ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Haikyuu!!] Hello,Police - Kuroo x OC -

    ลำดับตอนที่ #5 : Hello || 05

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ค. 63





     

                ใบหน้าเริ่มเคร่งเครียดยามมองชื่อตัวเองและชื่อชมรมที่ตนเพิ่งเขียนไปลงในใบสมัคร หล่อนส่ายหัวพลางพึมพัมกับตัวเองว่าไม่ใช่จากนั้นก็หยิบยางลบขึ้นมาลบตรงช่องชมรม สองแขนยกขึ้นมากอดอกแล้วมองไปรอบๆก็เห็นญาติและเพื่อนของตนกำลังนั่งทานมื้อเที่ยงอยู่โต๊ะข้างๆ หล่อนถอนหายใจออกมาก่อนจะหยิบดินสอกดแล้วเขียนชื่อเดิมตรงชมรมจากนั้นก็วางดินสอลงแล้วพยักหน้าหนึ่งทีเหมือนกับมั่นใจแล้ว ผุดลุกจากเก้าอี้จนทำให้คนที่นั่งทานข้าวด้านข้างถึงกับหันมามองเนื่องจากเธอดันลุกพรวดพราด


                นี่สึกิชิมะร้องทัก


                หืม?”


                จะไปไหนน่ะ


                ส่งใบสมัครชมรมยกแผ่นกระดาษขึ้นมาโบกให้สึกิชิมะดูอย่างไวแต่เขาก็มองไม่ออกว่าเธอเขียนชมรมไหนลงไปในนั้น


                นิชิโนะซังใส่ชมรมไหนเหรอ?”


                ความลับนิ้วชี้ทาบบนริมฝีปากของตนพื่อบอกให้ยามากุจิรู้ว่าบอกไม่ได้ เด็กหนุ่มพยักหน้ารับรู้จึงไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ถามอะไรต่อแล้วจึงเดินไปที่ประตูฝั่งหลังห้อง


                แล้วข้าวเที่ยงล่ะ!


                ไม่กิน ลืมเอาข้าวกล่องมา


                ขาเรียวก้าวมาหยุดอยู่หน้าบันไดซึ่งเป็นทางขึ้นไปยังชั้นของนักเรียนปีสาม เหลือบมองใบสมัครชมรมในมือรอบที่ร้อย รู้สึกลังเลว่าที่ตนเขียนนั้นมันถูกต้องหรือไม่ทั้งที่บอกว่าจะลองหาอะไรอย่างอื่นทำนอกจากวอลเลย์บอลแล้วแท้ๆแต่ก็วกกลับมาหามันจนได้ เหมือนที่สึกิชิมะว่าไม่ไม่มีผิด เชื่อแล้วว่ารอบตัวของนิชิโนะ มานากะนั้นหมุนด้วยวอลเลย์บอล


                ยามเดินตามระเบียงทางเดินรุ่นพี่ปีสามหลายคนต่างทยอยหลีกทางให้เมื่อเธอเดินผ่าน ซ้ำยังมีสีหน้าหวาดๆเหมือนว่าเห็นเป็นอันธพาลหรือไม่ก็เจ้เก็บค่าแผงที่ตลาด ได้ยินเสียงซุบซิบมาจากบริเวณด้านข้างว่านั่นเด็กปีหนึ่งเหรอ ทำไมดูเฟียสจัง ฉันไม่กล้าสบตาเลย น้องจะต่อยป่ะวะ และอีกหลายต่อหลายคำที่มานากะจับใจความไม่ค่อยได้แต่ถึงอย่างนั้นมันก็วนๆอยู่ประมาณนี้ เด็กสาวพยายามทำเป็นไม่สนใจจึงมุ่งสมาธิไปกับการหาห้องของรุ่นพี่คนหนึ่ง


                สักพักก็เดินมาอยู่อยู่ที่ห้องปีสามห้องสองที่รุ่นพี่คนนั้นเคยบอกว่าหากตัดสินใจได้แล้วให้เอามาส่งที่นี่ ชะโงกหน้าเข้าไปในห้องพร้อมกวาดสายตาหาเป้าหมายแต่กลับไม่พบ มีแต่คนที่อยู่ในห้องนั้นมองเธออย่างสงสัยว่ามาทำอะไรที่นี่ ดูเหมือนว่าจะมาเสียเที่ยวซะแล้วสิ


                มาหาใครงั้นเหรอ?”


                เฮ้ย!ร้องตกใจเมื่อจู่ๆก็มีเสียงดังมาจากด้านหลัง เด็กสาวสวมแว่นใบหน้าสะสวยสะดุดตามีไฝเสน่ห์บริเวณมุมปากล่างทำเอามานากะรู้สึกเขินอยู่ช่วงหนึ่งแต่ก็ตั้งสติได้ เมื่อมองหน้าชัดๆก็รู้ได้ว่าคือคนที่ตามหานั่นเอง


                เธอ เด็กคนเมื่อวานนี้นี่ ตัดสินใจได้แล้วเหรอ?”เสียงนุ่มเอ่ยถาม


                ค่ะ ขอโทษที่ตัดสินใจช้านะคะ


                ไม่เป็นไรหรอก จะเข้าตอนกลางเทอมยังได้เลย ฉันชิมิสึ คิโยโกะนะมานากะจังคิโยโกะส่งยิ้มหวานไปให้รุ่นน้อง


                คะ---คิโยโกะซัง ขอเรียกอย่างนี้คงไม่มีปัญหานะคะมานากะเอ่ยอย่างไม่มั่นใจนัก คิโยโกะซังเป็นผู้จัดการคนเดียวในชมรมเหรอคะ?”


