ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Attack On Titan Fic:Levi x Eren } My sweet puppy

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่หนึ่ง ความทรงจำในวัยเด็กยากจะลบเลือน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.1K
      49
      28 ก.ย. 56

     

     บทที่หนึ่ง ความทรงจำในวัยเด็กยากจะลบเลือน

     

                    เรื่องราวที่ประทับใจในวัยเด็กมักจะเป็นเรื่องที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำเสมอ ผมเองก็เป็นคนที่มีเรื่องแบบนั้นเช่นกัน ประทับใจจนยากจะลืมเลือน......แม้ตอนนี้อยากจะลืมให้ตายก็เถอะ!!!

    เด็กผู้ชายทุกคนมักจะมีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นฮีโร่ ฮีโร่ผู้คอยปกป้องเจ้าหญิงแสนสวย ผมเองก็มีเจ้าหญิงในดวงใจของผมที่ต้องการจะปกป้อง เจ้าหญิงของผมเธออายุมากกว่าผมสองปี แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนตัวเล็กบวกกับมีหน้าตาที่น่ารักทำให้เธอมักถูกกลั่นแกล้งอยู่เสมอ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าเพื่อนตัวดีของผม พอมันรู้ว่าผมชอบเธอมันยิ่งหาเรื่องกลั่นแกล้งเธอมากขึ้นไปอีก

     

    เสียงโหวกเหวกโวยวายดังลั่นมาจากใต้ต้นมะขาม กลุ่มเด็กนักเรียนชายอนุบาลชั้นปีที่สองกำลังตั้งแก๊งรังแกเด็กประถมตัวเล็กกระจ้อยร่อย กลุ่มเด็กชายอ่อนวัยแต่เกรียนแตกยืนรุมแหย่กิ่งไม้ที่มีหนอนผีเสื้อเกาะใส่เด็กสาวที่นั่งคุดคู้ยกมือปิดหัวอยู่กับพื้น

    เอาอีกแล้ว เจ้าพวกนั้น รังแกพี่สาวสุดสวยอีกแล้ว.......

    ไม่รอช้าเจ้าหนูน้อยพาขาสั้นป้อมวิ่งดุ๊กดิ๊กพุ่งไปยังแก๊งเด็กเกรียนพวกนั้นทันที ด้วยความที่พัฒนาการทางด้านร่างกายยังไม่สมบูรณ์แข็งแรงเต็มที่ เด็กน้อยถึงกับสะดุดฝุ่นล้มหน้าทิ่มลงกับพื้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังกัดฟันวิ่งหน้าตั้งไปต่อ

    พวกนาย!!! หยุดเดี๋ยวนี้นะ เด็กน้อยยืนท้าวเอวส่งเสียงตะโกนใส่แก๊งเด็กเกรียนดังลั่น  เด็กชายผมเกรียนผู้มีใบหน้าคล้ายคลึงกับม้าเหมือนผู้เป็นหัวโจกหันมาจวกทันที

    ทำไมห๊ะ เอเลน นายมีปัญหาอะไรกับพวกฉันรึยังไง

    แจน!!! รังแกเด็กผู้หญิง ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยนะ

    เด็กชายหัวเกรียนเหลือบตาหันกลับไปมองเด็กสาวชั้นประถมผู้นั่งคุดคู้อยู่กับพื้นก่อนจะผลักอกเด็กหนุ่มร่างเล็กผู้มีนัยน์ตาสีเขียวกลมโตอย่างหมั่นเขี้ยว

    คนเนี๊ยะ แตะต้องไม่ได้เลยใช่มั้ย.......เจ้าหญิงของนายน่ะ

     เสียงโห่ฮาของแก๊งเด็กเกรียนดังลั่นใต้ต้นมะขาม เจ้าหนูเอเลนหน้าแดงกล่ำพุ่งตัวเข้าใส่เจ้าเด็กแจนจอมเกรียน แต่ด้วยช่วงตัวที่สั้นกว่าพอถูกแขนยาวๆยันหน้าผากเอาไว้เอเลนก็ไม่สามารถรุกเข้าไปได้ ได้แต่เตะแขนขาปัดป่ายสะเปะสะปะไปทั่ว

    เจ้าพวกบ้า ปล่อยนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย เจ้าหนูส่งเสียงคำรามลั่น

    อยากจะโชว์แมนสินะ เอเลน.....จัดไป!!!”

