ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Haikyuu!!] Hello,Police - Kuroo x OC -

    ลำดับตอนที่ #4 : Hello || 04

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 63


     



                เสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงดังระงมไปทั่วห้องก่อนจะดับลงเพราะเท้าของเด็กสาวดันเตะมันจนกระเด็นอยู่บนพื้นห้อง ไม่รู้ว่านอนอีท่าไหนถึงได้กลับหัวกลับหางแบบนี้จากที่ควรจะหันไปฝั่งหัวเตียงก็ดันอยู่ปลายเตียงซะได้ มานากะในสภาพหัวฟูลุกขึ้นนั่งพลางป้องปากหาวเนื่องจากยังหลับไม่เต็มอิ่ม เมื่อคืนดันเม้าท์มอยสัพเพเหระกับสึกิชิมะนานไปหน่อยแถมในหัวไม่มีคำว่าเปิดเทอมด้วยซ้ำทำให้กว่าจะได้นอนก็ปาไปเที่ยงคืนกว่าแล้ว ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีมีนั่งคุยกันแบบนี้คงไม่แปลก ถ้ามันไม่ใช่ก่อนเปิดเทอมล่ะนะ


                สายตากวาดไปทั่วห้องจนรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องของตนแต่เป็นห้องของเด็กหนุ่มซึ่งเธออาศัยอยู่ด้วย คงเป็นเพราะคุยกันเพลินเลยหลับไปโดยไม่รู้ตัวล่ะมั้งแต่ตัวเธอก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่จะเป็นห้องของเธอหรือของสึกิชิมะเธอก็นอนได้ทั้งนั้นแหละ มือเอื้อมมาเขย่าแขนคนที่นอนกอดหมอนข้างพลางบอกให้เขาตื่นแต่กลับได้ยินเพียงเสียงครางในลำคอตอบกลับมาเท่านั้น เมื่อเห็นว่าไม่ตื่นจึงดึงแขนเขาให้ลุกขึ้นแต่ก็ทำไม่สำเร็จเธอจึงล้มเลิกความพยายามนั่นแล้วลุกขึ้นไปแปรงฟันก่อนเขา


                เคย์ตื่นได้แล้ว


                ไม่มีเสียงตอบรับ


                มานากะคิดว่าหลังจากที่เธออาบน้ำแปรงฟันเสร็จเขาอาจจะตื่นแล้วก็ได้แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้น สึกิชิมะยังคงนอนอยู่บนเตียงเหมือนก่อนที่เธอจะลุกไปแปรงฟันไม่มีผิด ปกติเขาไม่ใช่คนนอนตื่นสายแต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ถึงได้เป็นแบบนี้ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังเหลือเวลาอีกเยอะในการเตรียมตัวก็เถอะ เอาหมอนตีให้ตื่นก็แล้วแต่เจ้าตัวก็ยังไม่ลุก มานากะยืนนิ่งอยู่สักพักก่อนจะคิดอะไรออก หล่อนก้าวขาขึ้นไปยืนบนเตียงแล้วใช้ขาข้างหนึ่งถีบสึกิชิมะโดยใส่แรง(ไม่)เล็กน้อยให้กลิ้งตกจากเตียงจนเกิดเสียงดัง


                มานากะ!


                ตื่นสักทีนะ ถ้าไม่ตื่นนี่ฉันกะว่าจะจัดงานศพให้แล้วนะเนี่ย


                เหอะ ยังเร็วไปที่จะจัดงานนั่นให้ฉันนะเด็กหนุ่มลุกขึ้นพลันความรู้สึกเจ็บบริเวณบั้นท้ายที่กระแทกพื้นอย่างแรงก็พุ่งเข้ามา นี่กะเอาคืนตอนที่เขาเคยนอนทับเธอใช่มั้ย


                คนแบบนายนี่ยิ่งต้องจัดให้ไวเลย


                อ้อเหรอ แต่พอดีคนแบบฉันมักอยู่นานสุดนะ


                มานากะเลิกต่อล้อต่อเถียงกับสึกิชิมะและรีบส่งเขาเข้าไปในห้องน้ำโดยทันที สองขาก้าวไปตามทางเดินเพื่อไปยังห้องครัวก็เห็นว่าแม่ของสึกิชิมะกำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ เด็กสาวยืนเกาะขอบทางเข้าพลางคิดว่าควรจะช่วยอะไรสักอย่างดีมั้ยเพราะต้องอาศัยอยู่ที่นี่ยันจบมัธยมปลายปีสามเลย ถึงแม้ว่าจะเป็นญาติที่สนิทกันแต่มันก็รู้สึกเกรงใจแถมยังแปลกๆที่คนมาอาศัยนั้นไม่ได้ช่วยทำอะไรเลย


                มานากะจังปลุกเคย์เสร็จแล้วเหรอ?”แม่ของสึกิชิมะละสายตาจากการทำมื้อเช้าเพื่อหันมาคุยกับหลานสาว แล้วทำไมไปเกาะขอบอยู่ตรงนั้นล่ะ?”


