คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Doll Lady - ตุ๊กตาหญิงสาว
ใช้เวลาตั้ง 30 นาที ในการเดินทางมาถึงเมือง แต่เวลาหาใช่สิ่งที่สนใจเท่าคะแนน 1 แสนคะแนนที่กำลังรอคอยอยู่ อรัญบิดตัวไปมาแล้วหันไปมองโรที่กำลังจับจ้องไปยังโรงงานแห่งหนึ่งอย่างไม่ละสายตา ทำอย่างกับถ้าไม่มองไว้เดี๋ยวมันจะหายไปอย่างนั้น แล้วก็ตั้งแต่นั่งรถไฟมาถึงนี่ก็เอาแต่เหม่อ? ก็ปิดหน้าจะไปรู้ได้อย่างไรกัน? แต่ก็เดาเอาล่ะนะ
"เอาล่ะเราไปหาดอลเลดี้กันเลย"
โรพยักหน้าตอบรับแทนการพูดตามปกติ ทั้งสองมุ่งตรงไปยังโรงงานที่ดูอย่างไรก็ต้องมีอะไรแน่นอน อรัญมองสำรวจทางเดินและระวังตัวเป็นอย่างมาก จะมีอะไรโผล่มารึเปล่านะ? ตรงกันข้ามโรนั้นก็ผ่อนคลายไม่คิดอะไรนอกจากจะมุ่งตรงไปยังโรงงาน
"แปลกจังนะ? รู้สึกเหมือนเดินวนอยู่กับที่เดิม"
อรัญทักขึ้นมาอย่างหวาดระแวง ใช่แล้วทั้งที่โรงงานนั่นอยู่ตรงนั้นแต่นี่ก็เดินมานานแล้วแต่ทำไมรู้สึกว่ายังไม่ได้เข้าไปใกล้เลยเหมือนเดินวนอยู่ที่เดิม โรชี้ไปยังป่าข้างทาง
"อ๊ะ!? เขตแดน"
ใช่แล้วนี่คงจะเป็นเขตแดนที่ทำให้ไม่มีใครเข้าใกล้โรงงานนั่นได้สินะ จะเข้าไปใกล้ต้องเดินไปให้ถูกอย่างเดินตรงไปกี่ก้าวแล้วหันเดินไปที่อื่นกี่ก้าว แต่เขาจะไปรู้ไหมละ?
"ต้องไปทางซ้ายสินะ"
อรัญหันเดินไปตามทางที่โรชี้แนะ... และจนในที่สุดก็มาถึงหน้าโรงงานเสียที...
แต่ก็ทำให้อรัญเหนื่อยทั้งใจและกายอย่างหนัก ส่วนโรแค่เหนื่อยใจ ใช่แล้วจะไม่ให้เหนื่อยได้อย่างไรกันก็ในเมื่อระหว่างทางนั้น...
อรัญเดินไปตามทางที่โรชีแนะบอกก็จริงแต่มันมีกับดักวางไว้ด้วย เป็นกับดักที่เรียบง่ายแต่อรัญก็ยังตกหลุมพรางเหล่านั้นอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเรียงตามลำลับเหตุการณ์ดังต่อไปนี้
1. กับดักหลุมพรางและแน่นอนว่าอรัญก็ตกลงไป ความรู้สึกของอรัญในตอนที่ตกลงไปคือเจ็บจี๊ดที่ก้นกับหลังส่วนซึ่งเป็นส่วนของร่างที่กระแทกกับพื้น โรไม่มีความคิดเห็นใดๆ ในเมื่อไม่ได้เป็นคนโดน
