ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนเรื่อยเปื่อย

    ลำดับตอนที่ #6 : Akiyuki Shinbo พ่อมดของวงการอนิเมะ

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 59


           คราวที่แล้วพูดถึง3สุดยอดผู้กำกับที่เข้าใกล้ปู่มิยาซากิ ฮายะโอะราชาผู้กำกับอนิเมะ คราวนี้จะมาพูดถึงอีกสุดยอดผู้กำกับอีกหนึ่งคนที่สุดยอดไปอีกแบบหนึ่ง ประมาณว่า3คนที่แล้วเปรียบดั่งเทพแห่งวงการอนิเมะ ไอ้ตานี้ก็เปรียบดั่งจอมปีศาจแห่งวงการอนิเมะ ชายที่ผู้ชื่อว่าเป็นต้นตอแห่งความชั่วร้ายทั้งปวงในวงการอนิเมะ ชายผู้นำสตูดิโอเล็กๆอย่างshaftกลายเป็นสตูดิโออนิเมะที่แวกแนวที่สุดและเป็นสตูดิโอชั้นต้นๆของวงการ ฉายาพ่อมดแห่งวงการอนิเมะหรือธิมเบอร์ตันแห่งญี่ปุ่นนามว่า อาคิยูกิ ชินโบ


    รื่องราวที่จะนำเสนอเกี่ยวกับชินโบนี้จะเน้นช่วงที่แกเข้ามาสตูดิโอshaftเป็นหลัก โดยช่วงแรกๆยุค90นั้นชินโบยังไม่ค่อยออกลายเท่าไรโดยผลงานแรกที่ชินโบนั่งแท่นผู้กำกับนั้นคือเรื่องMetal Fighter Miku(1994)ของสตูดิโอJ.C.staffและเคยไปมีส่วนร่วมกำกับอนิเมะสุดดังอย่างYu Yu Hakusho(1994) ชินโบนั้นเป็นผู้กำกับอิสระที่ค่อยรับจ้างกำกับให้ทางสตูดิโอต่างๆเช่นOjousama Sousamou(1996)ของสตูดิโอGainax  Shihaisha no TasogareของสตูดิโอMadhose และผลงานที่ทำให้ชินโบแจ้งเกิดนั้นคือyamamoto yohko starship girl(1999)อนิเมะสุดดังของสตูดิโอJ.C.staff(จำไม่ผิดยุคนั้นเรื่องนี้มีLCในบ้านเราด้วยมั้ง)ซึ่งก่อนหน้านั้นชินโบก็เคยกำกับเวอร์ชั่นOVAมาแล้วสองภาค ทำให้ชินโบเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาจนเวลาต่อมาชินโบได้ไปกำกับโปรเจคใหญ่เรื่องThe SoulTaker(2000) ขอสตูดิโอระดับตำนานอย่างสตูดิโอTatsunoko Productionในโอกาสครบรอบ40ปีของสตูดิโอและ10ปีสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมWOWWOWแถมยังได้วงJAM Projetมาร้องเพลงเปิดTatsunoko Productionลงทุนไปกับโปรเจคนี้มากและคาดหวังผู้กำกับดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างชินโบ 


    yamamoto yohko starship girl(1999)

    แต่หารู้ไม่ การมากำกับโปรเจคนี้ของชินโบนั้นมันได้สร้างหายนะครั้งยิ่งใหญ่และเป็นจุดเริ่มต้นของความชั่วร้ายทั้งปวงนามอาคิยูกิ ชินโบ

    ผลปรากฏว่าเรื่องThe SoulTakerนั้นเจ๊งสนิทเรียกได้ว่าล้มละลายเลยก็ว่าได้แถมตัวอนิเมะนั้นก็แสนจะพิลึกดูไม่รู้เรื่อง และเผาเนียนไปเยอะด้วย จนTatsunoko Productionไม่อยากจะพูดถึงเหตุการณ์ ปัจจุบันนี้คงอยากจะให้หายไปในหน้าประวัติศาสตร์ด้วยซ้ำ หายะครั้งนี้มันได้สร้างความเสียหายครั้งใหญ่หลวงTatsunoko Productionถึงกับทำอนิเมะเรื่องต่อมาไม่ขึ้นไปเลยหลายปี วีรกรรมครั้งยิ่งใหญ่ของชินโบครั้งนี้ทำให้เข้าถูกแบนออกจากวงการอนิเมะไป4ปีในระหว่างนั้นชินโบต้องหาเลี้ยงตัวเองโดยการทำHอนิเมะหาเลี้ยงชีพ(แนะนำถ้าคุณจะหาHเมะของชินโบมาดูเพราะความหื่นแนะนำอย่าดีวกว่า)


