ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนเรื่อยเปื่อย

    ลำดับตอนที่ #53 : Hatsune Miku:เสียงแรกแห่งอนาคต ตอนที่1 ยุคคลาสสิค(2007-2010)

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 61



    เนื่องจากคนเขียนมีปัญหาด้านสุขภาพอาจล่าช้านิดหน่อย ตอนนี้คนเขียนจะขอกล่าวถึงตัวละครที่คนเขียนชอบมากที่สุดซึ่งตัวละครตัวนี้นั้นไม่ใช้ตัวละครจากอนิเมะ มังงะ นิยายหรือเกม แต่อย่างไรโดยจุดเริ่มต้นของเธอนั้นมาจากโปรแกรมสังเคราะห์เสียงที่ชื่อว่าVocaloidและได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่กลายเป็นไอดอลที่ทรงอิธิพลมากที่สุดถึงแม้ว่าจะมีตัวตนในโลกแห่งความจริงก็ตาม นอกจากนี้เธอยังเป็นแรงบันดาลใจและเป็นเสียงให้กับเหล่านักแต่งเพลงสร้างสรรผลงานที่เปรียบเสมือนการให้ชีวิตกับเธอจนโด่งดังแลัประสบความสำเร็จอย่างมาก เธอการเป็นสัญลักษณ์ของไอดอล2Dที่กลายเป็ยขวัญใจของใครหลายๆคนนั้นก็คือHatsune Miku เสียงแรกแห่งอนาคตและวันที่31 สิงหาคมนี้ก็เป็นวันครบรอบ10ปีของเธอเรามาย้อนความหลังถึงเรื่องราวของเธอที่ผ่านมากว่า10ปี

    รูปต้นฉบับของ Mikuวาดโดย KEI
    ก่อนจะเริ่มประวัติของเธอต้องพูดถึงVocaloidซะก่อนโดยมันคือโปรแกรมสังเคราะห์เสียงที่พัฒนาโดยบริษัทยามาฮ่าที่สามารถให้ผู้คนสามารถสร้างเสียงเพลงเองได้โดยการกำหนดเสียง คำร้อง ตัวโน๊ต เสียงสูงต่ำได้ด้วยตัวเองโดยไม่ใช้นักร้อง โดยvocaloidตัวแรกนั้นคือLeon(เสียงชาย)และLola(เสียงหญิง)ที่วางจำหน่ายในปี2004แต่ก็ไม่เป็นที่รู้จักเท่าไรจนในปีเดี๋ยวกันก็ออกมาอีกหนึ่งตัวนั้นคือMeikoแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก(ปัจุบันกลายเป็นขุ่นพี่ประจำก๊วนมิกุแล้ว)และในปี2006ก็ออกอีกตัวคือKaitoแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ(ปัจุบันกลายเป็นหนุ่มล่อ+ตัวเสื้อประจำก๊วนมิกุ)
    MeikoและKaito ช่วงแรก
    จนกระทั้งบริษัท Crypton Future Mediaได้ทำการพัฒนาVocaloidรุ่น2 โดยให้KEIวาดมาสค็อตขึ้นมาโดยเป็นเด็กสาวผมทวิลเทลสีเขียวที่มีชื่อว่าHatsune Miku ได้ว่าวางจำหน่ายในวันที่ 31 สิงหาคม 2007(ถือเป็นวันเกิดของมิกุ) โดยได้ต้นเสียงมาจากซากิ ฟูจิตะนักพากย์ที่ผลงานมากมายอย่าง Akagiในเรื่องkancolle โดยข้อมูลของHatsune Mikuโดยเธอเป็นเด็กสาววัย16ปี สูง158ซม. น้ำหนัก42กม. บ้านเกิดที่ซัมโปโระ เกาะฮอกไกโด(ที่ตั้งบริาษัทCrypton ) โดยเธอนั้นถนัดแนวเพลงPOPและแดนซ์ ชื่อของเธอประกอบจาก คือ ฮะสึ (初、ハツ, แรก) เนะ (音、ネ, เสียง) และ มิกุ (未来、ミク, อนาคต) ( 未来 ตามปกติอ่านว่า มิระอิ、みらい) แปลว่า "เสียงแรกแห่งอนาคต"  นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเมล็ดพันธ์ุแห่งเสียงเพลง

