คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Yandere_ตอนที่ 1
ฉันรักเขาเหลือเกิน รักมาก รักจนแทบจะบ้าได้อยู่แล้ว เขาเป็นของฉันเพียงคนเดียว คนอื่นที่อยู่รอบกายของเขามันชั่งน่ารำคาญ
ในวันนี้ฉันได้เอ่ยปากบอกความรู้สึกที่มีและอัดแน่นเต็มอกนี้ให้เขาได้รับรู้ถึงมันและในที่สุดเขาก็ตอบมาว่า
“ฉันเองก็ชอบเธอ เราคบกันนะ”
“จริงนะ”
“จริงสิ”
เขาส่งยิ้มมาให้ฉันรอยยิ้มนั้นชั่งเจิดจรัสสำหรับฉันเหลือเกิน
เมื่อก่อนฉันเอาแต่เฝ้ามองเขาเพียงเท่านั้น ในวันนั้นเป็นวันแรกที่ฉันเข้าโรงเรียน
ฉันย้ายโรงเรียนมาไกลมากพอสมควรมาที่นี่ฉันไม่เห็นเพื่อนโรงเรียนเก่าเลยซักคน ฉันเดินชมและสำรวจโรงเรียนไปเรื่อย จนกระทั่ง...
“ขอโทษนะครับ คือว่าคุณรู้ไหมว่า อาคารเรียนสังคมอยู่ไหน??”
เขาเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มธรรมดาไม่ได้รูปหล่ออะไรเลย และแค่มาถามทางเท่านั้น แต่ฉันก็เพิ่งเข้าโรงเรียนนี้คงช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย อ๊ะ จริงสิฉันมีแผนที่ของโรงเรียนนี้อยู่
“เอานี่ไปสิ”
เขามองแผนที่ที่ฉันยื่นให้เขา เขาก้มมองไปมาระหว่างแผนที่กับใบหน้าของฉัน มองอะไรของเขานะเขินจัง
“ขอบคุณมากครับ”
เขาพูดขอบคุณและรับแผนที่ที่ฉันยื่นให้และยืนดูซักพักและวิ่งไป ฉันเองก็เพิ่งแผนที่นั่นอยู่ที่ก็ชั่งมันเถอะฉันไม่คิดว่าตัวฉันจะเป็นคนหลง ทางง่าย ฉันก็มีนิสัยเสียแบบนี้จนแก้ไม่หาย นิสัยมั่นใจในตัวเองมากเกินไป เดินไปจนเกิดอยากกลับขึ้นมา และเมื่อฉันหันหลังกลับไป
ความรู้สึกแปลกๆก็กระตุกขึ้นมา ทำไมรู้สึกว่าทางที่อยู่ข้างหน้าตอนนี้มันชั่งดูน่ากลัวเหลือเกิน โรงเรียนนี้ก็เป็นโรงเรียนใหญ่พิเศษ ถ้าเกิดหลงทางละก็ ไม่ๆๆ ฉันต้องไม่หลงฉันเชื่อในตัวว่าฉันมีสัญชาตญาณในการเดาทาง
ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่ก็เริ่มจะกลัว ฉันนี่มันก็บ้าบอแบบนี้จริงๆเลย ใครก็ได้ช่วยพาฉันไปจากที่นี่ที่ ที่นี่มันน่ากลัวอ๊ะ น้ำตาเริ่มออล้นออกมาจากดวงตา
“อะไรดันโตจนขึ้นม.4แล้วนะยังจะร้องไห้เพราะหลงทางเหรอ”