    แก๊งเด็กเกรียนรุมเข้าล็อคแขนขาเจ้าหนูผู้กล้าไม่ให้ขยับตัวไปไหนได้ หนอนผีเสื้อเคราะห์ร้ายถูกยัดลงไปในเสื้อพละของเด็กชายเอเลนตัวแล้วตัวเล่า ขึ้นชื่อว่าเด็กเกรียนไม่ว่ายังไงมันก็เกรียนอยู่วันยังค่ำ แจนจัดแจงยัดหนอนผีเสื้อตัวเบิ้มใส่เข้าไปในเป้ากางเกงของเจ้าหนูทันที เอเลนถึงกับร้องจ๊าก!!!! แก๊งเด็กเกรียนส่งเสียงหัวเราะชอบใจดังลั่น แจนแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ก่อนจะวิ่งหนีไป

    เก่งนักก็เอาออกเองเลยแล้วกัน ไอ้ฮีโร่!!!!”

    แก๊งเด็กเกรียนวิ่งหนีจากไปในขณะที่ทิ้งภาระที่เหลือไว้ให้เจ้าหนูผู้กล้า เอเลนทรุดนั่งคลุกฝุ่นลงกับพื้นสองมือกุมเป้ากางเกงแน่นน้ำตาคลอปากสั่น ไอ้เจ้าตัวที่อยู่ในเสื้อนี่มันไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้ตัวที่มันยุกยิกอยู่ในเป้ากางเกงนี่สิ......... ด้วยความสงสาร เด็กสาวผู้สูงวัยกว่านั่งลงเบื้องหน้าเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู

    เป็นอะไรรึเปล่า.... นัยน์ตากลมโตสีดำสนิทจ้องมองเด็กน้อยตรงหน้า แววตาติดจะกังวลเล็กน้อย

    ผ.....ผม.....ไม่.....ไม่กล้าจับ เจ้าหนูน้อยเอ่ยน้ำตาคลอเบ้า ปริ่มจะร่ำไห้อยู่รำไร

    เด็กสาวก้มมองมือเล็กที่กุมเป้ากางเกงเอาไว้ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยขึ้น

    พี่ช่วยนะ เจ้าหนูพยักหน้าหงึกหงัก มือเรียวล้วงเข้าไปในเป้ากางเกงเด็กน้อยควานขยุกขยิกชั่วครู่ก็ได้หนอนผีเสื้อตัวเป้งติดมือมา เอเลนถึงกับน้ำตาไหลด้วยความโล่งใจ

    ในเสื้อด้วยใช่มั้ย น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยถามเบาๆ

    ค....ครับ.... เจ้าเด็กน้อยตอบเสียงสั่น มือเรียวจัดแจงสอดควานเข้าไปใต้เสื้อพละตัวบางแล้วก็ค้นพบเป้าหมาย หนอนผีเสื้อตัวเบิ้มสีเขียวเข้มสามตัวเกาะแขนเด็กสาวอยู่ เอเลนถึงกับตัวสั่นเมื่อได้มองมันใกล้ๆ เธอปีนขึ้นไปยังต้นมะขามวางเจ้าหนอนเคราะห์ร้ายทั้งสามตัวไว้บนกิ่งที่มีใบสีเขียวสด หวังว่ามันคงจะไม่ถูกเด็กเกรียนที่ไหนรังแกเข้าอีก แล้วกระโดดตุ้บลงมายืนตรงหน้าเด็กน้อย

    ขอบคุณที่ช่วย ถ้าไม่ได้เธอช่วย พี่คงแย่

    ครับผม.....พวกเพื่อนของผมมันไม่ดีเองต่างหาก ชอบรังแกเจ้าหญิงของผมอยู่เรื่อย

    ชื่ออะไร

    เอเลนครับ รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งไปให้เจ้าเด็กน้อยถึงกับหน้าแดง

    เอเลนเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยพี่ ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้ถ้าพี่ถูกรังแกอีก เอเลนจะมาช่วยพี่มั้ย

    ครับ.....ช่วย.....ผมต้องมาแน่นอน

    ถ้าอย่างนั้น พอพี่เรียกหา ไม่ว่าอยู่ไหน เอเลนต้องรีบมาหาพี่นะ

    ครับผม เด็กน้อยยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น นิ้วก้อยเรียวยาวถูกยื่นส่งมาตรงหน้า