                คนถูกทักถึงกับสะดุ้งแล้วก้มหน้าเดินไปหาคนเป็นผู้ใหญ่กว่า หล่อนตอบเสียงเบาว่าปลุกสึกิชิมะเรียบร้อยแล้วแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเอาแต่ก้มมองพื้นอยู่ น้าสาวหัวเราะเบาๆพลางใช้มือลูบหัวของคนอายุน้อยด้วยความเอ็นดู


                เอ่อ...น้าคะ


                จ๊ะ?”


                พอมีอะไรจะให้หนูช่วยมั้ยคะ?”เด็กสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดประหม่า


                ไม่ต้องหรอกจ้ะ แค่นี้น้าทำเองได้สบายๆอยู่แล้ว


                แต่ว่าตอนนี้หนูมาอยู่ที่นี่แล้วถ้าไม่ให้ช่วยอะไรก็คงจะดูแปลกๆอีกอย่างหนูก็รู้สึกไม่สบายใจด้วยที่จะต้องอยู่เฉยๆแล้วให้คุณน้าจัดการทุกอย่างแบบนี้


                คิดมากไปแล้วนะมานากะจัง


                ถึงแม่ของสึกิชิมะว่าแบบนั้นแต่สุดท้ายก็ยอมให้เด็กสาวเข้ามาช่วยงานในครัว หล่อนถามว่าพอจะทำอาหารได้หรือเปล่าก็เลยบอกไปว่าทำได้แต่อาหารง่ายๆที่ไม่ซับซ้อน เมื่อรู้แบบนั้นจึงให้มานากะเป็นผู้ช่วยในการทำอาหารอย่างการหั่นวัตถุดิบจะได้ไม่ต้องเสียเวลาตระเตรียมมาก


                มองอะไรของนายมานากะถามคนตรงข้ามที่กำลังจ้องมองชุดอาหารเช้า คิ้วเรียวของเขาขมวดเป็นปมเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง


                เธอทำ?”


                ช่วยทำ


                มียาพิษป่ะว่าขณะยกซุปมิโสะขึ้นมาดม


                เอ๊ะ? เห็นฉันเป็นคนยังไงกันแน่เนี่ย


                ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย


                ว่าจบก็หันมาสนใจอาหารเช้าตรงหน้าต่อแล้วปล่อยให้ลูกพี่ลูกน้องของตนหงุดหงิดเล่นๆเริ่มต้นวันด้วยการกวนประสาทใครสักคนก็เป็นสิ่งที่ดีอีกแบบ ยิ่งเห็นเธอหัวเสียมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งมีกำลังใจในการเรียนมากเท่านั้น ระหว่างทานมานากะก็มักจะส่งสายตาที่พวกเขารู้กันอยู่สองคนมาให้และเธอก็สื่อว่าให้กินข้าวให้เยอะๆ แต่คิดว่าสึกิชิมะจะสนใจสิ่งที่เธอกำลังสื่ออยู่นั้นหรือ ไม่เลย เขายังคงทานแบบปกติเหมือนเดิมแถมยังจงใจทานให้น้อยกว่าปกติเพื่อกวนประสาทเธอเล่นๆและนั่นสร้างความสุขให้กับเขาไม่น้อยเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจและคำสบถของหล่อน


                ไอ้เวรชิมะ


                นั่นมันโคตรหยาบเลย


                หลังจากทานข้าวเสร็จก็เก็บจานและเตรียมตัวไปโรงเรียน ระหว่างรอสึกิชิมะไปหยิบอาหารกลางวันดวงตาสีตะกั่วก็เหม่อมองท้องฟ้าจนกระทั่งมีใบหน้าของใครคนหนึ่งผุดขึ้นมา ยกมือมาขยี้ตาก่อนจะมองออกไปอีกครั้งก็พบว่าไม่มีหน้าอยู่บนนั้นแล้ว บางทีเธออาจจะคิดถึงจนหลอนไปเองก็ได้