    The SoulTaker(2000


    แต่เพลงเปิดเพราะนะแต่อนิเมะดูไม่ไว้จริงๆ(มีภากพ์ไทยด้วยนะใครอยากลองไปหาดูได้)


    จนเขากับมาในปี2004ชินโบใด้มาเป็นผู้กำกับโดยนำสปินออฟของเรื่องTriangle Heart มาปัดฝุ่นใหม่มาเป็นเรื่องMahou Shoujo Lyrical Nanoha(2004)โดยอนิเมะสาวน้อยเวทมนต์ของผู้กำกับชินโบเรื่องนี้ได้ปฏิวัติวงการสาวน้อยเวทย์มนต์ครั้งใหม่ด้วยสาวน้อยเวทย์มนต์เรื่องนี้จะใช้อุปกรณ์ที่เป็นเทคโนโลยีไฮค์เทคต่างจากสาวน้อยเวทย์มนต์แบบเก่าที่จะเป็นอุปกรณ์ร่ายเวทย์ธรรมดาๆแถมสาวน้อยเวทย์มนต์นาโนฮะจะมีเนื้อเรื่องเข้มข้นดราม่าเหมาะให้ผู้ใหญ่ดูมากขึ้นไม่เหมือนสาวน้อยเวทย์มนต์ทั่วๆไปที่จะเน้นให้เด็กผู้หญิงดูอย่างเซเลอร์มูนหรือพริตตี้เคียว สาวน้อยเวทย์มนต์นาโนฮะได้สร้างปรากฏการสำคัญมากประสบสำเร็จอย่างมากมายแถมเป็นต้นแบบสาวน้อยเวทย์มนต์ที่มีความจริงจังมากขึ้น ความสำเร็จของนาโนะฮะนี้ทำให้ชินโบกลับมาเข้ามาวงการณ์แล้วนาโนฮะก็มีภาคต่อมาหลายๆภาคจนถึงปัจจุบัน(ชินโบกำกับภาคแรก)


    Mahou Shoujo Lyrical Nanoha(2004)

    ต่อมาทางสตูดิโอShaftได้มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหม่และทางผู้บริหารก็ได้นำชินโบมาเป็นหัวหน้าผู้กำกับและผู้ควบคุมการผลิตประจำสตูดิโอจุดเริ่มต้นของพันธะสัญญาปีศาจจึงเริ่มขึ้นและความชั่วร้ายของShaftที่คนดูอนิเมะต้องเผชิญนั้นก็ได้เริ่มต้นนะจุดนี้(สรุปง่ายตอนนี้ Shaft=ชินโบ)นอกจากนั้นShaftยังได้ผู้ร่วมสร้างความวายป่วงกับชินโบอีก2คนได้แก่โอนุมะ ชินผู้กำกับคู่บุญของสตูดิโอSilver Link.(ทำให้สองค่ายนี้มีอะไรเพี้ยนๆคล้ายกัน)ตัวอย่างผลงานแนวๆไม่แพ้กันอย่างบากะเทส และโออิชิ เท็ตซึยะนักทำOPEDคู่บุญShaft OPEDแนวๆของอนิเมะShaftทั้งหมดเป็นฝีมือเขาทั้งหมด จนกำเนิดสามปีศาจแห่งความวายป่วงขึ้นมา


    โลโก้สตูดิโอชาฟต์

    เรื่องแรกที่ชินโบประเดิมกับShaftนั้นคือTsukuyomi: Moon Phase(2004)ด้วยอนิเมะเรื่องนี้ใช้ทุนต่ำสุดๆจนเกิดการเผางานขึ้นและตัดฉากสำคัญของเรื่องไปเป็นดราม่าซีดีตั้งสามฉาก เรื่องต่อมาคือPani Poni Dash(2004-2006)อนิเมะเรื่องนี้กลายป็นมาตราฐานและเอกลักษณ์ประจำShaftในเวลาต่อมาทั้งภาพตัดแนวข้าง มุกกระดาน ซูมสโลโมชั่น ไม่ค่อยมีตัวประกอบในฉาก ฉากตัดสี ฉากนิ่งเผาเนียน การเผางานและไปแก้ใหม่ในวีซีดีและบลูเรย์ และการทำEnd Card Shaftก็เริ่มทำเป็นสตูดโอแรกและทุกอย่างที่กล่าวมานั้นก็เป็นเอกลักษณ์จนถึงปัจจุบัน 


