ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Attack On Titan Fic:Levi x Eren } My sweet puppy

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่สี่ ก็แค่พี่ชายกับน้องชาย......ก็เท่านั้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.51K
      33
      4 ต.ค. 56

    บทที่สี่ ก็แค่พี่ชายกับน้องชาย......ก็เท่านั้น

     

    ทำอะไรลงไปเนี่ย.....ทำอะไรลงไป๊!!!!......เกือบเผลอตัวจูบมันไปแล้วอ่ะ แจนที่ซุกตัวอยู่ใต้พุ่มต้นเข็มบ่นงึมงำๆกับตนเองไม่หยุด

    ถ้าทำลงไปจริงๆล่ะก็.....ถ้าทำลงไป.....ต้องถูกเอเลนมันเกลียดจนมองหน้ากันไม่ติดแน่ๆอ้ะ.....มันจะสงสัยมั้ยเนี่ย

    แจน....แกอยู่ไหนวะ หาหญ้าแห้งกินอยู่เหรอ ออกมาเหอะ ที่โรงเรียนเราไม่มีหญ้าให้แกกินหรอกนะ เดี๋ยวเลิกเรียนฉันพาแกไปปล่อยทุ่งก็ได้ เสียงเอเลนที่กำลังตามหาดังใกล้เข้ามา

    ทำไงดีวะ.....แก้ตัวว่าไงดี ทึ้งหัวตัวเองด้วยความกังวลจนผมหลุดออกเป็นหย่อมๆ

    เฮ้ย!!! แจน แกอยู่แถวนี้ป่ะเนี่ย

    ฉ...ฉันอยู่นี่ เด็กหนุ่มร่างสูงมุดออกมาจากใต้ต้นเข็มเงียบๆ

    แกไปทำอะไรตรงนั้นวะแจน

    ป....ปวดฉี่น่ะ

    ห้องน้ำก็มี

    ไปไม่ทัน แถไปข้างๆคูๆจนสีข้างถลอก

    มิน่า แกรีบจนลืมเจ็บเลยสินะ....อ้าวเฮ้ย แจน แผลแกเลือดออกนี่ ผมเพิ่งจะเห็นว่าผ้าปิดแผลมันมีเลือดซึมออกมาด้วย

    เออ.....เจ็บว่ะ เมื่อกี้วิ่งลืมตาย พอเห็นเลือด...ตรูจะเป็นลม....

    ไปห้องพยาบาลกันเหอะ

    ผมค่อยๆช่วยประคองแจนไปหาอาจารย์พยาบาล แต่พอมาถึงห้องพยาบาลกลับไม่มีคนอยู่เสียนี่

    นั่งตรงนี้ก่อน ฉันจะไปหากล่องปฐมพยาบาลมาให้

    ผมให้แจนนั่งรออยู่บนเตียงในขณะที่ลองรื้อหากล่องปฐมพยาบาลซึ่งมันก็เจอได้ไม่ยากนัก

    ถอดรองเท้าแล้วยกเท้าขึ้นมานี่ ผมบอกให้มันวางเท้าลงกับตักผมขณะที่นั่งลงกับพื้น

    เฮ้ย....อย่าทำขนาดนั้นเลยว่ะเอเลน สกปรก ฉันทำเองได้ แจนมันจะแย่งกล่องปฐมพยาบาลไปจากมือ แต่ผมรีบยื้อไว้

    เพื่อนกัน แค่นี้ทำให้กันไม่ได้ แกก็ไม่ต้องเรียกฉันว่าเพื่อนแล้วผมยึดเท้ามันมาในขณะที่ช่วยแกะแผลใส่ยาให้มันเบาๆ

    มีอยู่หลายครั้งที่ฉันคิดว่า ถ้าเราไม่ใช่เพื่อนกันก็คงดี แจนมันพูดเบาๆขณะที่ก้มหน้ามองผมอยู่

    .......แก.....เกลียดฉันมากเลยเหรอแจน แกชอบแกล้งฉันตอนเด็กๆ ฉันคิดว่าเป็นเพราะความเกรียนของแกฉันเลยไม่ถือสา หรือว่าที่จริงแล้ว.....แกเกลียดฉันจริงๆ ผมจ้องหน้ามันตรงๆ คราวนี้แจนมันไม่ยอมหลบตาผม

    เอเลน.....แกรู้อะไรมั้ย ธรรมชาติของเด็กผู้ชาย เพื่อที่จะเรียกร้องความสนใจจากคนที่ตัวเองชอบ เด็กพวกนั้นมักจะ.......

