ดูการ์ตูนเรื่อยเปื่อย

ลำดับตอนที่ #42 : รีวิว A Silent Voice(รักไร้เสียง)อีกหนึ่งอนิเมะเยียวยาใจที่ดีที่สุดอีกเรื่อง//สปอยล์

เห็นมีหลายคนออกมารีวิวกันเยอะเลยคิดจะผ่านเรื่องนี้ไปแต่อีกใจก็อยากฝอยความสนุกของเรื่องนี้เหมือนกันเพราะมันเป็นอนิเมะที่คนเขียนลงทุนยอมไม่อ่านมังงะล้วงหน้ารอดูอนิเมะเพรียวๆเลยแถมเป็นอนิเมะที่สตูดิโอเกียวอนิสุดโปรดทำด้วยมันเลยพลาดไม่ได้เลยการเป็นประเด็นในตอนนี้กับ A Silent Voice(รักไร้เสียง) 

a silent voice หรือชื่อญี่ปุ่นว่าKoe no Katachiแลละในชื่อไทยรักไร้เสียงเป็นผลงานมังงะแนวดราม่าของ Ooima YoshitokiลงในนิตยาสารShounen Magazine (Weekly)ของสำนักพิมพ์Kodanshaในปี2014มีทั้งหมด7เล่มจบ(LCของค่ายรักพิมพ์)ซึ่งเรื่องเปิดตัวมานั้นก็ดังมากๆในทั่วโลก(บ้านเราตอนมาใหม่ๆก็ดัง)โดยเนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครแถมเนื้อหาทั้งชวนซึ่ง ดราม่า กินใจคนอ่านหลายๆคนพอมังงะเรื่องนี้จบก็ได้ประกาศอนิเมะอย่างสายฟ้าแลบและยิ่งช็อควงการอีกเมื่อสตูดิโอที่มาทำอนิเมะเรื่องคือkyoto animationหรือเกียวอนิสุดสตูดิโออนิเมะที่ขึ้นชื่อว่ารับงานนอกยากมาก และนี้เป็นอนิเมะหนังโรงแท้ๆเรื่องแรกที่ไม่ใช้ภาคต่ออนิเมะซีรีสย์ที่เกียวอนิทำโดยได้ผู้กำกับYamada Naokoสุดยอดผู้กำกับไฟแรงของเกียวที่ประสบความสำเร็จกับK-ON!และTamakoทั้งสองภาคมาแล้ว โดยที่ญี่ปุ่นฉายใน 17 กันยายน 2016ส่วนบ้านเรานั้นฉายในวันที่23 มีนาคมที่ผ่านมา

Ooima Yoshitoki ผู้แต่งและYamada Naokoผู้กำกับ

เรื่องย่อ

เรื่องราวของNishimiya Shoukoเด็กสาวประถมที่พิการทางหู โดยเธอย้ายมาโรงเรียนใหม่และมักมีปัญหาในการสื่อสารและเข้าหาเพื่อนๆอย่างมาก และ Ishida Shouya หัวโจ๊กของห้องในเป็นคนนำเพื่อนๆในห้องแกล้งNishimiyaและมองเธอเป็นตัวประหลาดจนกระทั้งเธอต้องย้ายโรงเรียนและทางผู้ปกครองกับอาจารย์มาเอาเรื่องกลายเป็น Ishidaที่เป็นหัวโจ๊กโดนเพื่อนๆทอดทิ้งกลายเป็นคนรับผิดคนเดียวจนถูกมองเป็นเด็กมีปัญหา จนเวลาผ่านไปIshidaได้เปลี่ยนแปลงตัวเองและคาดหวังจะได้เจอNishimiyaอีกครั้ง

ตัวละคร

Nishimiya Shouko

เด็กสาวที่พิการทางหูโดยตอนประถมเธอย้ายเข้ามาโรงเรียนใหม่ แต่เธอต้องเจอปัญหาในการสื่อสารและเข้าหาเพื่อนๆแถมมักโดนกั่นแกล้งจากเพื่อนๆและมองเธอเป็นตัวประหลาดโดยเฉพาะIshida Shouya ที่มักแกล้งเธอเป็นประจำแต่เธอนั้นก็ยังพยายามที่จะเป็นเพื่อนกับเขา จนกระทั้งทางแม่ของเธอรู้เลยเอาเรื่องเด็กที่แกล้งเธอและให้เธอย้ายโรงเรียนจนเวลาผ่านไปเธอได้มาพบกับIshidaคนที่เคยแกล้งเธออีกครั้ง