    Pani Poni Dash(2004-2006)

    เวลาต่อมาชินโบก็ได้มีโอกาสสร้างวีรกรรมขึ้นมาอีกครั้งโดยการกล้ารับผลงานที่ถูกสาปส่งอย่างเรื่องคุณครูจอมเวทย์เนกิมะของสตูดิโอXebecจากกรณีตอนจบที่แฟนๆรับไม่ได้(ใครอยู่ช่วงนั้นจะจำได้ดีว่าเป็นอย่างไร)ทางบริษัทคาโดกาวะและอ.เคนผู้แต่งต้องการให้เนกิมะเดินต่อไปได้โดยการรีบูทเรื่องใหม่ทั้งหมดและหน้าที่ก็ตกมาอยู่ที่ชินโบกับShaftจนกลายมาเป็นเมกิมะเวอร์ชั่นเพี้ยนในตำนาน Negima!?(2006)ชินโบได้บรรเลงเนิกมะจนไม่เหลือความเป็นดังเดิม เป็นเนกิมะที่ดูมืดมนและเพี้ยนสุดกู่ จนแฟนและอ.เคนไม่ค่อยอยากจะพูดเนกิมะเวอร์ชั่นนี้เท่าไรแต่ถึงอย่างงั้นมันก็ขายได้ด้วยดีอย่างน่าประหลาดทำให้ชื่อเสียงและชื่อเสียของShaftและชินโบเป็นที่กล่าวถึง


    Negima!?(2006)



    แค่เพลงเปิดก็ออกมาแนวแล้ว

    ต่อมาชินโบก็มาได้กำกับผลงานจากมังงะสุดเพี้ยนของอ.อุเมะเรื่องHidamari Sketch(2007)และชินโบก็ได้ทำวีรกรรมอื้อฉาวอีกครั้งนั้นก็คือเหตุการณ์ฟุจิซัง ด้วยที่ฉากนั้นเป็นโรงอาบน้ำและมีภาพภูเขาไฟฟุจิอยู่แต่ชิโบทำไม่ทันเลยเขียนคำว่าฟุจิลงไปในฉากแทน(เล่นอะไรเนี่ยย) และHidamari Sketchก็มีภาคต่อๆมาHidamari Sketch x 365(2008) hidamari sketch hoshimittsu(20010)และอีกมากมาย


    และนี้ก็คือฉากอันอื้อฉาวที่ว่า

    ชินโบได้สร้างเอกลักษณ์ของShaftอย่างหนึ่งคือการเผา การทุกชิ้นของShaftต้องมีการเผางานเผาจนการเป็นเรื่องขินตาปละเรื่องปกติของสตูดิโอนี้ถ้าเป็นที่อื่นมาทำแบบShaftรับรองโดนด่าแน่จะเรื่องได้ว่าเป็นโชคดีหรือความอินดี้ของชินโบดี ต่อมาชินโบได้มากำกับผลงานมังงะเพี้ยนๆของ อ.คุเมะตะ(คนที่ให้ชินโบมาทำเมะให้ที่เห็นมาไม่ค่อยปกติซะเท่าไร)อย่างเรื่องSayonara zetsubô sensei(2007) น่าเป็นเรื่องที่ชินโบกำกับได้อาร์ตสุดแล้วและก็มีภาคต่อออกมาเรื่อยๆยิ่งออกมาก็ยิ่งแนวขึ้นๆ


