คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : พรหมลิขิตว่ามั้ย
ตอนที่ 6 พรหมลิขิตว่ามั้ย
คุณเชื่อไหม...ว่าพรหมลิขิตมีจริง เมื่อก่อนผมไม่เคยเชื่อเลยจนกระทั่งวันนี้ผมได้พบกับคนที่แทบจะเอาลมหายใจของผมไปเลยก็ว่าได้....ไม่อยากจะเชื่อ....แค่เพียงสบตากัน....ใจก็สั่นไม่หยุด.....เพียงเสี้ยววินาทีเดียวช่วงชิง......เอาไปหมดทุกอย่าง....
บนขบวนรถไฟฟ้า....แจจินมุ่งหน้าไปที่สถานนีฮอนดง....
คนแน่นชะมัดเลย.....ไม่นานเชื่อจะแน่นขนาดนี้...เฮ้อไม่นานมาเลย แจจินคิดในใจ
ช่วงนี้เป็นช่วงเย็นผู้คนขวักไขว....ผู้คนหนาแน่นแออัดยัดเยือด
เฮ้อ น่าเบื่อชะมัดทั้ง ๆที่เราพึ่งมาถึงเกาหลีแท้ ๆ พี่ฮงกิก็ยังใช้เราไปชื้อของอีกแน่ะ.....เฮ้อแย่ที่สุดไอ้พี่บ้า....ไม่มีเป็นห่วงน้องบ้างเลย...ไอ้เรารึหลงคิดถึง....แจจินคิดไปพลางมองกระดาษน็ตในมือไปพลาง
อะไรเนี่ยมีแต่ของกิน.....จะเอาโน่นบ้างล่ะ...จะเอานี่บ้างล่ะ...และตัวเองก็ไม่มาซื้อ...มีใครที่ไหนเค้าออกมาซื้อของจัดปาร์ตี้ต้อนรับตัวเองบ้างวะ....คิดแล้วมันเศร้าจริง ๆ อีแจจิน....ไม่มีใครรักนายสักคน....ไม่ได้ปีนี้แหละเราจะหาแฟนให้ได้สักคน......
ในระหว่างที่คิดพลางรู้สึกแปลก ๆ ที่ด้านหลัง....เป็นชายชราใส่แว่นหนาคนหนึ่งเบียดกระชั้นเข้าใกล้จนลมหายใจรดต้นคอนายหนุ่มหน้าหวาน
..จะเข้ามาใกล้อะไรนักหนาเนี่ยตรงโน้นก็ยังว่างอยู่เลยลุง....โอ๊ยรำคาญ...แจจินคราง
พลันรู้สึกผิดปรกติ...มือหนา ๆ ของชายคนดังกล่าวขยุ้มจับบริเวณสะโพกลูบไล้ไปจนถึงก้มงอนของชายหนุ่มหน้าหวาน
เฮ้ย...ไอ้บ้า...ไอ้วิปริต...ปล่อยนะ...จะล้วงไปถึงไหนเนี่ย....โอ๊ยทำไงดี....ส่งเสียงมันเลยดีมั้ย....โอ๊ยจะบ้าตาย....คนก็แน่น..อายตายเลย...รึว่าเราจะคิดไปเอง...จะมีไอ้บ้าที่ไหนมาแต๊ะอั๋งผู้ชายวะ...คงเป็นเพราะคนแน่นมั้ง....นายเข้าใจผิด...อีแจจิน..เขยิบหนีไปทางโน้นดีกว่า
แจจินเบียดร่างไปอีกทางหวังหลบให้พ้นจากชายวัยดึกดังกล่าว
แต่ชายชรายังคงเดินปรี่เข้าเบียดแจจินอีกครั้งพร้อมทั้งส่งสายตาลวมลามไปที่ร่างบาง....ขยุ้มลูบไล้ที่ก้นงามอีกครั้ง
.โอ๊ยไม่ไหวทนไม่ไหวแล้ว ....ฮือ..ไอ้บ้า..ป่ะ...ปล่อยนะ แจจินพยายามลงเสียงบอก..แต่เสียงที่ออกไปกับแผ่วเบาเพราะความตื่นกลัวอย่างสุดขีด...และรู้สึกอายจนต้องก้มหน้างุด ๆ พยายามแทรกตัวไปที่ประตูเพื่อที่จะหนีลงสถานนีหน้า พลันได้ยินเสียงตวาดก้องชายคนหนึ่งตรงเข้าจับที่ข้อมือของคนโรคจิดและส่งเสียงดังเพื่อประจานชายชราให้เกิดความอับอาย
เฮ้ยมองอยู่นานแล้ว....ไอ้โรคจิตปล่อยมือจาก...น้องชายคนนั้นได้แล้ว.... แก่แล้วนะทำไมยังทำอย่างนี้อีก...ไม่กลัวลูกหลานอับอายบ้างเลยรึไง ......ชาวหนุ่มผิวเข้มแสดงสีหน้าเหลืออดในพถติกรรมโรคจิตของคนชราเนื่องด้วยเค้าสบสายตาไปเห็นชายหนุ่มหน้าหวานที่เคราะห์ร้ายสีหน้าซีดเผือก....ดูแล้วให้เกิดความรู้สึกสงสาร..