    ครืด!!! เสียงประตูห้องพยาบาลเปิดขึ้นพร้อมกับอาจารย์ห้องพยาบาลหัวล้านเลี่ยนตาเป็นหมีแพนด้าเดินเข้ามาพอดี

    อ้าว มีใครเป็นอะไรล่ะเจ้าหนู

    เพื่อนผมแผลมันเลือดออกครับ ผมก็เลยพามันมาล้างแผล แต่พอดีอาจารย์ไม่อยู่ผมเลยทำเองเลย

    อืม....ฝีมือไม่เลว อย่าลืมลงชื่อผู้ใช้ห้องพยาบาลไว้ด้วยนะพวกนาย

    ครับๆ

     

    ผมประคองแจนกลับห้องเรียน คราวนี้มันเงียบลงกว่าเดิมอีก

    แจน แกอยากจะพูดอะไรกับฉันตอนอยู่ห้องพยาบาลวะ ผมเอ่ยถามแต่มันกลับถอนหายใจตอบเสียงเบา

    ไม่มีอะไรหรอก แกอย่าคิดมากเลย เอาเป็นว่า ฉันไม่เคยเกลียดแกหรอกนะเอเลน ช่วยเข้าใจฉันด้วยล่ะ อะไรวะ พอจะสารภาพทีไร......แม่มโดนขัดจังหวะทุกที

     

    เสียงออดพักกลางวันดังขึ้น ไม่ถึงห้านาทีก๊วนเด็กโข่ง....เอ้ย....พี่รีไวกับเพื่อนก็มารับผมถึงห้องเรียน ผมช่วยประคองแจนที่เหมือนจะเดี้ยงหนักกว่าเดิมลุกเดินไปด้วยกัน พี่รีไวกับแจนเขม่นกันเล็กน้อย แต่สุดท้ายต่างคนก็ต่างทำเมินกันไป.....อ่า ไอ้บรรยากาศอึมครึมแบบนี้มันแย่ยิ่งกว่าตอนสองคนนี้กัดกันจะเป็นจะตายอีกแฮะ

    หายแพ้ท้องรึยังเอเลนลูกรัก....ถ้ายังไม่ดีขึ้น พี่จะพาเธอไปฝากครรภ์แล้วนะ พี่นานาบะหัวเราะชอบใจเสียงดังเอิ้กอ้าก.....พี่ช่างไม่ดูสถานการณ์เลยนะครับ

    ผมแค่เมารถจักรยานเท่านั้นแหละครับพี่

    แหมๆ ไม่ต้องอายไปหรอก พ่อเด็กก็อยู่ตรงนี้ทั้งคนนี่.....เนอะ....รีไว

    ท้อง? แจนมองหน้าผมกับพี่รีไวสลับกันไปมา......เกิดเป็นม้าก็ไม่น่าโง่นะแจน ฉันเป็นผู้ชาย ท้องได้ไงล่ะไอ้บ้า!!!!

    พอได้แล้วน่า นานาบะ พี่รีไวที่หน้าตึงเอ่ยเสียงเข้มติดจะไม่พอใจเท่าไหร่

    .....เรื่องน่ายินดีในครอบครัวแบบนี้ใครเขาเอามาป่าวประกาศกัน ใบหน้าคมเข้มพลันเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา แจนหันมามองหน้าผมตาละห้อย

    ก็รู้ว่าแจนมันโง่....พี่จะไปใส่ไฟให้มันคิดเป็นตุเป็นตะทำไมกันล่ะครับ......พี่รีไว

    ไร้สาระน่าแจน ผมผลักหัวมันด้วยความหมั่นไส้

    เอเลน แล้วเรื่องไปร้องเกะกันล่ะว่าไง

    เอ่อ.....คือ..... ลืมสนิท ยังไม่ได้ถามพี่รีไวเลย

    ร้องเกะอะไรกัน พี่รีไวหันมาถามผมตาขวาง....อย่าดุนักสิครับพี่

    คือ แจนชวนผมไปร้องเกะด้วยกันเย็นนี้ครับ

    ไม่อนุญาต!!!”

    รุ่นพี่ไม่ใช่พ่อเอเลนมันสักหน่อย มีสิทธิ์อะไรมาสั่งห้ามมันกันล่ะครับ

    ก็ฉัน........

    เอาสิ....ว่ามาเลย ไอ้พี่เตี้ย แกจะใช้สิทธิ์อะไรในการบังคับเอเลนกัน

    ฉันเป็นพี่ชายข้างห้อง มีหน้าที่ต้องดูแลเอเลนอยู่แล้ว อีกอย่างนะไอ้เด็กหน้าม้า ขาแกก็เดี้ยงอยู่แบบนั้นยังมีหน้าจะไปร้องเกะอีกเหรอ

    ผมไม่ได้เอาเล็บหัวแม่ทีนร้องสักหน่อยนี่ครับ!!! จะมีปัญหาตรงไหนกันล่ะ

    ไอ้เด็กเวร!!!” พี่รีไวกำกำปั้นขึ้นใส่หน้าแจน ผมต้องรีบเข้าไปขวางไว้ก่อนที่จะเป็นเรื่องใหญ่

    อ่า....เอาเป็นว่า เรื่องร้องเกะพับไปก่อนดีกว่านะครับ ไว้รอให้แจนหายเราค่อยไปกันหมดนี่แหละเนอะๆ ผมพยายามไกล่เกลี่ยให้จนเหงื่อตก พี่มิเกะยกนิ้วโป้งให้ผม.......ขอทีเถอะครับ การจะสงบศึกสองคนนี้นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆนะ

    บรรยากาศบนโต๊ะกินข้าวของเราก็ยังคงอึมครึมและร้อนระอุอย่างเช่นทุกวัน ผมซึ่งถูกพี่รีไวและแจนนั่งประกบข้างนึกอยากจะสลายตัวเองหายเป็นอากาศธาตุไปเสียเหลือเกิน พี่มิเกะ พี่นานาบะครับ พวกพี่เลิกแกล้งกันเองแล้วหันมาช่วยผมออกจากสถานการณ์ชวนกระอั่กกระอ่วนนี่ไม่ดีกว่าเหรอครับ

