ลำดับตอนที่ #56
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #56 : เหล่าตัวละครVocaloidจากค่ายอืนๆที่น่าสนใจ
คนเขียนวางแผนไว้ว่าตลอดช่วงเดือนกันยายนจะเกี่ยวกับเรื่องราวVocaloidแบบจัดเต็มเพราะนานๆจะได้มีโอกาสได้ทำทีไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ทำเรื่องเกี่ยวกับVocaloidตอนไหนอีก อยากที่ทุกคนรู้กันดีว่านอกจากมิกุแล้วก็ยังมีตัวละครVocaloidตัวอื่นๆที่ค่อยขับร้องบทเพลงโดยที่ทุกคนจักดีนั้นก็คือสมาชิกVocaloidของบริษัทCrypton Future Media, Incที่ถือว่าเป็นบริษัทที่ผลิตVocaloidประสบความสำเร็จมากที่สุดโดยนอกจากมิกุแล้วก็จะมีสมาชิกอย่าง ริน,แลน,ลูกะ,เมย์โกะ,ไคโตะ โดยจะคุ้นเคยกับสมาชิกVocaloidทั้ง6นี้จากคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นทุกปีและเกมต่างๆที่มิกุและก๊วนค่อยสร้างสีสันซึ่งจากCrypton Future Media, Incก็มีเหล่าตัวละครVocaloidจากค่ายอื่นๆที่น่าสนใจและโด่งดังไม่แพ้กันบางตัวนั้นประสบความสำเร็จโด่งดังจนสมารถเทียบเคียงกับVocaloidของบริษัทCrypton Future Media, Incหรือเข้าร่วมทีมกัน หรือบางตัวนั้นโด่งดังจนสามารถใกล้เคียงกับมิกุได้
บริษัทInternet Co., Ltd. EDIT
GackpoidหรือKamui Gakupo ซามูไรมะเขือม่วงแห่งVocaloid
VocaloidตัวแรกของบริษัทInternet Co., Ltd. EDIT จำหน่ายวันที่31 มิถุนายน 2008 กาคุโปะนั้นค่อนข้างเป็นVocaloidที่ค่อนจากเจอปัญหาเยอะหน่อยโดยตั้งแต่เริ่มโปรเจคก็เจอปัญหาเลยคือหาเสียงต้นแบบไม่ได้เลยได้ไปปรึกษาทางบริษัทDwango Co.,Ltd. เจ้าของเว็บNico Nico Douga เลยแนะนำนักร้องและนักแสดงชื่อดังขวัญใจแม่ยกอย่างKamui Gakutoหรือที่รู้จักในนามว่าGackt แถมนักร้องชื่อดังยังร่วมพัฒนาVocaloidตัวนี้ด้วย ปัญหาต่อมาคือหานักวาดคาแร็คเตอร์ให้กับVocaloidไม่ได้จนสุดท้ายมาได้อ.kentaro miuraผู้วาดมังงะระดับตำนานอย่าง Berserk และโดยที่กว่าจะหานักวาดกับนักร้องได้ต้องทำให้VocaloidของInternet Co., Ltd. EDITต้องเลื่อนวันจำหน่ายมาเป็นวันที่31 มิถุนายน 2008 โดยได้ชื่อว่าGackpoidมาจากGact(Gakuto)+Poid(หมายความว่าVocaloidคล้าย...) รวมกันได้เป็น Gackpoidและชื่อประจำจัว่าKamui Gakupo โดยเป็นการเล่นคำชื่อKamui Gakutoที่ให้เสียง โดยคาแร็คเตอร์นั้นเป็นหนุ่มมาดซามูไรมีสีประจำตัวคือสีม่วง และแฟนๆได้ให้ไอเทมประจำตัวเป็นสีม่วงโดยGakupoเป็นVocaloidที่มีคาแร็คเตอร์นิสัยหลากหลายตามความชอบแฟนๆหรือศิลปินจะสร้างไม่ว่าจะเป็นหนุ่มมาดหล่อเข้ม