    เอเลนสัญญากับพี่นะ เจ้าหนูยกนิ้วก้อยขึ้นเกี่ยวด้วยความเต็มใจ

    สัญญาครับผม

     

    นั่นเป็นความประทับใจแรกพบที่ยากจะลืมเลือน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทุกครั้งที่เจ้าหญิงของผมถูกพวกแจนรังแก ผมก็จะต้องออกหน้าปกป้องเธออยู่เสมอ ก็เจ้าสาวในอนาคตของผมทั้งคนนี่นา

    เอเลน.....หลับอยู่รึไง

    เปล่า ผมตอบในขณะที่ยังฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะ

    กินข้าวกันเหอะว่ะ หิวจะแย่แล้ว เจ้าเพื่อนตัวสูงมันจิกหิ้วคอเสื้อพลางหนีบคอผมเข้าที่ข้างรักแร้ ......แจนแกไม่ต้องหิ้วฉันขนาดนี้ก็ได้ว่ะ

    วันนี้กินอะไรกันดีวะ ชุดอาหารกลางวันวันนี้คงไม่ใช่เซ็ตเดิมกับเมื่อวานหรอกนะ อยากกินเทมปุระชะมัด แจนบ่นในขณะที่ผมรู้สึกถึงเงาดำทะมึนมาสกัดตรงหน้า เงาดำที่มีความสูงเพียงแค่ร้อยหกสิบเซ็นแต่ผมกลับรู้สึกว่ามันช่างสูงใหญ่เสียจนบังประตูจนมิด

    นัยน์ตาคมเข้มสีดำสนิททอดมองมือแจนที่ล็อคคอผมอยู่แว่บหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ

    เอเลนไปกินข้าวกัน

    ครับ ผมรีบสะบัดตัวออกจากแขนแจนแล้วเดินตามเขาไปทันที แอบอดคิดในใจไม่ได้ว่าทำไมเจ้าหญิงแสนสวยของผมถึงได้เติบโตขึ้นมาเป็นเจ้าชายรูปงามผู้มีอิมเมจสุดแสนจะเย็นชาแบบนี้ไปได้นะ เฝ้ามองแผ่นหลังของร่างชายหนุ่มผู้มีความสูงเพียงร้อยหกสิบเซ็นตรงหน้าแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ นึกถึงเรื่องราวสุดช็อคที่ทำให้หัวใจดวงน้อยๆดวงนี้ถึงกับแหลกสลายขึ้นมา

     

    หลังจากนั้นผมกับพี่สาวก็มักจะเดินทางกลับบ้านด้วยกันเสมอแม้จะมีอยู่ไม่น้อยครั้งนักที่แจนจะตามมาก่อกวนเราอยู่เรื่อยๆ พี่สาวมักจะพาผมแวะทานขนมที่บ้านเขาอยู่เสมอ เพราะที่บ้านเขาเปิดร้านกาแฟแอนทีคที่มีเบเกอร์รี่ขายอยู่ด้วย คุณแม่ของพี่สาวมักจะเอาเค้กกับนมปั่นให้ผมกินอยู่บ่อยๆ ซึ่งมันอร่อยมากๆๆๆๆ ขอบอกเลย

    เอ.....ทำไมนานจัง เอเลนขึ้นไปดูพี่สาวบนบ้านให้คุณแม่หน่อยได้มั้ยคะว่าทำไมพี่สาวถึงยังไม่ลงมาสักที

    ได้ครับ ผมกระโดดลงจากเก้าอี้เสริมเด็กแล้ววิ่งเตาะแตะขึ้นบันไดไปบนชั้นสองของร้าน ห้องของพี่สาวมีโปสเตอร์รูปปีกไขว้คู่ตราสัญลักษณ์ของกองทหารชื่อดังจากการ์ตูนเรื่องคนสู้ยักษ์ที่เราทั้งคู่ชอบมานั่งดูด้วยกันหลังเลิกเรียน

