ดูการ์ตูนเรื่อยเปื่อย

ลำดับตอนที่ #2 : 3สุดยอดผู้กำกับอนิเมะที่ถูกยกให้ใกล้เคียงกับมิซากิ ฮายะโอะPart2hosoda mamoru

hosoda mamoru ราชาแห่งความอบอุ่น

มาเตอร์พีค Summer Wars

  เป็นผู้กำกับหน้าใหม่อีกคนหนึ่งที่ตอนนั้นกระแสมาแรงเป็นอย่างมากด้วยผลงานที่มากด้วยคุณภาพทั้ง ภาพ ความอบอุ่นซึ้งกินใจจนแฟนๆต่างก็ยอมรับแถมเข้ายังสามรถเข้าใกล้ตำแหน่งมิยาซากิ ฮายะโอมากที่สุดอีกคนหนึ่ง จนเป็นที่จับตามองว่าผู้กำกับคนนี้อาจขึ้นแทนเป็นราชาอนิเมะคนใหม่ต่อมิยาซากิ ฮายะโออีกคนหนึ่ง โดยชีวิตอนิเมเตอร์ของมาโมรุนั้นเริ่มจากเป็นอนิเมเตอร์ในทีมงานอนิเมะดังๆหลายเรื่องทั้งเช่นDragon Ball Z,Sailor Moon,Slam Dunk และก้าวขึ้นมาเป็นผู้กับอนิเมะระดับตำนานเช่น Digimon Adventure The Movie(1999) และ One Piece Movie 6(2005)นอกจากนี้เข้ายังเคยถูกเลือกให้มาเป็นผู้กำกับชั่วคราวเรื่องHowl’s Moving Castle(2004)สุดยอดผลงานของสตูดิโอจิบลิก่อนที่มิยาซากิ ฮายะโอจะกลับมากำกับเอง 

Howl’s Moving Castle(2004)

หลังจากนั้นมาโมรุก็ได้มีผลงานของตัวเรื่องแรกกับสตูดิโอMadhoseนั้นคือthe Girl Who Leapt Through Time (2006)ซึ่งเป็นผลงานที่งานสร้างชื่อให้กับเข้าและประสบความสำเร็จในการคว้ารางวัลทั้งในและต่างประเทศมากมาย 

the Girl Who Leapt Through Time (2006)

ต่อมาเข้าก็ได้สร้างผลงานกับสตูดิโอMadhoseที่ประสบความสำเร็จสูงสุดนั้นคือเรื่องsummer wars(2009)อนิเมะแนวคอรบครัวแสนอบอุ่นผสมกับไซไฟภาพสวยสุดงาม ซึ่งเรื่องนี้ถูกเสนอชื่อ1ใน15อนิเมชั่นที่ได้เข้าชิงรางวัลออสก้าครั้งที่83ปี2009ซึ้งเป็นอนิเมะไม่กี่เรื่องนอกจากอนิเมะสตูดิโอจิบลิที่ถูกเสนอเข้าชิงออสก้าทำให้มาโมรุเป็นผู้กำกับอนิเมะที่เข้าใกล้ฮายะโอที่เคยนำ Spirited Awayได้ออสก้าปี2001นอกจากนี้summer warsก็ยังได้รางวัลมากมายทั้งในและต่างประเทศส่วนมาโมรุก็ได้รางวัลผู้กำกับอนิเมะยอดเยี่ยมของปีหลายสำนักเรียกได้มาโมรุฟาดรางวัลไปเกือบหมด 

summer wars(2009)

เวลาผ่านไปมาโมรุก็แยกทางกับกับMadhoseมาตั้งสตูดิโอของตัวเองคือสตูดิโอChizu และได้สร้างผลวานชิ้นต่อมานั้นก็คือ Wolf Children(2012)อนิเมะสุดซึ่งของคุณแม่กับสองลูกหมาป่าซึ่งประสบความสำเร็จไม่แพ้กันพร้อมกับกวาดรางวัลได้อย่างมากมาย และเรื่องล่าสุดของมาโมรุนั้นก็คือ The Boy and The Beast(2015) เอกลักษณ์ของผลงานมาโมรุนั้นคือความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครเช่น หนุ่มสาว ครอบครัว แม่ลูก ครูศิษย์ ที่ถ่ายทอดออกมาได้อบอุ่นซึ่งกินใจเป็นอย่างมากโดยที่คนอื่นนั้นยากที่จะทำตามได้ มาโมรุนั้นเป็นสายอบอุ่นใจต่างจากอันโนะที่จะเป็นดราม่ามืดมน ผลงานของมาโมรุนั้นจึงเหมาะสำหรับทุกวัยทุกเพศสามารถดูกันเป็นครอบครัวได้จุดนี้และเป็นจุดขายของมาโมรุและส่วนตัวชอบมากๆ 

Wolf Children(2012)

และข่าวล่าสุดมาโมรุเตรียมออกผลงานตัวเองในปี2018ด้วยเจ้าตัวหลุดปากว่าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องต้องรอดูกันต่อไปว่ามาโมรุจะสามารถกลับมาในฐานะอีกหนึ่งผู้กำกับที่เข้าใกล้มิยาซากิ ฮายะโอะได้อย่างไร รอกันยาวๆ

The Boy and The Beast(2015)

ติดตามตอนต่อไป...

อ้างอิง

https://myanimelist.net/people/5067/Mamoru_Hosoda

http://akibatan.com/tag/hosoda-mamoru/

http://mcot-web.mcot.net/9ent/view.php?id=57f1f81393816331c28b4661

http://anngle.org/th/j-entertainment/j-e-anime/hosodamamoru.html