หนุ่มเพลย์บอย แต่ที่เห็นจนติดตามากที่สุดจนกลายเป็นมาตราฐานนั้นก็คือตัวเสื่อมติ๊งต๊อง Gakupoได้รับความนิยมทันทีตั้งแต่วันจำหน่ายเพราะว่าตัวนVocaloidชายนั้น่อนข้างขาดแคลนมีแค่KaitoะและLuka(เป็นโชตะอีก)ทำให้การมานGakupoเป็นการเติมเต็มได้ที่ถูกเวลามากโดยความโด่งดังของGagupoนั้นทำให้ได้ไปร่วมแจมกับVocaloidของค่ายCrypton Future Media, Incอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะระดับงานออฟฟิเชียลหรือระดับงานสร้างโดยศิลปินและแฟนๆหรือจนได้รับการยอมรับให้เข้าร่วมทีมกับocaloidของค่ายCrypton Future Media, Incในการของศิปลินหลายๆท่านและแฟนๆ และการมาของLukaVocaloidตัวที่3ของCrypton Future Media, Incการเป็นคู่จิ้นของGagupoที่เห็นได้จากหลายงานและอีกหนึ่งคู้จิ้นสำคัญนั้นก็คือGumiVocaloidรุ่นน้องค่ายเดียวกัน แต่ทว่าทางด้านฝั่งศิลปินนักแต่งเพลงนั้นไม่นิยมใช้Gakupoเท่าไรนักเพราะGakupoเป็นVocaloidที่คุณภาพสูงใช้งานยากแถมแพงกว่าตัวอื่นๆทำให้คนใช้Gakupoได้ดีนั้นต้องมีฝีมือระดับพอตัวทำให้ผลงานเพลงของGakupoค่อนข้างมีจำนวนน้อยส่วนใหญ่จะมาร้องเป็นคู่และเป็นกลุ่มซะมากกว่าโดยเพลงดังๆของGakupoก็มีDancingSamuraiและEpisode.0ของKanimiso-P ggrks-Gugurekasuโดยร้องคู่กับLukaแต่งโดยAamin-P IMITATION BLACKและThe Lost Memoryเพลงขวัญใจแม่ยกแต่งโดยnatsuPร้องร่วมกับKaitoกับLen และเพลง Venomania Kou no Kyouki เพลงสุดดังในซีรีย์7บาปของAkuno-Pหรือmothy
Venomania Kou no Kyouki
Gakupoได้ร่วมขึ้นคอนเสิร์ตnico nico partyที่จัดครั้งแรกในปี2012และจัดเป็นประจำทุกปีโดยGakupoถือว่าเป็นตัวสีสันในฐานะตัวฮาที่ขาดไปไม่ได้เลยทุกปี และGakupoได้ทุกอัพเกตเป็นV3ในวันที่13 มิถุนายน 2012และV4ในวันที่30 เมษายน 2015
nico nico party 2012
MegpoidหรือGumi เจ้าหญิงเสียงเพลงแห่งค่ายInternet
Megpoidเป็นVocaloidตัวที่สองของค่ายInternet Co., Ltd. EDITวางจำหน่ายวันที่ 26 มิถุนายน 2009 โดยผู้ให้เสียงคือMegumi Nagajima นักร้องผู้โด่งดังจากเจ้าของเสียงร้องranka leeนางเอกในเรื่องMacross Frontier โดยชื่อMegpoidมาจากMegumi+Poidร่วมกันเป็นMegpoid ส่วนชื่อGumiมาจากชื่อMegumi คนให้เสียงของเธอ โดยออกแบบคาแร็คเตอร์คือMasami Yuki ที่หลายๆคนกล่าวคล้ายงranka lee โดยมีสีประจำคือสีส้ม(บางก็สีเขียว)โดยมีไอเทมคือแครอทโดยคาแร็คเตอร์นั้นคล้ายมิกุเลย(ราวกับว่าสร้างเธอมาเพื่อชนมิกุ)นั้นคือหญิงสาววัย16สนใสร่างเริง