ไอ้เด็กเปรตมึงพูดอะไร....กูเปล่าทำ..อะไรสะหน่อย...ปล่อยมือกูนะ...ปล่อย ชายชราพยายามสะบัดอย่างแรงแต่มือที่เกาะกุมไว้ยังจับแน่นไม่ปล่อยอย่างกับถูกมัดเอาไว้อย่างแน่น...
ช่วยด้วย...ปล่อยนะ...ชั้นเปล่าทำอะไรนะโว้ย...ใครจะบ้าไปแต๊ะอั๋งผู้ชาย....ดูซิไอ้หนูยังไม่พูดอะไรเลย .ปล่อยกู ชายชราโวยวายพลันสะบัดจนหลุดพุ่งหนีวิ่งฝ่าฝูงชนไปจังหวะเดียวกันที่ประตูเปิดออก
เฮอะหนีไปจนได้ น้องชายนายสีหน้าไม่ดีเลยเป็นอะไรรึเปล่า ชายผิวเข้มกล่าว
สายตาหลายคู่บนขบวนรถไฟฟ้าหันมาจับจ้องที่แจจินจนเจ้าตัวต้องก้มหน้าด้วยความอายไม่แม้แต่จะมองสบตาคนที่ช่วยเหลือได้แต่ส่งเสียงบอกออกไปอย่าง แผ่วเบา
เออ....ไม่เป็นไรครับ...ขอบคุณ...แจจินทั้งเขินทั้งอายที่ตอนนี้มีแต่สายตาจ้องมองมาที่เค้า
จะบ้าตาย.....ไอ้หมอนี่ถึงมันจะช่วยเราแต่มันทำให้เราต้องอับอาย...เกิดเป็นผู้ชายเสือกถูกลวนลาม..แถมยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ต้องให้คนอื่นช่วย.....ตูอยากแทรกแผ่นดินหนี ถ้าพี่ฮงกิรู้เป็นได้ล้อไม่เลิกแน่....โอ๊ยไม่ไหวลงมันป้ายหน้านี้เลยแล้วกัน
ไอ้น้องคนนี้แปลก ๆ ดูเหมือนมันโกธร ๆ ขอบคุณเหมือนมันไม่เต็มใจ...รึว่าเราไปขัดจังหวะมันเข้าวะ....ดูมันลุกลี้ลุกลนยังไงชอบกล....ชายผิวเข้มที่เข้าช่วยเหลือแจจิน...ไม่ใช่ใครที่ไหนเค้าคือ...โอวอนบินนั่นเอง
วอนบิน ครุ่นคิด พลันรู้สึกมีหลายสายตาจับจ้องมองมาที่เค้าสองคน....