    แพ็คเก็ทแผ่นโปรแกรมVocaloid2 Hatsune Miku
    โดยคาแร็คเตอร์สุดโเอะและน้ำเสียงที่เล็กดูน่ารักของมิกุทำให้เป็นที่สนใจของเหล่าแฟนๆอยู่ไม่น้อยและเหล่าศิลปินนักแต่งเพลงและนักวาดก็ได้เริ่มนำเธอไปใช้สร้างผลงานของตัวเองสิ่งแหล่งแสดงผลงานของมิกุที่สำคัญนั้นก็เว็บNico Nico Douga(คล้ายๆYoutureญี่ปุ่น)โดยเพลงที่โด่งดังเพลงแรกๆนั้นก็คือ Ievan Polkkaเพลงพื้นบ้านของประเทศฟินแลนด์โดยได้แรงบันดาลจากคลิปที่อิโนะอุเอะจากบลีซ เทพมรณะ แกว่งต้นหอมแล้วใส่เพลง Ievan Polkkaต้นฉบับไป โดยในคลิปIevan Polkkaของมิกุนั้นได้otomaniaและTamagoผู้สร้างผลงานนำมิกุร้องเพลง Ievan Polkkaใหม่และนำตัวมิกุจิ๋วที่ภายหลังได้ชื่อว่าHachune Mikuมาแกว่งต้นหอมสิ่งผลที่ได้นั้นคือคลิปโด่งดังอย่างมากในโลกอินเตอร์เน็ต แถมมันยังเป็นส่วนสำคัญในการคาแร็คเตอร์ให้กับมิกุหลังคลิปIevan Polkkaต้นหอมก็กลายเป็นไอเทมประจำตัวของเธอเป็นต้นมา พร้อมเจ้าHachune Mikuที่กลายมาเป็นคู่หูของมิกุ