ถนัดเพลงป๊อป แดนซ์ แต่ทว่ามารู้ไสตล์เธอที่แท้จริงภายหลังว่าเธอเหมาะกับเพลงร็อคหรือเพลงจังหวะหนักๆมันๆกับมาดสาวเท่คูลๆมากกว่าซึ่งเป็นจุดขายเธอทำให้โด่งดังโดยช่วงแรกๆนั้นเธอยังไม่โด่งดังอะไรมากส่วนใหญ่ผลงานจะเป็นเพลงร้องCoverเพลงของVocaloidตัวเก่าๆจนมาแจ้งเกิดในเพลงMATORYOSHKAของHachiที่ร้องคู่กับมิกุโดยเพลงนี้เป็นที่นิยมอย่างมากจนอัลบั้มVocalonexusที่นำเพลงนี้เป็นเพลงแรกของอัลบั้มติดชาร์ตอันดับ1ของ 1 Oricon รายสัปดาห์ช่วงต้นปี2011
MATORYOSHKA
หลังจากนั้นGumiก็เป็นที่โดด่งดังอย่างมากและได้เข้ามาอยู่ในกลุ่มมีสมาชิกVocaloidของCryptonและกาคุโปะที่มักเรียกกันง่ายๆว่าvocaloid 8 และช่วงเวลาที่Gumiโด่งดังถึงขีดสุดหรือเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของเธอนั้นอยู่ในช่วง2011-2014 โดยได้มีนักแต่งเพลงบางคนเริ่มย้ายไปใช้Gumiและประสบความสำเร็จ เช่น HACHI ที่แต่งเพลงเดียวให้Gumiอย่างPanda Hero(2011)และDONUT HOLE(2013) KEMU VOXX เจ้าของบทเพลงอย่างJinsei Reset Button(2012) Last Noteเจ้าของซีรีย์เพลงอย่างMikagura Gakuen Kumikyokuที่ดังจนกลายเป็นนิยายและอนิเมะกับเพลงsetsuna trip(2012)ที่ดังจนกลายเป็นมังงะ Ie no Uchi de Manbou ga Shinderu Pเจ้าเพลงแห่งความเสื่อมอย่างSweet Float Apartment(2011) rerulili ที่นำมิกุกับกุมิมาเป็นคู่หู่ดูโอ้กับเพลงดังอย่างNoushou Sakuretsu Girl(2012)ที่ดังจนกลายเป็นนิยายและหนังคนแสดงมาแล้ว
Kamisama wa Ereki Shusendo(มาดูสิว่าเสื่อมแค่ไหน)
ช่วงเวลานอกจากเพลงแล้วGumiยังมีมังงะของตัวเองในชื่อGumiในปี2013วาดโดยTetsuta Enji นอกจากนั้นยังมีเกมเป็นตัวเองลงPSPในชื่อ Megpoid the Music # ปี2013 และตัวGumiนั้นถือว่าเป็นVocaloidที่มีรุ่นพัฒนาออกมามากที่สุดอีกตัวโดยมีอย่าง V3 Megpoid; 2011(2011) V3 Megpoid - Native(2012) Megpoid V4(2015) และแน่นอนGumiได้ขึ้นคอนเสิร์ตNico Nico Paty ประจำทุกปีและเธอนั้นก็มีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเองในชื่อว่าGUMI誕生祭2012และGUMI誕生祭2013 Gumiได้ไปเล่นคอนเสิร์ตต่างประเทศครั้งแรกในงานGUMI's ASEAN Performance นอกจากนี้Gumiได้ไปแจ่มในเกมHatsune Miku Project Mirai 2ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการโคร่วมกันของVocaloidในระดับออฟฟิเชี่ยล
1, 2 Fanclub