    Sayonara zetsubô sensei(2007


    OPของZan Sayonara Zetsubou Sensei เพี้ยนแค่ไหน

    และก็มีผลงานอีกมากมายเช่นNatsu no arashi!(2009)อนิเมะที่เพี้ยนที่สุดของชินโบแล้วแฟนไม่ค่อยอยากจำ Maria Holic(2009)เรื่องนี้บ้าบอที่สุดแต่ขายได้ดีที่เดียว Dansu in za vanpaia bando(2010)เจ๋งสนิท Arakawa andâ za burijji (2010)อันนี้ฮามากที่สุด Soredemo Machi wa Mawatteiru(2010)ถูกลืมสนิท ในช่วง2009-2010)ชินโบออกผลงานมามากมายทั้งภาคแรกและภาคต่อแต่ ถ้าจะให้พูดที่ประสบความสำเร็จสูงสุดกลายเป็นอีกหนึ่งผลงานมาสต์เตอร์พีคของชินโบแล้วทำให้Shaftขึ้นมาเป็นสตูดิโอต้นๆวงการอนิเมะเทียบกับเกียวอนิและซันไรส์นั้นก็คือผลงานจากนิยาย อ.Nisio Isin เรื่อง Bakemonogatari(2009)ซึ่งเรื่องนี้นั้นประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่ออย่างมากจนหลายๆคนไม่คิดว่าอนิเมะเรื่องนี้นั้นมันจะดังถึงขนาดนั้นนี้ทั้งเป็นอนิเมะที่เผายับ ดูก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเนื้อเรื่องก็ดูแปลกๆแนวๆแถมตอนฉายก็ติดโรคเลื่อนฉายไปหลายครั้ง แต่แฟนๆกลับชอบเสนห์ของอนิเมะเรื่องนี้ซะงั้นด้วยยอดขายอยู่ทึ่78,671แผ่นเป็นอนิเมะที่ยอดขายที่สูงที่สุดของSahftและอยู่ในอันดับ4อนิเมะยอดขายสูงสุดตลอดกาล ซึ่งในเวลานั้นสามารถเอาชนะคู่แข่งผลงานคุณภาพอย่างK-onของสูดิโอเกียวอนิได้(เป็นครั้งแรกที่Shaftเอาชนะค่ายท็อปวันอย่างเกียวไปได้)ถ้าจะให้พูดความเสร็จของบาเกะคงต้องเขียนกันยาวมีโอกาสจะมารีวิวกันและซีรี่ส์โมโนะกาตาริก็เข็นภาคต่อมาอีกมากมายทั้งNisemonokatari(2011) Monogatari series: Second Season(2013)และKizumonokatari(2016)ที่ติดทั้งโรคเลื่อนและโรคดองตั้ง5ปีกว่าจะได้ฉายโรงกัน(เอกลักษณ์ท่าเอียงคอของShaftนั้นก็ถือกำเนิดจากบาเกะเป็นครั้งแรก)


     Bakemonogatari(2009)


    EDเพลง Kimino Shiranai Monogatari 

    หลังจากที่ชินโบถูกหวยรางวัลใหญ่กับบาเกะไปแล้วก็เข็นอนิเมะทั้งพอขายได้และเจ๊งสนิทออกมาจนกระทั้งชินโบจะทำอนิเมะออริจินอลอีกครั้งตั้งแต่กำกับนาโนฮะแต่ด้วยจะประสบการณ์ครั้งเลวร้ายจากThe SoulTakerทำให้ชินโบเข็ดกับการที่จะแต่งเรื่องเองจึงไปดึงตัวอ.อุโระบุจิ เกน จอมารบ่อเลือดแห่งค่ายเกมNitroplusมาแต่งเรื่องให้และสิ่งที่ชินโบนำมาใช้กำกับผลงานเรื่องใหม่นั้นคือ สาวน้อยเวทย์มนต์ ที่ตัวเองเคยประสบสำเร็จไว้กับนาโนะฮะโปรเจคนี้ใหญ่พอสมควรเพราะทางบริษัทAniplaxมาดูแลและค่ายเพลงSony musicมาดูแลเพลง งานนี้ชินโบค่อนข้างเดิมพันครั้งนี้พอสมควรถ้าสำเร็จเข้าก็จะทำได้เหมือนตอนบาเกะถ้าล้มเหลวเข้าก็ทำแบบวีรกรรมซ้ำรอยแบบThe SoulTaker  อนิเมะเรื่องนี้ถูกโปรโมตว่าเป็นอนิเมะสาวน้อยเวทย์มนต์อบอุ่นหัวใจ ทำให้แฟนต่างพากันสนใจไม่น้อยกับเป็นอนิเมะสาวน้อยเวทย์มนต์อบอุ่นหัวใจที่มีผู้กำกับอน่างชินโบและมีอ.เกนมาทำ แค่นี้มันก็น่าสนใจแล้วอนิเมะเรื่องนี้คือ Mahou Shoujo MadokaMagica(2011