    เคาะประตูหนึ่งครั้ง .......เงียบ

    เคาะประตูครั้งที่สอง.......ก็ยังคงเงียบ

    ผมถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เข้ามาในห้องพี่สาวจริงๆ แทนที่มันจะเต็มไปด้วยตุ๊กตาน่ารักๆ แต่มันกลับเต็มไปด้วยหุ่นรบกันดัม ฟิกเกอร์ไอ้มดแดง มดปลวกสารพัดมด ที่พื้นยังมีรถไฟไต่รางส่งเสียงปู้นๆวิ่งฉึกฉักๆวนไปวนมาไม่หยุด เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก พร้อมกับร่างเปียกโชกของพี่สาวที่เดินออกมา เธอสวมผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว ในขณะที่ช่วงบนเปลือยเปล่า ผมไม่ได้มองนะ ไม่ได้แอบมองเลยจริงๆ

    เอเลน? มีอะไร ผมรีบก้มหน้างุดในจังหวะที่เธอเดินผ่านหน้าผมไป

    คุณแม่ให้ผมมาตามพี่สาวลงไปทานนมปั่นด้วยกันครับ

    งั้นเอเลนบอกคุณแม่ให้ด้วยว่าเดี๋ยวพี่แต่งตัวเสร็จแล้วจะตามลงไป

    ครับ ด้วยความที่เงอะงะเก้อเขินจนไม่ได้ดูทางให้ดี ผมที่ไม่ทันระวังดันไปสะดุดเอารางรถไฟของเล่นที่วางอยู่กับพื้น สัญชาตญาณการเอาตัวรอดทำให้ผมรีบคว้าทุกอย่างที่อยู่ใกล้มือที่จะช่วยไม่ให้ผมต้องหน้าไถลไปกับพื้น แต่สิ่งที่ผมคว้าได้กลับมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเล็กผืนเดียวเท่านั้น

    อ๊ะ!!!” พี่สาวอุทานด้วยความตกใจ ในขณะที่ผมอุทานด้วยความเจ็บเพราะหน้ากระแทกพื้น จมูกแดงเป็นปื้นเลือดกำเดาไหลย้อย

    เอเลน!!!” พี่สาวรีบโผเข้ามาหาผมด้วยความห่วงใย มือเรียวบีบนวดสันดั้งจมูกให้ผมเบาๆ

    เจ็บมากมั้ย

    เจ็บครับ......เจ็บมากเลย ผมตอบพลางหลับปี๋ พอลืมตาขึ้นผมก็ตกใจจนเกือบกัดลิ้นตัวเอง พี่สาวที่เปลือยเปล่านั่งยองๆอยู่ต่อหน้าผม เธอมีอะไรบางอย่างที่ผู้หญิงไม่ควรจะมี ซึ่งมันห้อยต่องแต่งอยู่กลางหว่างขาของเธอ

    ช.....ช้าง...น้อย? ผมเอ่ยพลางชี้ไปยังอวัยวะส่วนเกินนั้น พี่สาวก้มมองหว่างขาตัวเองพึมพำตอบกลับมาเสียงเบา

    อืม

    เหมือนผมเลย......พ....พี่...สาว....เป็นผู้ชาย?

    อืม ยังคงตอบรับด้วยใบหน้านิ่งเฉยดังเดิม

    อ๊า!!!!!” ผมกรีดร้องเสียงดังลั่นร้องไห้โฮไม่หยุด ประหนึ่งว่าวิญญาณกำลังจะออกจากร่าง เดือดร้อนคุณแม่ของพี่สาวต้องขึ้นมาช่วยปลอบ

    ตายจริง ตกใจขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ก็คุณแม่เห็นเอเลนเดินตามรีไวต้อยๆเรียกพี่สาวๆไม่หยุด มันน่ารักดีนี่นา คุณแม่ก็เลยไม่อยากบอกหนูว่ารีไวเป็นพี่ชาย ไม่ใช่พี่สาวน่ะลูก คุณแม่บอกในขณะที่ปลอบผมไปด้วย นั่นคือประสบการณ์สุดเลวร้ายที่เด็กอนุบาลสองคนหนึ่งจะเผชิญได้เจ้าสาวในอนาคตของผมกลับกลายเป็นผู้ชายซะงั้น นอกจากจะเข้าใจอะไรผิดๆไปด้วยความไร้เดียงสาของเด็กแล้วยังถูกผู้ใหญ่ทำร้ายด้วยการหลอกซ้ำอีก คิดว่าหัวใจดวงน้อยๆของผมจะทานทนรับได้ไหวอีกเหรอ

