ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนเรื่อยเปื่อย

    ลำดับตอนที่ #50 : สตูดิโอ a-1 pictures จากหน้าใหม่ไฟแรงสู่เบอร์ใหญ่แห่งวงการอนิเมะ ตอนที่1

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 60




    เปลี่ยนบรรยากาศมาเขียนเกี่ยวกับสตูดิโออนิเมะมั้งโดยที่แรกกะว่าจะมาเขียนสตูดิโอDEENแต่ทว่าข้อมูลมันยังน้อยแถมยังเก่ามากด้วยเกิดตั้งปี1975พอกับซันไรส์เลยขอพับไว้ก่อนแล้วกัน ขอมาเขียนสตูดิโอที่มันอายุน้อยหน่อยและพอมีข้อมูลหาเยอะ ซึ่งช่วงนี้คนเขียนมักพูดถึงสตูดิโอนี้บ่อยๆเพราะว่าเจออนิเมะของสตูดิโอนี้บ่อยมากเกือบทุกซีซั่น จากสตูดิโออนิเมะหน้าใหม่ไฟแรงมีลูกพี่ดีกลายมาเป็นสตูดิโออนิเมะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอีกสตูดิโอหนึ่งนั้นคือA-1 pictures 

    ด้านหน้าสตูดิโอ
    สตูดิโอA-1 Pictures Inc. ก่อตั้งขึ้นในวันที่9 พฤษภาคม 2005 เป็นสตูดิโอลูกของบริษัท Aniplex โปรดัคชั่นอนิเมรายใหญ่ของค่ายSony ผู้ก่อตั้งคือMikihiro Iwata อดีดโรปดิวเซอร์ของสตูดิโอSunriseและประธานสตูดิโอคนปัจุบันคือTomonori Ochikoshi ตัวสตูดิโออยู่บริเวณเขตsuginamiในเมืองtokyo โดยสตูดิโอA-1 Picturesนั้นก็ตั้งขึ้นเพื่อรับทำผลงานอนิเมะในเครื่อของบริษัท Aniplexโดยเฉพาะ 

    Tomonori Ochikoshiประธานสตูดิโอ
    ช่วงสตูดิโอหน้าใหม่ไฟแรง
    โดยช่วงแรกA-1 Picturesเป็นสตูดิโอเล็กๆที่ยังไม่มีบทบาทอะไรมากโดยอนิเมะเรื่องแรกที่ได้ทำนั้นเป็นการ์ตูนเด็ก5นาทีที่ฉายในช่องNHKชื่อZenmai Zamuraiในปี2006 ต่อมาก็มาได้ทำอนิเมะการ์ตูนเด็กอีกเรื่องอย่างRobby & Kerobbyในปี2007 จนกระทั้งทางสตูดิโอได้มาจับอนิเมะซีรีย์จริงๆจังๆในผลงานจากมังงะกีฬาเบสบอลของอ.Higuchi Asaเรื่องOokiku Furikabutte(Big Windup!)กำกับโดยmizushima tsutomuอนิเมะเตอร์มือปืนรับจ้างมากฝีมือ โดยในปี2007สมัยนั้นOokiku Furikabutteถือว่าเป็นผลงานที่ภาพสวยพอสมควรและได้มีภาคต่อในปีokiku Furikabutte ~Natsu no Taikai-hen~ ในปี2010เป็นจุดเริ่มต้นของสตูดิโอน้องใหม่ที่หลายคนต่างจับตามอง

    Ookiku Furikabutte
    ต่อมาทางสตูดิโอA-1 Picturesก็ได้รับงานใหญ่หลังทำอนิเมะซีรีย์เรื่องแรกเท่านั้นโดยรับโปรเจคอนิเมะจากเกมสุดดังอย่างPersona เกมตระกูลShin Megami Tenseiของค่ายAtlusซึ่งตอนช่วงปี2008นั้นเกม Persona 3กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากและ Persona 4 พึ่งเปิดตัวในปีนั้น ทำให้เกิดโปรเจคอนิเมะPersonaขึ้นมาในชื่อว่าPersona: Trinity Soul ในปี2008กำกับโดยMatsumoto Atsushi ด้วยจะเป็นสปินออฟจากภาค3แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไร โดยมันที่เป็นโปรเจคใหญ่จากเกมสุดดังทำให้A-1 Picturesโชว์ของจากผลงานนี้ไปมากโดยภาพสุดงามเส้นสุดคม แต่ทว่ามันกับไม่เป็นที่พอใจของแฟนPersonaเป็นอย่างมากเพราะในเรื่องแทบไม่มีความเป็นPersonaเหลืออยู่เลยเหมือนอนิเมะที่ชื่อเหมือนเกมมากกว่า ทำให้Persona: Trinity Soulเป็นสิ่งที่แฟนPersonaไม่อยากจะจดจำสักเท่าไรและไม่เอามานับกับซีรีย์Personaหลักด้วย ทำให้โปรเจคใหญ่ครั้งแรกของA-1 Picturesพังไม่เป็นท่า

