ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หายนะแห่งโทรมุนบราโด

    ลำดับตอนที่ #6 : พบกันอีกครั้ง

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ค. 52


    เมื่อข้าหันกับไป สิ่งที่ข้าได้เห็นทำให้ข้ารู้สึกดีใจมาก
    " เป็นเจ้าจริงๆ เป็นเจ้าจริงๆ เจ้ายังไม่ตาย ฟราลิซ " ข้าวิ่งเข้าไปสวมกอดนาง หลังจากที่ไม่ได้พบหน้านางมานานหลายปี
    หลังจากที่ข้าออกจากบ้านเพื่อเข้าประจำการกับท่านแม่ทัพอามูวาส มันเป็นความท้าทายครั้งแรกในชีวิตของข้า หลังจากนั้นข้ากับนางต่างก็เล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา จนเราได้มาพบกันอีกครั้ง 

    งานเฉลิมฉลองในวันนี้ ยิ่งคึกคักขึ้นไปอีกเมื่อยามค่ำเริ่มมาเยือน เราสองคนพากันวิ่งเล่นไปตามทางเดินถนนที่ต่อไปยังจัตุรัสกลางเมือง เหมือนตอนเด็กๆ บรรกาศในยามนี้ช่างวิเศษจริงๆ ในความรู้สึกของข้า เราได้ร่วมงานเต้นรำเพื่อการฉลองชัยชนะเหนือกองทัพทาส

    " เจ้าจำได้ไหม ตอนเราเด็กๆก่อนที่ท่านจะมาเข้าประจำการในกองทัพว่า สักวันหนึ่งท่านจะมีเงินทองเป็นของตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาเงินทองของพ่อแม่ " ฟราลิซเอ่ยคำถามที่แทงลึกเข้าไปในใจของข้า ทำให้ข้าหวนนึกถึงครั้งที่ข้ายังเป็นเด็ก ข้าต้องแบมือขอตังค์พ่อแม่ทุกวัน เพื่อนำไปจับจ่ายใช้สอย และมันนำพาเกียรติของข้าให้จมหายไป ทุกครั้งที่ข้าแบมือขอตังค์จากพ่อแม่ ข้ามักถูกดูถูก จนน้ำตาไหลเมื่อข้านึกถึงมัน

    " ข้ายังจำวันนั้นได้ดี ที่ท่านตัดสินใจหนีออกจากบ้าน ท่านร้องไห้ฟูมฟาย ดูไม่เข้าท่าเลย " ฟราลิซเอ่ย

    ใช่แล้ววันที่เปลี่ยนชีวิตข้า วันนั้นเอง มันเหมือนกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ความเศร้า ความโกรธ หวนกลับเข้ามาในใจข้า ข้ายังจำมันได้ดี
    เมื่อข้ามีปากเสียงทะเลาะกับแม่ มันเจ็บปวด และแม่ไม่เข้าใจมัน เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร มันเป็นคำถามที่แม้ในขณะนี้ข้าก็ยังไม่อาจตอบใจตัวข้าเองได้ วันนั้นมีแขกมาเยือนที่บ้านข้า ข้าวิ่งตามหาแม่ไปทั่ว เมื่อข้าตามแม่พบ แม่โกรธมากที่ข้าไม่รับรองแขกให้ดี เมื่อแขกกลับไป แม่ก็เริ่มทะเลาะกับข้า ข้าไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะสาเหตุอันใด แม่ของข้าประจานข้าต่อหน้าพวกชาวบ้าน ว่าข้าเป็นคนไม่ได้เรื่อง ชอบโดดเรียนไปเที่ยวฝึกยิงธนูอยู่ได้ แถมยังได้แต่แบมือขอตังค์แม่ไปวันๆ สุดท้ายแม่ด่าข้าว่า ชาตินี้ข้าไม่มีวันเจริญ เป็นคนไม่มีอนาคต ข้าโกรธมาก ข้าได้แต่วิ่งหนีออกจากบ้าน ในสมองของข้าเต็มไปด้วยคำว่า ทำไม ทำไม และก็ทำไม ต่อให้ข้าเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อก็เท่านั้น เพราะพ่อต้องเข้าข้างแม่อยู่แล้ว ข้าได้แต่วิ่งไป วิ่งไป ข้ารุ้ดีว่าจะไม่มีใครห่วงข้า เพราะแค่เรื่องปากท้อง ในขณะนั้นก็เป็นเรื่องซีเรียสแล้ว ข้าร้องไห้ฟูมฟายแสนเจ็บปวดใจเป็นอย่างยิ่ง ข้ารู้แม่จะไม่ยอมอภัยให้ข้า เพราะแม่ของข้าเป็นคนโมโหร้าย ชอบประจานความผิดของข้า ซึ่งข้าไม่รู้ว่าการที่ข้าโดดเรียนไปฝึกยิงธนูมันผิดตรงไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ฟราลิซก็มาปรากฏตรงหน้าข้า ข้าไม่อยากให้นางเห็นหน้าอันหน้าสมเพซของข้า 

    " เจ้ายังนึกถึงเรื่องนั้นอยู่อีกรึ " นางถามข้าด้วยความห่วงใย และเป็นคำที่ทำให้ข้ารู้สึกสะเทือนใจจนไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้ ในที่สุดน้ำตาแห่งลูกผู้ชายของข้าก็หลั่งรินออกมา นางเขามาปลอบโยนข้าอีกครั้ง " ตอนนี้เจ้าไม่ใช่เด็กน้อยคนที่วิ่งหนีปัญหาคนนั้นอีกแล้ว ตอนนี้เจ้าเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว เป็นขุนศึกผู้เหี้ยมหาญ แห่งโทรมุนบราโด ข้าว่าพ่อแม่ของเจ้าต้องภูมิใจในตัวเจ้าแน่ ถ้าเจ้ากลับไปเล่าเรื่องทุกอย่าง ข้าคิดว่าพ่อแม่ของเจ้าต้องอภัยให้เจ้าแน่ๆ ชีวิตของทุกคนย่อมมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น ทุกคนต่างมีทุกข์ไม่เหมือนกัน มันอาจเป็นโชคชะตาของเจ้าก็ได้" 

    ข้าซาบซึ้งในน้ำใจของนางยิ่งนัก นางโอบกอดข้าด้วยความจริงใจ ช่วยให้ข้าสลายความรู้สึกที่ปวดร้าวใจข้าได้
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×