    หลังจากนั้นเป็นต้นมาผมก็หลีกเลี่ยงที่จะเจอพี่สาวผู้มีดุ้นมาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง ที่หน้าประตูโรงเรียน ผมกับแจนกำลังจะขึ้นรถโรงเรียนกลับบ้านไปด้วยกัน แต่พี่สาวผู้มีดุ้นที่ผมไม่ได้เห็นหน้าค่าตามานานกลับดักรอผมอยู่ ผมรีบหลบหลังแจนทันที

    มาทำไมอีก แจนกางแขนบังผมไว้ในขณะที่ตะคอกไปใส่พี่สาวสุดสวยของผม

    ฉันมาหาเอเลน

    เอเลนไม่อยากเจอหน้านาย ไปซะ ชิ่วๆ แจนออกปากพร้อมกับสะบัดมือไล่ แต่พี่สาวสุดสวยของผมก็ยังคงนิ่ง

    พี่อยากจะขอโทษ พี่ไม่เคยคิดจะหลอกเอเลนเลย แต่ก็นั่นแหละ พอเห็นเอเลนเรียกพี่สาวๆด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแบบนั้นแล้วพี่ก็ทำใจทำลายความฝันของเอเลนด้วยการบอกความจริงไม่ลง

    เด็กหนุ่มวัยประถมยังคงรอคอยปฏิกิริยาตอบรับจากเด็กน้อยที่หลบอยู่หลังเพื่อนอย่างใจเย็น

    พี่รู้ว่าเอเลนตกใจมากอาจจะไม่อยากเห็นหน้าพี่อีกถ้าอย่างนั้นพี่ก็จะไม่โผล่หน้ามาให้เอเลนได้เจออีก แต่ถ้าหากเอเลนยังจำสัญญาของเราได้ว่าเจ้าชายขี่ม้าขาวของพี่จะมาหาพี่ทุกครั้งเวลาที่เรียกหา พี่ก็จะรอ รอจนกว่าเอเลนจะยอมรับในตัวพี่ชายคนนี้ได้จริงๆ

    เอเลน......

    รีบๆไปได้แล้ว.....เอเลนเขาไม่อยากจะเจอหน้านาย ไป ชิ่วๆ ไปไกลๆเลย แจนออกปากไล่อีกครั้งไม่อยากให้เด็กชายตรงหน้าพูดอะไรมากไปกว่านี้ เดี๋ยวเจ้าเพื่อนตัวดีมันจะเขวเอาได้ง่ายๆ

    ถ้าอย่างนั้น.....ลาก่อน เอเลน ตัดสินใจเดินจากมาทั้งๆที่ไม่อยากจะยอมแพ้ แต่ก็ยอมถอยดีกว่าจะต้องถูกเกลียด แรงกระตุกเบาๆที่ชายเสื้อทำให้เด็กชายต้องหันกลับมามอง เด็กน้อยผมสั้นสีน้ำตาลอ่อนกำชายเสื้อเขาไว้แน่น ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มกัดเล็บนิ้วโป้งอย่างประหม่า นัยน์ตาสีเขียวกระจ่างกลมโตช้อนมองเขาอย่างเก้อเขิน

    ผมอยากกิน.....นมปั่น.....เค้กสตรอเบอร์รี่นมสด ฝีมือคุณแม่ของพี่ชายอีก นั่นเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตสำหรับเด็กอนุบาลสองอย่างผม

    พี่ชายก้มหน้ายกมือลูบหัวผมเบาๆแล้วช้อนผมอุ้มขึ้นเดินกลับบ้านไปด้วยกัน

    ได้สิ พี่จะบอกคุณแม่ทำให้เยอะๆ ทำให้เอเลนกินตลอดชีวิตเลยก็ยังได้

     

    ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็ไม่เคยมีวันไหนที่ผมจะอยู่ห่างจากพี่ชายคนนี้ได้อีกเลย...... ผมนั่งมองชุดอาหารสุขภาพตรงหน้าที่เขาจัดแจงซื้อให้ผมเสร็จสรรพทุกอย่าง ซึ่งมันเป็นชุดเดียวกันกับเขาเป๊ะ ทุกครั้งที่อยู่กับเขา พี่รีไวมักจะเป็นคนคอยดูแลผมอยู่เสมอ.......ทั้งๆที่สมัยเด็กๆผมเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวของเขาแท้ๆ