                ใช่จ้ะ ตอนแรกไม่คิดว่าจะรับผู้จัดการเพิ่มหรอกแต่ได้คนมาช่วยแบ่งเบาภาระมันก็ดีนะ อีกอย่างคนในชมรมก็เป็นกันเองทั้งนั้น มานากะจังไม่ต้องกังวลหรอกนะ


                พอพูดอย่างนี้ก็รู้สึกกดดันยังไงชอบกลแฮะ


                ว่าแต่ทำไมถึงตัดสินใจล่ะ?”คำถามของคิโยโกะทำเอาหล่อนไปไม่ถูก ที่นั่งคิดนอนคิดมาตลอดทั้งคืนในหัวก็มีแค่คำว่าจะเข้าดีมั้ยหรือจะไม่เข้าดี พอมาคิดดูว่าไหนๆสึกิชิมะก็เป็นคนที่ตามตื๊อมาตลอดก็ตอบไปเลยล่ะกัน


                พอดีว่าญาติหนูอยู่ในชมรมนี้น่ะค่ะที่ชื่อว่าสึกิชิมะ เคย์ ก็เลยอยากจะเข้ามาดูเขาด้วย


                อย่างนั้นเหรอ ว่าแต่มานากะจังเคยเล่นวอลเลย์บอลมาก่อนหรือเปล่าล่ะ


                เคยค่ะ เซ็ตเตอร์ทีมแชมป์ระดับประเทศม.ต้น


                ถ้าอย่างนั้นก็คงจะรู้เรื่องวอลเลย์บอลดีสินะคิโยโกะยิ้มออกมาทำให้มานากะใจเต้นรัว เธอล่ะแพ้รอยยิ้มของผู้หญิงจริงๆ


                ก็หวังว่าจะช่วยได้นะคะ


                ไม่หรอก ช่วยได้เยอะเลยล่ะ


                คุยกันได้สักพักก็ขอตัวออกมา มานากะรู้สึกว่าอย่างน้อยตนก็ยังพอคุยกับคนอื่นได้นอกจากคนรุ่นเดียวกันแถมตัวคิโยโกะเองก็ไม่ได้มีท่าทีหวาดๆเหมือนคนอื่นด้วยซ้ำ นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกดีกับรุ่นพี่คนนั้นไม่น้อย ก่อนจะแยกตัวออกมาคิโยโกะก็บอกว่าวันนี้ให้มาที่ชมรมด้วยเหมือนกัปตันจะเรียกคุยอะไรสักอย่าง แต่ก่อนจะถึงตอนนั้นมานากะก็คิดได้ว่ากลับถึงห้องไปคงโดนสึกิชิมะถามแน่ๆว่าตกลงใส่ชมรมอะไรลงไป


    โครกกกก~


                เอาเป็นว่าตอนนี้หาอะไรลงท้องก่อนก็แล้วกัน


                มานากะเดินลงมาชั้นหนึ่งเพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านค้าของโรงเรียนหวังว่าจะซื้อขนมปังยากิโซบะสักชิ้นพอให้หายหิว แต่เมื่อเดินลงมาก็ต้องใจสลายเมื่อเห็นว่ามันปิดไปแล้ว เงยหน้ามองนาฬิกาแขวนที่ติดอยู่ด้านบนก็เห็นว่าเลยเวลาขายมาสักพักแล้ว แถมตอนนี้ท้องของเธอก็ร้องไม่หยุดอีกอย่างที่โรงเรียนก็ไม่มีตู้กดขนมด้วย ดังนั้นที่พึ่งสุดท้ายจึงต้องเป็นเจ้าตู้กดน้ำอัตโนมัติเท่านั้น


                เหลือสองกล่องงั้นเหรอ งั้นขอหมดเลยล่ะกันว่าแล้วก็หยอดเหรียญอีกรอบหนึ่งเพื่อเอากล่องสุดท้ายจนกระทั่งขึ้นตัวอักษรสีแดงว่าหมดอยู่ใต้ชื่อเครื่องดื่ม


                หวังว่าเจ้านี่จะพอรองท้องให้ได้นะ


                มานากะเจาะกล่องโยเกิร์ตแล้วยกขึ้นมาดูดเพื่อซึมซับรสชาติ เขาว่ากันว่ายิ่งหิวอาหารที่ได้กินมันก็จะอร่อยยิ่งขึ้นซึ่งเธอก็คิดว่านี่คือเรื่องจริง เพราะอย่างน้อยๆเจ้านี่ก็ช่วยลดความหิวให้เธอได้บ้าง เก็บโยเกิร์ตอีกอันลงกระเป๋าเสื้อกะว่าจะเอาไว้ไปดื่มต่อบนห้อง ลิ้มรสชาติอยู่แถวตู้กดน้ำสักพักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆเดินมาจากด้านหลัง เมื่อหันไปมองก็เห็นเด็กหนุ่มผมสีดำตัวสูงคนนั้นเดินตรงมายังตู้กดน้ำเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ดวงตาสีน้ำเงินเข้มเลื่อนมาสบตาเธอแบบจังๆ