                อรุณสวัสดิ์สึกกี้ นิชิโนะซังด้วยเดินมาจนถึงทางแยกก็เจอยามากุจิโผล่ออกมา มานากะพยักหน้าตอบรับก่อนจะหันไปมองทางข้างหน้าต่อจนรู้สึกจั๊กจี้เหมือนมีคนมาลูบหูเธอเบาๆ


                เธอใส่ต่างหูตั้งแต่เมื่อไหร่


                นิ้วโป้งเกลี่ยบริเวณติ่งหูของอีกคนเบาๆ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่ามีต่างหูสีเงินกลมเล็กติดอยู่ ทำไมเขาไม่ยักสังเกตเห็นว่าหล่อนใส่ต่างหูแถมใส่เมื่อไหร่ทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่อง ยามากุจิยื่นหน้าออกมาดูก็ร้องอย่างแปลกใจเพราะเขาไม่ค่อยเห็นนักเรียนหญิงใส่ต่างหูเท่าไหร่


                เด็กโตเกียวเป็นอย่างนี้เองสินะ!


                นายไม่สังเกตหรอกเหรอ? ฉันคิดว่านายรู้อยู่แล้วเสียอีกสึกิชิมะส่ายหน้า เริ่มติดตั้งแต่ตอนปีสามน่ะ


                มิน่าล่ะ


                มันแปลกเหรอ?”มานากะเอียงศีรษะเล็กน้อย


                ก็นิดหน่อย แต่มันก็ไม่ได้ขนาดนั้น


                นิชิโนะซังใส่ต่างหูแล้วดูเท่จัง


                งั้นหรอกเหรอไม่ค่อยมีใครชมฉันแบบนั้นเลยแฮะเด็กสาวเกาแก้มแก้เขิน พอโดนชมจากคนอื่นก็รู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อย


                แล้วแบบนี้ครูจะไม่ว่าหรอกเหรอ


                ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นหรอกหล่อนยกมือลูบต่างหูตนเอง


                ถ้าพี่เขาเห็นจะว่ายังไงนะ

     



                ฮัดชิ่ว!!!


                เป็นอะไรน่ะคุโรโอะ ไม่สบายหรือเปล่า?”โนบุบูกิ ไคว่าหลังจากเห็นเพื่อนร่วมชมรมของตนจาม


                ไม่รู้สิ ฉันก็ดูแลตัวเองปกตินะเด็กหนุ่มยกหลังมือถูจมูกตนเองก่อนจะนึกย้อนไปช่วงหลายวันก่อนว่าตนเองทำอะไรบ้าง นอกจากซ้อมเขาก็ออกกำลังกายและทานอาหารครบห้าหมู่ปกติแถมช่วงเวลาที่ผ่านมาฝนก็ไม่ตกด้วย จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สบาย


                เขาบอกว่าถ้าจามหนึ่งครั้งแปลว่ามีคนคิดถึงล่ะยาคุว่าขึ้น


                มีคนคิดถึง? แล้วใครกันล่ะที่จะคิดถึงเขา


                หรือจะเป็นเด็กที่นายไปฉุดมาตอนนั้น


                ฉุด?”


                เฮ้ยๆ พูดดีๆหน่อยสิวะคุโรโอะหันไปถลึงตาใส่ยาคุแต่เจ้าตัวกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ถ้ามีคนมาเห็นภาพเดียวกันกับเขาใครๆก็ต้องคิดว่าเจ้าเพื่อนคนนี้ไปฉุดใครมาแน่ๆ


                เด็กที่ไหนล่ะคุโรโอะ?”


                เด็กม.ต้นน่ะแต่ตอนนี้เธอขึ้นม.ปลายแล้ว ตอนนั้นเหมือนว่าจะเดือดร้อนก็เลยเข้าไปช่วยน่ะว่าพลางยกน้ำขึ้นมาดื่ม


                อาจจะเป็นเด็กคนนั้นที่คิดถึงนายก็ได้นะ


                ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นริ้วสีแดงระเรื่อเมื่อลิเบอโร่ประจำทีมบอกว่าเป็นเธอคนนั้นเด็กหนุ่มยกผ้าขนหนูแสร้งเป็นว่าซับเหงื่อแต่จริงๆปิดบังใบหน้าของตนเอง ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องเขินด้วยทั้งที่จริงๆเจอหน้ากันแค่สองครั้งแถมก่อนนอนยังเอาแต่คิดถึงว่าตอนนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง แค่เป็นห่วงในฐานะคนที่ช่วยเหลือเท่านั้นเองไม่ได้เขินจริงๆ