2. เถาวัลย์เลื้อยและคนที่โดนก็แน่นอนว่าไม่พ้นอรัญ ความรู้สึกของอรัญในตอนนั้นแทบจะคลั่งตายในเมื่อเจ้าเถาวัลย์นั่น มันเล่นมัดขาอรัญแล้วดึงให้ลอยจากพื้น มัดห้อยแล้วยังมีมาดึงและถอดกางเกงของเขาอีก เขาอยากเผ่าป่าให้มอดก็เพราะเจ้าเถาวัลย์พวกนี้ล่ะนะ ส่วนความคิดของโรนั้นถ้าอรัญรู้เข้าเขาคงถูกชกกระเด็นไม่ก็โดนเชือดแน่นอน โชคดีที่โรนั้นแต่งตัวแบบปิดใบหน้า เลยทำให้ไม่มีใครเห็นว่าเลือดกำไหล แถมยังแอบยกนิ้วให้เถาวัลย์ไว้ข้างหลังด้วย เยี่ยมมากเจ้าพวกเถาวัลย์ ถึงจะเสียดายเพราะอรัญบอก? ขอร้อง? น่าจะใช้คำว่าสั่งมากกว่า ให้รีบทำลายเจ้าเถาวัลย์ที่อรัญตั้งชื่อให้ว่า วิปริต มันก็ไม่น่าใช่ชื่อหรอก
3. กับดักสุดท้ายข้ามสะพานแถมยังมีปีศาจสิงห์ เป็นเหมือนสิงโตแต่มีสองหาง เป็นปีศาจพวกสัตว์กินเนื้อก็พัฒนามาจากสิงโต สิงห์ตั้วนั้นกำลังนอนอยู่ตรงสะพานด้วย งานนี้อรัญเขาไม่เสี่ยงเป็นอันขาดสั่งให้โรนำไปก่อนแล้วก็จัดการปีศาจสิงห์ด้วย และแล้วโรก็จัดการมันโดยใช้พลังข่มให้หนีไป ที่ว่าข่มด้วยพลังก็แค่ยืนอยู่ที่เดิมแล้วก็ปล่อยแรงกดดันให้สิงห์รู้สึกกดดันและหนีไปเอง แถมยังไม่พอให้โรเดินข้ามไปก่อนด้วย แบบนี้เหมือนให้โรไปเป็นหน่วยกล้าตายเลยล่ะนะ และเมื่อโรข้ามไปอีกฝั่งก็ไม่เกิดอะไรขึ้น อรัญค่อยใจชื้น งานนี้เขาจึงเดินข้ามไปได้อย่างสบายใจ เมื่อเดินมาได้ 1 ในส่วน 4 ของสะพานแต่แล้ว!? สะพานก็เริ่มขาด เอาเฮ้ย! ซะงั้นทำไมเขาต้องโดนตลอดเลย อรัญเริ่มออกวิ่งทันทีไม้สะพานเริ่มหล่นลงสู่เบื้องล่างที่มีลำธารน้ำอยู่ ตกลงไปก็อาจจะจมน้ำตายก็ได้ อรัญนั้นวิ่งไม่ทันเลยจะหล่นลงไปสู่ลำธารแต่โรก็ช่วยอรัญไว้ได้ทัน แต่คงช่วยช้าไปหน่อย ดูเหมือนร่างและวิญญาณของอรัญหลุดออกจากกันนิดหนึ่งละนะ
"โร~~ ฉันเห็นคุณยายกำลังเรียกฉันที่อีกฟากของแม่น้ำด้วย~~"
"!? อะ..อรัญอย่าข้ามไปเชียวนะ!!"
"คุณยายผมจะขึ้นเรือตรงนี้ไปหานะครับ~~ เหอๆ"
"อรัญ!!!"
เพราะการตะโกนเรียกของโร? ทำให้อรัญตื่นทันที... และพบว่า โรกำลังอุ้มเขาแล้วยืนอยู่บนอากาศ
"!?"
สายตาเย็นชาของอรัญมองมาที่โรทันทีที่พบว่าโรนั้นกำลังเหยียบอากาศลอยอยู่...
"นายลอยได้ทำไมไม่บอก!!"
"ก็อรัญไม่ถามนิน่า นึกว่าชอบแบบ RPG ตะลุย"
อรัญเลิกคิ้วทันที แต่เขาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา มันก็จริงล่ะนะ โรก็เคยบอกแล้วว่าถ้าอยากรู้อะไรก็ถาม แต่ก็ไม่คิดเลยว่าโรจะลอยได้ด้วย...