สงสัยเราทำให้มันอับอาย วอนบินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด
แจจินรีบเดินตรงดิ่งรีบออกจากรถไฟฟ้าอย่างเร็วเมื่อจอดเทียบชานชาลา
วอนบินตามแจจินออกมาแทบไม่ทัน....วิ่งฝ่าพยายามส่องส่ายสายตามองหาเด็กผู้ชายหน้าหวานคนเมื้อกี้
ไอ้เด็กนั่นทำไมมันไวจังวะ ดูดี ๆอาจเจอมันใส่เสื้อลายสก็อตสีแดง สวมหมวกออกเด่น....แต่เอ๊ะเราจะวิ่งตามมันมาทำไมวะเราลงป้ายหน้าโน่นช่างมันเถอะ พลางกราดสายตาไปเจอหนุ่มหน้าหวานเข้าพอดี...วอนบินเดินตรงรี่เข้าไปหาแจจิน
เออ...เจอกันจนได้...นายไม่ได้ลงป้ายนี้หรอกเหรอ วอนบินถามพลางส่งรอยยิ้มหวานไปให้
แจจินขมวดคิ้วเข้าหากัน
ใครกันวะ... พูดกับเราเหรอ พลางชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง แจจินถาม
ทันทีที่สบตาคู่ใสๆ นี้ แจจินเกิดความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นในใจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหัวใจกระตุกสั่นไหว
ตึก ตัก ตึก ตัก...เราเป็นอะไร..รอยยิ้มนั่นทำไมมันช่างดูสดใสจริงใจนักนะ....เราเคยรู้จักหมอนี่มาก่อนเหรอเปล่าวะ...จำไม่ไม่ได้ ทำไงดีหัวใจมันเหมือนจะออกมาข้างนอกเลย เป็นอะไรง่ะตู แจจินพยายามเพ่งพิศคนตรงหน้า....เป็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผิวเข้ม.ผมยาวปะบ่าทรงรากไทร...มีรอยยิ้มที่สดใสด้วยดวงตาที่เป็นรูปสระอิดูพราวแพรวระยิบระยับคู่หนึ่ง...ใส่เสื้อฮุดสีดำกางดูช่างมีเสน่ห์น่าค้นหา.ส่งสายตามาให้อย่างเป็นมิตร...นี่เป็นช่วงวินาทีเดียวแต่แจจินกลับรู้สึกว่ามันยาวนานเสียจนน่าแปลกใจที่เค้าสามารถเก็บรายละเอียดคนตรงหน้าได้ถี่ยิบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
นายจำชั้นไม่ได้เหรอ....ที่บนรถไฟไงชั้นเป็นคนช่วยนายไง วอนบินยิ้มกว้าง
แจจินพยักหน้าแสดงว่ารับรู้....ก่อนที่หันหน้ากับไปเพื่อปกปิดใบหน้าที่แดงกล่ำของตัวเอง
เฮ้ยอะไรวะ...แค่เนี่ย...ไอ้หนูนี่ตัดบทเราจัง....ทำไงดีวะไอ้เราก็แค่จะอยากขอโทษสงสัยมันเคืองจริงอะไรจริงมั้งไม่ยอมสบตาเลย
วอนบินอดรู้สึกขัดใจในการกระทำของฝ่ายตรงข้ามไม่ได้จนต้องพูดขึ้น
นายก็ลงป้ายหน้าเหมือนกันเหรอ....หันมานี่หน่อย..ชั้นไม่ใช่คนโรคจิตนะแค่....อยากจะขอโทษที่ทำให้นายอับอาย...ชั้นโวยวายไปหน่อยลืมไปว่ามันอาจจะให้นายเสียหน้า วอนบินส่งสายตาวาววับให้แจจินอีกครั้ง
ทำไงดีไม่หันไปคงไม่ได้....หมอนี่ออกจะนิสัยดี...เบาหน่อยได้มั้ยหัวใจ...แจจินพยายามปั้นหน้าสุดฤทธิ์ส่งยิ้มตอบกลับไป
เออเฮะ...นายมันหน้าหวานขนาดนี้ไงล่ะถึงได้เกิดเรื่อง วอนบินอดไม่ได้ที่จะพูดถึงใบหน้าที่หวานเกินชาย
แล้วไง...แจจินเริ่มขมวดคิ้ว....พลางคิดในใจ
ไรวะกำลังคิดอยู่เลยว่ามันก็หล่อดี....แต่ไอ้นี่กลับมาแขวะหาเรื่องเราซะงั้น...ถ้าชั้นหน้าหวานแล้วไอ้พี่ตัวซวยมันคือตัวอะไร...