                แล้วนายได้ติดต่อกับเธอหรือเปล่าล่ะ


                ฉันลืมขอเบอร์เธอไปซะสนิทเลยหัวเราะแห้งๆใส่ตัวเองเมื่อรู้ว่าทำบางอย่างพลาดไป แต่ฉันคิดว่ายังไงเราก็ต้องได้เจอกันอีกแน่ๆ

     



                ช่วงเปิดเทอมใหม่มักจะวุ่นวายเสมอโดยเฉพาะเด็กปีหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วตั้งแต่ก่อนเข้าประตูรั้วจนถึงด้านในของอาคารเรียน ระหว่างทางก็มีเด็กบางคนเริ่มจับกลุ่มกับเพื่อนที่มาจากโรงเรียนเก่าบางคนก็เริ่มเข้าไปทำความรู้จักกับคนอื่นๆ เห็นรุ่นพี่ปีสองและปีสามเดินโปรโมทชมรมของตนเองตามระเบียงทางเดิน โดยเฉพาะเวลาเที่ยงวันที่เริ่มมีการพูดเกี่ยวกับชมรมของตัวเอง มานากะที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเข้าชมรมไหนก็ได้แต่มองใบสมัครที่วางอยู่บนโต๊ะของตัวเองอย่างพินิจพิเคราะห์


                จ้องแบบนั้นมันจะเขียนชมรมให้เธออยู่หรอกเงยหน้ามองก็เห็นสึกิชิมะยืนอยู่เหนือหัวพ่วงด้วยยามากุจิ


                ก็ฉันไม่รู้จะเข้าชมรมไหนดีนี่ว่าแล้วก็ถอนหายใจจากนั้นก็เก็บมันลงกระเป๋า


                ยังมีเวลาคิดอยู่นะนิชิโนะซัง


                แต่ฉันอยากให้เธอมาอยู่ด้วยกัน


                ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะยังไม่จบอีกเหรอ?”มานากะเลิกคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด จำได้ว่าเมื่อคืนก็เถียงกันเรื่องนี้แทบตายจนสุดท้ายก็ตัดไปที่เถียงกันจนเหนื่อยเลยขอนอนก่อนค่อยมาคุยต่อ


                ถ้าเธอไปอยู่ที่อื่นฉันก็กลัวว่าจะมีคนมาตอแยเธอไงดวงตาสีน้ำผึ้งตวัดมองเด็กหนุ่มที่แอบมองญาติของตนเองจนพวกเขาสะดุ้ง


                มานากะถอนหายใจออกมาเมื่อรู้ดีว่าเขาต้องการอยู่ด้วยกันกับเธอมากขนาดไหน ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีอะไรเสียหายก็จริงแต่ก็อยากลองทำอะไรใหม่ๆบ้าง แต่ตรงนี้มานากะก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำอะไร


                สึกิชิมะและยามากุจิยกข้าวกลางวันมานั่งทานที่โต๊ะของหล่อน เด็กหนุ่มอีกคนที่ดูเกร็งๆเล็กน้อยเวลาอยู่ใกล้กับมานากะแต่สุดท้ายก็เริ่มผ่อนคลายและเป็นกันเองกับเธอมากขึ้น เด็กสาวเขี่ยมะเขือเทศราชินีที่มีอยู่ในกล่องทั้งหมดนั่นไปให้สึกิชิมะไม่วายโดนบ่นกลับมาแถมยังยัดใส่ปากเธอไปอีกหนึ่งลูก มานากะทำหน้าแหยเวลาเคี้ยวแต่เมื่อเห็นสายตาดุๆของอีกฝ่ายจึงจำใจกลืนลงไป ถึงยามากุจิที่เป็นผู้หวังดีจะบอกว่าเอามะเขือเทศไปให้เขาก็ได้แต่คิดหรือว่าสึกิชิมะจะยอม ทีเธอบอกให้เขากินข้าวเยอะๆยังไม่เอาข้าวยัดปากเลย


                ไปหาอะไรล้างปากดีกว่า มะเขือเทศทำฉันแหวะปั้นหน้าบูดเมื่อนึกถึงรสชาติของมะเขือเทศ


                ก็เห็นกินดูน่าอร่อยดีนี่ คิดว่าจะชอบซะอีก


                งดช็อตเค้กหนึ่งอาทิตย์


                ทรมานกันชัดๆ!สึกิชิมะลุกขึ้นมาโวย งดอย่างอื่นงดได้แต่ถ้าช็อตเค้กเขาไม่ยอม!