"ช่างเถอะ งั้นก็ไปถึงโรงงานทั้งแบบนี้ละนะ"
หลังจากนั้นพวกเขาก็มาถึงหน้าโรงงานพร้อมกับประสบการณ์ความทรงจำอันเลวร้ายสำหรับอรัญเพียงคนเดียว และความทรงจำหนึ่งอย่างดีๆสำหรับโร? ว่าแต่นี่เขาไม่เรียกว่าเดินมาถึงน่าจะเรียกว่าเหาะมาถึงมากกว่า
"ในที่สุดก็ถึงสักที กว่าจะมาถึงเหนื่อยชะมัด"
อรัญทรุดนั่งลงกับพื้นทันทีหลังจากที่ลงจากโร เขาอยากจะหลับตาแล้วหลับไปเลยเพราะความเหนื่อย หลับให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ทั้งที่คิดแบบนั้นยังไงก็ต้องเข้าไปจัดการดอลเลดี้ อรัญลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและสูดหายใจเอาบรรยากาศที่ต้นไม้เข้าเต็มปอด โรก็งุนงงกับการกระทำของอรัญก็เล่นคิดอะไรอยู่โรนั้นก็ไม่รู้เลย หรือจะเรียกว่าเปลี่ยนความคิดไปมาเร็วดีล่ะ?
อรัญก้าวเท้าออกไปหนึ่งก้าวและในเวลาเดียวกันกับการก้าวเท้าออกไปก็เกิดหลุมดำทำให้อรัญร่วงลงไปในหลุมดำนั้นทันที
"อาเร๊ะ!!!!!!"
นี่เขาโดนอีกแล้วเหรอ? ทำไมมีเพียงแค่เขาที่โดนเพียงคน ไม่ยุติธรรมเลย!!!
โรกระโดดตามลงไปในหลุมนั้นอย่างทันเวลาก่อนที่มันจะหายไป อรัญก็ได้แต่ตะโกนขอให้โรทำอะไรสักอย่างที แต่โรยังไม่ทันได้ทำอะไร อรัญก็หล่นมาทับกองตุ๊กตาที่แสนนุ่มซะก่อน อรัญหยิบตุ๊กตานั้นขึ้นมาดู
"ตุ๊กตาแมวตัวนี้"
โรที่มองไปยังอรัญทั้งที่ตัวเขานั้นลอยอยู่บนอากาศ อรัญจ้องตุ๊กตาตัวนั้นเพราะเขารู้สึกคุ้นหูคุ้นตาตุ๊กตาตัวนี้ และดูท่าตุ๊กตาตัวนั้นจะทนไม่ได้ ระเรื่อแดงที่แก้มก็ปรากฏขึ้นมาที่ใบหน้าแล้วจึงพูดทักขึ้นมา
"อย่าจ้องเขาแบบนั้นสิ อรัญ"
อรัญไม่ตกใจไม่อะไร แต่ทำสายตาเฉยชา อรัญคิดแล้วเชียวว่าจะต้องเป็นเจ้าเนโกะ ตุ๊กตาแบบมันไม่มีอีกแล้ว รูปร่างมันเหมือนตุ๊กตาแมวดำธรรมดาก็จริงแต่มีสามตา มีสามหางและมีฟันที่ยาวโผล่ออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน
"เนโกะ...อยู่ที่นี่ก็หมายความว่า ดอลเลดี้คือ..."
ตอนเรียกยังทำหน้าเฉยชาหากพอคิดดีๆคนที่เป็น... แต่เดี๋ยวก่อนถ้าเนโกะตุ๊กตารับใช้ของเธอคนนั้นอยู่นี่ ก็หมายความว่า อรัญเงยหน้ามองไปข้างหน้าสิ่งที่อรัญเห็นคือปีศาจตุ๊กตาที่แสนคุ้นเคย หญิงสาวแสนงดงามเจ้าของเรือนผมซึ่งมีสีบลอนดุจรวงข้าวสุกอร่าม ผิวขาวดุจหิมะแต่มีความระเรื่อของสีกุหลาบแดง สีตานัยน์แตกต่างกันข้างขวาเป็นสีแดงและข้างซ้ายเป็นเขียว
"นารี!?"
"ดีใจจังที่รัญจังจำเค้าได้"
อรัญทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกทันที นี่เขาต้องมากำจัดเพื่อนของตนรึ?
"นายท่าน!"
