลังจะเป็นอนิเมะปีนี้

Miss Monochrome และ Uma Musume: Pretty Derby

MISS MONOCHROME - Poker Face

คลิปโปรโมตเกม Uma Musume: Pretty Derby

แม้กระทั้งซีรีย์ Macross ต้นตำรำอนิเมะไอดอลหรือนักร้องสาวนั้นก็ต้องตามกระแสรูปแบบไอดอลยุคนี้กับอนิเมะภาคใหม่ Macross Delta กับวงที่ชื่อว่า Walkure ผู้มอบเสียงเพลงให้ผู้คนทั่วอากาศเพื่อเยียวยารักษา วาร์ ซินโดรม โรคที่ทำให้มนุษย์คุมคลั่งทำร้ายกันเองซึ่งตัวอนิเมะก็ยังคงคอนเซ็ปเดิมนั้นก็คือ หุ่นยนต์ บทเพลง และ รักสามเเส้า ซึ่งกระแสตอบรับค่อนข้างดีถึงตัวอนิเมะจะเกือบไปไม่รอด แต่ยังสามารถทำเป็นเกมมือถือชุบชีวิตซีรีย์ Macross กลับมาอีกครั้ง และ Macross Delta กำลังจะมีภาคโรงออกมา

Walkure

bokura no senjou

นอกจากนี้ในยุคไอดอลแล้วคาแร็คเตอร์สาวไอดอลนั้นก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นของผู้สร้างนำเป็นตัวละครในงานของตัวเอง(ที่จริงคาแร็คเตอร์สาวไอดอลนั้นมีมานานมากแล้วแต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักนอกจากจะเป็นนางเอกหลักอย่าง Misa ใน Death Note หรือ lacus ใน gundam seed) อย่างเช่น Naga แห่ง kancolle สาวเรือรบไอดอลผู้เป็นที่รักของใครหลายๆคน? (2 4 11 ในตำนาน) เนื่องจากเรือรบนากะหมายเลขประจำเรือคือ 48 (48 Grop) หรือ Elizabeth Bathory จาก Fate Grand Order ตำนานหญิงผู้อาบเลือดสาวพรมจรรย์แต่ถูกจับมาเป็นสาวไอดอลอย่างไม่มีปีมีขลุ่ย และขอนอกเรื่องอีกนิดหนึ่งหนึ่งสาวที่เกือบลืมเธอคนนี้ไปเลย ถึงแม้เธอจะดูเป็นนักร้องหญิงที่ห่างไกลความเป็นไอดอลแต่ขอกล่าวถึงเธอหน่อยกับนักร้องนำวง Egoist นามว่า Yuzuriha Inori จากเรื่อง Guilty Crown ปี 2011 ถึงแม้ว่าอนิเมะจะจบไปแล้วแต่ด้วตวามโด่งดังของเธอและวง Egoist นั้นทำให้ถูกยกขึ้นมาเปรียบเหมือนศิลปืนจริงๆซึ่งได้ไปร้องเพลงประกอบอนิเมะเรื่องอื่นๆมากมาย

Naga และ Elizabeth Bathory

Yuzuriha Inori

Reloaded

ถึงช่วงปี 2011 - ปัจุบันจะเป็นชุ่วงเวลาที่รุ่งเรื่องของอนิเมะแนวไอดอลแต่ทว่านิเมะไอดอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจริงๆนั้นมีเพียงแค่ 2 เรื่องเท่านั้นก็คือ ไอมาส และ Love Live นอกนั้นก็อยู่พอระดับดีถึงปานกลางไม่ก็เจ๋งกันไปซะเยอะแถมอนิเมะไอดอลใหม่ๆค่อนข้างแจ้งเกิดยากพอสมควร วงการอนิเมะพื้นที่แนวไอดอลกว่า 80 % จะของไอมาส กับ Love Live ทำให้ทั้งสองเรื่องนี้มีอิธิพลแทบจะควบคุมทิศทางอนิเมะแนวไอดอลร่วมถึงสื่ออื่นๆที่เป็นไอดอล 2 D แน่นอนการที่มีเบอร์หนึ่งสองเรื่องนั้นทำให้ไอมาส และ Love Live การเป็นคู่แข่งฟ้าประทาน ซึ่งทั้งสองแบนด์นั้นต่างก็นำผลงานมาสู่กันปีต่อปีซีซั่นต่อซีซั่น(ตอนไปงาน AFA ปีหนึ่งแทบเปิดบูทประจันหน้ากันเลย) โดยสองเรื่องนี้มาแข่งกันจริงๆจังๆ หลังจากที่ Love Live กระแสโด่งดังมากในช่วงปี 2013 - 2014 ต่อมาปี 2015 ทางไอมาสที่กนะแสเงียบไปซักพักก็ได้สร้างอนิมเมะใหม่ขึ้นมาโดยนำเกมมือถือของตัวเองที่สร้างไว้ตั้งแต่ปี 2011 นั้นก็คือ The iDOLM@STER Cinderella Girls ที่เป็นเรื่องราวของวง 346 Production ที่มีโปรเจคสร้างทีมไอดอลสาวที่ชื่อว่า Cinderella Project! โดยที่คอนเซ็ปที่ว่าเด็กสาวธรรมดาที่กำลังมุ่งสู่ฝันเป็นไอดอลชื่อดังเปรียบเหมือนซินเดอร์เลล่าซึ่งเหล่าสาวไอดอลแห่ง Cinderella Project! และ 346 Pro สามารถทำให้กระแส The iDOLM@STER กลับมามีกระแสโด่งดังได้สำเร็จแถมยังออกภาคสปินออฟชื่อว่า Cinderella Girls Gekijou ตั้ง 2 ซีซั่น