                นิชิโนะซังไม่ชอบมะเขือเทศมากเลยเหรอยามากุจิหันมาถามมานากะเพราะปกติเขาก็เห็นผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบทานมะเขือเทศราชินีแท้ๆ


                อือ แต่ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่ชอบก็ตอบไม่ได้เหมือนกันเด็กสาวส่ายหัวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์การโดนยัดเยียดมะเขือเทศใส่ปากเมื่อครู่


                ขาเรียวก้าวออกมาจากห้องตัวเองก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเพื่อนใหม่ของตนอยู่ห้องห้าก็ชะโงกหัวเข้าไปดูก็เห็นอีกคนเหมือนกำลังนั่งทำอะไรสักอย่าง เด็กสาวผมสั้นหันมาโบกมือทักทายพร้อมรอยยิ้มสดใสมาให้ซึ่งมานากะก็พยักหน้าและโบกมือกลับ เดินล้วงกระเป๋าเสื้อสูทนักเรียนมายังตู้ขายน้ำอัตโนมัติชั้นล่าง หยอดเหรียญใส่เครื่องก่อนจะกวาดสายตามองหากุนกุนโยเกิร์ตเมื่อเห็นว่าเหลือเพียงกล่องเดียวก็ไม่รอช้ารีบกดทันที


                เหมือนเจ้านี่จะช่วยล้างปากเธอได้อย่างดีเยี่ยมจึงทำให้อารมณ์นั้นเปลี่ยนไปโดยทันที ยังไม่ทันที่จะก้าวขาออกไปก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินมายังตู้ขายน้ำ ดวงตาสีตะกั่วหันไปมองบุคคลที่อยู่ด้านหลังก็เหมือนเป็นเด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งเรือนผมสีดำสนิทพอมองดูดีๆก็จำได้ว่าเป็นคนที่เธอมองเมื่อวันประกาศผลสอบ เหมือนอีกฝ่ายจะเดินมาซื้อเครื่องดื่มเหมือนกันแต่ทว่าท่าทีของเขากลับขมวดคิ้ว นิ้วเรียวจ่อไปที่ช่องของกุนกุนโยเกิร์ตที่ขึ้นตัวอักษรสีแดงว่าหมด


                ดูเหมือนเธอจะแย่งของที่เขาอยากได้มาสินะ


                เด็กหนุ่มบุ้ยปากก่อนจะหันไปกดนมแทนจนกระทั่งดวงตาสีน้ำเงินเข้มของอีกฝ่ายประสานกับดวงตาของเธอจนกระทั่งดวงตาเลื่อนมามองเครื่องดื่มที่ตนเองถืออยู่ในมือ มานากะกะพริบตาปริบๆก่อนจะหันหลังแล้วเดินไปเร็วๆโดยทำเป็นเป็นไม่รู้ไม่ชี้


                เป็นอะไรหรือเปล่าสึกิชิมะหันมาถามคนที่เอาแต่มองกล่องนมโยเกิร์ต เขาไม่เข้าใจว่ากินหมดแล้วทำไมไม่เอาไปทิ้งสักที


                นี่เคย์ ตอนนี้น่ะฉันรู้สึกผิดมากเลยล่ะ


                เธอไปทำอะไร?”


                เหมือนฉันจะไปแย่งสิ่งสำคัญมาจากใครสักคนแล้วสิ


                ฮะ?”


                วันแรกของการเปิดเทอมนั้นผ่านไปด้วยดี มานากะยังไม่ตัดสินใจว่าจะเข้าชมรมไหนโดยที่สึกิชิมะและยามากุจิก็ยืนยันว่าจะรอเธอตัดสินใจ สองคนนั้นก็พูดได้สิเพราะมีชมรมในใจอยู่แล้วนี่ แถมกลับบ้านไปก็ต้องเตรียมใจโดนญาติตัวเองกรอกหูว่าให้เข้าชมรมวอลเลย์บอลด้วยกันอีกแต่เธอก็บอกไปว่าให้ไปส่งก่อนเลยจะได้ไม่ต้องมารอ แต่ก็ไม่วายโดนกระซิบข้างหูมาว่าเธอควรมาอยู่ชมรมวอลเลย์บอล ตอนนี้อยากได้ใครสักคนมานั่งฟังเธอระบายเหมือนตอนนั่งริมแม่น้ำ ชีวิตมานากะนี่มันเหนื่อยจริงๆ


                เคย์ เอาแขนออกไปจากไหล่ฉันได้แล้วหล่อนเอ็ดคนตัวสูงที่วางแขนพาดไหล่ของเธอ


                ก็ฉันเมื่อยแขนนี่ไม่วายยกมือข้างเดียวกันมายีหัวเธออีก ทำไมไม่อ่อนโยนเหมือนตอนที่เขาคนนั้นลูบเลยนะ