นารีไม่รีรอเมื่อเห็นโรจึงลอยเข้าไปใกล้อย่างรวดเร็วและโผเข้ากอดทันที
"ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยสินะ นารี"
"เจ้าค่ะ"
นารีเอาหน้าถูไปมากับอกของโรและกอดกระชับแน่นขึ้นอีกราวกับว่าจะหาความอบอุ่นของอีกฝ่ายทั้งที่ตนนั้นไม่อาจรับรู้ถึงอุณหภูมิได้
อรัญลุกและเหยียบเหล่าตุ๊กตามากมายเพื่อมายังพื้นที่เป็นกระเบื้องขาวที่นี่ ระหว่างนั้นเหล่าตุ๊กตาที่โดนเหยียบก็ส่งเสียงร้องเช่นกัน ตอนตกลงมาทับไม่เห็นจะมีเสียงอะไรเลย
"โอ๊ย!? ตัวข้า"
"โทษที"
"โอ๊ย!!! ขาข้า"
"โทษที"
"อดทนกันหน่อยสิยะ!!"
นารีรำคาญจึงหันมาตะโกนสั่งอย่างหงุดหงิด จะว่าไปห้องนี่กว้างดีจัง แต่เสียอย่างเดียวคือไม่มีหน้าต่าง ไม่อบอ้าวหรือไรกัน อรัญมองไปรอบๆและพิจารณาวิจารณ์ในใจ นารีคลายกอดออกและปล่อยโรไว้ตรงนั้น และเข้าหาอรัญแทน
"อรัญนั่งก่อนสิ ดื่มชาชั้นเลิศที่ฉันได้เตรียมไว้ก่อนสิ นั่งๆ"
นารีจับไหล่ของอรัญและชี้ไปยังโต๊ะที่มีน้ำชาและของหวานมากมายหลากตาวางอยู่ อรัญพยักหน้าและเดินไปยังเก้าอี้ เมื่อนั่งลงก็มองเหล่าของหวานมากมาย ว่าแต่ใช้เวลาขนาดไหนในการจัดเตรียมกัน หรือว่า!?
"นี่นารี"
อรัญเก็บอารมณ์หงุดหงิดเอาไว้ ความอดทนของอรัญมีน้อยเสียด้วยสิ ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดไว้เลย ไม่อย่างพ่อจะระเบิดให้เละ?
"อะไรเหรอ?"
เธอยิ้มอย่างระรื่นร่าเริง น้ำเสียงแสนสดใสเอื้อนเอ่ยถามออกมา
"เธอจัดเตรียมของพวกนี้ตอนไหนกัน"
"ก็ตอนที่รัญจังเข้ามาในเมืองฉันก็รู้ว่ามากัน ก็เลย..."
อรัญคิ้วกระตุกขึ้นนิดเพราะการยิ้มและเสียงหัวเราะแหะๆของนารี กับดักพวกนั้นเป็นของนารีเองเหรอ?
นารีถอยห่างออกมาอย่างรวดเร็ว รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีสุดๆเลย แต่อรัญก็ต้องผ่อนคลายลงเพราะคิดว่าเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเป็นเขาก็ต้องหาของเตรียมไว้เหมือนกันแต่ต้องเตรียมเยอะขนาดนี้มันก็... ช่างเถอะคิดแล้วเขาก็หิว ถึงตอนนี้จะไม่หิวเท่าไร
"เอาเถอะช่างมัน"
“แต่ไม่น่าเชื่อว่าอรัญจะตกไปที่กับดักง่ายๆของนารีได้นะ ฮ่าๆๆ”
เนโกะตุ๊กตาแมวรูปร่างประหลาดหัวเราะเยาะอรัญที่ยังจะตกหลุมพรางเด็กแบบนั้นได้อีก อรัญนั้นไม่สนเพราะถ้าเถียงกลับไปก็ไม่ได้ขึ้นมาอยู่แล้ว มีแต่เหนื่อยกับเหนื่อย ถึงจะรู้สึกหงุดหงิดก็ตาม
อรัญหยิบแก้วตรงหน้าขึ้นมายกดื่ม เป็นชาอร่อยมาก หวานแล้วก็มีกลิ่นหอมหน่อยๆ และเป็นน้ำสีแดง...