Ishida Shouya

หัวโจ๊กประจำโรงเรียนโดยจะมีเพื่อนสนิทสองคนที่มักจะเล่นสุกโดยกัน จนกระทั้งNishimiya Shoukoย้ายเข้ามาเขามองเธอเป็นตัวประหลาดเนื่องจากเธอพิการทางหูและมักกลั่นแกล้งNishimiyaเป็นประจำแต่ทว่าเธอก็ยังคงอยากจะเป็นเพื่อนกับเขาทำให้Ishidaหัวเสียและยิ่งแกล้งเธอขึ้นเรื่อยๆ จนแม่ของNishimiyaตามมาเอาเรื่องทำให้เพื่อนทั้งห้องทอดทิ้งเขาเพื่อที่จะไม่โดนความผิดไปด้วยIshidaจึงต้องรับความผิดคนเดียวแถมเรื่องยังแย่ลงแม่ของIshidaต้องไปชดใช้ค่าเสียหายและขอโทษแม่Nishimiya และเพื่อนทั้งห้องได้ทิ้งเขาไว้คนเดียวที่กลายเป็นตัวปัญหากลายเป็นบาปติดตัวเขาไปตลอดจนโตกลายเป็นคนกลัวการเขาสังคมและมันทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่นั้นทางที่ดีขึ้นเช่นการเริ่มฝึกภาษามือจนกระทั้งเขาได้เจอNishimiyaอีกครั้ง

Ueno Naoka

เด็กสาวที่นั่งข้างหลังIshidaและค่อนข้างสนิทกับเข้าพอสมควรตอนประถม เธอไม่ชอบNishimiyaตั้งแต่แรกๆแล้วโดยเธอมองว่าเป็นตัวน่ารำคาญถึงมักจะกีกกันเธอออกจากกลุ่มเพื่อนแล้วมักร่วมกับIshidaแกล้งNishimiyaจนกระทั้งอาจารย์ตามหาคนแกล้งเธอเป็นอีกคนที่ทอดทิ้งIshidaเพราะกลัวโดนความผิดไปด้วยแต่ลึกๆแล้วเธออยากจะเพื่อนกับIshidaและมองNishimiyaด้านลบมากขึ้น ตอนโตเธอทำงานอยู่ร้านคาเฟ่แมวและลึกๆแล้วเธอดูเหมือนจะแอบชอบIshida

Sahara Miyoko

เด็กสาวที่ท่าทางเรียบร้อยเป็นมิตรโดยเธอเป็นคนเดียวในห้องที่เป็นมิตรและเขาหาNishimiyaโดยให้Nishimiyaสอนภาษามือให้แต่ทว่าบรรยากาศในห้องนั้นต่างพากันไม่ชอบNishimiyaทำให้เธอโดนเหล่าๆเมินไปด้วยทั้งที่ปกติเธอจะโดนเมินอยู่แล้วจนทำให้เธอกลายเป็นคนขาดความมั่นใจในตัวเอง จนถึงวันที่เพื่อนทั้งห้องทิ้งIshidaและNishimiyaต้องย้ายโรงเรียนจนทำให้เธอรู้สึกผิดต่อความอ่อนแอและขี้ขาดของตัวเองที่ทิ้งNishimiyaและไม่สามารถปกป้องเธอได้จนกลายมาเป็นปมตอนโต

Kawai Miki

เด็กสาวสุดเพอร์เฟคที่ภาพลักษณ์ดูดี เป็นที่นิยมของเหล่าเพื่อนๆแต่ที่เธอทำมานั้นมันเป็นเพียงแค่การสวมใส่หน้ากากเท่านั้นเพื่อให้าภาพลักษณ์ตัวเองดูดี เธอค่อนข้างเออออกับการกั่นแกล้งNishimiyaแถมไม่ช่วยเหลือNishimiyaทั้งที่ลึกๆก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจNishimiyaแต่เธอต้องรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองเอาไว้ จนกระทั้งวันที่อาจารย์ตามหาคนผิดเธอเป็นคนออกตัวโยนความผิดให้Ishidaคนแรกๆพอตอนโตการใส่หน้ากากของเธอก็หนักขึ้นกลายเป็นนิสัยติดตัวไป เธอกลายเป็นคนที่ป็อปที่สุดของห้องและเธออยู่โรงเรียนและห้องเดียวกับIshidaแต่เธอทำท่าว่าไม่รู้กับเขามาก่อน