                เขาเดินล้วงกระเป๋ามาหยุดอยู่หน้าตู้พร้อมกวาดสายตามองหาโยเกิร์ตแต่ก็เหมือนกับว่าภาพเมื่อวานถูกนำกลับมาฉายซ้ำเมื่อเห็นว่ามีตัวอักษรสีแดงที่เขียนว่าหมด นอกจากโดนห้ามให้เข้าโรงยิมนี่ยังต้องชวดโยเกิร์ตของโปรดอีกเหรอเนี่ย! เด็กหนุ่มหันขวับมาที่เด็กสาวนอกจากเธอที่ดื่มยี่ห้อเดียวกันแถมยังเป็นคนสุดท้ายที่อยู่ตรงตู้ก่อนเขาจะมาก็ไม่มีใครแล้ว แถมหลักฐานยังคามือและตุงอยู่ในกระเป๋าเสื้อนั่นด้วย


                เมื่อเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้มานากะก็ทำอะไรไม่ถูก ดูเหมือนเขาจะชอบดื่มนมและโยเกิร์ตมากจะไล่ให้ไปดื่มอย่างอื่นก็คงดูไม่เข้าท่าเพราะที่เหลือในตู้ก็มีแต่น้ำผลไม้กับน้ำอัดลมคงไม่เหมาะกับตัวของอีกฝ่ายหรอก มือข้างหนึ่งจับกล่องโยเกิร์ตในกระเป๋าเสื้อคลุมไว้แน่น รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยที่ตนดันโลภมากเลยกดมาสองกล่องโดยไม่คำนึงว่ามีคนอื่นที่อยากดื่มเหมือนกัน แต่ทำไงได้เธอหิวนี่แถมยังลืมเอาข้าวกล่องมาจากบ้านอีกไม่แปลกที่จะกดมาทั้งสองกล่องเพื่อให้หายหิว


                เอาไงดี ถ้าไม่ให้ก็จะโดนหมายหัวไปตลอดแต่ถ้าให้ก็จะต้องหิวจนไปถึงตอนเย็นเลยแต่ก็อาจจะไม่โดนหมายหัวก็ได้


                เป็นการตัดสินใจที่ลำบากจริงๆ


                ดวงตาสีตะกั่วและสีน้ำเงินประสานสายตากันสักพักก่อนที่ฝ่ายของเด็กหนุ่มจะเป็นฝ่ายที่ละสายตาไป เขาถอนหายใจออกมาอย่างเสียดายเหมือนกับยอมแพ้เรื่องชวดโยเกิร์ตมาสองวันติด จึงหมุนตัวเตรียมเดินกลับแต่ก็รู้สึกว่ามีใครมากระตุกชายเสื้อกักคุรันเบาๆ เมื่อหันไปก็เห็นเป็นมานากะเองโดยที่มืออีกข้างยังคงถือกล่องโยเกิร์ตดูดอยู่


                เหมือนกินอ้างหน้าเลยแฮะ


                ให้


                ให้?”ชี้มาที่ตัวเองพร้อมเอียงศีรษะเล็กน้อย เพราะจู่ๆหล่อนก็หยิบโยเกิร์ตอีกกล่องออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทแล้วยื่นมาให้


                อือ ให้


                ให้จริงเหรอ?”เขาถามย้ำอีกครั้ง


                ให้


                จะดีเหรอ?”


                เห็นนายชวดตั้งแต่เมื่อวาน


                แล้วเธอไม่หิวเหรอ?”


    โครกกกก~


                ท้องที่ดันร้องได้ถูกจังหวะนั่นทำให้เขายิ่งอยากถามเธอให้แน่ใจใหญ่ว่าไม่หิวจริงๆเหรอ อีกฝ่ายได้แต่ก้มหน้างุดเพื่อซ่อนใบหน้าแดงๆเนื่องจากอายที่ดันมาท้องร้องต่อหน้าคนอื่น ทั้งชีวิตนี้คนที่เคยได้ยินเสียงท้องร้องของหล่อนก็มีแค่สึกิชิมะเท่านั้นแหละ


                เอาไปเถอะน่ายัดกล่องโยเกิร์ตใส่มืออีกฝ่ายก่อนจะรีบวิ่งหนีไป


                เด็กหนุ่มได้แต่มองกุนกุนโยเกิร์ตในมืออย่างงงๆ ทั้งที่หิวก็ไม่น่าจะต้องให้เขาก็ได้เพราะท้องร้องเสียขนาดนั้น แต่เมื่อได้รับมาก็มีแต่ต้องรับไว้เท่านั้นแหละนะ






                เสียงออดดังบอกเวลาเลิกเรียน นักเรียนที่มีทำเวรและเข้าชมรมก็รีบลุกก่อนใครเพื่อนบางคนก็นั่งเอื่อยรอสักพักจึงค่อยลุกออกจากห้อง เสียงจากด้านนอกเริ่มดังขึ้นคาดว่าหลายคนน่าจะทยอยออกมาจากห้องเรียนแล้ว เด็กในห้องสี่ก็เช่นกันแต่ก็ยังคงมีบางส่วนที่นั่งทำงานและลุกขึ้นมาหยิบไม้กวาดเพื่อทำเวร