เรียกว่าช่วงยุคทองของเธอนั้นประสบเสร็จเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าเธอเป็นVocaloidที่เข้าใกล้มิกุมากที่สุดโดยเฉพาะช่วงยุคนั้นเพลงของGumiนั้นติดชาร์ตVocaloid Rackingมากกว่าและเธอก็มีกระแสแรงกว่ามิกุจนหลายสนใจว่าGumiอาจขึ้นมาแทนมิกุ แต่ทว่าก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นกระแสGumiเริ่มตกลงอาจเป็นเนื่องจากบริษัทInternet Co., Ltd. EDITเน้นพัฒนาโปรแกรมVocaloidอย่างเดียว(ใช้ยากด้วย)ไม่ค่อยเน้นด้านเอ็นเตอร์เทนและการสร้างภาพลักษณ์ไอดอล2DเหมือนCryptonที่ทำมิกุส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับเหล่าศิลปินและแฟนๆทำให้Gumiนั้นมีฐานไม่ค่อยมั่นคงเท่าไรและทำให้หมดกระแสเร็วกว่าที่ควรแต่ถึงอย่างงั้นเธอก็ยังเป็นขวัญใจของแฟนๆVocaloidอยู่จนถึงปัจุบันนี้
echo
Lily สาวเท่ผู้เป็นควางหวังของInternet(ที่ไปไม่ถึง)
หลังจากออกกุมิในปี2009ทางInternet Co., Ltd. EDITก็ออกVocaloidตัวที่3อย่างรวดเร็วในชื่อว่าLily โดยก่อนว่างจพหน่ายนั้นเธอปรากฏตัวอย่างสายฟ้าแลบบนปกอัลบั้ม CD เพลงโคฟเวอร์อนิเมะของวงในตำนานอย่าง m.o.v.eที่ชื่อดังจากการร้องประกอบให้กับอนิเมะInitial d ในชื่อว่า anim.o.v.e 01ถือว่าเป็นVocaloidตัวแรกที่ได้ขึ้นปกCDก่อนวางจำหน่ายโดยคนวาดคาแร็คเตอร์ของเธอคือKEIผู้วาดมิกุ ริน เลน ลูกะ นั้นเองและหลังจากทางนิตยสาร DTM Magazineก็ได้ประกาศว่าLilyคือVocaloidที่กำลังถูกพัฒนาโดยปกปิดค่ายผู้พัฒนา ทำให้เป็นทางแฟนทางฮือฮากันเป็นอย่างมากและคาดการว่าLilyอาจเป็นVocaloidตัวที่04ของบริษัทCryptonเพราะลายเส้นของKEIจนกระทั้งทางInternet Co., Ltd. EDITได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็นผู้พัฒนาLily(แฟนๆตอนนั้นน่าจะเซงกันพอสมควร)โดยเธอได้วางจำหน่ายในวันที่25 สิงหาคม 2010 พร้อมกับที่เธอได้ขึ้นปกอัลบั้มanim.o.v.e 02 แถมเธอได้ปรากฎตัวในMVเพลงSchwarzgazerด้วยและยังขึ้นปกในอลบั้มanim.o.v.e 03ในปี2011 โดยผู้ให้เสียงคือMasuda Yuri นักร้องนำวง m.o.v.eนั้นเอง
Schwarzgazer
โดยคาแร็คเตอร์ของLilyนั้นเป็นสาวขาร็อคมาดเท่ที่ถนัดร้องเพลงแนวร็อค อิเล็กโทร และEDM มีโค้ดประจำตัวคือVA-L01สีประจำตัวคือดำเหลืองโดยมีไอเทมเป็นที่กันรางรถไฟกับผึ้ง(ซึ่งสีเหมือนเธอ)โดยช่วงแรกๆของLilyนั้นทางInternet นั้นค่อนข้างดันLilyอย่างมากยิ่งกว่าคาคุโปะและกุมิซะอีกเรียกได้ว่าเป็นความหวังของInternet เห็นได้จากได้นำKEIมาวาดคาแร็คเตอร์ ไปโคกับวงระดับตำนานอย่างm.o.v.e ไปร่วมกับสินค้าต่างๆเช่นไปเป็นพรีเตอร์ให้กับเหล้าญี่ปุ่น และเธอนั้นยังได้ออกฟิกเกอร์เยอะโดยหนึ่งในนั้นคือของgood smile companyที่หากไม่ใช้VocaloidของCryptonถือว่ายากมาก ส่วนเพลงเธอได้นักแต่งเพลงระดับตำนานอย่างsamfreeแต่งเพลงให้ในชื่อLily Lily Burning Nightแต่5hkนักแต่งเพลงที่ใช้lilyแล้วประสบความสำเร็จมากที่สุดนั้นคือnikiโดยเขาใช้Vocaloidแค่Lilyเท่านั้นโดยเพลงแรกของเขาก็ดังทันทีกับเพลงERROR และมาดังเป็นพลุแตกและเป็นเพลงที่ของLilyที่ดังที่สุดนั้นก็คือWaveที่ถูกนำไปทั้งร้องและเต้นcoverกันมากมาย
Wave
ในช่วงปี2010-2012เป็นช่วงที่Lilyเป็นที่โด่งดังมากโดยการดันสุดตัวของInternetแน่นอนเธอเป็นอีกVocaloidที่ได้ขึ้นคอนเสิร์ตNico Nico Paty ทุกปีแต่กระนั้นไม่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้Lilyกลายเป็นไอดอลที่โด่งดังอย่างมิกุหรือกุมิได้โดยกระแสLilyนั้นอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้นเห็นจากที่เธอนั้นไม่ได้ลงในอัลบั้มของค่ายเพลงEXIT TUNES ที่มักนำเพลงVocaloidทุกตัวมาร่วมลงCDเลยซักอัลบั้มและเธอก็แทบไม่เคยร่วมงานกับVocaloidของค่ายCryptonเลยนอกจากNico Nico Paty แถมในช่วงLilyวางจำหน่ายนั้นเธอต้องเจอกับคู่แข่งที่น่ากลัวที่มีสไตล์คล้ายกับเธออย่างลูกะแห่งค่ายCryptonอีก และที่สำคัญที่สุดของค่ายInternetจะดันเธออย่างมากนั้นแต่สิ่งที่ค่ายInternetให้ความสำคัญกับพัฒนาโปรแกรมVocaloidมากกว่าด้านเอ็นเตอร์เทนและการสร้างภาพลักษณ์ไอดอล2Dเหมือนกรณีกุมิทำให้ช่วงปี2012ต่อมากระแสLilyก็เริ่มเงียบไปจนต่อมาจะมีการออกโปรแกรมVocaloid3ให้กับเธอในปี2012ก็ไม่ช่วยให้กระแสเธอดีขึ้นและดูเหมือนว่าค่ายInternetจะล้มเลิกในการพัฒนาโปรแกรมVocaloidของเธอแล้ว
Lily V3
CUL จากพิธีกรรายการสู่นักร้องVocaloid
CULถือได้ว่าเป็นVocaliodที่ถือกำเนิดได้แปลกไม่เหมือนVocaloidตัวอื่นๆโดยจุดเริ่มต้นของเธอนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวละครทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการVOCALO Revolutionรายการที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวงการVocaloidโดยเสียงของเธอนั้นใช้เสียงของVY1 Vocaloidของค่ายYamahaเป็นต้นเสียงโดยรายการนั้นได้ฉายทางทีวีญี่ปุ่นและบนเว็บNico Nico Douca แถมช่วงนั้นเธอมีเพลงของตัวเองด้วยชื่อว่า Cul Makes Revolution!