Nishimiya Yuzuru

น้องสาวของNishimiya Shoukoภายนอกคล้ายๆเหมือนผู้ชายค่อนข้างเป็นเด็กมีปัญหามีกไม่ยอมไปโรงเรียน แต่กระนั้นเธอมักเป็นห่วงพี่สาวอย่างมากมักชอบไปไหนกับพี่สาวและตอนเจอกับIshidaเธอหวงพี่สาวมากเพราะรู้ว่าเขาคือคนที่แกล้งพีสาว งานอนิเรกของเธอคือการถ่ายรูปแถมฝีมือขั้นเซียนมากๆเธอมักถ่ายรูปสัตว์ที่ตายมาแปะไว้ที่บ้าน

Nagatsuka Tomohiro

เป็นเพื่อนในห้องคนแรกของIshidaในเรียนม.ปลายและIshidaก็เป็นเพื่อนคนแรกของเขาโดยที่Ishidaมาช่วยเขาตอนมีปัญหาโดนคนแย่งจักรยาน เขาเป็นคนที่รักเพื่อนมากๆมักเป็นคนที่ช่วยเหลือIshidaอยู่เสมอและคุยกับIshidaได้อย่างสนิทานมโดยไม่สนใจอดีตของIshidaหรือสายตารอบข้างของตนในห้อง

จริงๆยังมีเยอะกว่านี้แต่เอาตัวหลักๆก่อนส่วนเจ้าMashiba Satoshiในอนิเมะบทมันไม่ค่อยเด่นเลยข้ามไป แต่ในมังงะเหมือนจะเด่นพอควร

ต่อก็จะเป็นประเด็นต่างๆในเรื่องที่คนเขียนอยากนำเสนอ(สปอยล์)

การแบ่งแยก

การแบ่งแยกของคนนั้นเป็นปัญหาสังคม ไม่ใช้สิ เป็นปัญหาระดับมนุษยชาติเลยก็ว่าได้เพราะตั้งแต่มนุษย์มีอารยะธรรมตั้งแต่กว่า6,000ปีจนถึงปัจจุบันนั้นการแบ่งแยกระหว่างมนุษย์กันเองมีมาโดยตลอดราวกับเป็นส่วนนึงของมนุษย์ไปเสียแล้ว เช่น เชื้อชาติ สีผิว ศาสนา ฐานะ เพศ ความเชื่อความคิด รสนิยม หรือแม้กระทั้งความพิการทางร่างกายที่เรื่องนี้เอาเสนอ มนุษย์นั้นหากมีคนอื่นที่ไม่เหมือนตนและอ่อนแอกว่าตนนั้นก็ทำการรุกราน กดขี่ นำมาเป็นทาส แบ่งชนชั้น หรือฆ่า ตามที่เห็นในหน้าประวัติศาสตร์ ส่วนปัจจุบันในระดับสังคมแล้วจะเป็นลักษณะคนที่ไม่เหมือนหรือแปลกแยกจากคนอื่นในสังคมนั้นก็จะถูกแบ่งแยกจากสังคมและจะโดนดูถูก เหยียดยาม กลั่นแกล้งในที่สุด โดยจะมีแบบนี้ถูกระดับตั้งแต่เด็กประถมยันรับคนทำงานทุกสังคมทั่วโลก(แม้แต่บ้านเราเอง) โดยเรื่องนี้ใช้เรื่องใช้ความพิการมาเป็นประเด็นโดยให้นิชิมิยะเป็นผ็ถูกกระทำและให้อิชิดะกับเหล่าเด็กนักเรียนในห้องเป็นผู้กระทำและอีกตัวอย่างคืออิชิดะที่ถูกแบ่งแยกเพราะเป็นตัวปัญหาใครยุ่งโดยจะซวยเอาต่อเขาจะปรับปรุงตัวเองก็ตาม มันแสดงสะท้อนสังคมคนเราจริงๆได้ชัดเจน ถึงปัญหาการแบ่งแยกจะถูกมองว่าเป็นสิ่งไม่ดีแต่คนเราก็ยังคงทำอยู่ราวเป็นสัญชาตญาณอะไรบ้างอย่าง แต่เรื่องนี้ก็นำเสนอในแง่บวกอยู่ในการทำลายกำแพงการแบ่งแยกตัวอย่าง อิชิดะที่เริ่มเข้าใจตัวนิชิมิยะ(เริ่มฝึกภาษามือ)พอมาเจอนิชิมิยะอีกครั้งเขาสามารถอยู่ร่วมกับเธอได้ และเหล่าตัวละครที่มีอคติแบ่งแยกต่อกันนั้นพอเปิดใจและเข้าใจในตัวแต่ละคนก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ สรุปคือเรื่องนี้จะพยายามบกบอกว่าหากเปิดใจลดอคติและเข้าใจซึ้งกันและกันคนเราก็จะสามารถทำลายกำแพงการแบ่งแยกและสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขแม้คนอื่นจะมีความแตกต่างจากเราก็ตาม