"อร่อยดีนะชานี้"
"แน่นอนก็เป็นชาบลัดฮิวแมน"
บลัดฮิวแมน? Blood Human? อรัญจ้องชานั่นอย่างเขม็ง มันคงไม่ได้ทำมาจากเลือดมนุษย์หรอกนะ เหงื่อเริ่มตก นารีที่เห็นอย่างนั้นก็คิดว่าตลกจังและก็กลั้นหัวเราะไว้ จะว่าไปอรัญนั้นยังเหมือนเมื่อก่อนที่ซื่อเชื่ออะไรง่ายๆ และชานั่นถึงจะเป็นชื่อแบบนั้นก็ไม่ใช่ทำมาจากเลือดมนุษย์จริงๆแต่อย่างใด
"บลัดฮิวแมนทำมาจากต้นไม้รูปร่างคล้ายคนจึงถูกเรียกว่า Human Girl Tree และ ในต้นไม้นั้นมีน้ำสีแดง และเมื่อแห้งก็จะเป็นหญ้า ปีศาจจึงนำมาทำเป็นชาเนื่องจากมีรสหวานหอมแต่เพราะลักษณะเป็นแบบนั้นจึงมีชื่อว่า บลัดฮิวแมน แล้วเมืองปีศาจที่นำออกชานี้อยู่เขตแดนของปีศาจผู้ยิ่งใหญ่เบลเฟกอร์ซึ่งดูแลเขตนั้น "
"กรี๊ด!! ใช่แล้วละค่ะสมเป็นนายท่านช่างรู้แม้แต่เรื่องละเอียดอ่อนอย่างชา"
โรอธิบายพร้อมกับลอยลงมายังโต๊ะชา พูดจบเขาก็หยิบขนมหนึ่งชิ้นขึ้นมาเข้าปากรับประทาน นารีชื่นชมโร แต่อรัญกับทำหน้าเฉยชาแล้วหยิบขนมมากินเรื่อยๆไม่ขาดตั้งแต่ขณะที่โรอธิบาย ทั้งที่ความจริงเขารู้เรื่องชานี้มาจากปีศาจตนหนึ่งอีกที ก็เคยโดนเล่าให้ฟัง แถมยังบอกว่านารีชอบน้ำชานี้มาก
"ฉันชอบชาเขียว"
ทั้งสองนิ่งเงียบไปดันที่แล้วก็มองหน้ากัน ชาเขียวมันทำไมอะไรกันหรือว่าไม่รู้จักกัน ให้ตายสิแม้แต่โรก็คิดว่าเขาคงถลำลึกทางโลกปีศาจมากเกินไปแล้วรึเปล่า?
"ทำไมทำหน้าแบบนั้นกัน?"
"รัญจังคงไม่ได้หมายถึงชา Green Tea Worm"
"Green Tea แต่ไม่มี Worm เพราะคงจะไม่น่าอภิรมย์แน่นอน"
"Green Tea ของมนุษย์นี่เอง เฮ้อ~~"
นารีถอนหายใจอย่างโล่งคิดว่าอรัญนั้นลิ้นรับรสต้องเสียหายเข้าขั้นรุนแรงแน่นอน เพราะชานั่นขึ้นชื่อไม่สิได้รางวัลชารสย่ำแย่ยิ่งกว่าแย่ไม่อาจหาอะไรในสองโลกมาเปรียบเทียบและเทียบเทียมได้ เป็นชื่อรางวัลที่ยาวเกินจริงมาก โรเองก็โล่งเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้ถอนหายใจออกมาแล้วก็หยิบขนมเข้าปากต่อไป
"ช่างเรื่องชาเถอะ"
อรัญพูดและจับถ้วยชาแน่น เหตุผลที่เขามาที่นี่คือมาจัดการดอลเลดื้ แต่ดอลเลดี้คือนารีเพื่อนของเขาแบบนั้น แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก หากแต่เป็น... นารีรู้สึกถึงความตึงเครียดที่แผ่ออกมาจากอรัญ นารีรู้ดีอยู่แล้วว่าอรัญมาเพื่ออะไร
"รัญจังเล่นเกมกันไหม?"
"เกม?"
"เกมแตะสี"
"เกมแตะสีมันเป็นไงอ๊ะ?"