ชั้นไม่ได้ว่าอะไร นายซะหน่อยอย่างเพิ่งโกธรซิเพื่อน...ชั้นก็แค่อยากจะขอโทษ....ขอโทษจริง ๆ
วอนบินก็เริ่มงงที่ตัวเองแคร์กับคนแปลกหน้าขนาดนี้อาจเป็นเพราะคนตรงหน้ามีใบหน้าที่น่าเอ็นดูก็เป็นได้
ชั้นว่าชั้นอายุมากกว่านายนิดหน่อยมั้ง....ชั้นชื่อวอนบิน เรียนอยู่ที่มหาลัยอันยอง นายหล่ะ วอนบินถาม
ชั้นชื่อ อีแจจิน เรียน เออ ไม่รู้สิ....ไม่แน่ใจ....แจจินตอบ
แจจินพยายามนึก..เอ...ชื่ออะไรน๊า....จำไม่ได้จริง ๆ นี่ชั้นไม่ได้กวนนายนะ
วอนบิน ขมวดคิ้วอย่างสงสัย คิดอะไรเรียนที่ไหนก็ไม่รู้สงสัยมันไม่อยากบอกมากกว่า....ช่างเถอะ
มาพอดีเลย.......พี่ลงป้ายหน้าแล้วนายล่ะ วอนบินถาม
ผมลงสถานนีฮอนดงป้ายต่อจากพี่วอนบินอีกป้าย...แจจินยิ้มให้
พี่วอนบิน เรียนคณะอะไรเหรอ
คณะนิเทศน่ะ.....เออถึงพอดีไว้โชคดีเจอกันใหม่ว่าง ๆ นายแวะไปหาชั้นที่อันยองซิ...ใคร ๆ ก็รู้จักชั้นทั้งนั้นเออใช่อันยองของเราจะมีงานเทศกาลกีฬาและดนตรีขึ้นในอีกเดือนหน้าด้วยนะ...ไปเที่ยวหาชั้นได้นะ...ไปหล่ะ วอนบินโบกมือให้แจจินก่อนกลับพร้อมส่งรอยยิ้มให้อีกครั้ง
และรอยยิ้มนี้นี่เองที่ทำให้แจจินอดไม่ได้ที่จะเขินอายใบหน้าแดงกล่ำ...คนอะไรเนี่ยยิ้มที่ใจแทบจะวาย....หมอนี่เท่ห์ชะมัดเลย
ใครจะบ้ากล้าไปหา....หมอนี่ก็แค่พูดคุยเป็นมารยาท...ทำไมนายต้องตื่นเต้นดีใจด้วยฮะ...อีแจจิน
ฮงกิกดเบอร์หาแจจิน.....พร้อมกันนั้นเหลือบมองยงฮวาที่แกล้งหลับ
ชั้นว่าอีกสักพักอะ....งานนี้อาจกลับดึกหน่อยนะแจจิน
พี่อยู่ไหนเนี่ย....ผมหาซื้อต็อกกี...ไม่ได้อ่ะ...อย่ากินเลยพี่...นี่ก็จะเย็นแล้ว...เดี๋ยวรีบกลับด้วยล่ะพี่ แจจินส่งเสียงออดอ้อน
เออ ก็ได้อย่าลืมซื้อพิซซ่ามาด้วยล่ะ...เจอกันที่บ้าน ฮงกิกดตัดสายไม่รอให้ปลายสายได้มีโอกาสได้บ่น
กำหมัดแน่นพุ่งตัวเข้าข้างเตียงยงฮวา
ไอ้หน้าหวานนี่มันจะทำอะไร...รึว่ามันจะรู้ตัวแล้วว่าเราไม่ได้หลับวะ ยงฮวาหวั่นระแวง เหลือบตามองเห็นฮงกิพุ่งหมัดเข้าหาใบหน้าหล่อ ๆ ของตัวเอง พลันตัวหลบหมัดขวาที่พุ่งเข้ามาอย่างเร็วไปได้อย่างเฉียดฉิวแต่แล้ว.....หมัดที่ตามข้างซ้ายกับชกเข้าที่กกหูอย่างจัง
พลั่ก...โครม .....โอ๊ย.....
หมอนี่ตั้งใจให้เราหลบมาทางซ้ายตั้งแต่แรก...
ยงฮวาร่างถลาไปตามแรงหมัดแทบร่วงตกจากเตียงคนไข้
โอ๊ย...โอ๊ย น่าหล่อของชั้นจะหักมั้ย..