การกลั่นแกล้ง

ประเด็นนี้แทบจะเป็นประเด็นหลักที่เรื่องนี้ต้องการนำเสนอ โดยการกลั่นแกล้งนั้นเป็นผลกระทบของการแบ่งแยกในหัวข้อข้างบนมนุษย์หากเจอคนที่แปลกแยกไม่เหมือนกับกลุ่มของตนนั้นจะเกิดอคติในด้านลบขึ้นมามองว่าคนที่แปลกแยกกับกลุ่มของตัวเองนั้นคือสิ่งไม่ดีและไม่ใช้พวกของตนสิ่งที่จะส่งผลต่อมาคือการทำสิ่งไม่ดีกับอีกฝ่ายโดยกรณีนี้การกลั่นแกล้ง โดยการกลั่นแกล้งนั้นมีให้เห็นกันในสังคมทั่วโลกทุกระดับตั้งแต่เด็กจนถึงญี่ปุ่นถึงในสังคมจะมองว่าเป็นปัญหาในสังคมแต่ก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้(ราวกับว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์เสียแล้ว)โดยที่ญี่ปุ่นการกลั่นแกล้งโดยเฉพาะในชั้นเรียนเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมอย่างมากเห็นได้จากสื่อต่างๆในญี่ปุ่นที่จะพูดถึงเด็กที่ถูกเพื่อนในห้องกลั่นแกล้งต่างๆนานาจนทำให้เด็กคนนั้นกลายเป็นเด็กเก็บกดไม่เข้าสังคมบ้างคนถึงต้องย้ายโรงเรียนหนีหรือไม่ก็บางคนทนแรงการกลั่นแกล้งไม่ไว้จนฆ่าตัวตายในที่สุด(และที่เลวร้ายที่สุดคนที่กลั่นแกล้งนั้นจะไม่ค่อยรู้สึกผิดหาคนที่ถูกแกล้งฆ่าตัวตายโดยมองว่าไม่ใช้ความผิดพวกเขาแต่ตัวเจ้าตัวเองที่อ่อนแอ)แถมเหล่าผู้ใหญ่ก็ไม่ค่อยจะสนใจช่วยเหลือเท่าไรเพราะมองเป็นเรื่องเล็กน้อยและทั่วโลกนั้นก็มีปัญหาการกลั่นแกล้งเช่นเดียวกันตามแต่ลักษณะสังคม มาพูดถึงตัวอนิเมะโดยเรื่องนี้ก็ถ่ายทอดปัญหาการแกล้งในชั้นเรียนโดยที่นิชิมิยะเป็นเหยื่อของการถูกกลั่นแกล้งอิชิดะกับเพื่อนในห้องเป็นผู้กระทำร่วมไปถึงนิชิดะที่ภายหลังกับการเป็นเหยื่อของการถูกกลั่นแกล้งเอง และเรื่องนี้นั้นมันยังได้นำเสนอผลกระทบของการกลั่นแกล้งด้วยโดยอิชิดะกลายเป็นคนเก็บตัว กลัวที่จะเข้าสังคมและกลัวการพูดคุยกับคนอื่นๆจนกลายเป็นคนโดดเดี่ยวไร้เพื่อนในที่สุดส่วนที่ตัวนิชิมิยะนั้นที่ต้องเก็บกดและทนการกลั่นแกล้งของเหล่าๆเพื่อนจึงทำให้ตอนเด็กเธอคืดจะฆ่าตัวตาย(จึงเป็นเหตุผลที่ให้ยูซูรุถ่ายภาพสัตว์ที่ตายแปะไว้ที่บ้านเพื่อให้นิชิมิยะกลัวตายและไม่คิดจะฆ่าตัวตายอีก) ก็หวังอนิเมะเรื่องนี้นั้นจะเป็นสื่อที่ช่วยสะท้อนและแก้ไขปัญหาการกลั่นแกล้งลงได้