อรัญรู้สึกสนใจจนลืมเรื่องเหตุผลที่มาที่นี่ไปก่อน นารีก็โล่งอกที่คลายความคิดของอรัญได้ถึงจะแค่ตอนนี้ก็ตาม
"ก็เป็นเกมที่จะมีคนหยิบป้ายว่าจะต้องแตะสีอะไรให้เราใช้ทุกส่วนของร่างกายแตะสีนั้นๆ โดยจะมีการรีเซตครั้งหนึ่งหลังจากแตะสีทั้งหมด 5 สีแน่นอนว่าห้ามออกถ้าออกจะถือว่าแพ้"
"ออก?"
"คือการที่ส่วนที่เราแตะสีประกาศไปแล้วออกจากสีนั้นก็แพ้"
อรัญครุ่นคิดพลางหยิบขนมเข้าปากไปด้วย ห้าส่วนของร่างกาย ก็มีแขน 2 ข้าง ขา 2 ข้าง หัวและตัว?
"แล้วมันเล่นกี่คนละ?"
"แล้วแต่จะเล่นกี่คนก็ได้"
"งั้นฉันกับโรมาแข่งกัน"
อรัญชี้ไปยังโรอย่างรวดเร็ว โรที่กำลังดื่มชาเมื่อได้ยินอย่างนั้นเขาก็พ่นน้ำชาที่ยังไม่ได้กลืนใส่ถ้วยกลับคืนดั่งเดิมพร้อมกับสำลัก เขาโล่งใจนึกว่าจะสำลักน้ำชาตายซะแล้ว เขาหันไปมองอรัญที่ทำสีหน้าที่ดูเย้ยหยัน เขาครุ่นคิดและก้มมองถ้วยน้ำชา มองใบหน้าตนที่สะท้อนในน้ำชาและเงยหน้าอย่างกะทันหันมองไปยังอรัญ แค่ตอบว่าแข่งหรือไม่เท่านั้นทำไมต้องมีลีลาด้วยนะ อรัญขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด
"ก็เอาสิ"
อรัญก็มองไปยังโรอย่างสงสัยบางอย่าง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าสงสัยอะไรแต่มันก็สงสัย อรัญเกาหัวและเลิกคิด ตอนนี้โรได้ถอดที่ปิดหน้าปิดตาออกแล้วเลยทำให้เห็นสีหน้า โรก็ถอดตั้งแต่มาถึง ณ ห้องนี้แล้วล่ะนะ โรแสดงสีหน้าเฉยๆธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษเลยแม้แต่น้อย
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ในตอนนี้ทั้งสองก็เริ่มการดวลกันมาได้สักพักใหญ่แล้ว แข่งมาหลายเกมและยังไม่อาจจะหาผู้ชนะได้เลย
"อา...ฮึบ...อ๊ะ!? ถึงแล้วสีส้ม"
สภาพในตอนนี้เป็นอะไรที่อธิบายได้ยากมากแต่มันก็ง่าย? สภาพคล้ายกับว่าโรกำลังขึ้นคร่อมอรัญไม่สิ มันคร่อมเลยต่างหากเพราะสีที่โรได้นั้นมันทำให้มีสภาพแบบนี้ ซึ่งตอนแรกอรัญนั้นเป็นคนเริ่มเกมแตะสีคนแรก เมื่อจับสีเขาก็ตัดสินใจใช้หลังตนทับสีที่ได้ในตอนแรกแล้วสีที่โรได้ก็อยู่ข้างๆ อรัญเขาตัดสินใจใช้เท้ามือแตะไปสีที่นารีบอก มันก็เลยเป็นแบบนี้ แต่โรแทบเลือดกำเดาพุ่งกระฉูดแล้วนะ ไม่น่าแตะสีที่อยู่ข้างๆอรัญเลย แล้วมาเป็นแบบนี้เลย แต่มันก็ดีนะตั้งแต่เริ่มเกมมารู้สึกว่าทั้งสองแนบชิดเสียดสีซึ่งกันและกันมากยิ่งขึ้นสำหรับโร
"พยายามเข้านะต่อไปนายท่านนะ"
นารีเชียร์ทั้งสองคนเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่รู้แล้วและยังคงร่าเริงในขณะทั้งสองปวดแขนปวดขาปวดเมื่อยตามร่างกายไปทั่ว นารีควานมือในกล่องและหยิบสีออกมา