ไวกว่าความคิดเมื่อมือขวาของหนุ่มหน้าหวานล็อคเข้าที่ต้นคอของยงฮวาอย่างเร็ว....กระชากคอชายหนุ่มเข้ามารับเข่าลอยเข้าที่ซี่โครงเต็ม ๆ.....ถึงขั้นสลบเหมือดเลยที่เดียว.....ในระหว่างที่สะลืมสะลืออยู่นั้นยงฮวาพรางได้ยินเสียงหนุ่มหน้าหวานพูดบอกกับตนเองว่า
ชั้นไม่รู้หรอกนะว่าแกทำอย่างนี้ทำไม....รึว่าแกคิดรีดไถจากชั้น....แต่แกต้องจำไว้แกคิดผิดแล้ว...ชั้นอีฮงกิน้องเล็กคนสุดท้ายของแก็งค์ Chocoball นะเว้ยไม่ใช่ลา..ไม่ได้โง่..ถ้ามีปัญหาไปหาชั้นได้ทุกเมื่อ...ไปเว้ยคังอิน,ดงเฮ ฮงกิยิ้มอย่างสะใจ
ลูกพี่ถ้ามันหยามลูกพี่....เราสั่งสอนมันให้หนักกว่านี้ดีมั้ย....เอาให้หน้ามันเสียโฉมไปเลยดีมั้ยพี่ ดงเฮพูดพลางกวาดสายตามองหน้ายงฮวาที่กำลังจะหมดสติ
หมั่นไส้....ไอ้บ้านี่.....เอาหน้าหล่อ ๆนี่มามองลูกพี่เดี๋ยวเกิดลูกพี่ติดใจมันจะทำยังไงต้องสั่งสอนมันให้เข็ดหลาบ...แต่เอ๊ะลูกพี่ก็ไม่เคยสนผู้ชายด้วยสิ ดงเฮคิดจ้องเขม็งอย่างเอาเรื่อง
ไม่ต้อง ชั้นแค่อยากจะสั่งสอนมันเฉย ๆ ว่าอย่าริมาหลอกกู...แค่นั้น....ไม่ต้องเลย....ถ้าชั้นอยากจะอัดหน้า.......มันละก็ชั้นอัดมันเละไปแล้ว....ช่างมันเถอะปล่อยมันไปสงสารหน้าหล่อ ๆ ของมัน ไอ้ชั้นมันก็คนหล่อเหมือนกันย่อมเข้าใจกันโว้ย....ไปเหอะ คังอิน
ในสติที่พร่ามัวอยู่นั้นยงฮวายังคงมองเห็นใบหน้าหวาน ๆที่ยกยิ้มมาให้...
ไอ้หมอ...ไอ้โรคจิตเอ้ย...ให้ตายเหอะ...โค ตะ ระ เจ็บเลย...เจ็บเข้าขั้วหัวใจเลย.....อีฮงกิ...เราต้องเจอกันอีกแน่...นี่เราเป็นอะไรไปแทนที่จะโกธรกลับ..รู้สึกแปลก ๆ ..ไอ้หน้าหวานชั้นจะทำให้นายลืมไม่ลงเลย....เราต้องได้เจอกันอีกแน่
แชะ แชะ คุณจงฮุน ดีแล้วครับ...มองมาทางซ้ายอีกนิด..ครับ ครับ ดี ดีมาก ซึงฮยอน เบี่ยงตัวหน่อย..ไม่ต้องยิ้ม..เอียงคออีกนิด...โอเค
ไรวะที่พี่ฮุนดี...ดีมาก..คุณจงฮุนอย่างงั้นคุณจงฮุนอย่างงี้...ที่กับเราสั่งนั่นสั่งนี่ตลอด....แถมคำชมยังไมมีแค่โอเค...ไรเนี่ยไม่ยุติธรรมอ่ะตากล้อง....นายว่ามั้ยมินฮวาน
มินฮวานชายหนุ่มหน้าหวานแก้มกลมเนียนใส ตาเรียวเล็กคู่ใสส่องเป็นประกาย ริมฝีปากอวบอิ่ม มีใบหน้าที่ดูแย้มยิ้มตลอดเวลา เป็นดารามาตั้งแต่เด็กเป็นที่รู้จักกันทั้งประเทศเป็นน้องชายสุดรักสุดหวงของจงฮุน
ก็จริงอ่ะ....พี่จงฮุนเพอร์เฟค...จะไปบ่นได้ไงอ่ะซึงแล้วอีกอย่างพี่ฮุนน่ะพอมองตาเค้าใครกล้าพูดอะไรมั่งอ่ะ....ยิ่งตาดุ ๆ มัน..มองที่เหมือนถูกสาปให้เป็นหินอย่างไงอย่างงั้นเลย มินฮวานยิ้มแกล้งพูดเสียงดังเพื่อแขวะจงฮุน