ปัญหาของแต่ละตัวละคร 

จะเห็นได้ว่าเรื่องนี้นั้นตัวละครแต่ละตัวจะมีปัญหาภายในใจของแต่ละคนที่น่าสนใจและส่งผลกระทบต่อเรื่อง(หลักๆก็นิชิมิยะและอิชิดะ)โดยประเด็นนี้ต้องยกแต่ละครมาพูดถึงปัญหาภายในใจของแต่ละคร 

มาเริ่มที่อิชิดะกันปัญหาภายในใจของเขาคือการที่เขาการเป็นคนกลัวการเข้าสังคมกลัวการเข้าหาคอื่นๆจนการเป็นคนเก็บตัวเนื่องจากผลการที่เขาโดนกลั่นแกล้งตอนเด็กและถูกมองว่าการเป็นเด็กมีปัญหาเพราะเป็นคนนำในการแกล้งนิชิมยะและในทำให้เขารู้สึกผิดและเข้าใจนิชิมิยะจนโตมาทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเช่น ทำงานหาเงินช่วยครอบครัว(เพราะไปเห็นตอนแม่ไปถินเงินจ่ายค่าเสียหายนิชิมิยะ)หรือเรียนภาษามือเพื่อชดเชยความผิดภายในใจแต่มันก็ยังไม่พอสำหรับเขาจนคิดจะฆ่าตัวตายมาแล้ว จนกระทั้งเจอนิชิมิยะอีกครั้งจะให้ได้ว่าอิชิดะทำทุกอย่างเพื่อนิชิมิยะต่อให้เขาจะต้องตัดเพื่อนก็ตามทั้งที่เขาจะได้ฝื้นความสัมพันธ์กับเพื่อนเก่าและจะได้เพื่อนใหม่ก็ตามหรือแม้นิชิมิยะจะต้องสร้างความเดือดให้กับอิชิดะ(จนเกือบตาย)เขาก็ไม่เคยคิดจะโทษเธอเพราะความรู้สึกผิดต่อนิชิมิยะที่ทำตอนเด็กทำให้เขารู้สึกว่าต้องรับผิดชอบตัวนิชิมิยะ นี้และที่ทำให้อิชิดะดีต่อนิชิมิยะมากถึงแม้จะทำให้เขาเกือบตายก็ตาม มันไม่ใช้เพราะความรักแต่มันเกิดจากความรู้สึกผิดภายในใจ(จึงพี่แกอาจจะหวังๆอยู่บ้าง)