    ทำไมพักเที่ยงคนมันแยะอย่างนี้วะ แจนบ่นในขณะที่ถือถาดอาหารเดินเนียนเข้ามานั่งกับพวกผม

    เด็กทั้งโรงเรียนมารวมกัน คนก็ต้องเยอะเป็นธรรมดา คนเรามีปัญญาน่าจะพอคิดได้นะ พี่รีไวเอ่ยในขณะที่คีบบล็อกโคลี่ใส่จานให้ผม ผมไม่เข้าใจ ทำไมเวลาสองคนนี้เจอหน้ากันจะต้องมีบรรยากาศมึนตึงใส่กันอยู่เสมอ อยู่ด้วยกันทีไรผมอึดอัดแทบหายใจไม่ออก

    ถ้าอย่างนั้นโรงเรียนก็น่าจะแก้ปัญหาแบ่งเวลาปล่อยเด็กกินข้าวกันเลยเนอะ คนจะได้ไม่ล้น แล้วพวกรุ่นใหญ่ๆจะได้ไม่ต้องมีเวลามาเจ๊าะแจ๊ะกับเด็กอีก แจนเอ่ยขึ้นในขณะที่คีบเทมปุระตัวหนึ่งใส่จานให้ผม แต่ก่อนที่เขาจะวางมันลง ตะเกียบของพี่รีไวก็มาขวางเอาไว้เสียก่อน เขาคีบเทมปุระออกจากตะเกียบแจนแล้วยัดใส่ปากตัวเอง

    เอเลนแพ้กุ้ง....เป็นเพื่อนประสาอะไร เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้ ผมรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าที่แล่นเปรี๊ยะผ่านการประสานสายตาของสองคนนั้น......ผมไม่ไหวล่ะ

    ผมไปซื้อน้ำนะครับ เดี๋ยวซื้อมาฝาก แจนนายก็เอาด้วยใช่มั้ย ระหว่างนี้ก็ช่วยกินกันไปสงบๆหน่อยนะครับ...... อย่าเพิ่งฆ่ากันตายก่อนล่ะ ไม่อยากจะอ่านข่าวหน้าหนึ่งว่าเด็กนักเรียนชายม.ปลายปีหนึ่งกับปีสามใช้ตะเกียบจิ้มกันตายกลางโรงอาหารหรอกนะ........อนาถเกิน

    ตัดสินใจเดินเลี่ยงบรรยากาศมาคุออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก พลันได้ยินเสียงดังจากโต๊ะอาหารที่อยู่ใกล้ๆ สาวๆจับกลุ่มเม้าท์มอยกันมันสนุกปาก จะไม่อะไรหรอกนะ ถ้าหากหัวข้อสนทนาของพวกเธอไม่ใช่เรื่องของพวกเขาเสียนี่

    เห็นมั้ยๆ วันนี้รุ่นพี่รีไวก็ไปดักรอน้องเอเลนถึงห้องอีกแล้วน่ะ สาวม.ปลายเอ จีบปากจีบคอเม้าท์

    ฉันก็เห็นเขาอยู่ด้วยกันตลอด ตัวติดกันตล๊อด ตลอด แหละสองคนนี้น่ะ ไม่ยักเห็นรุ่นพี่มีแฟนหรือควงผู้หญิงที่ไหนสักที แบบนี้มันน่าสงสัยมั้ยล่ะ สาวม.ปลายบี ใส่ไฟเสียจนไฟลุกพึ่บพั่บ

    ฉันว่ามันไม่น่าสงสัยหรอก แบบนั้นมันใช่เลยต่างหาก ติดก็แต่ว่าใครจะเมะจะเคะก็เท่านั้น สาวม.ปลายซี ปิดปากหัวเราะคิก ในขณะที่สาวม.ปลายเอเริ่มเปิดประเด็น

    รุ่นพี่ก็หล่อนะ แต่ตัวเล็กไปมั้ย น้องเอเลนสูงโย่งขนาดนั้น คงจะรุกไม่ไหวหรอก

    แต่น้องเอเลนน่ารักออกนะ สกิลหน้าตาน่าโดนกลั่นแกล้งมากมาย อาจจะโดนรุ่นพี่รุกเอาก็ได้นะ สาวม.ปลายบี ถึงกับจิกกระโปรงด้วยความขวยเขิน