                มานากะมีสีหน้าคร่ำเครียดเนื่องจากไม่ได้ทานข้าวเที่ยงแถมยังมีแค่โยเกิร์ตกล่องเดียวที่เธอได้ทานและตอนนี้มันก็ย่อยไปหมดแล้วจึงทำให้หิวข้าวสุดๆ โชคยังดีที่ท้องไม่ร้องโครกครากระหว่างเรียนไม่งั้นอาจารย์ได้ไล่ให้ไปหาอะไรทานแน่ แต่จะไปได้ไงล่ะสหกรณ์มันไม่เปิดตอนเรียนนะคะอาจารย์ หมดพักเที่ยงก็ปิดแล้วค่ะ มีแต่ต้องรอจนกว่าจะเข้าชมรมเสร็จและไปทานมื้อเย็นรวดเดียวที่บ้านหรือไม่ก็ระหว่างทางกลับก็แวะร้านสะดวกซื้อเพื่อหาซื้อข้าวปั้นมาแทน


                เรื่องกินเรื่องใหญ่สำหรับเธอจริงๆ


                นิชิโนะซังเป็นอะไรหรือเปล่า เห็นทำหน้าเครียดตั้งแต่ตอนบ่ายแล้วยามากุจิถามอย่างเป็นห่วง


                ปวดอึ๊เหรอ


                ถ้าปวดป่านนี้ฉันวิ่งออกไปเข้าห้องน้ำตั้งนานแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้พลางกลอกตาใส่สึกิชิมะ ดูก็น่ารู้ว่าคนกำลังซีเรียสยังจะมากวนอีก


                สึกิชิมะที่เห็นท่าทีของญาติตนเองดูเครียดและหงุดหงิดก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อเที่ยงมานากะไม่ได้ทานอะไรเลยนอกจากโยเกิร์ตโง่ๆกล่องเดียว แถมเขาก็รู้ด้วยว่าถ้าหากให้เธอหิวไปตลอดจนกว่าจะถึงบ้านแบบนี้คงแย่แน่


                อ่ะ เอาไปเด็กหนุ่มยื่นช็อกโกแลตบาร์มาให้เด็กสาว อย่างน้อยของหวานก็สามารถบรรเทาอาการหงุดหงิดและพอให้หายหิวจนกว่าจะถึงตอนเย็นได้


                ช็อกโกแลต?”


                อืม น่าจะพอให้หายหิวอยู่ ถ้าอยากกินอีกก็บอกในกระเป๋าเหลืออยู่สองสามแท่ง


                เคย์ รักนายจังว่าแล้วก็รวบเอวสึกิชิมะเข้ามากอดพร้อมบอกรัก แทนที่เขาควรจะหน้าแดงแต่เป็นฝ่ายยามากุจิและคนที่อยู่ในห้องดันหน้าแดงแทนซะงั้น


                เหม็นโว้ย


                เดี๋ยวเถอะ นี่มันโรงเรียนนะอย่ากอดซี้ซั้วแบบนี้สิแกะมืออีกคนออกก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหัว


                โทษที พอดีมันเคยตัวน่ะ


                นี่ ว่าแต่ชมรมน่ะเธอเขียนอะไรลงไปล่ะ


                แค่กๆ---คำถามของเขาทำเอามานากะถึงกับสำลักช็อกโกแลต ก็คิดไว้อยู่แล้วว่าจะถามแบบนี้แต่พอมาเจอจริงๆก็คิดคำตอบไม่ออกเหมือนกัน


                นิชิโนะซัง นี่น้ำ


                ขอบใจนะยามากุจิ


                ตกลงชมรมไหนล่ะ?”


                ก็บอกไปแล้วไงว่าความลับน่ะยกหลังมือขึ้นมาเช็ดอย่างลวกๆ กะว่าจะเซอร์ไพรส์ตอนไปถึงสักหน่อยเธอจึงพยายามเลี่ยงที่จะตอบเขา


                แค่ชมรมเอง ไม่เห็นต้องเก็บเป็นความลับเลยเขาไหวไหล่เหมือนไม่เห็นว่าการที่ไม่บอกเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่จำเป็นเท่าไหร่ แค่ชมรมทำไมต้องทำตัวลับๆล่อๆด้วย


                มานากะไม่ตอบแต่ลุกขึ้นพร้อมสะพายกระเป๋าเตรียมไปชมรมโดยไม่ลืมบอกยามากุจิและสึกิชิมะว่าวันนี้ต้องไปชมรมไม่ใช่เหรอ จากนั้นเด็กหนุ่มก็เลิกถามต่อซึ่งก็เป็นการดีที่อย่างน้อยก็สร้างความสบายหูขึ้นมาบ้าง เพราะตั้งแต่เมื่อวานก็หลอนกับคำว่าจะเข้าชมรมไหนที่สึกิชิมะพูดกรอกหูหลายต่อหลายครั้งแล้ว ระหว่างเดินลงมาจากอาคารก็เห็นเด็กผู้ชายที่เธอให้โยเกิร์ตไปเมื่อตอนเที่ยงเดินออกจากบริเวณโรงยิมพร้อมกับเด็กหนุ่มผมสีส้มแสบตา คิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนร่วมชมรมเดียวกัน


                ถ้าเขาเจอเธอจะตกใจมั้ยนะ


                ว่าแต่ไม่ไปชมรมของตัวเองหรือไง


                ก็กำลังจะไปไงตอบคำถามของสึกิชิมะพลางหันไปมองรอบๆ


                แต่นี่มันทางไปโรงยิมนะ


                ก็ใช่ไงมานากะยกยิ้มกวนๆไปให้ เห็นอีกฝ่ายจิ๊ปากอย่างไม่สบอารมณ์ก็รู้ได้ว่าอาจจะงอนเรื่องเธอไม่ยอมบอกว่าอยู่ชมรมไหน


                ถึงชมรมฉันแล้วเธอก็ไปชมรมของตัวเองได้แล้ว ไป๊สึกิชิมะสะบัดมือเชิงไล่


                จะไล่ฉันได้ไงก็ในเมื่ออยู่ชมรมเดียวกันกับนายน่ะ


                ฮะ?”