                มานากะกลอกตาเมื่อรู้ว่าตนพูดอะไรไปอีกฝ่ายก็ไม่ฟังแน่ๆ จึงยกนมโยเกิร์ตขึ้นมาดูดเพื่อบอกเป็นนัยๆว่าขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่ายแล้ว ในหัวยังคิดไม่ตกว่าจะเข้าตามสึกิชิมะและยามากุจิดีหรือเปล่าเพราะเธอก็อยากจะลองทำอะไรอย่างอื่นบ้าง เดินคิดไปเรื่อยๆก็รู้สึกเหมือนคนจ้องมอง เมื่อกวาดสายตาก็เห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มร่างสูงคนนั้นที่เธอเพิ่งจะแย่งกุนกุนโยเกิร์ตมา จะเรียกว่าแย่งก็ไม่ถูกเพราะมันก็เหลือกล่องสุดท้ายพอดี เห็นอีกฝ่ายจ้องเขม็งก็รีบหลบสายตาแล้วเดินไปหลบหลังสึกิชิมะทันที


                แค่นมโยเกิร์ตเองทำไมต้องแค้นขนาดนั้นด้วย


                มาโรงเรียนวันแรกก็โดนหมายแล้วเหรอเนี่ย


                มานากะจัง!เสียงใสที่คุ้นเคยดังมาจากทางด้านหลัง เห็นยาจิ ฮิโตกะวิ่งมาทางเธอพร้อมโบกไม้โบกมือมาให้ด้วย


                เป็นความสดใสที่เธอตั้งตัวแทบไม่ทัน


                อ่ะ...ฮิโตกะ


                ใครน่ะสึกิชิมะก้มลงมาถาม


                เพื่อนน่ะ


                มีเพื่อนกับเขาด้วย? โอ๊ย!ใบหน้าเด็กหนุ่มเหยเกด้วยความเจ็บปวดเมื่อเด็กสาวกระแทกส้นรองเท้าลงมาที่เท้าของตัวเองเต็มๆ


                เด็กสาวพยายามฉีกยิ้มเป็นมิตรไปให้อีกฝ่าย เธอเป็นคนประเภทที่ถ้าหากมีคนพุ่งเข้ามาหาด้วยความสดใสก็จะทำตัวไม่ถูกทันที ยาจิยิ้มแฉ่งก่อนจะถามสารทุกข์สุขดิบว่าเปิดเรียนวันแรกเป็นอย่างไรบ้างแถมบอกว่าดีใจที่มานากะโบกมือทักทายเธอเมื่อตอนเที่ยงด้วย แถมดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจผู้ชายอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างกันด้วยซ้ำ


                มานากะจังสนใจไปหาอะไรกินด้วยกันมั้ย?”


                เหมือนคำพูดของยาจิจุดประกายความตื้นตันใจให้กับหล่อน ตั้งแต่มาเหยียบที่มิยางินี่ก็เป็นครั้งแรกที่มีเพื่อนชวนออกไปหาอะไรกินหลังเลิกเรียนเหมือนที่เธอวาดฝันไว้สมัยเป็นม.ต้น แถมยังเป็นเพื่อนคนแรกจากต่างโรงเรียนอีก มานากะแทบอยากจะเอาไปบอกเขาคนนั้นว่าเธอมีเพื่อนเหมือนกับคนอื่นเขาแล้ว


                เด็กสาวหันมามองสึกิชิมะเป็นเชิงขออนุญาตก็เห็นเจ้าตัวพยักหน้าเป็นเชิงว่าให้ไปได้ ว่าแล้วก็พุ่งเข้าไปกอดเด็กหนุ่มอีกคนด้วยความดีใจโดยที่ไม่ทันได้ให้เขาตั้งตัว ยามากุจิและยาจิร้องตกใจเหมือนเพิ่งจะเคยเห็นชายหญิงวัยรุ่นกอดกันเป็นครั้งแรกทำเอาหน้าทั้งคู่แดงเพราะเขินแทนสองคนนั้น สึกิชิมะถอนหายใจออกมาแถมเขาก็ไม่ได้มีท่าทางตกใจตอนที่เธอเข้ามากอดด้วยซ้ำ มือหนายกมือขึ้นมาลูบหัวเหมือนที่ทำปกติทุกวันแต่นั่นกลับทำให้อีกสองคนที่เหลือกลับเขินหนักกว่าเดิม


                อย่ากลับดึกล่ะกัน


                มานากะแยกไปคนละทางกับสึกิชิมะเพื่อจะเดินไปหาอะไรทานกับยาจิที่ย่านการค้า คนตัวเล็กกว่านั้นชวนเธอคุยไปตลอดทางจึงทำให้บทสนทนาไม่ขาดตอน เด็กสาวที่นานๆทีจะได้เข้ามาในบริเวณนี้ก็สำรวจไปรอบๆด้วยความอยากรู้อยากเห็นทำเอายาจิสงสัยว่าเธอไม่ใช่คนท้องถิ่นที่นี่หรือเปล่า


                มานากะจังไม่ใช่คนที่นี่เหรอ?”