    หัวหน้าครับ.....หัวหน้า!!!” รุ่นพี่ปีสองที่ผมเคยเห็นเขาแวะเวียนมาหาพวกพี่รีไวอยู่บ่อยๆวิ่งกระหืดกระหอบมาที่โต๊ะเรา

    หัวหน้าครับ....เกิดเรื่องใหญ่แล้วอุ๊บ!!!..... พี่รีไวยัดน่องไก่ทอดชิ้นโตใส่ปากพี่ชายคนนั้นทันที

    โฮ่ย!!! ออลโอ แกหิวมากสินะ ถึงกับขโมยน่องไก่ทอดฉันไปกิน พี่รีไวจิกหิ้วคอเสื้อพี่ชายโชคร้ายคนนั้นไว้ คือ.....พี่ครับ ผมเห็นนะครับ ว่าพี่เป็นคนยัดน่องไก่นั่นใส่ปากพี่เขาเอง

    ถ้าหิวนักก็มานี่ ฉันจะเลี้ยงข้าวแกเอง พี่รีไวลากพี่ชายคนนั้นเดินออกจากโรงอาหารไป ในขณะที่พี่มิเกะและพี่นานาบะก็สบตากันเงียบๆ แล้วพี่มิเกะก็ลุกตามกันออกไปอีกคน

    เอ่อ มีเรื่องอะไรกันรึเปล่าครับ ผมเอ่ยถามพี่นานาบะที่ตีหน้าเครียด แต่เพียงเดี๋ยวเดียวเท่านั้นเธอก็กลับมายิ้มแป้นแบบเดิม จนผมนึกว่าผมตาฝาดไป

    ไม่มีอะไรๆ ก็แค่พวกรุ่นน้องมาขอส่วนบุญน่ะ กินกันเถอะๆ เธอเอ่ยคะยั้นคะยอให้พวกเรากินข้าวกันต่อ แต่ทำไมผมรู้สึกว่ามันแปลกๆชอบกล........

    และตลอดบ่ายวันนั้น ตั้งแต่ออกจากโรงอาหารไป ผมก็ไม่เห็นพี่รีไวเลย

    อาจจะมีธุระด่วนอะไรก็ได้มั้ง แกไม่ต้องกังวลมากไปหรอกเอเลน คนอย่างไอ้พี่เตี้ยนั่น จะมีใครทำอะไรมันได้ แจนเอ่ยพลางตบบ่าผมเบาๆ

    ฉันดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะแจน

    คนที่ดูไม่ออกก็มีแต่พวกตาถั่วเท่านั้นล่ะ พอเจอหน้าพี่เตี้ยนั่นแกก็หูตั้งหางกระดิก ดี๊ด๊าทันที พอมันไม่สนใจหน่อยแกก็หงอยซะ พอมันเรียกแกก็แทบจะกระโจนใส่มัน.....ใครดูไม่ออกก็แปลกล่ะ แจนมันตอบเสียงห้วนๆ ถ้าโง่ๆอย่างแจนมันยังดูออก.......นี่ผมคงเป็นเอามากจริงๆ

    นี่เอเลน.....ฉันพูดตามตรงนะ แกไม่อยากย้ายออกจากห้องพักนั่นมาใช้ชีวิตคนเดียวบ้างเหรอ แล้วก็หาแฟนสักคนอะไรแบบนั้น ดีกว่าใช้ชีวิตติดเป็นตังเมให้ไอ้พี่เตี้ยมันบงการควบคุมแกอยู่อย่างทุกวันนี้

    สารภาพตามตรงว่าเรื่องแบบนั้น ไม่เคยอยู่ในหัวผมเลย.....

    ก็อพาร์ตเม้นท์ที่อยู่นั่นก็เป็นของคุณแม่พี่รีไว คิดค่าเช่าแค่ครึ่งเดียวเอง ถูกจะตายแล้วฉันจะย้ายออกทำไมกันล่ะแล้วอีกอย่างคนที่ชวนให้มาอยู่ด้วยกันก็คือพี่รีไวด้วย

    แล้วเรื่องแฟนล่ะ แกได้ยินข่าวลือบ้างมั้ย เขาว่ากันว่าแกกับไอ้พี่เตี้ยนั่นเป็นคู่เกย์กัน

    บ้าน่า!!!! ฉันกับพี่รีไวไม่ได้เป็นเก....อื้ม ผมโวยวายเสียงดังจนคนทั้งห้องหันมามอง แจนรีบอุดปากผมไว้

    เบาๆก็ได้ จะตะโกนเพื่อ? มันกระซิบข้างหูผม

    ก็เราไม่ได้เป็นเกย์กันจริงๆนี่นา ผมตอบมันเสียงเบา

    งั้นแกก็ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้คนเขาเอาไปพูดเสียๆหายๆอีก มีแฟนไปเลยเป็นไง

    แฟนเหรอ?

    เออ หาแฟนไปเลย คนอื่นจะได้เลิกลืออะไรแปลกๆไปเลยไง .....ไอ้พี่เตี้ย ถ้าฉันไม่ได้ แกก็ต้องไม่ได้ ไม่ต้องมีใครได้เอเลนมันไปเลยดีที่สุด.......