    Persona: Trinity Soul
    ถึงจะทำโปรเจคใหญ่พังไม่เป็นท่าถ้าเป็นสตูดิโอก็ไม่น่าจะมีอนาคตต่อแต่ไม่ใช้สำหรับA-1 Picturesที่มีลูกพี่ดีอย่าง Aniplex หนุนหลังอยู่ หลังจากนั้นA-1 Picturesก็ยังมีผลงานออกมาต่อโดยได้รับงานให้มารีเมคอนิเมะจากมังงะปี1985ของYuuki Masami ที่เคยเป็นอนิเมะมาแล้วนั้นคือTetsuwan Birdyในชื่อภาครีเมคว่าTetsuwan Birdy Decodeในปี2008กำกับโดยakane kazukiและมีภาคต่อในปี2009ในชื่อว่าTetsuwan Birdy Decode:02  จนกระทั้งA-1 Picturesได้รับงานจากมังงะชื่อดังของToboso Yanaนั้นก็คือKuroshitsujiหรือในชื่อBlack Butler(คนลึกไขปริศนาลับ)ในปี2009กำกับโดยshinohara toshiyaอีกหนึ่งผลงานขวัญใจแม่ยกที่โด่งดังเป็นอย่างมาก ซึ่งตัวผลงานอนิเมะนั้นถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกระแสของBlack Butlerตอนนั้นถือได้ว่าที่สุดของฝั่งผู้หญิงเลยในช่วงเวลานั้น จนมีภาคต่อในชื่อKuroshitsuji IIปี2010 กำกับโดยogura hirofumiโดยเปลี่ยนเนื้อหาจากต้นฉบับเพิ่มตัวละครใหม่เข้ามาเป็นคู่ปรับชิเอลกับเซบาสเตียน ซึ่งก็เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายแต่หลายคนที่เป็นแฟนจากมังงะไม่คนจะปลื้มกับการเปลี่ยนบทเท่าไร และBlack Butlerก็หายไปซักระยะจนกระทั้งมีภาคใหม่ในปี2014ในชื่อKuroshitsuji: Book of Circus ที่นำเนื้อหาที่ถูกตัดไปจากต้นฉบับอย่างบทคณะละครสัตว์กลับมาทำเป็นอนิเมะ ความสำเร็จของBlack Butlerนั้นทำให้เป็นจุดก้าวสำคัญในฐานะสตูดิโอหน้าใหม่ไฟแรง

    kuroshitsuji
    ซึ่งช่วงเวลาพร้อมกันที่ประสบความสำเร็จkuroshitsujiนั้นทางA-1 Picturesก็มีอีกผลงานหนึ่งที่ร่วมทำกับสตูดิโอหน้าใหม่อย่างOrdetจากผลงานมังงะของtakenashi eriนั้นคือKannagi ในปี2008กำกับโดยผู้กำกับที่คนเหม็นขี่หน้ามากที่สุดYamamoto Yutakaหรือยามะคันนี้เอง ซึ่งเรื่องน่าจะประสบความสำเร็จและสร้างชื่อให้กับA-1Picturesอีกเรื่องถ้าไม่เกิดเหตุดราม่าซะก่อนเนื่องจากในเมังงะเผยให้ชวนคิดว่าNagiนางเอกของเรื่องนั้นไม่ "ซิง" (หรือพูดกันหยาบๆเลยเธอเป็นผู้หญิงมือสอง)ซึ่งมันสร้างไม่พอใจแฟนๆอย่างมากพากันสาปส่งเรื่องนี้เล่นซะอ.takenashi eriคนเขียนป่วยจนหายไปนานเลย และแน่นอนมันกระทบลามไปถึงA-1Picturesอนิเมะที่คิดว่าจะดีกับพังไม่เป็นท่ากลายเป็นอีกหนึ่งตราบาปของA-1Picturesโดยไม่ได้ตั้งใจ