นี่นาย....ที่นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่นนะ..เค้าจะถ่ายแบบกัน ....นายจะมาทำไม....ถามจริง ๆ เถอะมาที่นี่บ่อย ๆ ติดใจอะไรหนักหนา....จงฮุนแกล้งแหย่น้องชายสุดรัก
มินฮวานเขินจนใบหน้าแดงกลำถึงใบหูหลังจากพี่ชายพูดหยอกขึ้นเพราะรู้ว่าพี่ชายสุดหล่อนั้นรู้ความลับที่แอบซ่อนอยู่ภายในของตัวเอง
พี่บ้า....พูดมาได้เจ้าตัวก็อยู่เดี๋ยวก็รู้ตัวกันพอดี มินฮวานก้มหน้ายิ้มแก้มป่อง
พี่จงฮุนหมายถึงอะไรอ่ะมิน...เหรอว่านายติดใจน้องซาร่านางแบบคู่ของพวกฉัน.....ซึงฮยอนแซวเพื่อนโดยไม่รู้เลยว่าคำพูดเพียงเท่านี้ของตนเองนั้นสร้างความหมองหม่นให้กับคนหน้าหวานขนาดไหน
มินฮวานพยายามซ่อนความขมขื่นเอาไว้พลางยิ้มแห้งๆ ให้ซึงฮยอน
มินฮวานอดคิดในใจไม่ได้ ซึงนายพูดอะไร....ยัยซาร่าอะไรนั่นชั้นเคยเหลียวมองที่ไหน...ชั้นมีแต่นาย....มีแต่นายมาตลอดตั้งแต่พี่จงฮุนแนะนำให้ชั้นรู้จักนายเมื่อ 2 ปี ก่อนแล้ว
ซึงฮยอน...นายพูดมากไปแล้ว....เออใช่วันนี้ชั้นมีตั๋วหนังด้วยนะพอดีพี่ทีมงานแบ่งตัวเรื่อง lover มาให้นายไปดูกับชั้นมั๊ยอ่ะ มินฮวานส่งยิ้มหวานให้
อะไรนะ....หนังรักเนี่ย....อยากจะบ้า...นายจะให้ชั้นไปดูกับนายจริง ๆ เหรอ ซึงฮยอนทำหน้าเบ้
เออ ถ้านายไม่อยากดู....ชั้นไปดูคนเดียวก็ได้....มินฮวานเริ่มหน้าเสียใบหน้าหวานก้มงุด ๆ
โอเค...ไป ก็ไป...ไรวะต้องทำหน้าหงิกด้วย...นายเนี่ยเอาแต่ใจชะมัดเอย รอเดี๋ยวเสร็จงานแล้วเราไปกัน ซึงฮยอนอดไม่ได้ที่ต้องตามใจเพื่อนรัก....
เฮ้อก็เป็นแบบนี้ซะเรื่อยขัดใจที่ไรเป็นมุดหน้าหนี...ไรวะถ้ามันวีนหน่อยเรายังกล้าจะขัดใจ...เนี่ยมันทำแก้มป่องน่ารักซะ...ใครจะทำลง เนี่ยตูต้องไปนั่งหลับที่โรงหนังอีกแระ เซ็งจิต
เย้ ตกลงชั้นไปรอตรงโน้นนะ...มินฮวานยิ้มไม่หุบ
เออให้มันได้อย่างนี้ซิ.....พอถูกใจก็ยิ้มเรี่ยราด...แก้มแทบระเบิด....ให้ตายเหอะหมอนี่ดูง่ายชะมัดเลย ซึงฮยอนแอบคิดในใจ
อะไรนะ...ยงฮวาบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาล ไปมีเรื่องที่ไหนวะ...เออ ไอ้วอนเดี๋ยวเจอกันที่โรงพยาบาล เสร็จงานแล้วชั้นจะรีบไป
เฮ่อ เพื่อนพวกนี้ชอบสร้างปัญหาอยู่เรื่อย นี่ไอ้ย่งมันไปจีบลูกเมียใครอีกเนี่ย...คราวที่แล้วก็ที...ทุกทีไม่เบื่อบ้างเหรอ....เนี่ยแหละชั้นถึงไม่อยากมีความรักอะไรแบบนั้นน่าเบื่อ จงฮุนถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
ณ โรงพยาบาล NC
ใครวะ....ใครมันทำบอนชั้น ๆ จะไปจัดการให้ วอนบินมองตามใบหน้าและร่องรอยบาดแผลของยงอวาอดที่จะโกธรไม่ได้...