                เอ๊ะ?”


                เห็นทั้งคู่ชะงักไปครู่หนึ่งก็นึกขำอยู่ในใจ ก็ปกติที่ผ่านมาเธอมีท่าทีปฏิเสธตลอดไม่แปลกที่เขาจะตกใจขนาดนี้ สักพักก็รู้สึกเหมือนมีมือใหญ่ๆมาจับหัวและแน่นอนว่าคงไม่พ้นสึกิชิมะที่ตอนนี้เจ้าตัวดูฉุนสุดๆ เขาโยกหัวหล่อนไปมาโดยไม่สนคำทักท้วงของมานากะก็เข้าใจว่าไม่ชอบเซอร์ไพรส์แต่ไม่เห็นต้องรุนแรงขนาดนี้เลยนี่ ยังดีที่ยามากุจิออกตัวมาห้ามเพราะเริ่มเห็นเธอมึนหัวไม่อย่างนั้นคงได้ล้มตึงกลางพื้นแน่ๆ หนำซ้ำยังผลักหัวอีกกลับบ้านไปคงต้องเอาคืนให้สาสมแล้ว


                สวัสดีครับ


                สวัสดีค่ะ


                โอ้ มากันแล้วเหรอ เอ๊ะ?”


                เอ๊ะ?”


                เหล่าสมาชิกปีสามและปีสองที่กำลังมองผู้มาเยือนคนใหม่ต่างก็ร้องอย่างสงสัย ผู้หญิง? อย่างนั้นเหรอแล้วทำไมถึงได้มาเข้าชมรมวอลเลย์บอลชายล่ะ ทุกสายตาต่างจับจ้องมายังมานากะทำเอาแทบลืมเด็กหนุ่มอีกสองคนที่ยืนขนาบข้างเธอ


                มานากะจังสักพักก็ได้ยินเสียงของผู้จัดการประจำทีมดังออกมา แถมยังดูเหมือนว่าจะรู้จักกันอีก


                ชิมิสึ เธอรู้จักด้วยเหรอซาวามูระ ไดจิ หรือคนที่เป็นกัปตันเอ่ยถาม


                อือ เด็กคนนี้จะมาเป็นผู้จัดการคนใหม่ของชมรมเราน่ะคิโยโกะยื่นใบสมัครชมรมให้ซาวามูระดู


                นิชิโนะ มานากะ ขอฝากเนื้อฝากตัวในฐานะผู้จัดการด้วยนะคะ


                เอ๋!!!!!


                นะ...นี่ชิมิสึ พวกเราใช้งานเธอหนักไปเหรอถึงได้รับผู้จัดการใหม่น่ะซาวามูระหันมาถามเด็กสาวรุ่นเดียวกัน นี่พวกเขาไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า


                พวกเราสร้างปัญหาให้คิโยโกะซังอย่างนั้นเหรอครับ!เด็กหนุ่มหัวเกรียนหน้าตาออกนักเลงโพล่งออกมา


                เปล่า แค่คิดว่าถ้ารับก็ไม่เสียหายอย่างน้อยก็ช่วยแบ่งเบาภาระและสามารถดูแลทุกคนได้อย่างทั่วถึงด้วยคำตอบของคิโยโกะทำเอาทุกคนถึงกับซาบซึ้งในความเป็นห่วงของคุณผู้จัดการ


                คุณคิโยโกะเป็นห่วงพวกเรามากสินะครับ!


                หยุดทำหน้าตาซาบซึ้งได้มั้ยทานากะ


                มานากะมองเหล่าสมาชิกชมรมวอลเลย์บอลคาราสึโนะที่กำลังซาบซึ้งในตัวของผู้จัดการปีสามสลับกับมองหน้าเพื่อนและญาติของตนที่ตอนนี้ช็อคไปแล้ว บางทีเธอก็คิดว่าทุกคนที่รู้จักนั้นโอเวอร์แอคติ้งมากไปหน่อย แค่มาเป็นผู้จัดการทำไมต้องช็อคนักหนา หางตาเห็นสึกิชิมะมองมาเหมือนว่านี่มันเหนือความคาดหมายของเขาไปเยอะ


                เฮ้ย! ว่าแต่เธอชื่ออะไรเด็กหนุ่มหัวเกรียนหน้านักเลงหันมามองมานากะพร้อมทำหน้าทำตา


                เธอก็บอกไปแล้วไงว่าชื่อมานากะน่ะ! หัดฟังซะบ้างสิเด็กหนุ่มอีกคนที่ดูเหมือนจะเป็นรุ่นพี่ก็เขกหัวทานากะไปหนึ่งที


                งั้นฉันจะเรียกเธอว่ามานะตันแล้วกันนะ!