    ดีไม่ดีเขาอาจจะช่วยกันทำมาหากด ผลัดกันรุก ผลัดกันรับก็ได้ สามสาวกรี๊ดกร๊าดตบโต๊ะปึงปังด้วยความพอใจ

    แต่ว่าๆ นะ น้องแจนเองก็ใช่ย่อยนะ น้องเอเลนอยู่ไหนก็ตามถึงนั่นตลอด ชักจะเลือกไม่ถูกเสียแล้วสิ สายม.ปลายซีทำหน้ายุ่งราวกับกำลังตัดสินใจเลือกคณะเรียนต่อมหาลัย สองสาวที่เหลือทั้งสองคนเริ่มขมวดคิ้วตามทันที

    ถ้าอย่างนั้นก็สามพีให้มันจบๆไปเลยเถอะ จะได้ไม่เป็นภาระของกองอวย สามสาวส่งเสียงวี๊ดว๊ายด้วยความฟินไปไกลดังลั่น เด็กหนุ่มตัดสินใจเลือกกดน้ำอัดลมออกมาสามขวดแล้วเดินกลับโต๊ะ

    ผู้หญิงสมัยนี้ รุกๆรับๆ สามพงสามพี พูดอะไรกัน ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลยสักนิด.........

     

    เอเลนหอบกระป๋องน้ำอัดลมเดินกลับมาที่โต๊ะ สองคนนั้นดูจะสงบศึกกันแล้ว เพราะต่างคนต่างตั้งหน้าตั้งตาจัดการอาหารของตนจนเกลี้ยง เด็กหนุ่มนั่งลงพลางแจกขวดน้ำให้กับทุกคน ก้มลงมองจานอาหารตัวเองที่เต็มไปด้วยอาหารนานาชนิดที่สองคนนั้นเสียสละให้เขาจนพูนจานแล้วก็ถึงกับอิ่ม

    กองรวมกันเสียเละจนแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไรแบบนั้น ใครจะไปกระเดือกลง........

    เอเลน ยังไม่กินข้าว ดื่มน้ำอัดลมเข้าไปเดี๋ยวก็ปวดท้อง มือใหญ่คว้าแขนที่ยกน้ำอัดลมจ่อปากเอาไว้

    ผม ยังไม่หิวน่ะครับ

    งั้นก็รอเดี๋ยว เดี๋ยวจะไปซื้อนมมาให้.....เอานมชมพูสินะ

    เอ่อ....ครับ ชายหนุ่มลุกเดินออกจากโต๊ะไปในขณะที่แจนบ่นไล่หลังเขา

    นมชมพู.....เรียกมาได้ บ้านนอกชะมัด

    พอพูดถึงนมชมพูก็คิดถึงเหตุการณ์เมื่อตอนนั้นขึ้นมา

    ตั้งแต่อนุบาลผมและพี่รีไวมักจะเดินกลับบ้านด้วยกันเสมอ และเรามักจะแวะที่บ้านพี่รีไวทุกครั้ง แรกๆผมก็มักจะได้เป็นฝ่ายกินฟรีอยู่ตลอด แต่พอหลังๆเริ่มโตขึ้นผมก็อาสาช่วยงานคุณแม่พี่รีไวบ้าง เริ่มจากการรับออเดอร์เล็กๆน้อยๆไปจนถึงเริ่มหัดทำน้ำ-นมปั่น สตรอเบอร์รี่มิ้ลค์เชคคือเครื่องดื่มแก้วแรกในชีวิตที่ผมได้ลองทำ คุณแม่สอนการผสมส่วนผสมทุกอย่างให้ผมจนหมดก็จริง เหลือก็แต่ลงมือทำเท่านั้น นมปั่นสีชมพูนวนสวยถูกเทลงบนแก้วทรงสูงประดับตกแต่งด้วยสตรอเบอร์รี่ผ่าซีก ผมจิ้มนิ้วลงไปเลียชิมดูก่อน ส่วนตัวคิดว่าอร่อยแล้วนะ แต่ยังไม่ค่อยแน่ใจนัก

    มีอะไร พี่รีไวที่อ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆหันมาถามผมที่กำลังทำหน้ามุ่น

    ก็คิดว่าอร่อยแล้วนะครับ แต่ไม่แน่ใจว่าได้มาตรฐานของคุณแม่รึยัง

    ไอ้นมชมพูนี่น่ะเหรอ....