    อา.....เพราะมีความคิดชั่วร้ายแบบนี้สินะสวรรค์ถึงได้ลงโทษแกอยู่ร่ำไปน่ะแจน (...เสียงสวรรค์เอง เหอๆ)

    พอแกมีแฟนแล้วเลิกขลุกอยู่กับไอ้พี่เตี้ยนั่น แกก็ลบข้อครหานั่นได้แล้วล่ะเอเลน

     

    มีแฟนเหรอ....ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยมีนะ ผมมีแฟนคนแรกตอนม.ต้น เมื่อตอนนั้นพี่รีไวเพิ่งจะอยู่ม.ปลายปีหนึ่งเอง กิจวัตรประจำวันของเราหลังเลิกเรียนถ้าไม่ไปหาคุณแม่ที่ร้าน ก็จะกลับมานั่งๆนอนๆเล่นด้วยกันที่หอนี่แหละ ถ้าไม่มาห้องผมก็ไปห้องพี่เขาบ้างตามโอกาส หลังสอบเสร็จใกล้ปิดเทอมภาคเรียนฤดูร้อน ผมก็ไปนอนกลิ้งเล่นอยู่ที่ห้องพี่รีไวนั่นแหละ พี่รีไวนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงในขณะที่ผมกำลังนั่งกินป๊อกกี้อ่านการ์ตูนอยู่ข้างเตียงใกล้ๆกัน

    ปิดเทอมนี้ ผมว่าจะไปทะเลแหละครับ

    หืม.....ไปกับใคร รึจะชวนพี่ไปงั้นเหรอ

    เอ่อ.....อันที่จริงมีคนชวนมากกว่าน่ะครับ ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่าจะเอายังไงดี ก็เลยมาปรึกษาพี่ก่อนน่ะครับ

    ใครชวนล่ะ

    ริโค่ครับ เด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างห้องกัน เธอเพิ่งจะสารภาพรักกับผมเมื่ออาทิตย์ก่อน ตอนนี้ก็เลยคบๆกันอยู่ ผมตอบเสียงเบารู้สึกร้อนไปทั้งหน้า ต้องมาพูดเรื่องนี้ให้พี่รีไวฟังมันเขินจังแฮะ......

    แล้วเมื่อวานนี้ เธอชวนผมว่าปิดเทอมฤดูร้อนนี้อยากไปทะเลด้วยกันสองคน ผมก็เลยคิดว่าต้องมาถามพี่ก่อนน่าจะดีกว่าน่ะครับ

    .......เอเลน.....จะไปทะเลกับแฟนสินะ พี่รีไวดูจะไม่แปลกใจอะไรเลยแฮะ

    ไปกันสองต่อสองแบบนั้น เข้าใจรึเปล่าว่ามันหมายถึงอะไร........แล้วเอเลนรู้มั้ยว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่รีไวมองหน้าผมด้วยใบหน้านิ่งๆไม่ได้ว่าอะไรผมสักคำ แต่ทำไมผมกลับรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นสามีที่ถูกภรรยาจับได้ว่ามีชู้กันนะ

    ก็.....พอจะเข้าใจอยู่หรอกครับ....ผมถึงได้มาถามพี่ก่อน ผมก้มหน้าหลบตาแล้วยัดป๊อกกี้ใส่ปากแก้เก้อแทน

    เพราะรู้สินะ.......ถึงได้กังวล พี่รีไวพูดพลางเชยคางผมหันขึ้นไปหาเขา ใบหน้านิ่งค่อยๆแย้มรอยยิ้มอ่อนโยนที่มักจะยิ้มให้ผมอยู่เสมอออกมา....ซึ่งนั่นทำให้ผมรู้สึกใจชื้นขึ้น

    พี่จะสอนให้ เอามั้ยล่ะ.........ความรักแบบผู้ใหญ่น่ะ เอเลน

    ใบหน้าคมเคลื่อนเข้าใกล้โดยฉับพลัน ปลายคางของผมถูกมือใหญ่จับล็อคไว้แน่น จะถอยก็ไม่ได้ หนีก็ไม่รอด ริมฝีปากหยักเปิดปากอ้างับปลายป๊อกกี้อีกด้านที่ผมคาบเอาไว้ ผมรู้สึกได้ว่าริมฝีปากเราสัมผัสกันเบาๆ เขากัดแท่งป๊อกกี้จนขาด เคี้ยวๆแล้วกลืนลงคอ สีหน้าแลดูมีความสุขมากมาย ผมไม่กล้ามองหน้าพี่เขาอีก ได้แต่ก้มหน้านิ่งมั่นใจว่าตอนนี้ต้องแดงไปทั้งหน้าแล้วแน่ๆ

    ขนมอร่อยดีนะ....หวาน พี่รีไวกล่าวขณะที่เช็ดมุมปากที่เลอะคราบช็อคโกแลตไปด้วย

    ถ้าเอเลนอยากจะได้ประสบการณ์พิเศษความรักแบบผู้ใหญ่ พี่ก็ยินดีจะสอนให้

    พี่......เคยผ่านประสบการณ์แบบนั้นมาแล้วเหรอครับ ผมเอ่ยถามเสียงเบาไม่กล้าสบตา

    แล้วเอเลนคิดว่ายังไงล่ะ.....