    Mahou Shoujo MadokaMagica(2011

    อมาโดะกะได้เริ่มฉายตอนแรกเสียงตอบรับค่อนข้างไม่ค่อยจะแรงเท่าไรเพราะพล็อตเรื่องเดิมๆที่นางเอกแสนโลกสวยจ้านามมาโดกะถูกเลือกจากมาสค็อตประจำเรื่องที่หน้าตาเหมือนเจ้ากระต่ายผสมแมวสีขาวให้มาเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์เพื่อช่วยผู้คนจากแม่มดกับทำให้ต้องร่วมสู้เหล่าสาวน้อยเวทย์มนต์คนอื่น ก็เห็นอะไรแบบนี้ได้ตามอนิเมะทั่วๆไป ตอนที่สองก็ไม่มีอะไรมากจนเราแฟนๆคิดว่าคงเป็นอนิเมะสาวน้อยเวทย์มนต์อบอุ่นหัวใจธรรมดาๆ  

    แต่นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าไว้ใจอนิเมะอริจินอลของชายที่ชื่อว่า อาคิยูกิ ชินโบ

    มาโดกะฉายมาถึงตอน3ความชั่วร้ายก็แสดงออกมา จากกรณีโศกนาฏกรรมสังหารโหดตัวละครตั้งแต่ตอน3นาม มามิ หรือที่บ้านรู้จักกันในนามเหตุการณ์ อุมามิ สร้างความช็อคและปวดตับให้กับแฟนๆครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการอนิเมะ  หลังจากนั้นอนิเมะสาวน้อยเวทย์มนต์อบอุ่นหัวใจของเราก็กลายเป็นอนิเมะดราม่า ปวดตับ จริงจังเสียสีสังคมและมีความเป็นปรัชญา ทั้งสองตอนที่ดูมุ้งมิ้งเยียวยาใจนั้นคือเรื่องโกหกทั้งหมด เหล่าแฟนๆต่างออกมาสาปส่งสองฆาตกรนามชินโบและอ.เคน จนจอมมารของเราต้องออกมาขอโทษแฟนๆที่โกหกว่าเป็นอนิเมะแนวอบอุ่นหัวใจ 


    ตอน3ในตำนาน

       แต่ถึงอย่างนั้นกระทำครั้งนี้ของชินโบมันได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการอนิเมะครั้งยิ่งใหญ่ ภายหลังตอนสามมาโดกะก็ดังระเบิดเป็นพลุแตกเป็นกระแสที่พูดถึงเป็นอย่างมากพอถึงตอนจบมาโดกะได้ถูกยกย่องว่าเป็นอนิเมะแห่งทศวรรษได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายจนหลายๆคนนำไปเทียบกับผลงานตำนานอย่างอีวาเกเลี่ยนของผู้กำกับเทพพระเจ้าอย่างอันโนะ มาโดกะได้สร้างความสำเร็จให้กับชินโบอย่างมากยอดขาย71,056 แผ่นเป็นอนิเมะยอดขายสูงสุดอันดับ2ของชาฟต์และอับดับ5อนิเมะยอดขายสูงสุดตลอดกาล(เป็นรองบาเกะ)ทั้งยังกวาดรางวัลNewtype Anime Awards ครั้งที่ 1แทบทุกรางวัลทั้งอนิเมะยอดเยี่ยม,การกำกับยอดเยี่ยม,เพลงยอดเยี่ยม,ออกแบบยอดเยี่ยม,บทยอดเยี่ยม,และยังมีอีกมากมาย  มาโดกะยังได้ปฏิวัติอนิเมะสาวน้อยเวทย์มนต์ทั้งหมดต่อยอดจากครั้งนาโนะฮะโดยจะมีเนื้อหาที่เข้มข้นจริงจังปวดตับเน้นความสัมพันธ์ของตัวละครมากกว่าการต่อสู้กับศัตรูและเน้นขายที่คนดูผู้ชาย ตัวอย่างเช่นgenei wo kakeru taiyou(2013) Fate/Kaleid Liner Prisma Illya(2013) Yuki Yuna wa Yusha de Aru(2014)เป็นต้น มาโดกะได้วางรากฐานอนิเมะสาวน้อยเวทย์มนต์ยุคปัจจุบัน และต่อมามาโดกะก็กลับมาประสบความสำเร็จเวอร์ชั่นหนังจอโดยเฉพาะตัวภาคสามในชื่อ Mahou Shoujo MadokaMagica Movie 3: Hangyaku no Monogatari(2013)ที่ตีความเรื่องมาโดกะใหม่ที่เพื่อความปวดตับยิ่งกว่าเดิม(โครตสงสารโฮมูระ)