มาที่ตัวนิชิมิยะกันบ้างปัญหาของเธอนั้นคือการที่เธอพิการทางหูทำให้เธอปฏิสัมพันธ์และสื่อสารกับคนอื่นลำบากแถมยังถูกแกล้งและถูกมองเป็นตัวประหลาดอีกทำให้ภายใจของเธอรู้สึกเกลียดตัวเอง เกลียดตัวเองที่เป็นคนพิการเธออยากเป็นเด็กปกรติเหมือนคนอื่นจะได้สามารถมีเพื่อน พูดคุย ไปเล่นเหมือนคนอื่นๆและไม่ต้องโดนแกล้งอีกด้วย สิ่งนี้เองทำให้ตอนเด็กเธอคิดจะฆ่าตัวตาย พอตอนโตเธอได้อิชิดะคนที่เคยแกล้งเธอและคนที่เธอพยายามจะเป็นเพื่อนมากที่สุดเมื่อตอนเด็กแต่ตอนนี้เขากับมาขอเธอเป็นเพื่อนแทนและพยายามทำดีต่อเธอนี้อาจช่วงเวลานิชิมิยะมีความสุขสุดๆก็ได้ เพราะว่าไม่เคยมีคนอื่นมาสนิทสนมและช่วยเหลือกับเธอขนาดนี้แถมยังพาเธอไปพื้นความสัมพันธ์กับเพื่อนเก่าและรู้จักกับเพื่อนใหม่ และมันได้พัฒนาขึ้นกลายความรู้สึกชอบ แต่ทว่าเธอก็คิดหนักอีกเรื่องเธอพิการทางหูเพราะมันทำให้ทางอิชิดะต้องลำบากและเธออยากจะอยู่เขากับเขาแบบคนอื่นปกติ จนเห็นบางครั้งเธอพยายามพูดเหมือนคนอื่น จนกระทั้งเกิดปัญหากับกลุ่มเพื่อนโดยมีเธอเป็นต้นตอของปัญหาและคำพูดอุเอะโนะที่บอกว่าถ้าไม่มีเธออิชิดะก็ไม่ต้องแยกกับกลุ่มเพื่อนๆเด็กตอนเด็ก และเธอก็ดูเหมือนจะคิดแบบนั้นด้วยหากไม่มีเธออิชิดะก็คงอยู่กับเพื่อนๆในตอนเด็กเหมือนเดิมและไม่มีเธออิชิดะก็ไม่ต้องตัดเพื่อนกับคนอื่นเพื่อเธอด้วย ทำให้เธอคิดว่าตัวเธอนั้นไม่มียังดีซะกว่า จนเป็นเหตุให้เธอคิดฆ่าตัวตายอีกครั้งแต่ทว่าอิชิดะมาช่วยทันแต่เขาต้องบาดเจ็บจนนอนโรงพยาบาลเพราะเธอ ก็ยิ่งทำให้นิชิมิยะรู้สึกผิดเขาไปอีกและเกลียดตัวเองเข้าไปอีก

ขอมัดร่วม3คนเลยแล้วกันจะได้มันยาวมากสำหรับแกล้งเพื่อนเก่า เริ่มอุเอะโนะก่อนเลยปัญหาของนั้นคือความอคติต่อตัวนิชิมิยะล้วนๆ เธอไม่ชอบนิชิมิยะมาตั้งแต่เด็กๆแล้วโดยมองว่าเป็นน่ารำคาญละเหตุการณ์ที่อิชิดะต้องโดนเพื่อนทิ้งนั้นอุเอะโนะก็โทษตัวนิชิมิยะเป็นเหตุที่ทำให้เธอและอิชิดะต้องแยกกันบวกทั้งตัวเธอก็แอบชอบอิชิดะโดย และตอนเจอกับอิชิดะอีกครั้งทำให้คิดจะครั้งแต่ทว่าไม่ใช้เหมือนแต่ก่อนอิชิดะนั้นกลายเป็นเพื่อนกับนิชิมิยะเรื่องนี้อาจสิ่งที่เธอไม่พอใจจะเห็นได้ว่าอุเอะโนะนั้นจ้องจะทำอะไรไม่ดีตลอดโดยเฉพาะบอกว่าเธอเป็นต้นเหตุทำให้อิชิดะแยกกับเพื่อน แถมตัวเธอนั้นก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยจะอิชิดะในปัจจุบันด้วยเพราะอยากให้ทุกอย่างเหมือนตอนในอดีตก่อนที่มีผู้หญิงชื่อนิชิมินะ และมาเหตุการณ์ที่อิชิดะต้องเขาโรงพยาบาลเพราะทำให้อุเอะโนะเกลียดนิชิมิยะเพื่อขึ้นจนไม่ให้นิชิมิยะเยี่ยมอิชิดะเลย ส่วนทางด้านซาฮาระนั้นปัญหาของเธอนั้นคือปมภายในใจของเธอตั้งแต่เด็กที่เป็นคนไม่ได้เรื่อง อ่อนแอ ขี้ขาดแถมตอนที่นิชิมิยะถูกแกล้งเธอที่เป็นคนที่สนิทที่สุดกับช่วยเธออะไรไม่ได้เลยทำให้รู้สึกสมเพชตัวเองจนปมนั้นติดตัวมาตอนโตทำให้พยายามปรับปรุงตัวเองให้เป็นเข้มแข็งขึ้นและเมื่อเจอนิชิมิยะอีกครั้งทำให้เธอพยายามดูแลนิชิมิยะและปกป้องเธอ ส่วนคาวะอินั้นปัญหาของเธอนั้นจะเป็นเรื่องนิสัยเสียที่สวมหน้ากากเพื่อให้ภาพลักษณ์ตัวเองดูดีในสายตาคนอื่น ซึ่งเธอเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กเธอเออออกับการกลั่นแกล้งนิชิมิยะทั้งที่ลึกๆก็ไม่เห็นด้วยแต่เพื่อภาพลักษณ์ตัวเองก็ต้องตามเพื่อน ตอนอาจารย์ตามหาคนผิดเธอเป็นแรกๆที่โยนความผิดให้กับอิชิดะเพราะกลัวความผิด นิสัยแบบนี้นั้นมันติดตัวเธอไปจนโตและทำให้เธอเสียความเป็นตัวของตัวเองเวลาจะทำอะไรก็ต้องดูคนรอบข้างเพราะห่วงภาพลักษณ์ของตัวเอง 

