คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ความล้มเหลวบอกเล่าเรื่องราว
ผมได้มีโอกาสได้ไปงานศพแม่ของเพื่อนร่วมงาน บรรยากาศช่างน่าโศรกสลด ผมได้เห็นแล้วชีวิตคนสุดท้ายก็หนีไม่พ้นความตาย
แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยยังคงหลอกตัวเอง คุณเห็นด้วยกับผมไหม พวกเค้ายังคงไม่กล้าที่จะล้มเหลว ทุกๆคนต่างก็กลัวว่าบันไดที่เค้าจะกระโดดข้ามไปจะมีอันตราย ในเมื่อพวกเค้าไม่กล้าที่จะกระโดดข้ามไป พวกเค้าจึงได้แต่ยืนมอง คนอีกฟากหนึ่งที่กล้าจะกระโดดออกไป
พวกเค้าไม่กล้าเสี่ยง และอยู่ที่นั่นอยู่ที่บันไดขั้นนั้นวันแล้ววันเล่า จนวันหนึ่งพวกเค้าก็ได้พบว่าพวกเค้าไม่ใช่เด็กที่อ่อนเยาว์อีกต่อไป พวกเค้าแก่ตัวลง แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะกระโดด ในที่สุดพวกเค้าก็จะถูกเหตุการณ์บังคับให้กระโดด ในตอนที่พวกเค้าไม่เหลือเรี่ยวแรงให้กระโดดอีกต่อไป และพวกเค้าก็จะสะดุดล้มลง เศร้าโศรกเสียใจ และในที่สุดวันที่พวกเค้าไม่อยากให้มาถึงก็มาถึงจนได้
คุณคิดว่ายังไง
ผมไม่ได้บังคับคุณให้คุณกระโดดไปข้างหน้าเมื่อคุณไม่พร้อม แต่ผมอยากบอกคุณว่า ถ้าคุณยังไม่พร้อมที่จะกระโดดด้วยตัวของคุณเอง คุณจะถูกถีบลงไปไม่วันใดก็วันหนึ่ง ซึ่งผมเองก็ไม่อยากให้วันนั้นมาถึง
ผมไม่อยากให้คุณหลับหูหลับตากระโดด แต่ผมอยากให้คุณลองกระโดด เพื่อที่จะข้ามไปอีกฟากหนึ่งของบันไดขั้นนั้น
ผมมีเรื่องอยากจะเล่าให้พวกคุณฟัง
ตอนนั้นผมอายุ 22 ย่างเข้า 23 ที่ผมเริ่มรวบรวมทุกสิ่งที่ผมล้มเหลวมาในชีวิต ผมพยายามเรียนรู้จากความล้มเหลวให้ได้มากที่สุด ในที่สุด ผมก็ได้ค้นพบความลับข้อหนึ่งจากการลองผิดลองถูก นั่นคือ การจดบันทึก มันทำให้ผมหวนนึกถึงประวัติศาสตร์จีนอันยาวนาน ประวัติศาสตร์ของยุโรป ประวัติศาสตร์ของอเมริกา แล้วผมถามตัวเองว่าทำไมประเทศเหล่านี้ถึงได้เจริญกว่าเรา นั่นก็เพราะว่า พวกเขามีการจดบันทึกนั่นเอง ประเทศจึงมีความเจริญเพราะสามารถนำความรู้จากความล้มเหลวในอดีตมาใช้ได้ พวกเขารู้วิธีการกว่าพันวิธีที่จะนำไปสู่ความล้มเหลว ถ้าคุณอยากให้ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ละก็ ผมคงบอกคุณง่ายๆ เช่น แผนพัฒนา เศรษฐกิจ เราจะรู้ได้ยังไงว่าที่เราคิดมันถูกและสามารถแก้ไขเศรษฐกิจได้จริงๆ ซึ่งสุดท้ายแล้วเราก็ต้องลองผิดลองถูกว่ามันดีจริงหรือไม่ แต่ที่น่าเสียดายคือ การลืมจดบันทึกไว้พิจารณา และนำไปสู่การล้มเหลวซ้ำอีก มันเกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ ถ้าคุณยังไม่เชื่อ
ความคิดเห็น