เสียงคุ้นหูได้ดังขึ้นจากข้างหน้า และมีเสียงรองเท้ากระทบพื้นมุ่งตรงมาทางฉันและเมื่อเขาได้ออกมาจากเงามืดของ อาคารก็ทำให้ฉันได้เห็นเขา
“ ก็ฉันกลัวความมืดนิน่า ”
“เธอนี่ตลกชะมัด ฮ่าๆๆๆ”
ฉัน มองหน้าของคนตรงหน้า เขาคงขำสินะที่ฉันทำตัวเป็นเด็ก ป.4ที่กลัวหลงทาง ก็ที่นี่โรงเรียนมีอาคารที่ดูเก่าและต้นไม้ก็เยอะอีกดูยังกับปราสาทปีศาจ อย่างนั้น
“ พาฉันออกไปจากโรงเรียนบ้านี่ที ขอร้องละ ”
“หา!! ยังไงเธอก็ต้องมาเรียนที่นี่ละนะ ”
“ชั่งเถอะน่า ตอนนี้ฉันอยากกลับบ้าน”
เขาไม่ถามและตอบอะไรและถอนหายใจออกมา และเดินมาหยุดยืนตรงหน้าของฉันแล้วยื่นมือมาให้ฉัน ฉันก็มองมือของเขาและหน้าของเขาสลับไปมา และการทำแบบนี้ก็ดูจะทำให้เขาเขิน เสมองไปทางอื่น ฉันจึงจับมือของเขาไว้และก็ออกจากตรงนี้ด้วยกัน และเดินมาซักพักเราก็คุยกันบ้าง และฉันก็เปิดประเด็นที่ดูท่าจะโดนตรงใจสุดๆไม่สิต้องบอกว่าแทงใจดำมากกว่า
“นี่ นายน่ะ หลงทางอยู่สินะ ทั้งที่มีแผนที่”
เพราะอะไรไม่รู้ฉันได้ยินเสียงเขากลืนน้ำลายดังอึกมาก หูฉันดีขนาดนั้นเลยเหรอ และเขาก็หันมามองฉันด้วยสีหน้าที่เหมือนเหงื่อเริ่มจะพุดออกมาจากใบหน้าของ เขาได้ทุกเมื่อ
“ไม่ใช่ซักหน่อย”
“แต่ว่านะ...”
“ไม่ต้องแต่เลย ฉันจำทางได้น่า อีกอย่างมีแผนที่ด้วย”
“แต่ทางออกโรงเรียนน่ะ มันต้องเลี้ยวขวาก่อนหน้านี้นะ”
เขาหยุดชะงัก และก็บอกว่า ‘เหรอ’ และคอตกไปเลย นี่เราไปจี้จุดดำของเขาอีกแล้วเหรอ แต่งานนี้จี้ในสิ่งที่แก้ไม่ได้ซะด้วย รู้สึกผิดนิดๆเหมือนกัน
“เอาน่าฉันรู้ว่านายต้องการทำเท่ต่อสาวสวยอย่างฉัน หึหึ”
และเขาก็ทำหน้าตกใจ ทำอย่างกับว่าฉันเดาความคิดเขาออก ไม่ใช่ว่าฉันรู้หรอก แค่มั่วไปเท่านั้น
“ทำไมเธอถึงรู้ละ หรือว่า...”
เขาเงียบและมองหน้าฉันอย่างพินิจพิจารณา ให้ตายสิคำต่อไปก็เดาได้ว่าจะพูดอะไร
“เอสเปอร์”
ฉันจึงพูดคำที่เขาเอาแต่ขุ่นคิด น่าจะขุ่นคิดละนะ
“รู้ได้ไงกัน!!”
ถูกด้วยหมอนี่มันเป็นเด็กรึไงกัน แต่ท่าทางก็เหมือเด็กด้วยละนะ เล่นแสดงสีหน้าท่าทางซะเดาได้ง่ายขนาดนี้ แต่ก็นะหมอนี่น่ารักชะมัด
“ความลับ”
“บอกมานะ”
“ไม่บอก แบร่~~”
“อ๊ะ อย่าหนีนะ!!”