    https://www.youtube.com/watch?v=jrgO_9ey53M
    Ievan Polkka
    หลังจากนั้นก็มีนักแต่งเพลงสร้างผลงานและลงในเว็บNico Nico Douga โดยมีเพลงอย่างmiku miku nishite ageru แต่งโดยika โดยถือแเป็นเพลงที่แนะนำตัวของเธอและกลายเป็นคลาสสิคเพลงหนึ่งของมิกุ และอีกเพลงหนึ่งที่โด่งดังอย่างมากในช่วงยุคคลาสสิคนั้นก็คือMelt แต่งโดยRyoโดยได้นำภาพของนักวาดชื่อ119(ไม่ได้รับอนุญาต)มาประกอบเพลงโดยเพลงMeltนั้นดังเป็นอย่างในเว็บNico Nico Dougaและการเป็นสำคัญของมิกุที่จะขาดไปไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตหรือเกมเรียกได้ว่านี้คือเพลงชาติของมิกุเลยก็ว่าได้ นอกจากนั้นมันยังสร้างความสำคัญให้กับRyoที่ต่อมากลายเป็นนักแต่งเพลงคนสำคัญที่บุกเบิกวงการVocaloid ภายหลังจากที่ประสบความสำเร็จกับMeltตัวRyoได้รวมเหล่านักวาด(ร่วม119ด้วย)ก็ตั้งวงSupercellขึ้นมาที่ได้ทำผลงานเพลงของมิกุดังๆมากมาย เช่น love is war, world is mine เป็นต้น
    รูปของ119
    https://www.youtube.com/watch?v=BDDYKsNRW3k
    Melt
    โดยในปี2007มีเหล่านักแต่งคนสำคัญๆอย่างเช่น oster project นักแต่งเพลงสาวผู้ถนัดแนวแจ็สและแนวคลาสสิคมีเพลงอย่าง Koisuru VOC@LOID, miracle paint  kazu pผู้แต่งเพลงInnocence  malo ผู้แต่งเพลงสุดซึ้งอย่างHajimete no Oto cosMoนักแต่งเพลงและนักวาดมือทองเจ้าของเพลงตำนานอย่างthe disappearance of hatsune mikuกับท่อนแร๊พเร็วอันเป็นตำนานและกลายมาเป็นเพลงอันสำคัญของมิกุsamfreeที่ปล่อยเพลงอย่างdaybreakก่อนที่จะมาดังกับเพลงLuka Luka Night Feverในปี2009  kz livetune นักแต่งคนสำคัญของวงการVocaloidมีเปิดตัวด้วยเพลงPackagedและเพลงStrobe Nights ซึ่งoster project  cosMo samfree  kz livetune และRyoจะกลายเป็นนักเพลงVocaloidที่โด่งดัง และสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดวงการเพลงVocaloidนั้นเพราะบริษัทCrypton Future Mediaไม่เก็บค่าลิขสิทธ์ในการเสียงและคาแร็คเตอร์ของมิกุปล่อยศิลปินสร้างผลงานได้อย่างเสรีถือเป็นที่ทำให้มิกุประสบความสำเร็จและขยายตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ปล่อยมิกุไม่ถึงและมีกระแสที่ดีอย่างมากทางCrypton Future Mediaก็ได้ปล่อยVocaloidรุ่น2 ออกมาในช่วงปลายปีนั้นก็คือkagamine rin และ lenสองฝาแฝดที่ช่วยเพิ่มสีสันให้มิกุและวงการVocaloid จนเป็นก๊วนVocaloidขึ้นมาที่มีสมาชิกอย่างมิกุ เมย์โกะ ไคโตะ รินเลนและลูกะที่มาภายหลัง  โดยได้ถูกทำมาสร้างในผลงานมังงะชื่อMaker Hikōshiki Hatsune Mix ในปี2008วาดโดยKeiผู้ออกแบบมิกุ ริน เลน และ ลูกะ นั้นเอง นอกจากนั้นยังมังงะอีกเรื่องอย่างHachune Miku no Nichijō Roipara !เขียนโดย Ontamaออกมาในปี2007(LCโดยเซนชู)
    Maker Hikōshiki Hatsune Mixและ Hachune Miku no Nichijō Roipara !
    ด้วยความดังของมิกุนั้นทำให้มีอนิเมะได้นำเธอไปล้อเลียนอยู่หลายครั้งโดยเธอปรากฏในอนิเมะครั้งแรกในเรื่องZoku sayonara zetsubou sensei โดยเธอออกมาเป็นผู้ร่วมคัดเลือกหาตัวนักพากย์ แต่ถือกล่าวถึงมากที่สุดก็เป็นในLUCKY STAR OVA(2008)โดยโคนาตะได้ใช้เวทย์มนต์เสกคานามิคอสเพลย์ชุดมิกุ นอกจากนี้ก็มาปรากฏในKämpferปี2009 และHyoukaปี2012และอีกมากมาย นอกจากยังได้เป็นแขกรับในเกม13-sai no Hello Work DSด้วย
    อนิเมะมีที่ล้อมิกุ
    ในปี2008ก็เกิดผลงานที่สร้างแรงสั่นสะท้อนวงการVocaloid เมื่อมิกุนั้นให้ชีวิตกับตัวละครตัวหนึ่งที่จุดเริ่มต้นมาจากเพียงแค่รูปเพียงรูปเดียวของHukeและได้ถูกนำไปเป็นแหล่งบรรดาใจให้Ryoแห่งวงSupercellแต่งเพลงขึ้นโดยให้มิกุเป็นขับร้องถ่ายทอดบทเพลงโดยเธอคนนั้นคือblack rock shooter เด็กสาวทวิลเทลชุดำพร้อมดวงตาที่มีเปลวไฟเป็นสีน้ำเงินโดยให้Ryoที่แต่งเพลงในชื่อblack rock shooterโดยได้HukeมาวาดรูปMVให้ซึ่งเพลงนี้เป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆเป็นอย่างมากโดยเนื้อหาเพลงอันลึกซึ้งกับน้ำเสียงของมิกุบวกกับตัวMVที่มันเข้ากันและงดงามได้อย่างลงตัวมันได้ถ่ายทอดเรื่องราวของblack rock shooter ได้อย่างยอดเยี่ยมหลังจากนั้นblack rock shooterก็โด่งดังเป็นพลุแตกได้ออกฟิกเกอร์ อนิมมะOVAและซีรีสย์ มังงะ เกม และในช่วงนั้นโดยที่ตัวละครระหว่างมิกุกับblack rock shooterมีความคล้ายกันมากทำให้black rock shooterถูกเข้าใจผิดว่าเป็นด้านมืดของมิกุเธอทั้งสองคนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ทว่าทั้งสองนั้นก็จุดเชื่อมกันอยู่เพราะหากไม่มีมิกุแล้วก็คงไม่มีblack rock shooter ในทุกวันนี้

    รูปต้นฉบับblack rock shooter

    https://www.youtube.com/watch?v=OLzOrik5YJ8
    black rock shooter
    ด้วยความดังของมิกุนั้นทำให้มีหลายค่ายบริษัททำฟิกเกอร์และของเล่นต่างๆของมิกุโดยเฉพาะGood Smile Companyบริษัททำฟิกเกอร์และเนนโดรอยด์หลายใหญ่แถมยังนำมิกุมาทำรถแข่งอิตาฉะในชื่อGood Smile Racingเป็นจุกเริ่มต้นของmiku racing  และการที่กำเนิดอีกโปรแกรมที่สร้างสีสันให้กับวงการVocaloidเป็นอย่างมากนั้นก็คือMikuMikuDanceหรือชื่อย่อmmd เป็นโปรแกรมสร้างโมเดลอนิเมชั่นสามมิติที่สามารถใช้สร้างตัวมิกุและVocaloidตัวอื่นๆหรือตัวละครจากเรื่องอื่นเต้นหรือเคลื่อนไหวตามที่ต้องการ และกลายเป็นโปรแกรมที่ค่อยช่วยสร้างMVให้กับเพลงต่างๆมากมายจนถึงปัจจุบันนี้