แต่งโดย164 กระแสของเธอนั้นได้รับความนิยมจากแฟนๆพอสมควรจนกระทั้งเธอได้มีเสียงVocaloidของตัวเองซักทีในช่วงยุคเข้าVocaloid3โดยเธอถูกวางจำหน่าย22 ธันวาคม 2011 พัฒนาโดยค่ายInternet ออกแบบโดย Hiroto และได้ต้นเสียงโดย Kitamura Eriนักพากย์ชื่อดังจากบทอย่าง อามิ เรื่องโทระโดระ ชื่อของเธอนั้นมาจากย่อจากคำว่าCulture และย่อจากชื่อกลุ่มCulnozaที่นำโดยHiroto-Pผู้วาดเธอ หลังจากเปลี่ยนจากพิธีกรมาเป็นนักร้องซึ่งเธอมีฐานะแฟนคลับที่มั่งคงอยู่จากแฟนรายการของเธอและจากแฟนNico Nico Douca แต่กระนั้นเธอในฐานะนักร้องนั้นเธอกลับทำได้ไม่ดีเท่ากับตอนเป็นพิธีกรซะเท่าไรเพราะช่วงเข้ายุคV3นอกจากเธอยังมีVocaloidมากมายที่ออกจำหน่ายพร้อมๆกับเธอซึ่งหนึ่งในนั้นมีIAจากค่าย1st PLACEดาวรุ่งพุ่งแรกที่กลบกระแสVocaloid V3ตัวอื่นๆหมด ทำให้CULไม่ได้ดังเป็นวงกว้างมากนัก อยู่มีกระแสอยู่ในฐานแฟนคลับเธอส่วนเพลงเธอก็ออกมาค่อนข้างน้อย นอกจากนี้เธอได้เป็นแขกรับเชิญขึ้นคอนเสิร์ตNico Nico Paty2012ด้วย(หลังจากก็ไม่ได้เธอขึ้นคอนเสิร์ตอีกเลย)
ดีไซน์เธอตอนเป็นพิธีกรรายการ
บริษัทAH-Software Co. Ltd.
Yuzuki Yukari กระต่ายเกรียนขวัญใจเกมเมอร์
บริษัทAH-Software Co. Ltd.อีกหนึ่งบริษัทที่พัฒนาVocaloidที่ได้สร้างตัวละครVocaloidอย่างมากมาย(เยอะกว่าInternetด้วยซ้ำ)ทั้ง SF-A2 miki,Kaai Yuki,Hiyama Kiyoteru,Nekomura Iroha แถมยังเป็นค่ายที่พัฒนาVoiceroidโปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูด(คล้ายVocaloidที่สังเคราะห์เสียงเพลง)ซึ่งเป็นจุดขายของค่ายนี้แต่อนิจา AH-Software ไม่สามารถสร้างVocaloidที่ประสบความสำเร็จได้เลยซักตัวเนื่องจากเน้นด้านพัฒนาแต่โปรแกรมคล้ายกรณีค่ายาInternet จนกระทั้งปี2011เข้าสู่ยุคV3ทางค่ายAH-Software ก็ได้พัฒนาVocaloid V3ของตัวเองขึ้นเข้าจำหน่ายแข่งกับค่ายอื่นๆซึ่งต่อมาจะกลายเป็นหัวหอกคนสำคัญของความสำเร็จค่ายAH-Software นั้นก็คือYuzuki Yukari
โดยYuzuki Yukariนั้นวางจำหน่ายในวันที่22 ธันวาคม 2011 ที่พร้อมๆกับเหล่าV3ตัวอื่นๆพัฒนาโดย AH-Software Co. Ltd.ร่วมกับกลุ่มVocalmaketทีมพัฒนาVocaloidของ AH-Softwareที่อยากจะมีVocaloidเป็นของตัวเอง โดยผู้ให้เสียงนั้นคือIshiguro Chihiro ออกแบบคาแร็คเตอร์โดยJuu Ayakuraผู้ออกแบบตัวละครเรื่องOokami to Koushinryouโดยคาแร็คเตอร์ของเธอนั้นมีธีมหลังคือ "กระต่ายบนดวงจันทร์" ตามนามสกุลของเธอYuzuki (結月) แปลว่า "เกี่ยวกับดวงจันทร์" และฮู๊ดของเสื้อเธอมีหูกระต่ายอยู่ ส่วนชื่อYukari แปลว่าสีม่วง มีสีประจำคือสีม่วง ทางค่ายAH-Softwareไม่ได้บอกไอเทมของเธอแต่ภายหลังมักเห็นกับจอยเกมและเครื่องเกม โดยคาแร็คเตอร์ของเธอนั้นคือสาวน้อยกระต่ายVocaloidอายุ18ปีที่มีความสามารถในการร้องเพลงและพูดสนทนา ไม่มีแนวเพลงที่โด่นเด่นเป็นพิเศษ โดยเธอนั้นเป็นVocaloidที่พิเศษกว่าVocaloidตัวอื่นๆนั้นก็คือเธอมี2ซอฟแวร์ทั้งVocaloidที่ใช้ร้องเพลงและVoiceroidใช้สำหรับพูดสนนา(เธออยู่ในรุ่น VOICEROID+)ทำให้Yuzuki Yukariเป็นตัวละครVocaloidที่มีความในการพูดมากกว่าตัวVocaloidจากค่ายอื่นๆซึ่งเป็นจุดขายเด่นของYukariและค่ายAH-Software ที่ต่อมาภายหลังมักจะสร้างตัวละครที่มีความสามรรถVocaloidและVoiceroid
ตัวอย่างเสียงVoiceroidของYuzuki Yukari
มาเรื่องราวของเธอในฝั้งVocaloidก่อนซึ่งแน่นอนในช่วงยุคเริ่มเข้าV3 IAจากค่าย1st PLACEคือดาวรุ่งพุ่งแรกอย่างมากกลบกระแสเหล่าV3ตัวอื่นๆ แต่หาใช้Yukariโดยที่ตัวละครมีเอกลักษณ์เด่นใช้โดนใจใครหลายคนทำให้Yukariมีกระแสแฟนคลับอยู่บ้างและมักได้ถูกจับคู่กับIAอยู่บ่อยๆ โดยช่วงแรกของเธอมักเป็นเพลงCoverจากVocaloidตัวเองและอนิเมะโดยที่สร้างชื่อเลยคือเพลง Monster without a nameเพลงปิดอนิเมะเรื่องpsycho passที่ต้นฉบับร้องด้วยEgoist (2013) โดยYukariนั้นก็มีนักแต่งเพลงหน้าใหม่หลายใช้เธอหรือบางครั้งก็มีนักแต่งเพลงดังๆลองมาใช้เธออยู่ไม่น้อยเช่น UtataP ที่ทำเธอดังจากเพลงShiawase ni Nareru Kakushi Command ga Arurashii หรือ Lamaze-Pเจ้าเพลงตำนานอย่างpo-pi-po ก็ใช้เธออยู่หลายเพลงแต่นักแต่งเพลงที่แต่งเพลงให้Yukariนั้นส่วนใหญ่จะเป็นนักแต่งเพลงสไตล์เกรียนและเพี้ยนเพลงมักออกมาแปลกๆไม่ว่าจะทั้งใหม่และเก่าทำให้มันส่งผลถึงคาแร็คเตอร์Yukariด้วย แต่กระนั้นแล้วYukariก็มีกระแสอยู่ในระดับปานกลางไม่ถึงกับดังอะไรมากกระแสส่วนใหญ่จะอยู่ในเฉพาะกลุ่มซะมากกว่าและYukariนั้นไม่เคยขึ้นคอนเสิร์ตNico Nico paty เลยจนปี2016
Shiawase ni Nareru Kakushi Command ga Arurashii
ถึงเธอไม่ดังมากในฝั่งVocaloidแต่ถ้าฝั่งVoiceroidเธอคือราชินีเลยล่ะ ถ้าฝั่งVocaloidมิกุอันดับ1ทางฝั่งVoiceroidคือYukariล่ะอาจเป็นเพราะไม่มีบริษัทคู่แข่งเลย โดยYukariเป็นจุดชนวนเริ่มต้นความนิยมของVoiceroidในNico Nico Dougaโดยผู้ใช้Voiceroidมักเป็นศิลปินที่อยากทำช่องลงเว็บNico Nico Douga(คล้ายๆยูทูปเบอร์)แต่ไม่กล้าแสดงตัวหรือพูดต่อหน้าคนอื่นๆหรืออยากจะทำช่องให้กับตัวละครนั้นทำตามจิตนาการVoiceroid