    ผมคิดยังไงน่ะเหรอ....ก็ไม่แปลกหรอก ถ้าพี่รีไวจะเคยผ่านประสบการณ์แบบนั้นมาบ้าง แต่ที่ผมแปลกใจที่สุดก็คือ ทั้งๆที่เราอยู่ด้วยกันทุกวันแบบนี้ ตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา แต่ผมกลับไม่เคยรู้เลยว่าพี่รีไวมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ และที่สำคัญเธอคนนั้นเป็นใคร ทั้งๆที่เราไม่เคยมีเรื่องปิดบังกันเลยแท้ๆ หรือว่าผมยังใช้เวลาร่วมกับพี่รีไวไม่มากพออย่างนั้นหรือ........

    และในเช้ารุ่งขึ้นในวันต่อมาก่อนปิดเทอม ผมก็ตัดสินใจบอกเลิกริโค่ทันที และนับตั้งแต่วันนั้น ผมก็ไม่เคยมีประสบการณ์มีแฟนอีกเลย หรือว่านี่จะถึงเวลาที่ผมต้องหาแฟนแล้วจริงๆ

     

    ผมพยายามโทรหาพี่รีไวตลอดทั้งบ่ายแต่ก็ยังติดต่อไม่ได้เลย จนกระทั่งถึงเวลาเลิกเรียน

    แจนจะกลับแล้วเหรอ

    ที่จริงว่าจะไปโรงพยาบาลก่อน คุณหมอนัดให้ไปทำแผลทุกวัน เอเลน แกคงไม่คิดจะรอไอ้พี่เตี้ยนั่นที่โรงเรียนหรอกนะ ฉันว่าแกกลับบ้านไปเหอะว่ะ แจนสะพายเป้เดินขากระเผลกออกจากห้อง ผมรีบท้วงมันไว้

    แจน.....ฉันไปด้วย

    เหอ...... มันมองหน้าผมตาโต

    อะไรวะ แค่ฉันจะไปส่งแกต้องทำหน้าตาตกใจขนาดนั้นเลยรึไง หรือจะไปเองล่ะ ทำหน้าทำตาน่าหมั่นไส้ เดี๋ยวก็ปล่อยให้ไปเองเลยนิ

    อ่ะ....เฮ้ยๆ ไปสิ....ไปๆ

    ผมประคองแจนมาถึงจักรยานคู่ใจที่พี่รีไวจอดไว้เมื่อเช้า

    เดี๋ยวฉันถีบเองแกขึ้นซ้อนเลย ผมบอกกับมัน มันทำหน้ายุ่ง

    เกรงใจแกจังว่ะ เอเลน

    งั้นแกก็ไปเองเลยป่ะ ไม่ทันจบคำดีมันก็กระโดดขึ้นนั่งซ้อนท้ายแล้ว หน้าม้าๆอย่างแกเนี่ยนะแจน จะเกรงใจใครเป็น....- -“

    จับดีๆ เดี๋ยวตกลงไปแข้งขาพิการหนักกว่าเดิมแล้วจะยุ่ง พอผมบอกให้มันจับ มันดันกอดเอวผมเสียแน่นเลย

    เฮ้ย....แจน แค่จับเอวไว้ก็พอมั้ง

    ก...ก็ฉันกลัวตกนี่หว่า......หูย....เอเลน แกเอวบางชะมัด ก้นก็นิ้มนิ่ม....^_^

    เออๆ แล้วแต่แกแล้วกัน เห็นแก่ที่มันบาดเจ็บอยู่หรอกนะ สงสารมัน........

     

    สองหนุ่มปั่นจักรยานออกจากโรงเรียนไปท่ามกลางสายตาของฟุโจฉิสาวสามคน

    เดี๋ยว เมื่อเช้าน้องเอเลนซ้อนท้ายมากับรุ่นพี่นี่นา แล้วกลับกับน้องแจนได้ยังไงกัน สาวม.ปลายเอ ที่แอบซุ่มอยู่ข้างถังขยะเปียกหันไปปรารภกับเพื่อนร่วมขบวนการ

    ตอนเที่ยงก็เห็นกินข้าวด้วยกันแค่แป้บเดียวเองด้วย แล้วช่วงบ่ายฉันก็ไม่เห็นเงาของรุ่นพี่อยู่ในโรงเรียนเลยด้วยนะ สาวม.ปลายบี โผล่ออกมาจากถังขยะแห้งอีกใบที่อยู่ข้างๆกัน

    หรือน้องเอเลนจะนอกใจกันนะ เพราะรุ่นพี่ไม่อยู่สินะ สาวม.ปลายซี โผล่ออกมาจากถังขยะอันตรายใบที่อยู่ห่างออกไป

    ไม่นะ!!!!” สามสาวประสานเสียงกันอุทานแทบจะทันที

    แล้วองครักษ์พิทักษ์รีเออย่างพวกเราจะยอมได้ยังไง

    ตามโลด!!!”