    kannagi
    ถึงจะเจอดราม่าแต่มันก็ไม่หยุดยั่งความไฟแรงของA-1 Picturesได้ ในปี2009ทางA-1 Picturesก็ได้รับงานจากเกมแนวสงครามแฟนตาซีของค่ายsegaอันสุเโด่งดังอย่างvalkyria chronicles กำกับโดยyamamoto yasutaka(เคยฉายช่องทรูสปาร์คนะเออ) และในปีเดียวกันA-1 Picturesก็ได้งานใหญ่มาติดๆโดยครั้งนี้ต้องมาอนิเมะของสำนักพิมพ์โชเน็นจัมป์โดยผลงานที่ได้มาทำนั้นคือผลงานของอ.mashima hiroเรื่องFairy Tailกำกับโดยishihira shinjiที่รับหน้าที่ดูแลFairy Tailภาคซีรีย์และไม่ต้องอธิบายอะไรมากกับFairy Tailการ์ตูนขวัญใจมหาชนที่พึ่งถึงตอนจบไป ต่อมาในปี2010A-1 Picturesก็ได้มีผลงานออริจินอลเรื่องแรกในโปรเจค Anime no Chikaraที่ร่วมมือกันระหว่างTV Tokyo และ Aniplexนั้นคือSo Ra No Wo Toอนิเมะน้ำดีที่ถูกลืมกำกับโดยkanbe mamoru ตัวอนิเมะนั้นเรียกได้ว่าอีกหนึ่งงานคุณภาพชั้นยอดเยี่ยมทั้งงานภาพ ตัวละครสุดโมเอะ และเนื้อเรื่อง แต่ทว่ามันติดอยู่อย่างหนึ่งคือตัวละครดันออกแบบเหมือนK-ONของสตูดิโอเกียวอนิราวกับเป็นตัวเดียวกัน(แถมเนื้อเรื่องเกี่ยวกับดนตรีเหมือนกันอีก) ซึ่งช่วงเวลานั้นK-ONคือเบอร์ใหญ่ขวัญใจมหาชน ณ เวลานั้นทำให้แฟนๆต่างเอาไปเปรียบเทียบกับK-ONและมุกแซวกันว่าเป็นK-ONโลกคู่ขนานเวอร์ชั่นสงคราม ซึ่งการถูกเปรียบเทียบกับเบอร์ใหญ่อย่างK-ONนั้นมันค่อนข้างสร้างผลกระทบอย่างมากโดนกระแสK-ONจนกลายเป็นอนิเมะเบอร์รองทั้งที่คุณภาพงานน่าจะไปได้มากกว่านี้กลายเป็นจุดน่าเสียดายของผลงานออริจินอลเรื่องแรกของA-1 Pictures

    So Ra No Wo To
    ในปี2010ไม่ใช้แค่งานอนิเมะซีรีย์ออริจินอลเท่านั้นA-1 Picturesก็ได้มีผลงานอนิเมะหนังโรงเรื่องแรกในชื่อUchuu Show e Youkosoกำกับโดยyuasa masaaki และต่อมาทางA-1 Picturesก็ได้งานจากผลงานมังงะ4ช่องของอ.Takatsu Karinoกับเรื่องWorking!!กำกับโดยhiraike yoshimasaเป็นอีกผลงานของA-1 Picturesที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากโดยทั้งงานภาพสุดงาม ตัวละครสุดมีเสน่ห์ การเข็นนักพากย์เบอร์แรงๆมากพากย์ และเพลงเปิดสุดติดหูที่เป็นที่นิยมนำไปใช้ล้อเลียนอนิเมะเรื่องอื่นๆ และลายเล้นของเรื่องworking !!นั้นยังกลายเป็นต้นแบบลายเส้นอนิเมะของA-1 Picturesในเรื่องต่อๆไป(จริงมันก็คือเอาลายเส้นของSo Ra No Wo Toมาปรับไม่ให้เหมือนทางเกียวอนิดีๆนี้เอง)ต่อมาworking !!ก็มีภาคต่ออีกสองภาคจนจบ ในปี2010นั้นยังมีอนิเมะของA-1 Picturesเช่นผลงานออริจินอลอย่างSenkou no Night Raidกำกับishihama masashi อีกออริจอลเรื่องSeikimatsu Occult Gakuinกำกับitou tomohiko(ต่อเขาจะมากำกับSAO) และได้งานจากเกมวิชวลโนเวลจากค่ายบ่อเลือดอย่างNitroplus (แถมเป็นYเรทด้วย)อย่างTogainu no Chiกำกับโดยkonno naoyuki(เป็นเรื่องที่A-1 Picturesทำแล้วห่วยมากๆ)

    working !!

    ติดตามตอนต่อไป

    ปล.อนุญาตตัดตอนเน้อเดี๋ยวมันจะยาวเกิน พิมพ์มันไปหน่อย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×