                หา? มานะตัน?”เลิกคิ้วข้างหนึ่งเมื่อได้ยินชื่อแปลกๆที่รุ่นพี่ตั้งให้แต่มันดันเหมือนกับทำหน้าหาเรื่องในสายตาสมาชิกคนอื่นเสียอย่างนั้น


                มีคนแบบทานากะเพิ่มซะแล้วสิ


                เข้าเรื่องต่อเถอะ ไดจิ เด็กสองคนที่เหลือล่ะสึกาวาระ โคชิ ที่มีศักดิ์เป็นรองกัปตันเบี่ยงความสนใจมาที่เด็กหนุ่มอีกสองคน


                อ๋อ อื้ม พวกนี้น่ะคือเด็กปีหนึ่งเข้าใหม่ปกติจะไม่รับสมาชิกจนกว่าอาทิตย์หน้าแต่พวกเรามีแข่งเสาร์นี้ แต่พวกเขาจะเป็นเพื่อนร่วมทีมเราต่อจากนี้น่ะ


                สิ้นคำของกัปตันทุกคนก็หันมามองสึกิชิมะและยามากุจิ และแน่นอนว่าด้วยส่วนสูงอันโดดเด่นกว่าเด็กมัธยมปลายปีหนึ่งทั่วไปจึงทำให้รุ่นพี่แปลกใจอยู่ไม่น้อย แต่เรื่องมีผู้จัดการใหม่นั้นมันน่าแปลกใจกว่าอีก มานากะที่จับคีย์เวิร์ดได้อย่างหนึ่งก็เลิกคิ้วอย่างสงสัย แข่งวันเสาร์? เพื่อนร่วมทีม?


                ขอโทษนะคะกัปตัน


                มีอะไรเหรอนิชิโนะซาวามูระหันมาถาม


                เรียกมานากะก็ได้ค่ะ แข่งวันเสาร์ที่ว่านี่คือยังไงเหรอคะ


                อ๋อ พอดีว่ามีเด็กปีหนึ่งสองคนที่มีปัญหากันน่ะเราก็เลยว่าจะจัดแข่งแบบสามต่อสามกันวันเสาร์นี้เพื่อที่จะให้พวกเขาได้เข้าโรงยิมน่ะ


                ถ้ามีปัญหากันก็ไม่เห็นต้องห้ามเข้าโรงยิมเลยนี่ หรือจะทะเลาะกันหนักมากนะ?’มานากะได้แต่คิดในใจ เด็กปีหนึ่งสองคนนั้นคงเป็นเจ้านมโยเกิร์ตและคนหัวพระอาทิตย์แน่ๆ


                อ๋อ เด็กปีหนึ่งที่ทำวิกของรองผอ.หลุดน่ะเหรอครับ


                สึกกี้!


                ไอ้เด็กนี่!


                นายไปรู้มาจากไหนน่ะ!


                ไม่ใช่ผมจริงหรอกหรอมานากะพึมพัมกับตัวเอง


                ดูจากปฏิกิริยาของทุกคนในชมรมแล้วดูท่าว่าเรื่องนี้คงจะเป็นความลับขั้นสุดยอดที่รองผอ.สั่งให้ปิดปากเงียบ นี่เขากลัวเรื่องคนคิดว่าเป็นวิกขนาดนั้นเลยเหรอ ทานากะที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเอ็นดูสึกิชิมะเสียเท่าไหร่ก็เข้าไปถามว่ารู้มาจากไหนพร้อมหน้าหาเรื่อง แต่ก็โดนสึกาวาระเขกหัวเหมือนเดิม เด็กหนุ่มสวมแว่นตอบว่ามาจากวงในด้วยใบหน้าเรียบนิ่งแต่ให้ความรู้สึกว่าบาทามันกระตุกเบาๆ


                สักพักก็ต้องข้ามเรื่องนี้ไปเพราะซาวามูระไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้นอีก ก็นะวิกของรองผอ.ดันกระเด็นมาใส่หัวเขาแบบพอดีเป๊ะเลยนี่ อธิบายรายละเอียดกันสักเล็กน้อยโดยที่คิโยโกะบอกว่าจะยังไม่แจกแจงงานว่ามีอะไรบ้างแต่วันเสาร์เธอจะอธิบายให้ฟังและเริ่มกิจกรรมชมรมได้ในอาทิตย์หน้า ซึ่งกัปตันก็บอกแบบเดียวกันว่าหลังจากจบการแข่งวันเสาร์ก็จะเริ่มกลับมาซ้อมตามปกติ


                งั้นพวกเราขอตัวกลับก่อนนะครับทั้งสามคนโค้งให้รุ่นพี่ในโรงยิม


                นี่ๆมานะตันทานากะเข้ามาสะกิดไหล่เธอ เธอกับเจ้าเด็กโข่งนั่นเป็นอะไรกันเหรอ


                อ๋อ คะ---


                พอดีว่าพวกเราน่ะเป็นแฟนกันน่ะครับสึกิชิมะเดินเข้ามาใช้แขนพาดไหล่เธอเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของโดยมียามากุจิที่อยู่ข้างๆพยักหน้ายืนยันว่าเป็นความจริง


                รุ่นน้องมีแฟนก่อนฉันเหรอเนี่ย!ทานากะยกมือขึ้นมากุมอกข้างซ้ายแล้วตัวเองแล้วลงไปคุกเข่ากับพื้น


                เว่อร์ไปแล้วนะทานากะ!