     

     

    สาวม.ปลายเอ บี ซี ค่อยๆสะกดรอยตามสองหนุ่ม แอบหลบๆซ่อนๆไปตามเสาไฟฟ้า ถังขยะ ยันป้ายไฟจราจร สกิลตามสตอล์กของพวกเธอช่างเทพยิ่งนัก เพราะดูเหมือนสองหนุ่มจะไม่รู้ตัวเลย

    มาโรงพยาบาลกันหรอกเหรอ สาวม.ปลายเอ บี ซี ต่างพากันยืนหลบมุมอยู่หน้ารั้วโรงพยาบาลท่าทางลับๆล่อๆเสียจนพี่ยามเฝ้าประตูต้องจับตามองเป็นพิเศษ

    มาโรงพยาบาลแบบนี้......หรือว่า น้องเอเลนจะมาฝากครรภ์อย่างที่รุ่นพี่นานาบะแนะนำจริงๆ

    รีเอ บันไซ!!!” สามสาวยืนส่งเสียงโหวกเหวกกันอยู่หน้าโรงพยาบาล คนผ่านไปผ่านมาต่างมองกันด้วยความสงสัย

    แต่เดี๋ยวนะ ถ้ามาฝากครรภ์ ก็ต้องเป็นรุ่นพี่พามาสิ ทำไมเป็นน้องแจนล่ะ....ไม่ใช่ล่ะ....แบบนี้ไม่ใช่แน่ๆ จะรอช้าอยู่ไย ค่อยๆพากันเลียบๆเคียงๆไปจนถึงห้องฉุกเฉินที่ซึ่งเอเลนกำลังนั่งรอแจนล้างแผลอยู่

    อ๊ะ....ที่แท้ก็พาน้องแจนมาล้างแผลนี่เอง แล้วเอาไงต่อล่ะเรา สาวม.ปลายเอหันไปถามความเห็นของเพื่อนทั้งสอง

    วันนี้น้องเอเลนต้องกลับบ้านคนเดียวด้วยรุ่นพี่ไม่อยู่.....อันตรายจะตาย เกิดถูกฉุดลงข้างทางล่ะก็แย่แน่ สาวม.ปลายบีเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังมาก

    งานนี้ต้องประกบ!!!”

     

    เจ็บมากมั้ยเนี่ย ผมเห็นแจนมันเหงื่อแตกซิกเดินออกมาก็เป็นห่วง

    ก็เจ็บธรรมดาแหละ พี่พยาบาลบอกว่าให้กินยาแก้ปวด แล้วก็ยกขาสูงอย่าพยายามเดินเยอะ มันจะได้ไม่ปวดมาก

    ทำไมแกไม่ลาหยุดซะล่ะแจน ถ้าหยุดแกจะได้มีโอกาสพักเยอะๆ

    ไม่เป็นไรหรอกน่า.....แค่นิดหน่อยเอง ถ้าหยุดฉันก็ไม่ได้เจอหน้าแกสิวะเอเลน

    เออๆ ก็แล้วแต่แก ขึ้นรถเหอะจะไปส่ง

     

    แม้จะรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยว่าทำไมตลอดทางที่มาบ้านแจนมันถึงได้โล่งโจ้งนัก คิดแต่ว่ามันเลยเวลาเลิกงานกับเลิกเรียนมานานแล้ว โดยไม่รู้เลยว่าฟุโจฉิสามสาวติ่งรีเอคอยเคลียร์เส้นทางไว้ให้แล้ว แม้แต่หมาสักตัวยังไม่ยอมให้เดินผ่านหน้า

    รุ่นพี่รีไวไม่อยู่ การดูแลความปลอดภัยของน้องเอเลนจึงต้องเป็นหน้าที่ของติ่งรีเออย่างพวกเธอ

    ขอบใจที่มาส่งนะ

    เออ....ไม่เป็นไร ผมตอบพร้อมกับยิ้มให้มันเพื่อยืนยันว่าไม่เป็นไรจริงๆ

    แก อย่าลืมไปคิดเรื่องที่ฉันแนะนำดูล่ะ

    เรื่อง?......อ๋อ เรื่องหาแฟนน่ะเหรอ

    อืม..... แจนมันก้มหน้าก้มตาตอบเขี่ยเท้ากวาดพื้นเล่นอย่างอายๆ......ก็ไหนแกว่าเจ็บไงวะ

    ถ....ถ้าเกิด.....ว่าแกไม่สะดวกจะมีแฟนสาว......ถ.....ถ้าอยากเปลี่ยนเป็นแฟนหนุ่มล่ะก็....เอ่อ.....ปรึกษาฉัน....ก....ก็ได้นะ....ฉันยินดีจะเป็น.....

    พลั่ก!!!

    เฮ้ยไรวะ!!!!” ผมรู้สึกเห็นอะไรดำๆพุ่งผ่านหน้าผมไปปะทะหน้าผากแจน มันถึงกับทรุดตัวลงไปนั่งกุมหน้าผากเลยทีเดียว

    เม็ดมะขาม? วัตถุประหลาดสีดำที่บินมาใส่หน้าผากแจนอย่างไม่ทราบทิศทางก็คือเม็ดมะขามนั่นเอง

    ฟิ้ว!!! พลั่ก!!!