"นายท่านต่อไปสีขาวเจ้าค่ะ"
โรมองหาสีขาวแต่มันช่างอยู่ไกลเมื่อมองไปยังซ้ายและขวา อรัญหัวเราะหึและแสยะยิ้ม ดูท่าเขาจะชนะแล้วสินะ โรนั้นสามารถจะเพิ่มสัดส่วนบางอย่างให้กับร่างกายก็ได้ อย่างทำให้ตนนั้นมีหางที่ยาวงอกออกมา แต่ถ้าทำเช่นนั้น อรัญต้องโวยว่าขี้โกง เขาถอนหายใจและบอกยอมแพ้ไป อรัญร้องไชโย ‘ชนะแล้ว’
เกมจบลงนารีเก็บกระดาษสีเข้ากล่อง อรัญและโรทั้งสองนั้นก็หายใจออกอย่างแรงเพราะเหนื่อย และนวดตามที่ปวด เกมเหมือนจะง่ายแต่มันก็ยากอยู่ละนะ ถึงโรจะเสียดายเป็นอย่างมากก็ตามโอกาสที่จะขึ้นคร่อมอรัญใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ เลือดกำเดาไหลเขารีบเช็ดออกทันที
"งั้นเกมต่อไปอีแก่กินน้ำนะ"
นารีหยิบไพ่ออกมาจากกระเป๋า อรัญถอนหายใจออกมาเขาไม่ได้หายใจออกเพราะเหนื่อยแต่อย่างใดแต่เขารู้ว่านารี ไม่อยากให้เขาคิดมากเรื่องภารกิจ
"พอเถอะนารี"
"!?"
"เธอรู้สินะว่าฉันมาที่นี่เพื่ออะไร"
นารีทำหน้าสลดและพยักหน้าแทนคำตอบ เธอรู้ดีอยู่แล้วล่ะนะอรัญ...
ความทรงจำของโรเวล
ข้าออกเดินทางจากเมืองนั้น ไม่สิไม่มีความเป็นเมืองอยู่ ตรงที่ๆเคยเป็นเมืองสิ่งที่เหลืออยู่คือหอคอยที่ข้าตื่นขึ้นมา
การออกมาเดินไปยังทางที่ข้าเลือกนั้นมันช่างไร้ซึ่งปลายทางไม่มีจุดหมายแม้แต่น้อย
ข้าเดินทางมาเรื่อยๆไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่าข้านั้นอยู่ที่ไหนของโลกนี้แล้วก็โลกนี้คือที่ไหนกัน?
ดวงตาของข้าเริ่มพร่ามัว ข้ามองไม่เห็นทางข้างหน้าและตัวข้าก็รู้สึกไม่มีแรงขึ้นมาซะอย่างนั้นไม่ไหว แล้ว... ข้าหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้าและสติของข้าก็ขาดไป
อ๊ะ!? เสียงเพลงนั่น เสียงของคนๆนั้น
ข้ามองไปรอบทิศทาง อยู่ไหนกัน?
"เจ้าอยู่ไหนกันนี่ ตอบข้าสิ!!"
'โรเวลทางนี้'
"ทางนี้มันทางไหนกัน !?"
ข้ามองไปทางขวาอย่างรวดเร็วเมื่อกี้เหมือนเห็นอะไรวิ่งไป อ๊ะ!? ทางซ้าย
"เจ้าอย่าเดินไปเดินมาสิ"
'โรเวลทางนี้'
"ทางไหนกัน!!!!!!!!!!"
ข้าลืมตาตื่นขึ้น สิ่งที่ข้าเห็นคือต้นไม้สูงใหญ่ ข้ามองไปรอบๆ ก็ที่ๆข้าเดินมาถึงแล้วทำไมข้าถึงหมดสติไปกัน
ข้าลุกและเดินตรงไปผ่านพุ่มไม้สูงระดับเอวของข้ามาสิ้นสุดเป็นหน้าผาสูง ข้ามองไปยังข้างล่างก็พบหมู่บ้าน
ข้าไม่รอช้ากระโดดจากหน้าผาสูงลงสู่พื้นข้างล่างทันที ข้าต้องไปหมู่บ้านนั่นอาจจะได้ข้อมูลอะไรมากขึ้น
เมื่อข้ามาถึงข้าแอบอยู่พุ่มไม้และแอบดูแต่สิ่งที่ข้าเห็นคือปีศาจรูปร่างคล้ายงู แต่มีร่างกายแบบมนุษย์กำลังทุบตีเตะต่อยชายหนุ่มที่ดูไล่เลี่ยกับวัยข้า
"กล้าลองดีก็เจอแบบนี้"
"อึก!?"