                ให้ตายสิ รอบตัวเธอมีแต่คนไม่ปกติจริงๆด้วย มานากะได้แต่มองทานากะที่น้ำตาไหลพรากก่อนจะหันไปหาคิโยโกะที่ขยับปากพูดว่าจริงเหรอ หล่อนได้แต่ยิ้มแห้งๆและตอบกลับแบบไม่มีเสียงไปว่าแค่แกล้งเฉยๆซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับรู้ มองทานากะที่ดิ้นอยู่บนพื้นได้ไม่ถึงสองนาทีก็ต้องกลับบ้านเนื่องจากตอนนี้ดึกมากแล้ว ทั้งสามเดินออกมาจากโรงยิมโดยที่เธอก็แอบกระซิบกระซาบกับสึกิชิมะว่าไปตุ๋นคนทั้งชมรมแบบนั้นจะดีเหรอ


                จะได้ไม่ต้องมีคนเข้ามาใกล้เธอไง ฉันทำเพื่อเธอขนาดนี้เลยนะไม่ดีเหรอ?”


                ไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ยว่าเขาหวงเกินไปน่ะ?


                หกโมงเย็นตามต่างจังหวัดท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำแล้ว แต่ก็ยังมีบางชมรมที่ยังอยู่ซ้อมสังเกตได้จากแสงไฟตรงสนามกีฬาก็เห็นชมรมฟุตบอลยังคงซ้อมกันอยู่ แต่ก็มีนักเรียนบางคนเริ่มทยอยออกจากโรงเรียนเพื่อกลับบ้านแล้วเหมือนกัน ทั้งสามคนเดินผ่านบริเวณสนามกีฬาก็เห็นเด็กหนุ่มสองคนโดยที่เจ้าโยเกิร์ตกำลังช่วยคนหัวส้มแสบตาซ้อมรับลูก ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กกว่าจะไม่ได้มีพื้นฐานมาก่อนเลยรับแบบเก้ๆกังๆและกระเด็นออกจากแขนอยู่หลายครั้งแต่ก็ยังกลับมาเล่นต่อเหมือนเดิม ดูเหมือนว่าพวกนี้จะจริงจังกับการแข่งตอนวันเสาร์มากสินะ


                เคย์ ยามากุจิ


                อะไร?”


                ขอไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวนึงนะ


                มานากะเดินแยกตัวเพื่อมาเข้าห้องน้ำก่อนจะเปลี่ยนเป็นวิ่งเพราะอั้นตั้งแต่เข้าโรงยิมแถมตอนที่คุยกับทุกคนในชมรมก็ใช้เวลาพอสมควรด้วย หล่อนเดินหาห้องน้ำไปเรื่อยๆจนเดินห่างจากจุดที่สึกิชิมะและยามากุจิอยู่ไม่มากนักก็เจอ ถ้าขืนไปไกลกว่านี้มีหวังได้อั้นจนเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบแน่ๆ หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจส่วนตัวก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ดวงตาสีตะกั่วมองไปยังบริเวณจุดที่ทั้งสองคนนั้นเคยยืนอยู่แต่ก็พบว่าหายไปแล้ว ไม่ใช่ว่าทิ้งเธอไปแล้วหรอกนะ


                เฮ้ย! อย่ามาเรียกฉันแบบนั้นนะ!


                เรื่องจริงสินะ


                หา!?”


                ได้ยินเสียงผู้ชายดังมาจากทางสนามกีฬาแถมเสียงนั้นยังเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยทั้งคู่อีก สึกิชิมะและเด็กหนุ่มผมสีดำที่ดูท่าทางจะโมโหสุดๆโดยมีเด็กผมส้มที่ดูลนลานยืนอยู่ด้วย เหมือนว่าหมอนั่นจะไปพูดอะไรไม่เข้าท่าให้อีกฝ่ายได้ยินสินะ มานากะเดินมาหลบมุมเพื่อสังเกตการณ์อยู่ห่างๆเพราะตอนนี้เธอยังไม่อยากเข้าไปยุ่งอะไรด้วยมากแถมก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่คุยเรื่องอะไรกันอยู่ แต่ดูเหมือนฝ่ายสึกิชิมะคงจะเป็นคนเข้าไปหาเรื่องเอง


                ที่เขาเรียกนายว่าราชาแห่งสนามแล้วจะโมโหน่ะ ทำไมล่ะราชาเท่จะตายฉันว่าไม่มีอะไรเหมาะกับนายเท่าราชาแล้วสึกิชิมะยิ้มเยาะก่อนจะเดินผ่านโดยถือลูกวอลเลย์บอลอยู่ในมือ อีกใจก็อยากจะเข้าไปขัดแต่ก็อยาลุ้นต่อว่าอีกคนจะโต้ตอบอย่างไรกลับ


                ราชางั้นเหรอ แสดงว่าฝีมือการเล่นของเจ้าโยเกิร์ตคงไม่ธรรมดาสินะ


                ฉันได้ดูรอบชิงคัดตัวระดับจังหวัด ลูกที่เซ็ตเอาแต่ตัวเองเป็นใหญ่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนทนมาได้เป็นฉันคงไม่ไหวแน่ อ๊ะ…”ฝ่ายที่ถูกพูดถึงได้แต่ยืนนิ่งไม่ยอมตอบโต้ หรือเพราะทนไม่ไหวแล้วก็เลยเป็นแบบนั้นน่ะ


                ฮึ่ย!