    คราวนี้มันเฉียดหัวผมไปหน่อยเดียว แต่บินเข้ากลางกระหม่อมแจนเต็มๆ

    เฮ้ย....แจน....ฉันว่าแกกลับเข้าบ้านไปเหอะว่ะ ท่าทางศัตรูแกจะเยอะนะ คงเที่ยวไปเกรียนใส่ชาวบ้านชาวเมืองเขาไปทั่วล่ะสิ ผมพูดขณะที่รุนหลังมันเข้าไปในบ้านด้วย

    เปล่านะเว่ย!!! ฉันไม่เคยไปเกรียนใส่ใครนอกจากแก......เว้นไอ้พี่เตี้ยไว้อีกคน

    อยากจะเถียง แต่เจ็บจนพูดไม่ออก........

    เจอกันพรุ่งนี้นะ อย่าลืมกินยาแก้ปวดด้วยล่ะ

    แจนได้แต่โบกมือไล่หลังเอเลนไปเงียบๆ หน้าผากโหนกนูนแดงเถือกเพราะถูกกระแทกเจ็บเสียจนพูดไม่ออก  สามสาวที่แอบอยู่หลังเสาไฟฟ้าถือหนังสติ๊กและกระสุนเม็ดมะขามกำใหญ่น้ำตาไหลพรากที่ลงมือทำร้ายหนุ่มน้อยน่าแซ่บด้วยตัวเอง

    ขอโทษด้วยนะน้องแจน ในฐานะติ่งรีเอ พวกพี่ไม่สามารถเปิดโอกาสให้น้องแจนรุกน้องเอเลนได้จริงๆ.....น้องเอเลนเป็นของรุ่นพี่รีไวคนเดียวเท่านั้น ไว้น้องแจนเจอคนที่เหมาะสมเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นพวกพี่ทั้งสามคนจะขอตามอวยให้ถึงที่สุดเองเพื่อเป็นการไถ่โทษ

    ไม่อาจจะเสียเวลาเสียใจมากไปกว่านี้ ภารกิจของวันนี้ยังไม่จบสิ้น.....ภารกิจสุดท้ายคือการส่งน้องเอเลนกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ

    จะหมูหมากาไก่เก้งกวางที่ไหนพวกเธอก็ไม่สนล่ะถ้าบังอาจแตะต้องน้องเอเลนผู้น่ารักล่ะก็ เป็นต้องเจออัลติเมทบาซูก้าหนังสติ๊กเม็ดมะขามของพวกเธอกันหน่อยล่ะ........

     

    กว่าผมจะกลับมาถึงห้องก็เย็นแล้ว แต่ห้องของพี่รีไวก็ยังคงเงียบสนิท ลองกดออดดูก็แล้ว สงสัยคงยังไม่กลับมาจริงๆ ผมจึงตัดสินใจนั่งรออยู่หน้าห้องนั่นเสียเลย

     

    เย็นขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย เสียเวลาชะมัด นวดไหล่ที่รู้สึกเคล็ดขัดยอกของตนเบาๆพลางดูนาฬิกาไปด้วย

    ไม่ใช่ว่ายังรออยู่ที่โรงเรียนหรอกนะ ขณะที่เดินขึ้นบันไดหอพักก็กดเปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือไปด้วย 76 miss called : Eren

    จู่ๆก็หายไป คงเป็นห่วงสินะ กดโทรออกหาสายมิสคอลที่ว่า แต่ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าทำให้มือใหญ่กดวางสายไปก่อน

    เจ้าหมาน้อยตัวโย่งนั่งคอพับคออ่อนหลับเฝ้าประตูห้องเขาอยู่ เดินไปนั่งลงเบื้องหน้าเด็กน้อยที่หลับคอเอียงพิงประตูพลางแตะแก้มใสเบาๆ....เย็นๆแฮะ คงจะรอนานแล้วสินะ เอียงหน้ากดจมูกโด่งลงบนแก้มใสกระซิบเรียกเบาๆที่ข้างหู แต่เจ้าหมาน้อยก็ยังหลับน้ำลายยืดอยู่เช่นเดิม

    เอเลน....เอเลน

    พี่ครับ......พี่สาวสุดสวยของผม แขนเรียวโอบกอดรอบคอชายหนุ่มตวัดรัดไว้แน่น อย่าบอกนะว่าฝันถึงเรื่องสมัยเด็กอยู่ เปิดประตูแล้วอุ้มเจ้าหมาน้อยขี้เซาเข้าไปในห้องวางลงบนที่นอนนุ่มแล้วห่มผ้าขึ้นคลุมให้ แก้มที่ค่อนข้างจะเย็นเริ่มมีสีเลือดฝาดขึ้น ยกมือขึ้นลูบเส้นผมอ่อนนุ่มของเจ้าหมาน้อยที่หลับปุ๋ยเบาๆ ก้มหน้าผากลงไปแนบกับคนที่กำลังหลับไม่รู้เรื่องพร้อมกับบ่นให้