Cinderella Project! (346 Pro)

Star!! - OP1

หลังจากที่กระแสไอมาสกลับมาทาง Love Live ก็ไม่ปล่อยไว้นานรีบปล่อยอนิเมะใหม่มาชิงกระแสนิยมกับเรื่อง Love Live Sunshine ออกมา 2 ซีซั่นโดยยังคงคอนเซ็ปเดิมคือไอดอลสาวมัธยมปลายผู้ปกป้องโรงเรียนที่กำลังถูกปิดแต่เปลี่ยนบบรรยากาศเป็นโรงเรียนต่างจังหวัดติดทะเลนำโดยวงใหม่ Aqours ผู้สืบต่อเจตนารมย์ของวง u's ถึงแม้กระแสนิยมอาจเทียบกับวง u's ไม่ได้แต่ก็สามารถช่วยให้ Love Live ยังเดินหน้าต่อไปได้และเป็นสัสันที่เพิ่มเขาในแบนด์

Aqours

Aozora Jumping Heart - OP1

นอกจากอนิเมะแล้วทั้งสองแบนด์ยังแข่งขันกันด้วยเกมมือถือของตัวเองซึ่งเป็นวัตถุดีบสำคัญในการสร้างอนิเมะโดยทางไอมาสที่มีเกมเยอะมากๆแล้วนอกจาก The iDOLM@STER Cinderella Girls แล้วยังมีเกมอย่าง THE iDOLM@STER: Million Live! ที่เป็นการกลับมาของ 765 Pro พร้อมกับสมาชิกใหม่อีก 37 คน แต่น่าเสียดายตัวเกมนั้นปิดบริการแล้ว (เป็นภาคที่ควรทำอนิเมะมากๆ) และภาคล่าสุดที่พึ่งเปิดตัวออกมาอย่าง THE iDOLM@STER: SHINY COLORS ที่เปิดตัววงใหม่อย่าง 283 Production แถมตอนนี้เปิดเผยออกมาแล้วด้วยกัน 2 ทีมอย่าง Illumination Stars และ L’Antica ซึ่งทีมหลังที่เกมยังเปิดตัวคนก็ฮิตกันแล้วโดยเฉพาะ Shirase Sakuya สาวเท่หางม้าสูง 175 ม. และทีมล่าสุดที่พึ่งเปิดตัวอย่าง Houkago Climax Girls! ส่วนทาง Love Live จะมีอยู่เกมเดียวนั้นก็คือ Love Live! School idol festival ซึ่งปีที่แล้วพึ่งเปิดตัววงใหม่อย่าง Perfect Dream Project ( PDP) โดยคนที่โดนเด่นมากที่สุดคงเป็นTennoji Rina เด็กสาวผู้เอากระดานปิดหน้า

Illumination Stars (283 Pro)

L’Antica (283 Pro)

Houkago Climax Girls! (283 Pro)

Perfect Dream Project ( PDP)

ถึงแม้ว่าไอมาส และ Love Live จะเป็นคู่แข่งกันแต่ในอีกด้านทั้งสองเป็นแบนด์ที่เป็นพันธมิตรต่อกัน ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าเป็นไปได้เกิดขึ้นเมื่อ 765 Pro และ u's ขึ้นคอนเสิร์ตร่วมกันในงาน animelo 2015 สร้างความประทับให้กับแฟนๆทั้งสองแบนด์เป็นอย่างมาก

765 Pro X u's

animelo 2015

ณ ปัจจุบันนี้กระแสอนิเมะไอดอลสาวก็เริ่มใกล้จะอิ่มตัวแล้วเข้าสู่ขาลงเห็นได้จากตัวอนิเมะไอดอลใหม่ๆที่เริ่มลดลงกระแสความนิยมที่ลดลงตามมาบวกกับกระแสเบื่อที่มากขึ้นแต่ก็ยอมรับเลยว่านี้คือแนวอนิเมะที่ดูเหมือนไม่มีอะไรมากมายแต่ทว่ากับเป็นแนวที่มีเรื่องราวมาอย่างยาวนานมีการพัฒนารูปแบบมาเรื่อยๆที่สะท้อนวัฒนธรรมไอดอลของญี่ปุ่นในแต่ละยุคสมัย อาจพูดได้เลยว่านี้เป็นอีกแนวอนิเมะที่สร้างความสุขให้แฟนๆได้มากที่สุด ก็ขอจบตอนเจาะประวัติอนิเมะแนวไอดอลสาวในแบบฉบับเรื่อยเปื่อยแต่เพียงเท่านี้

ปล. คนเขียนเองก็ไม่ได้เสพแนวนี้มากเท่าไรอยู่ในช่วงกำลังศึกษาหากมีตรงไหนผิดพลาดก็ต้องอภัยด้วยครับ

และต้องมีการปรับปรุงแก้ไขใหม่ให้ดีขึ้นกว่านี้

ส่งท้ายด้วยโปรเจคไอดอล 2D ของ AKI-P บิดา 48 Grop และ SonyMusic (จะรอดไหมเนี่ย)