                เด็กหนุ่มคว้าหมับที่คอเสื้อของอีกฝ่ายด้วยความเดือดดาล ตัวสั่นเทาด้วยความโกรธมืออีกข้างก็กำหมัดแน่นดูเหมือนว่าเรื่องมันจะไปกันใหญ่กว่าที่คิด สึกิชิมะยิ้มเยาะใส่อีกฝ่ายเหมือนไม่ได้รู้สึกรู้สากับคำพูดของตัวเองว่าจะไปกระทบกันคนอื่นหรือเปล่า สักพักเขาก็ปล่อยมือออกจากคอเสื้อของเด็กหนุ่มตัวสูงแล้วเดินไปหยิบกระเป๋า


                จบได้สักทีเถอะ อยากกลับบ้านแล้ว


                “จะหนีเหรอ ราชาก็ไม่ได้แน่จริงอะไรเลยนี่สึกิชิมะก้มลงไปหยิบลูกวอลเลย์บอลพลางโยนมันขึ้นไปในอากาศ ไม่แน่วันเสาร์ฉันอาจจะโค่นราชาลงก็ได้นะ


                ถึงจุดนี้เธอควรจะเข้าไปห้ามแล้ว


                ลูกบอลที่ลอยอยู่เหนือหัวกลับถูกเด็กหนุ่มตัวเล็กกระโดดรับได้อย่างง่ายดาย เห็นหน้าตกใจของสึกิชิมะหล่อนก็ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา ถ้าถ่ายทันคงได้ใช้ล้อเจ้านั่นไปอีกยาวแน่ สึกิชิมะหันไปมองใส่เด็กหนุ่มที่มาแย่งบอลก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วแสร้งเป็นยิ้ม แต่เธอรู้ว่าในใจตอนนี้เขาเดือดปุดๆแล้ว


                “ไม่ต้องจริงจังไปหรอกน่าเรามาเล่นกันสนุกๆก็พอแล้วนี่มันก็แค่เข้าชมรมเองไม่ใช่เหรอ


                “ก็แค่เองงั้นเหรอ


                “มีความหมายอื่นด้วยเหรอ โอ๊ย!---


                “สึกกี้! นิชิโนะซัง!


                พูดจบยังแล้วก็เลิกทำตัวกร่างได้แล้วนะ เป็นเด็กหรือไงนายอ่ะมานากะกอดอกมองคนที่กำลังมีสีหน้าเจ็บปวดเนื่องจากเพิ่งโดนหล่อนเตะไปหมาดๆ เธอทนฟังมามากพอและอยากกลับบ้านเต็มทนแล้ว


                มานากะ!มือใหญ่จับหัวอีกฝ่ายก่อนจะโยกไปมา เดี๋ยว หัวเธอไม่ใช่คันโยกนะ ฮึ่ย! ไปล่ะ


                เดี๋ยวก่อนสิ! พวกนายเป็นใครกันแน่น่ะ!


                ปีหนึ่งห้องสี่ สึกิชิมะ เคย์


                ฉันยามากุจิ ทาดาชิ


                ส่วนยัยแรงช้างนี่มานากะ


                หา! อยากโดนอีกหรือไงนายน่ะ


                มานากะขู่ฟ่อเหมือนลูกแมว คอยดูเถอะถ้ากลับบ้านไปจะจัดให้หนักกว่านี้เลย! สึกิชิมะเมินคำพูดของหล่อนทำหูทวนลมแล้วหันไปพูดจาน่าหมั่นไส้กับเด็กหนุ่มอีกสองคนก่อนจะเดินออกไป


                นี่


                ฮะ?”มานากะหันไปหาเด็กหนุ่มผมดำคนนั้นก่อนจะชี้มาที่ตัวเอง


                เธอนั่นแหละ


                ฉัน?”หล่อนทวนคำถามอีกครั้ง


                อืมอีกฝ่ายกวักมือเรียกเชิงให้เข้าไปหา มานากะที่เห็นสึกิชิมะและยามากุจิเดินออกไปไกลแล้วก็คิดว่าแค่ไปช้านิดหน่อยคงไม่เป็นไร


                ค่าโยเกิร์ตเมื่อตอนเที่ยง


                เอ๊ะ?”นี่เขาเก็บเรื่องนี้ไปคิดด้วยเหรอ


                ไว้คราวหลังจะซื้อใช้ให้นะ













    TALK
    อยากจับสึกกี้มามะเหงกชะมัด เอ็งจะตุ๋นคนทั้งชมรมไม่ได้นะเว้ยยยย แถมทานากะซังไปตั้งชื่อเล่นแปลกๆให้น้องอีกนะนั่นว่าแต่ทุกคนก็ดันเข้าใจผิดว่าน้องเป็นคนแบบทานากะซังสินะคะ อย่างน้อยก็มีคนเหมือนเอ็งแล้วเนาะไม่ต้องกังวลแล้วนะ
    ความสัมพันธ์ของน้องโท้บกับมานะตันนี่ก็แปลกดีนะคะ คุยกันแต่เรื่องนมโยเกิร์ต ไอ่แก๊งกินนมเอ้ยยย ลูกจ๋ามาหม่ำๆนมมะ
    ไรต์ยังอยู่ค่ะ เพราะไรต์อยู่ในใจรี้ดเสมอ อ้ยยยย
    ไล่ไรต์ไปเรียนทีค่ะ

    Twitter :: @lalarosie_rose
    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×