สองตัวนี้ในอนิเมะไม่ค่อยเห็นปัญหาที่ชัดเจนเท่าไร โดยที่ยูซุรุนั้นค่อนข้างเป็นเด็กที่มีปัญหาไม่ไปโรงเรียนทะเลาะกับที่บ้านและหนีออกจากบ้านบ่อย และเวลาเธอมีอะไรไม่สบายใจเธอมักเก็บมันไว้คนเดียวแถมทำตัวเหมือนปกติกลายเป็นเหมือนเด็กเก็บกด ส่วนนากาซึกะนั้นค่อยเป็นคนขี้เหงามากเพราะเป็นที่ไม่ค่อยมีเพื่อนหรือมีใครคบ ทำให้ตอนที่ได้เป็นเพื่อนกับอิชิดะนั้นเข้าค่อนข้างที่จะดีใจมากๆและให้ความสำคัญต่อเพื่อนของเขาเป็นพิเศษ

ตอนจบที่ดีที่สุด

เห็นหลายคนบอกว่าไม่ชอบฉากจบเรื่องนี้เพราะไม่ตรงกับมังงะอันนี้ต้องทำใจเพราะเกียวอนิไม่จะทำตามต้นฉบับเท่าไรหรือความรักระหว่างนิชิมิยะกับอิชิดะยังไม่สรุปเลยอันนี้หลายคิดคิดว่ามันเป็นอนิเมะรักโรแมนติดซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช้เลยมันเป็นอนิเมะดราม่าชีวิตทำให้ความรักระหว่างทั้งสองไม่ถูกโฟกัสเท่าไร ส่วนตอนจบของอนิเมะนั้นตอนคนเขียนค่อนข้างชอบมากๆเป็นอีกอนิเมะที่มีตอนจบที่สวยงามและดีที่สุดอย่างมากเป็นอีกหนึ่งตอนจบที่แฮปปี้เอนที่สมบูรณ์เพราะทุกตัวละครสามารถคลายปัญหาของตัวเองได้และมีความสุขกันทุกคน อุเอะโนะยอมลดอคติเปิดใจต่อนิชิมิยะและยอมรับในตัวเธอจนเป็นเพื่อนกันในที่สุด ซาฮาระสามารถก้าวปมด้อยของตัวเองได้จากเด็กที่อ่อนแอขี้ขาดก้าวขึ้นเป็นหญิงสาวที่มีจิตใจเข้มแข็งและปกป้องเพื่อนของเธอได้ คาวาอิสามารถทำลายหน้ากากและกลายเป็นตัวของตัวเองในที่สุด อุซุรุยอมไปโรงเรียนอีกครั้งและไม่ต้องค่อยแบกปัญหาไว้คนเดียวอีก นากาซึกะคนนี้น่าจะคลายปัญหาไปแล้วคนแรกๆเลยคือเขาได้มีเพื่อนอย่างที่สมหวังและได้การยอมรับจากคนอื่นๆ ส่วนนิชิมิยะนั้นเธอสามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นเหมือนเด็กสาวทั่วไปมีเพื่อนตามที่เธอหวังและมีคนเข้าใจในตัวตนของเธอ ส่วนอิชิดะนั้นสามารถชดใช้ความผิดที่มำต่อนิชิมิยะได้ สามารถกลับไปมีเพื่อนและร่วมเหล่าเพื่อนเก่ากับมาได้อีกครั้งความพยายามของเขาทั้งหมดนั้นมันได้รับการตอบแทนในตอนสุดท้ายวันงานโรงเรียนอิชิดะสามารถทำลายกำลังความกลัวและความกังวลในการเข้าสังคมและเข้าหาคนอื่นได้เป็นปกติอีกครั้งเขาไม่ต้องอยู่ตัวคนเดียวได้อีกต่อไปแล้วความรู้สึกนี้นั้นทำให้อิชิดะดีใจจนร้องไห้ออกมาด้วยความตื่นตัน สำหรับเด็กชายที่ต้องทรมานกับความผิดของตัวเองเป็นเวลานานและได้รับการปลดปล่อยนั้นมันคือสิ่งที่มีความสุขที่สุดสำหรับเขาเลยก็ว่าได้