ถึงแม้วอนบินกับยงฮวาจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาก็ตาม แต่ในความเป็นจริงล้วทั้งสองคนสนิทกันมากมาตั้งแต่ยังเด็กทั้งสามรู้จักกันมานานเพราะพ่อแม่ของพวกเค้าสนิทสนมกันและติดต่อทางธุรกิจอยู่เสมอ
วอนบินเป็นคนโผงผางอารมณ์แต่ใจกว้าง...และรักเพื่อนเป็นที่สุดเมื่อเห็นสภาพเพื่อนรักถึงกับรับไม่ได้...
ไอ้ย้งมันก็ไม่ใช่ว่าจะไร้ฝีมือ...ใครกันมันลงมือกับไอ้ย้งได้อ่วมขนาดนี้..กระดูกซี่โครงถึงขั้นร้าวแล้วคราวนี้เรื่องงานดนตรีจะทำยังไงวะ...
.ถ้าถามมันก็จะโกธรกล้ายเป็นเราไร้น้ำใจอีกทำไงดีวะ....โอ๊ยเซ็งงะ
วอนบินอดคิดถึงปัญหาระหว่างมหาลัยไม่ได้พลางคิดถึงสีหน้ากึนซอกศัตรูฝ่ายตรงข้ามคงยิ้มร่าแน่ถ้ารู้ความนี้แย่แน่
นายจะไม่บอกกับชั้นจริงเหรอไอ้คุณชายยงฮวา วอนบินเริ่มขึ้นเสียง
ก็ไม่มีอะไรมาก.....นายไม่ต้องคิดมากเรื่องนี้ชั้นจัดการเอง....ยงฮวายิ้มขึ้น
บะ...ไอ้นี่โดนกระทืบซะอ่วมยังยิ้มได้อีก....นายชักดูร้ายขึ้นทุกวันนะเพื่อน วอนบินแขวะ
ก็ไม่มีอะไรนี่....นี่เป็นร่องรอยที่แสนหวาน.....ความสนุกจะเริ่มจากนี้ไปต่างหาก นายอย่ายุ่งดีกว่า
เอาก็เอานายไม่ให้ยุ่งชั้นก็ไม่ยุ่ง....แต่บอกหน่อยได้ป่ะว่าใครทำวะมันข้องใจถ้าชั้นไม่รู้ละก็ชั้นต้องนอนไม่หลับแน่เพื่อน วอนบินแย้ง
ก็ได้...เค้าบอกว่าเป็นน้องเล็กของแก็งค์ Chocoball น่ะ แต่ไม่ต้องนะโว้ย.......กูรู้นะว่ามึงจ้องจะหาเรื่องกับไอ้เจ้ากึนซอกมันมานานแล้ว.....พอเลยกูไม่อยากเป็นชนวนจุดไฟให้
ยงฮวาสบสายตาเพื่อนใจก็รู้ว่าถ้ามันเป็นเรื่องของแก็งค์นี้เข้าละก็หมอนี่เป็นขอเอี่ยวทุกงาน....
ชักเป็นห่วงแล้ว....ถ้าไอ้ตัวแสบนี่ออกไปอาละวาด...เจ้าหน้าหวานนั่นอาจเจ็บตัวมากก็ได้...อะยังไง...เราเป็นบ้าอะไรวะ..กระดูกหักยังไมคิด.ไม่เอาเรื่อง.....แถมยังไปเป็นห่วงไอ้หน้าสวยมันอีก.....แต่ซักหน่อยเหอะ....ปล่อยไปถ้ามันจะเกิดเรื่องก็ถือว่าชั้นได้พยายามช่วยปกปิดให้นายแล้วนะอีฮงกิ......ชื่อนี้ได้ฟังครั้งเดียวยังจำได้แม่น....ต่อให้อัดนายจนปากแตก...ก็ไม่สาแก่ใจชั้น.....อย่างนี้มันต้อง...ตบจูบลูกเดียว....เฮ้ยมันผู้ชายนะ...หยุดคิดบ้า ๆ ได้แล้วยงฮวา
นายเชื่อในพรหมลิขิตมั้ย ชั้นเชื่อว่ามันจะพัดนายมาหาชั้นจนได้.....แต่รู้สึกว่ามันอาจจะ.......พัดรุนแรงไปหน่อย.....จนชั้นต้องบาดเจ็บขนาดนี้....อี ฮงกิ....ชื่อนี้ชั้นต้องเอาคืน
ความคิดเห็น