                อื้ม เป็นคนโตเกียวน่ะ


                โห! สุดยอดเลย ฉันน่ะใฝ่ฝันที่จะไปเป็นดีไซเนอร์ที่โตเกียวมาตลอดเลยนะ!ดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกายลุกวาวยามได้ยินว่าอีกฝ่ายมาจากโตเกียว


                อย่างนั้นเหรอ ฉันว่าเธอทำได้อยู่แล้วล่ะนะ


                ขอบคุณมากนะ นี่รู้มั้ยว่าตอนแรกที่ฉันเห็นมานากะจังน่ะฉันกลัวมากเลยดูเหมือนคำพูดของยาจิจะกระทบกระเทือนจิตใจของเธออย่างรุนแรง ถึงแม้จะรู้ตัวอยู่แล้วว่าหน้าตัวเองมันไม่เป็นมิตรแต่พอได้ฟังจากปากคนอื่นมันก็ยิ่งเจ็บเข้าไปใหญ่


                ใครๆก็พูดอย่างนั้น


                มะ---ไม่ใช่นะ ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แต่จริงๆก็เป็นแบบนั้นแค่แวบแรกแหละแต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้นแล้วยาจิรีบปฏิเสธทันทีเมื่อเห็นอีกคนมีท่าทางไม่โอเค


                สุดท้ายก็มายืนอยู่หน้าร้านขายไอศกรีมโดยที่ยาจิอาสาจะเลี้ยงเพื่อเป็นการไถ่โทษที่พูดสิ่งที่ทำให้มานากะไม่สบายใจ ตอนแรกหล่อนก็ปฏิเสธไปแถมไม่ได้ติดใจเรื่องนั้นแล้วแต่ดูเหมือนคนผมสั้นต้องการที่จะเลี้ยงให้ได้ก็เลยต้องจำใจรับมา แต่อย่างน้อยไอศกรีมก็ช่วยให้อารมณ์ของเธอดีขึ้นมาในระดับหนึ่งล่ะนะ


                แต่ฉันคิดว่ามานากะจังน่ะน่ารักมากเลยนะถึงแม้ว่าเราเพิ่งจะคุยกันแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวก็เถอะ


                ฮิโตกะก็....มานากะเว้นจังหวะอึกอักไม่ยอมพูด ดวงตาสีตะกั่วมองลงพื้นเหมือนว่าอายที่จะพูดประโยคถัดไป


                ฮิโตกะก็น่ารักเหมือนกัน


                มานากะจังน่ารักที่สุดเลย!ยาจิพุ่งเข้ามากอดหล่อนพลางถูหน้าไปมาบนหน้าอกของมานากะทำเอาเธอทำตัวไม่ถูก


                เดินเล่นกันไปได้สักพักก็จวนเวลากลับบ้าน มานากะต้องนั่งรถบัสกลับไปยังบ้านของตนโดยที่ยาจิไม่ได้ไปด้วยเพราะว่าบริเวณนั้นอยู่แถวบ้านของเธอพอดี คนตัวเล็กกว่าเดินมาส่งเด็กสาวบริเวณป้ายรถบัส วันนี้ยาจิพาเธอไปเปิดหูเปิดตาตามที่ต่างๆเพราะปกติเวลาว่างมานากะไม่ใช่ประเภทที่จะชอบออกไปไหนตลอดปิดเทอมจึงเอาแต่นอนเล่นอยู่บ้านตลอด พอได้ออกมาข้างนอกก็ทำให้เธอรู้สึกมีชีวิตชีวาและได้เที่ยวเล่นเหมือนกับเด็กคนอื่นๆสักที


                งั้นกลับบ้านดีๆนะมานากะจัง ไว้เจอกันที่โรงเรียนนะยาจิโบกมือลาก่อนจะหมุนตัวกลับเพื่อเดินทางไปยังบ้านของตนเอง