ยังมีอีกหลายเรื่องหลายประเด็นสำหรับเรื่องนี้ทั้งความเซียนของสตูดิโอเกียวอนิที่ยกเครื่องเรื่องทั้งหมดและปรับใหม่ไสตล์ตัวเองที่ทำให้รักไร้เสียงมีคุณภาพและเสน่ห์มากขึ้นงานภาพนี้ไม่ต้องพูดไรมากเกียวเข้าดีอยู่แล้วเพิ่มยังออกแบบคาแร็คเตอร์ให้มีเสน่ห์เพิ่มขึ้นไปอีกโดยเฉพาะนิชิมิยะน่ารักมากๆจนคนเขียนหลง ส่วนอีกเรื่องคือนักพากย์ตัวทีมพากย์ของเรื่องนี้นั้นพากย์ได้เข้ากับตัวละครที่คนเลยสามารถสร้างเอกลักษณ์ตัวละครได้อย่างดีและมาสเตอร์พีคสุดคือฮายะมิ ซาโอริคนพากย์นิชิมิยะที่ต้องพากย์เป็นคนพิการทางหูซึ้งเธอพากย์ได้ยอดเยี่ยมมากได้อารมณ์คนพิการทางหูสุดๆจนคนเขียนรู้สึกอินตัวละครนิชิมิยะเลยว่าเธอหูหนวกจริงๆ  เรื่องนี้ก็มีข้อเสียเหมือนกันคือบางจังหวะรีบทำไปหน่อยจนทำให้บางประเด็นมันตื่นไปเลยโดยเฉพาะคาวาอิแก้ปมเนื้อเรื่องเร็วมากแถมเรื่องก็ไม่ค่อยโฟกัสไปที่เนื้อเรื่องตัวละครตัวอื่นเท่าไรจะเด่นไปที่อิชิดะคนเดียวถ้าทำเรื่องนี้จะเข้มข้นกว่ามาก กระแสเรื่องนี้ก็ถือว่าโอเคมากทำได้กว่าสองพันล้านแต่อนิจามาผิดปีไปหน่อยเจอของใหญ่อย่างkimi no nawa เข้า(อาถรรพ์เกียวทำดีเจอดีกว่า)ไม่งั้นคงเป็นมาสเตอร์พีคประจำไปเลยก็ได้ สรุปแล้วเป็นอนิเมะที่สามรถเยียวยาใจคนได้ดีและสื่อที่ต้องการจะสื่อนั้นดีมากเพียงคุณลดอคติยอมเปิดใจและเข้าใจคนอื่นที่แตกต่างจากคุณก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข 

Koe no Shita no wa-Aiko

https://www.youtube.com/watch?v=26MYn8aRRbo