    Mahou Shoujo Madoka★Magica Movie 3: Hangyaku no Monogatari(2013)

    หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากมาดโดกะชื่อชินโบในนามพ่อมดแห่งวงการอนิเมะและShaftก็เป็นโด่งดังในวงการอนิเมะทั้งชื่อเสียงและชื่อเสียโดยได้เข็นผลงานออกมาเรื่อยๆเช่น Denpa onna to seishun otoko(2011)อนิเมะShaftที่ภาพสวยที่สุด Katteni Kaizô(2011)สืบต่อความเพี้ยนของผลงานเดียวกับอ.ผู้สินหวัง Sasami-san@Ganbaranai(2013)เจ้งสนิท แต่ชินโบก็ได้ทำวีรกรรมน่าโมโหอีกครั้งโดยประกาศโปรเจคใหม่อริจินอลใหม่นาม Magical Suite Prism Nana(2013)ด้วยโฆษณามาอย่างดิบดีจนแฟนๆรอดูผลงานเรื่องแต่หารู้ไม่สรุปแล้วโปเจคนี้ไม่ใช้อนิเมะเป็นเพียงแค่ตู้ปาจิโกะเท่านั้นสร้างความเข้าใจผิดและผิดหวังให้กับเหล่าแฟนๆ(โครตโหดร้ายตอนนั้น จนล่าสุดประกาศว่าจะทำเป็นOVA

    Magical Suite Prism Nana(2013)
    พอมาช่วงปี2014ชินโบได้ปรับเปลี่ยนการทำอนิเมะโดยที่เมื่อก่อนจำนำสไตล์ของตัวเองไปปู้ยี้ปูยำผลงานชาวบ้านเขาแต่ครั้งนี้ชินโบใช้สไตล์ของตัวเองดึงจุดเด่นของผลงานออกมาและรักษาเอกลักษณ์ของต้นฉบับเอาไว้ทำให้อนิเมะค่ายShaftดูเป็นปกติมากขึ้นและดูง่ายมากขึ้น ที่เห็นได้ชัดเลยจากเรื่อง Nisekoi(2014/ss2015)ผลงานมังงะจากค่ายโชเน็น จัมป์ โดยที่ชินโบรักษาความเป็นต้นฉบับไว้มากและใส่สไตล์ของตัวเองได้อย่างลงตัวอีกเรื่องก็ Koufuku Graffiti(2015)อนิเมะShaftที่ชวนหิวมากที่สุด แต่มิวายชินโบก็ยังสร้างความวายปวงให้กับผลงานอยู่เช่นโดยล่าสุดคือ Mekakucity Actors(2014)จากผลงานซีรีส์เพลงโวคาลอยสุดดังนาม kagerou projectของนักแต่งเพลงJINที่ชินโบเอาไปทำซะเละจนสาวกโวคาลอยไม่อยากจะจนจำอนิเมะเรื่องซักเท่าไรโดยเฉพาะวีรกรรมOPตอนที่9ที่เผาซะไม่คำไหนสามารถจะบรรยายออกมาได้(สุดๆ)

    โครตหลอนอ่ะะ
    ดยผลงานเรื่องล่าสุดที่ชินโบกำกับอยู่ตอนนี้คือ Sangatsu no Lion(2016)น่าจะเป็นอนิเมะที่ดูปกติสุดของชินโบในนามShaft(ที่เขียนแนะนำไปแล้ว)และเรื่อง Kubikiri Cycle: Aoiro Savant to Zaregototsukai(2016)ผลงานนิยายของอ. Nisio Isinผู้แต่งบาเกะและโปรเจคต่อไปที่หลายคนรอติดตามนั้นคือ fate extella(2017) และล่าสุดShaftก็พึ่งฉลองครบรอบ40ปีในปี2015ไปโดยการจัดการนิทรรศการเกี่ยวกับผลงานของสตูดิโอและการเปิดตัวหนังโรงอย่างkisumonokatariที่ดองเค็มยาวนานกว่า6ปี(เสียดายคิดว่าจะมีโปรเจคออริจินินอลซะอีก)
     มารอดูกันต่อไปว่าพ่อมดแห่งวงการอนิเมะนามอาคิยูกิ ชินโบจะสร้างความแนวอะไรให้ได้ชมกันต่อไป

    รูปงานMADOGATARI shaft 40th anniversary

    อ้างอิง




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×