ฉันเริ่มออกวิ่งหนีเขาเราเห็นวิ่งเล่นใครมาเห็นเข้าคงเห็นฉากอะไรซักอย่างแล้ว เราก็วิ่งไล่กันอย่างติงต๊องแน่นอน แต่แบบนั้นก็ต้องมีคนคิดว่าเป็นคู่รักติ๊งต๊อง ทำเอาชักอยากจะบ้า
หลังจากที่วิ่งไล่จับกันฉันก็วิ่งมาตรงทางออกประตูโรงเรียนและหันไปหาเขาที่วิ่ง ไรตามฉัน ฉันเก่งกีฬาทำให้ฉันไม่ค่อยเหนื่อยที่ได้วิ่งแบบนี้แต่ เขาน่ะสิดูท่าจะไม่ได้ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเลยรึไงกันถึงได้หอบ แฮ่กๆ สุดๆอ๊ะ
ฉันก็หันไปทางเขา ทำให้เขาหยุดและมองฉันอย่างงุนงงนิดหน่อย แสดงออกทางสีหน้าจนจับได้ชัดดีนะหมอนี่
“ขอบใจนะที่มาส่ง”
ในขณะที่ฉันหันหลังกลับเพื่อจะวิ่งหนีจากความรู้สึกแปลกที่เกิดขึ้นนี้ หัวใจเต้นตึกตักมากขึ้น รู้สึกอบอุ่นและดีใจสุดๆไปเลย
และวันเปิดเทอมมาฉันก็ได้พบกับเขาอีกครั้งและที่น่าตกใจก็คือ พวกเราดันอยู่ห้องเดียวกันด้วย ไม่อยากจะเชื่อเลย การเจอห้าเขามันทำให้ฉันหายใจไม่ค่อยออกเลย
“ไม่นึกเลยนะ ว่าเราจะสมพงศ์กันแบบนี้”
“อย่าพูดแบบนั้นสิเจ้าบ้า ใครได้ยินเดียวก็เข้าใจผิดกันพอดี”
“โอ๊ะ โทษที”
เขาหัวเราะแบบเด็กๆมาและเพื่อนก็เรียกเขาไป ทำให้เขาลาฉันและไปคุยกับเพื่อนของฉัน และแน่นอนว่าฉันก็ต้องไปหาเพื่อนแล้ว แต่ทำไมหัวใจบ้านี่ถึงเต้นแรงขนาดนี้ น่าอายชะมัด หยุดซักทีสิ ฉันเองก็ไม่อยากยอมรับหรอกนะว่า
ฉันรักเขา
ยิ่งเวลาผ่านไปเราได้เรียนและเข้าร่วมทำงานกลุ่มกันตลอดจนเพื่อนแซ่วว่าเราเป็น คู่รักกันไปเรียบร้อยทั้งที่ไม่ใช่แบบนั้นแท้ๆแล้วก็ฉันไม่อยากให้หัวใจนี้ เต้นเร็วแบบนี้แล้ว อยากหยุดหัวใจนี้จัง
และแล้วฉันก็ทนไม่ไหว ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ มันอัดแน่นจนจะออกมาจากนอกอกได้แล้ว ไม่ว่าอย่างไงฉันก็ทนต่อไปไม่ไหว เหมือนฉันจะบ้าเพราะเขาได้อยู่แล้ว
“ฉันรักเธอนะ”
ฉันได้คำนี้ออกไปให้เขาได้รับรู้มันเหมือนกับยกภูเขาออกจากอกได้เลย มันโล่งและรู้สึกดีขึ้นมาก แต่ถ้าเขาปฏิเสธละก็ใจฉันของแตกเป็นเสี่ยงแน่นอน
“ฉันเองก็ชอบเธอ เราคบกันนะ”
และนี่เป็นคำตอบที่ฉันคาดหวัง และเหมือนอย่างที่คิดว่า ถ้าไม่ปฏิเสธ หมอนี่ก็จะพูดออกมาแบบนี้ ฉันหัวเราะเบาๆ แล้วก็โพยพายใหญ่เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันแสดงออกมา
“ก็นายดันสารภาพกับคำเดียวที่ฉันคิดไว้ไง”
“ว่าแล้วเชียวว่าเธอต้องเป็นเอสเปอร์นะ”
และเขาก็มอบจูบบนหน้าผากอันแสนอ่อนโยนให้กับฉัน ทำให้ใจฉันเหมือนจะหยุดเต้นได้แล้วละ
“จะเป็นไปได้อย่างไงละเจ้าบ้า”
“แม้ ก็เล่นเดาใจฉันออกหมดทุกอย่างแบบนี้นิน่า”
“ก็นายเล่นทำแสดงท่าทางสีหน้าให้เดาออกแบบนี้ ยังไงก็เดาออกอยู่แล้วละน่า”
“นั่นละ เอสเปอร์”
เขายิ้ม ฉันมองหน้าเขา และเราสองคนก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน ก็นะมันชั่งน่าตลกและติงต๊องแล้วก็น่ารักสุดๆ เลยสินะ
ใครบอกละว่าฉันเดาใจนายได้หมด ฉันยังดูไม่ออกเลยว่านายรักฉันรึเปล่า แต่ตอนนี้ฉันรู้ว่านายรักฉันแต่ไม่รู้ว่าอนาคตหรอกนะ...
ความคิดเห็น