    เด็กบ้า พี่ไม่น่ารักอีกแล้วนะ....ที่น่ารักน่ะมันนายต่างหาก เจ้าหมาน้อย เอเลนเริ่มขยับตัวยุกยิกด้วยความรำคาญก่อนจะพลิกตัวขดซุกลงใต้ผ้าห่มผืนหนาที่กรุ่นกลิ่นกายเจ้าของห้องจางๆ ไม่อยากจะกวนเด็กกำลังกินกำลังนอนอีก รีไวเดินออกมายังห้องนั่งเล่น หยิบอุปกรณ์ปฐมพยาบาลขึ้นมาแล้วถอดเสื้อของตนออก ถึงจะตัวค่อนข้างเล็กแต่เขากลับมีร่างกายที่แข็งแรงกำยำผิดคาด มัดกล้ามเนื้อท่อนแขน ช่วงอกและหน้าท้องขึ้นกล้ามเป็นลอนๆแลดูสวยงาม ไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนพวกนักเล่นกล้ามตัวบึ้กๆทาตัวมันๆแบบนั้นเลยสักนิด แต่มวลกล้ามเนื้อที่งดงามเหล่านั้นวันนี้มันกลับเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยฟกช้ำ ชายหนุ่มหยิบยาใส่แผลให้ตนด้วยท่วงท่าที่ไม่ถนัดนัก อยู่ดีๆยาป้ายแผลก็ถูกฉกออกไปจากมือ

    พี่ไปโดนอะไรมาเหรอครับ ทำไมช้ำไปทั้งตัวแบบนี้เอเลนเอ่ยถามในขณะที่ป้ายยาใส่แผลให้ชายหนุ่มเบาๆ

    ผิดคิวกันนิดหน่อยชั่วโมงพละ

    แล้วแผลมันต้องเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ อย่างกับถูกอะไรกระแทกมา จุดที่เป็นรอยช้ำแค่ใส่ยาแล้วนวดให้เบาๆก็พอ แต่จุดที่มีเลือดออกก็ต้องปิดพลาสเตอร์ปิดแผลให้ด้วย เจ้าหมาน้อยบรรจงแปะพลาสเตอร์ปิดแผลมุมปากที่แตกให้พี่ชายเบาๆ มือใหญ่ยกขึ้นบิดจมูกรั้นของเด็กหนุ่มที่จ้องเขาหน้าหงิกอย่างหมั่นเขี้ยว

    ก็แค่ฟกช้ำนิดๆหน่อยๆ รีไวเอ่ยยิ้มๆลูบแก้มเอเลนด้วยความเอ็นดู

    ผมว่าเหมือนพี่ไปตีกับใครมามากกว่า ถึงจะทำหน้าตาไม่พอใจ แต่ก็ยอมปล่อยให้มือใหญ่ลูบๆคลำแต่โดยดี

    ไม่มีหรอก อย่าคิดมากน่า

    ถึงพี่รีไวจะบอกว่าไม่มีอะไรก็เถอะ แต่นี่พี่ทำเหมือนมีลับลมคมในอะไรกับผมชอบกลนะ.... ผมค่อยๆนวดแขนที่มีรอยฟกช้ำให้เบาๆ นี่พี่รีไวตัวใหญ่เหมือนกันแฮะ ลูบๆจับๆไปตามมัดกล้ามแต่ละส่วน แต่ก็ยังไม่พอใจก็เลยลองโอบกอดรอบตัวพี่เขาเสียเลย

    เป็นอะไรไป อ้อนจะเอาอะไรโอบเอวเจ้าหมาน้อยที่เข้ามานัวเนียด้วยเบาๆ วันนี้อ้อนผิดปกติ

    เปล่าครับ แค่คิดว่าเมื่อก่อนพี่ตัวไม่ใหญ่ขนาดนี้ ตอนเด็กๆผมยังโอบพี่ได้สบายๆอยู่เลย เดี๋ยวนี้ชักจะกอดไม่รอบและ.....ติดกล้าม พี่รีไวขำในขณะที่กอดผมแน่นขึ้น

    ใครจะไปเหมือนเรา แห้งยังไงก็ยังแห้งอยู่แบบนั้น ผมขืนตัวออกจากอ้อมกอดแล้วเถียงกลับไปเบาๆ

    แต่ผมสูงกว่าพี่ก็แล้วกัน ไม่ทันขาดคำก็ถูกมือใหญ่จับหน้ากดลงซบกับซอกคอด้วยความหมั่นเขี้ยว

    อย่ามาทำเป็นพูดดี พี่รีไวหัวเราะเบาๆ ผมซุกหน้าลงกับซอกคอเขาแล้วหลับตาลง

    ผมพูดความจริงต่างหาก

    เอเลน.....คืนนี้ค้างที่นี่นะ

    ครับ ถึงพี่ไม่ชวนผมก็ไม่กลับห้องแล้วล่ะ จะหลับคาอกอุ่นๆอยู่นี่แหละ

    พี่รีไวเหยียดกายลงนอนบนโซฟาตัวนุ่มแล้วดึงผมขึ้นไปนอนด้วยกัน

    พี่กินอะไรมารึยังครับ

    ไม่อ่ะ.....ไม่หิว ง่วงมากกว่าเขาตอบพลางกระชับแขนกอดเอวผมไว้แน่น

    ถ้าหิวบอกผมนะฮะ เดี๋ยวผมจะทำให้กิน ผมซุกหน้าลงกับหน้าอกแน่นปึ้กของพี่ชายร่างเล็ก แล้วเราสองคนก็ค่อยๆหลับไปพร้อมกัน

    มันไม่แปลกหรอกใช่มั้ยครับที่เราจะนอนกอดกัน.......ก็ในเมื่อเราเป็นพี่น้องที่รักกันมากนี่นา.....

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×