                เดี๋ยวฮิโตกะ


                หืม?”เหลียวกลับมามองเมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียก มานากะเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้ายาจิพอมายืนใกล้กันก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายสูงเท่าระดับอกของเธอเท่านั้นเอง


                น่ารัก


                ขอเบอร์เธอหน่อยได้มั้ย แต่ถ้าไม่สะดวกก็เป็นอย่างอื่นก็ได้ดวงตาสีตะกั่วเสมองไปทางอื่นพร้อมยื่นสมาร์ทโฟนไปให้ แต่ถ้าไม่สบายใจก็ไม่ต้องให้ก็ได้นะ ฉันไม่ได้อะไรหรอก


                ดูก็รู้ว่าถ้าไม่ให้คงผิดหวังแน่


                ยาจิฉีกยิ้มกว้างแล้วรับโทรศัพท์มาจากมืออีกฝ่าย หล่อนก้มหน้าจิ้มอะไรสักอย่างอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยื่นกลับไปให้ดังเดิม มานากะยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นว่านอกจากจะมีเบอร์โทรแล้วก็ยังมีช่องทางอื่นอีกหลายอย่างที่เด็กสาวให้มาใช้สำหรับติดต่อกันและกัน


                โทรมาคุยกันได้ตลอดเลยนะมานากะจัง!


                ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็กลับมาถึงบ้านของตนเอง วางกระเป๋านักเรียนและสตรอเบอร์รี่ช็อตเค้กลงบนพื้นไม้เพื่อที่จะถอดรองเท้า ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆของใครบางคนเดินมาจากข้างหลังเดาไม่ยากเลยว่าต้องเป็นสึกิชิมะแน่ๆ


                ไปเที่ยวแล้วมีของฝากมาให้หรือเปล่า


                มานากะชี้ไปที่กล่องสีขาวที่วางอยู่ด้านข้าง เมื่อเด็กหนุ่มเปิดออกมาดูก็ตาลุกวาวทันทีเมื่อเห็นว่ามันคือสตรอเบอร์รี่ช็อตเค้กของโปรดของเขา มือหนาเอื้อมมายีหัวอีกฝ่ายเพราะจริงๆเมื่อกี้เขาก็ถามเล่นๆไปเท่านั้นแต่ไม่คิดว่าจะซื้อมาจริงๆด้วย


                อย่ากินทีเดียวหมดล่ะ ฉันไม่อยากเห็นนายตายก่อนเพราะน้ำตาลในเลือดสูงหรอกนะเก็บรองเท้าเข้าชั้นวางแล้วยกกระเป๋าขึ้นมาสะพายเตรียมจะขึ้นห้อง


                แต่ก็ยังซื้อมาให้อยู่ดีไม่ใช่เหรอใบหน้าหล่อเหลาวางบนไหล่ของอีกฝ่าย 


                แค่เห็นแล้วมันนึกถึงนายก็เลยซื้อมาให้เฉยๆหรอกนะ ไปอาบน้ำแล้วมือบางผลักหน้าอีกคนให้ออกไปจากไหล่ของตัวเองแล้วเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง


                ตอนอาบน้ำก็อย่าลืมคิดเรื่องชมรมด้วยล่ะ แต่ยังไงเธอก็ควรมาอยู่ด้วยกันกับฉันนะ


                ฝันไปเถอะ!

     

                














    TALK
    มาโรงเรียนวันแรกน้องโดนหมายหัวเหตุเพราะแย่งโยเกิร์ตนะคะ แต่รี้ดก็น่าจะรู้นะคะว่าใครหมายหัวน้องดูจากที่บรรยายแล้วก็น่าจะมีแค่คนเดียวแหละค่ะ
    ทำอะไรก็คิดถึงแต่พี่แมวล่ะเนาะรีบได้เบอร์พี่เค้ามาให้ไวๆสิ
    ชอบเวลาน้องอยู่กับยัจจังอ่ะดูโพน้องที่ขี้อายมากเลย เปลี่ยนคู่ได้มั้ยเนี่ยคู่สร้างคู่สมมาก
    ไรต์ยังอยู่ดีมีสุขค่ะถึงตอนนี้จะมาแบบสั้นๆก็เถอะ ตอนนี้เค้ามีทวิตเตอร์แล้วนะคะนิวแอคเพื่อลงนิยายโดยเฉพาะแต่อาจปสด.บ้างเป็นเรื่องปกติ ในนั้นจะมีลงรูปที่ไรต์วาดบ้างเป็นบางครั้งนะคะใครอยากตามทวงนิยายก็ไปตามกันได้เลยนะคะ @lalarosie_rose

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×