    mmd
    นอกจากนี้ในปี2008ก็มีเหล่านักแต่งมากหน้าหลายตาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยคนสำคัญอย่างdoriko ที่เปิดตัวด้วยเพลงสุดซึ่งอย่างUta ni katachi wa nai keredoแล้วมาดังพลุในเพลงromeo and cinderellaปี2009  JimmyThumb-Pผู้แต่งเพลงสุดดังอย่างfrom Y to Y(2009)และStarduster(2009) kurousa Pผู้แต่งเพลงCantarellaที่มำให้เกิดคู่จิ้นไคโตะ มิกุ และมาดังฉุดอยู่ในเพลงsenbonzakura(2012) 19's Sound FactorydyกับเพลงDEAR sasakure.ukผู้แต่งทำนองเกม8bitอันเป็นเอกลักษณ์ที่เพลงสุดดังอย่าง*hello planet(2009)40 mpนักแต่งเพลงหน้าหล่อสุดโรแมนติกเจ้าของเพลงสุดดังอย่างTime Machine(2010)ที่เปิดตัวด้วยเพลงmelody in the sky และอื่นๆอีกมากมายนอกจากนั้นมิกุก็มีอัลบั้มแรกของตัวเองในชื่อว่าRe:Packageเป็นอัลบั้มรวมเพลงของLivetune

    Re:Package
    และในปี2009ก๊วนVocaloid(เพียงแค่ของCrypton)ก็ได้สมาชิกใหม่อีกคนนั้นก็คือmegurine luka Vocaloidรุ่นที่2ใหม่ล่าสุดของCryptonที่มีความสามรถในการร้องเพลงภาษาอังกฤษโดยลูกะคือสาวมาดคุณพี่ผมชมพูหุ่นดีผู้ชิ่นชอบปลามากุโร่และที่ตัวจิบิตัวเองเป็นปลาหมึกเป็นคู่หู โดยการมาของลูกะนั้นอีกเพิ่มสีสันให้กับวงการVocaloidอย่างมากและเธอมักถูกจับมาให้ร้องเพลงคู่กับมิกุอยู่บ่อยครั้งเช่น เพลงตำนานสุดยูริอย่างmagnet แต่งโดยMinato  ในเวลาต่อมามิกุก็ได้มีเกมของตัวเองที่พัฒนาโดยSEGAกับเกมhatsune miku: project divaลงในเครื่องPSPโดยเกมนั้นประสบความสำเร็จอย่างมากจนมีภาคต่อมาเรื่อยเช่น Hatsune Miku: Project DIVA Arcade(2010) Hatsune Miku: Project DIVA 2nd PSP(2010) Hatsune Miku: Project DIVA Extend PSP(2011) Hatsune Miku: Project DIVA F PS3(2012) Hatsune Miku: Project DIVA Arcade Future Tone(2013) Hatsune Miku: Project DIVA F 2nd PS3(2013) Hatsune Miku: Project DIVA X PS4(2016) และHatsune Miku: Project Diva Future Tone DX(2017)

    Hatsune Miku: Project DIVA
    และในปี2009มิกุก็ได้มีโอกาสได้ขึ้นแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกในงานAnimelo Summer Live 2009 RE:Bridge และได้แสดงคอนเสิร์ตต่างประเทศครั้งแรกในงาน Anime Festival Asia (AFA)2009 ที่สิงคโปร์ โดยปี2009ได้มีเหล่านักแต่งที่สำคัญๆเพิ่มเข้ามาอย่าง aku no p หรือmothy เจ้าของซีรีย์เจ็ดบาปสุดโด่งดัง hachi เจ้าของเพลงสุดหลอนอย่างMusunde Hiraite Rasetsu to MukuroและMatryoshka (2010) Wowakaนักแต่งเพลงสไตล์ร็อคที่แจ้งเกิดกับUra-omote Lovers deco 27นักแต่งเพลงมากฝีมือแจ้งเกิดกับAi Kotoba Hachioji-P DJนักแต่งเพลงขั้นเซียนที่แจ้งเกิดกับเพลงElectric Love และมาดังสุดๆกับเพลงSweet Devil T-POCKETกับเพลงเ1925  เป็นต้น และอัลบั้มที่2และเป็นอลบั้มที่ขายดีที่สุดกับอัลบั้มSupercellของค่ายSony music เป็นการนำเพลงของRyo Supercell มาปรับทำนองใหม่
    และเป็นการแจ้งเกิดวงSupercellในวงการเพลงอย่างเต็มตัว

    Supercell
    และในปี2010จะเกิดปรากฏการครั้งใหญ่กับมิกุที่นำเธอขึ้นเป็นไอดอลดิจิตอลที่ทรงอิธิพลมากที่สุดกับคอสเสิร์ตเดียวครั้งแรกของเธอ

    ติดตามตอนต่อไป



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×