สามารถตอบโจทย์นั้นได้และช่องที่ Voiceroid ใช้มากที่สุดในก็คือช่องแคสเกมนั้นเองเป็นที่นิยมNico Nico Dougaและนักแคสเกมชาวเกาหลีโดยเปรียบเสมือนว่าเธอกำลังแคสเกมอยู่ทำให้เธอคาแร็คเตอร์สาวน้อยเกมเมอร์ไปโดยปริยายและเหล่านักทำช่องนั้นมักนำTsurumaki Maki Voiceroidรุ่นพี่เธอมาเป็นคู่หู่คู่เกรียนตลอด ทำให้ทั้งสองกลายเป็นคู่หูแห่งVoiceroid หรือบางครั้งก็นำVoiceroidทั้งหมดมาแคสเกมร่วมกัน
ภาพแฟนอาร์ต Yuzuki Yukari และ Tsurumaki Maki
ต่อมาปี2015สาวน้อยเกมเมอร์ก็ได้ถูกพัฒนาเป็นVocaloid4 กระแสของเธอก็เริ่มจะมีท่าทีที่ดีขึ้นเรื่อยๆจนกระทั้งต้นปี2016เธอโด่งดังเป็นพลุแตกในฐานะVocaloidจากเพลงChururira Chururira Daddadda!ของKurageP ทำให้ปี2016 Yukari กลับมามีกระแสอีกครั้งและกลายเป็นVocaloidที่มาแรงที่สุด ณ ตอนนี้ ทั้งได้มีฟิกเกอร์ของตัวเองทั้งที่ผ่านมาเธอไม่เคยมีฟิกเกอร์เลยและไม่ใช้ฟิกเกอร์ธรรมดามันฟิกเกอร์ขนาด1/1ของบริษัท FIGUREX ซึ่งนอกจากมิกุแล้วเธอเป็นVocaloidตัวแรกที่มีฟิกเกอร์ขนาด1/1 ไม่แค่แบบเดียวแต่มาถึงสองแบบเลย และที่เซอร์ไพสแฟนๆมากที่สุดคือเธอได้ปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญในอนิเมะจากเกมเรื่องHagane Orchestra พร้อมกับคู่หู่ของเธอ Maki แถมทั้งคู่ยังเป็นยังมาร่วมโคกับเกมด้วย ถือได้ว่าYukariเป็นVocaloidที่ปรากฏตัวอนิเมะอย่างเป็นทางการตัวแรก แม้แต่อันดับ1อย่างมิกุยังได้มาแค่ล้อเลียนเท่านั้น และในช่วง2016เป็นตนมานั้นโดจินชิของYukariนั้นเริ่มจำนวนมากขึ้นกว่าที่ผ่านและมากกว่าตัวละครVocaloidตัวอื่นๆในช่วงเวลาเดียวแม้กระทั้งสายมืด และสายน้อยเกมเมอร์คนนี้ที่ไม่เคยไปขึ้นคอนเสิร์ต Nico Nico Patyเลยจนกระทั้งปี2016เธอก็ได้ขึ้นเล่นคอนเสิร์ตในครั้งแรกในฐานะVocaloidในNico Nico Patyปี2016และปีล่าสุด
Chururira Chururira Daddadda!
และล่าสุดปี2017นี้ทางAH-Software Co. Ltd.ก็ได้ออกVoiceroid2 ให้กับเธอและดูเหมือนทางค่ายจะหนุนเธอด้านVoiceroidเอามากๆ เรียกได้ว่าตอนนี้เธอคือVocaloidที่มีมากแรงมากที่สุดแม้ว่าผลการที่ประสบความสำเร็จของเธอนั้นจะมาจากVoiceroidซะมากกว่า และดูเหมือนเธอสามารถก้าวไปได้กว่านี้อีก ไม่แน่เธออาจจะเข้าใกล้ซุปเบอร์สตาร์แห่งVocaloidอย่างIAและมิกุ ก็ได้
ฟิกเกอร์ขนาด1/1ของบริษัท FIGUREX (เคยมาบ้านเราด้วยนะ)
ติดตามตอนต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น