จอมรักพิทักษ์ใจ - นิยาย จอมรักพิทักษ์ใจ : Dek-D.com - Writer
×

    จอมรักพิทักษ์ใจ

    อดีต ปัจจุบัน อนาคต หรือแม้แต่กาลเวลา ไม่ใช่ตัวแปรสำคัญของความรักระหว่างเขาและเธอเลย สรรพสิ่งอาจเปลี่ยนผัน แต่หัวใจสองดวงมิเคยเปลี่ยนแปลง

    ผู้เข้าชมรวม

    631

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    631

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  30 มิ.ย. 57 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     

    ขอออกตัวก่อนว่า 
                        นิยายเรื่องนี้ไม่อิงข้อมูลประวัติศาสตร์จีนยุคใดๆ ทั้งสิ้นจ้า 
    เพราะประวัติศาสตร์ไทยผู้เขียนยังไม่แม่นเลยจ้ะ 
    เรียกว่า จิ้นล้วนๆ ไม่เอาผัก เอาเส้น กันเลยทีเดียว 
    ผู้อ่านจะได้เพียงความบันเทิงเท่านั้นแจ๊ะ 
    *ปูลู เขียนช้าด้วยนะเออ ถ้าไม่กลัวอารมณ์ค้าง โปรดติดตามอย่างสโลว์ไลฟ์จ้ะ

    นิยายเรื่องนี้เป็นหนึ่งในชุด สี่บุปผากลางใจ ประกอบด้วย

    1. ราตรีทะเลทราย (ฮวาเยี่ยเซียง)

    2. เคหาสน์เหมันต์ (ฮวาชุนหลัน)

    3. เมฆาในห้วงฝัน (ฮวาไป๋ฉาน)

    4. จอมรักพิทักษ์ใจ (ฮวาอวี้หลิง)

    นะจ๊ะ
     

    แนะนำตัวละคร
    ฮวาอวี้หลิง


    บทนำ

             ต่อให้ความพยายามของมนุษย์เรามีมากเพียงใด ในที่สุดก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่โชคชะตา…

     

                แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาวส่องสว่างพร่างนัยย์ตา ปลุกความรู้สึกถึงร่างกายที่เจ็บชาอ่อนแรงแม้เพียงขยับปลายนิ้ว ก่อนที่ความทรงจำของหญิงสาวจะทยอยไหลริน ให้นึกย้อนกลับไปว่า เกิดเหตุอันใดกับเธอกัน ถึงส่งผลให้เธอเป็นเช่นนี้

     

                “ไมค์ ระวัง!!” สิ้นสุดเสียงของหญิงสาว ปรากฎเสียงก้องดังหลายครั้งของปืนที่ต่างระดมยิงเข้ามายังร่างบาง จับได้ถึงความย่ามใจ เกลียดชัง และไม่ยี่หระต่อมนุษย์ด้วยกันเองในลูกกระสุนที่เจาะทะลุร่างของหญิงสาว ในโสตประสาทที่อ่อนกำลังอย่างรวดเร็ว เธอยังสำเหนียกถึงเสียงตะโกนเรียกชื่อของเธอจากชายหนุ่ม เมื่อเขามองร่างระหงนั้นร่วงลงสู่พื้นเหมือนภาพเคลื่อนช้า โดยมีเสียงสาดกระสุนดุจดนตรีประกอบฉาก และกว่าบทเพลงอำมหิตนั้นจบลง ไมค์ก็ได้เอ่ยอย่างทุกข์ทรมาน หน่วยตาคลอด้วยน้ำใสให้กับคู่หูของเขา ที่บัดนี้ร่างโชกเลือดเพียง

                “คุณจะไม่เป็นอะไร หมวดมุก จำไว้ คุณจะต้องปลอดภัย!!”

     

                ‘นี่ฉันยังไม่ตายใช่ไหม’ หญิงสาวนึกครางในใจ เมื่อลืมตาขึ้นจากการหมดสติที่นานเท่าไร ตนเองก็ไม่รู้ได้ ความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสราวกับเนื้อโดนฉีกกระชากบริเวณทรวงอก ตอกย้ำว่าความจำเธอไม่ผิดเพี้ยน สำนึกนั้นยังย้อนกลับไปได้อีกว่า เหตุใดเธอจึงพลาด…

     

                “หมวดมุก ตอนนี้หมวดไมค์อยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว ทำไมคุณยังมานั่งเฉยตรงนี้ได้” สารวัตรเสกสรรไต่ถามเธอเสียงเข้ม เมื่อเห็นลูกน้องสาวนั่งใจลอยดื่มกาแฟในส่วนพักผ่อนของสถานีตำรวจ

                “ฉันจะตามไปเดี๋ยวนี้ค่ะ สารวัตร” หญิงสาวคิ้วขมวด ตระหนกและกังวลใจมากมายกับสิ่งที่ได้รับฟัง ไม่คาดคิดว่าคู่หูหนุ่มที่เพิ่งมีเรื่องขัดใจ จะขี้น้อยใจและเลือดร้อนได้ขนาดนี้