    ครับ นมชมพู เรียกเสียน่ารักเลยแฮะ......

    มา จะชิมให้ ไม่ทันได้ตั้งตัวมือใหญ่ก็คว้าเอานิ้วผมไปเสียแล้ว ลิ้นอุ่นๆไล้เลียเบาๆลงไปบนเรียวนิ้วไล่ย้อนเลาะเล็มคราบน้ำสีสวยที่ไหลย้อยไปตามร่องนิ้วของผม

    ก็โอเคแล้ว....ถ้าหวานกว่านี้คงแสบคอแย่ อร่อยดีแล้วล่ะ ว่าพลางยกนิ้วปาดมุมปากที่เลอะคราบนมไปด้วย

    ครับ ชอบทำให้ตกใจอยู่เรื่อย ปลายนิ้วที่ถูกสัมผัสยังสั่นไม่หายเลย

    ตั้งแต่นั้นมา นมชมพู.....เอ้ย นมสตรอเบอร์รี่ก็กลายเป็นนมรสโปรดของผมมาตลอด ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้อ่อนไหวต่อนมชมพู....เอ้ย นมสตรอเบอร์รี่ได้ขนาดนี้

     

    กินแค่นม จะอิ่มเหรอ แจนที่นั่งท้าวคางมองผมที่กำลังอินกับการย้อนความในวัยเด็ก เอ่ยถามขึ้น

    ก็ไม่ค่อยหิวนี่หว่า ผมเลือกที่จะตอบเลี่ยงๆไป ก็เพราะว่าใครล่ะที่พากันทำข้าวฉันเสียเละ

    กินแค่นี้มิน่าล่ะถึงได้แห้งขนาดนี้ ไม่ว่าเปล่า มันยังส่งมือมาล้วงสีข้างผมด้วย เล่นเอาผมตกใจเกือบฟันศอกใส่หน้ามันไปแล้ว

    เสียง ปึง!!! ดังขึ้นเมื่อนมชมพูขวดใหญ่ถูกวางลงกับโต๊ะ ผมเลิกสนใจแจนแล้วหันมาสนใจคนตรงหน้าแทน

    กินสิ เขาเอ่ยสั่งผมหน้านิ่ง

    ครับ อย่างผมไม่มีทางปฏิเสธเขาได้หรอกครับ

    ผมพยายามกระเดือกนมชมพู.....เอ้ย นมสตรอเบอร์รี่ในขวดจนหมดท่ามกลางสายตาจับจ้องของพี่รีไวกับแจน........กรุณาอย่าจ้องมากได้มั้ยครับ เกิดผมผิดคิวสำลักนมใส่หน้าพวกพี่เดี๋ยวจะยุ่งเอา

    ผมกระดกนมจนหมดขวดพลางเรอออกมาหนึ่ง เอื้อก.....

    ขอบคุณครับ มือใหญ่ยื่นมาเช็ดคราบนมที่เลอะริมฝีปากของผมเบาๆก่อนที่เขาจะยกนิ้วขึ้นเลียทำความสะอาด

    ตอนเย็นจะไปรับที่ห้อง รอกลับพร้อมกันนะ

    ครับ ผมก้มหน้างุดไม่กล้าเงยหน้าขึ้น เชื่อแน่ว่าตอนนี้คนทั้งโรงอาหารคงมองกันตาวาวไปแล้ว แล้วผมก็จะตกเป็นหัวข้อข่าวให้สาวๆเอ บี ซี ได้เม้าท์มอยกันอีกยาว

    ตั้งใจเรียนด้วยนะ มือใหญ่ยีหัวผมจนยุ่งเหมือนอย่างที่พี่เขาชอบทำเป็นประจำทุกครั้งที่เราต้องจากกัน

    ครับ มันเหมือนจะเป็นความเคยชินของพวกเราไปเสียแล้ว

    แม่ม....น่าหมั่นไส้ว่ะ แจนเอ่ยในขณะที่มองไล่หลังพี่รีไวไป แกหมั่นไส้ แต่ฉันโคตรอายเลยว่ะ

    กลับห้องกันเถอะ ยิ่งอยู่นานกว่านี้อาจจะถูกเม้าท์มอยยันลูกบวชก็เป็นได้......เอ๊ะ หรือผมจะไม่มีลูกให้บวชกันนะ ใครจะไปรู้ล่ะ

     

     

     

     

      

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×