                “คุณสองคนทำไมถึงชะล่าใจกันขนาดนี้ ปล่อยให้อีกคนไปลุยเดี่ยวกับแก๊งค์ค้ายาข้ามชาติได้อย่างไร นี่ผมเพิ่งสั่งกองหนุนไปเมื่อหมวดไมค์ส่งข่าวไม่นาน ไม่รู้ว่าจะทันการณ์หรือเปล่า” สารวัตรเสกสรรยังต่อว่าไม่หยุด ทั้งโมโหการทำงานของลูกน้องและกังวลถึงสถานการณ์ที่ก่อตัวขึ้น ณ อีกสถานที่หนึ่ง

     “คุณรีบไปเลยนะ หลังจากผมสั่งงานเสร็จแล้วจะตามไปทันที หากเกิดอะไรขึ้นกับคู่หูของคุณ ผมจะถือว่าคุณผิดวินัยขั้นร้ายแรง” สารวัตรเดินจากไป ในเวลาเดียวกับที่เธอรีบคว้ากุญแจรถมอเตอร์ไซค์แล้วตะบึงบิดสุดเกลียวแฮนด์สู่จุดหมาย โดยลืมสิ่งสำคัญที่ตำรวจผู้ออกปฏิบัติการขั้นอุกอาจทุกนาย ต้องนำมันติดกายไปด้วย …เสื้อเกราะกันกระสุน

               

                การที่เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ คู่หูของเธอคงรู้สึกแย่ไม่ต่างจากกันเท่าไรนัก แต่ก็คงดีกว่าที่คนมีครอบครัวอย่างไมค์จะมาบาดเจ็บแทนเธอ หญิงสาวมีเพียงป้าห่างๆ ที่นับญาติได้ แต่ไม่ได้เกื้อกูลอันใดเธอมากนัก ทุกอย่างที่เป็นเธอได้ในวันนี้ เธอกระเสือกกระสนด้วยตนเองแทบทั้งสิ้น หลังจากที่บิดาซึ่งเป็นนายตำรวจเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ตอนเธออายุสิบห้า เธอก็แค่ไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านป้าซึ่งนับครั้งได้ กับหอพักที่ตนเองเต็มใจแยกไปอยู่มากกว่า ส่วนมารดาของเธอได้หย่าขาดกับบิดาตั้งแต่เธออายุไม่เต็มสิบปีดี และไปแต่งงานใหม่กับชาวต่างชาติ หลังจากนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับความฝันของฤดูร้อน  ความผูกพันในครอบครัวจึงไม่ลึกซึ้งนัก หากเทียบกับไมค์ที่มีครอบครัวพร้อมหน้าอบอุ่น

    นึกถึงตรงนี้แล้ว หญิงสาวรู้สึกอิ่มเอิบสุขใจกับการเสียสละแม้ชีวิต จึงหวังแค่เพียงไมค์อย่าได้รู้สึกผิดที่เธอปกป้องเขาก็เพียงพอแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีความสุขไปอีกนาน อาจชั่วชีวิตของเขาเลยก็เป็นได้…

                สายตาที่เลื่อนลอยเริ่มโฟกัสไปยังสิ่งที่รายรอบตัวช้าๆ ภาพในใจคิดว่าต้องเป็นห้องไอซียูของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่แล้วสิ่งที่ปรากฎสู่หน่วยตาได้รูปสวยกลับผิดเพี้ยนตาลปัตร ทำให้คิ้วเรียวขมวดจนเป็นปม เมื่อสิ่งรอบกายเหมือนเป็นภาพฝันซ้อนฝัน

    ตั้งแต่เตียงสี่เสามีฉลุลายละเอียดสวยงามตามกรอบ ผ้าไหมปักลายดอกไม้ขึงตึงเป็นเพดานและผนังสามด้าน กรอบเตียงด้านที่ว่างโล่งยังมีกรอบไม้ฉลุอีกสองชั้นตีห่างกันเล็กน้อย ใกล้หัวเตียงมีตู้ไม้เตี้ยฝีมือปราณีตตั้งอยู่ มองไกลออกไป มีโต๊ะกลมไม้สีเข้มฝังมุกลวดลายละเอียดลออ เข้าชุดกับเก้าอี้ทรงกลมสามตัวตั้งอยู่กลางห้อง ประตูห้องที่เป็นบานเฟี้ยมแกะสลักลายจีนโบราณ ปิดทับด้วยกระดาษครึ่งบนทำให้เห็นตารางไม้ที่ตีไว้ชัดเจนยามที่แสงส่องผ่าน ยิ่งมองก็ยิ่งฉุดรั้งให้เธองงงันหนักกว่าเดิม

    ต่อให้ศิลปะงดงามจับตานี้คุ้นชินใจอยู่บ้างเพราะเธอเคยไปศึกษาที่ประเทศจีนนานหลายปี แต่คงไม่มีโรงพยาบาลในประเทศไทยแห่งไหน ลงทุนออกแบบห้องพักด้วยเฟอร์นิเจอร์เลอค่าขนาดนี้อย่างแน่นอน ต่อให้เป็นโรงพยาบาลเอกชนระดับหกดาวก็ตามที

    แล้วถ้าอย่างนั้น ตอนนี้เธอกำลังนอนรักษาร่างกายอยู่ที่ไหนกันแน่!?

     

     

                

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น