ชายหนุ่มกระอักเลือดออกมา แต่ไม่ครวญครางเจ็บปวดเลย แถมยังสู้โดยการมองหน้าเจ้าคนที่ทำร้ายด้วยสายตาที่ไม่หวั่นเกรง เจ้าปีศาจงูนั่นหัวเราะหึและเตะไปที่หน้าอย่างแรง
พอกันที! ข้าทนไม่ไหวจึงลุกขึ้นยืนและดูท่าจะได้ผลตัวข้าเป็นที่สนใจของมันแล้วในตอนนี้
"แกเป็นใคร"
เจ้าปีศาจงูนั่นทำท่าจะเข้าจู่โจม แต่ข้าหงุดหงิดเหลือเกินเพราะฉะนั้น...
"ตอบมาสิโว้ย!!!"
เจ้าปีศาจงูกระโจนมาหาข้าแต่ข้ายกมือไปข้างหน้าและกำมือแน่นเมื่อนั้นเจ้าปีศาจงูนั่นก็ระเบิด เลือดของมันกระเซ็นไปทั่วร่างของข้าและบริเวณเท่านั้น
น่าขยะแขยงชะมัด ข้ามองไปชายหนุ่มคนนั้น ชายหนุ่มคนนั้นใช้แรงที่มีหันมามองข้า ตาของเขาคงพร่ามัวแล้วสินะ
ข้าจะเดินจากที่ตรงนั้น แต่ก็ต้องหยุดที่จะก้าวเดินเพราะชายหนุ่มคนนั้น
ข้าหันไปมองชายหนุ่มคนนั้นที่ดูเหมือนตอนนี้จะสลบไปแล้ว
ข้าถอนหายใจออกมาและเดินไปหาชายหนุ่มคนนั้นและพยุงตัวของเขาขึ้น แล้วข้าต้องทำอย่างไรต่อไปดีละทีนี้
ข้ามองซ้ายมองขวาและที่รู้คือถ้าปล่อยทิ้งไว้ที่นี่ก็คงไม่ดีแน่นอนข้าแบกชายหนุ่มคนนั้นขึ้นบ่าและเดินกลับเข้าพุ่มไม้ที่โผล่ออกมา
ข้าเดินมาเรื่อยๆและก็วางชายหนุ่มลงกับพื้น หือ? ข้าสังเกตดูเจ้าคนที่ข้าแบกมา แผลหายไปแล้ว เป็นปีศาจประเภทอมตะเหรอ บดขยี้ร่างให้ละเอียดตอนนี้เลยดีไหมนะ ถ้าเจ้านี่ฟื้นขึ้นมาจะสร้างปัญหาให้หรือเปล่านะ
ข้ามองกลับไปที่ข้าเดินมา หมู่บ้านนั่นมีกลิ่นความตายเยอะมาก น่าสงสัยชะมัด
ข้าตัดสินใจกลับไปยังหมู่บ้านนั้นเพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ ข้ายิ่งรู้สึกได้อย่างรุนแรงมันเป็น อย่างที่ข้าได้คิดไว้ เมื่อข้าได้เห็นภาพตรงหน้า
ทุกสิ่งถูกฉาบไปด้วยเลือดสีแดงสดจากร่างของปีศาจ
ปีศาจเหล่านั้นที่ถูกตีและฟันให้เลือดออกจากร่างกำลังสร้างบางสิ่งบางอย่าง ด้วยใบหน้าหวาดกลัวที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน
สิ่งที่ปีศาจเหล่านั้นกำลังสร้างคือรูปปั้นและมันเป็นสิ่งที่ถูกสร้างให้กลาย เป็นคริสตัลที่มีส่วนผสมระหว่างพลังปีศาจและหินแร่แล้วก็เลือดของปีศาจเหล่านั้น หลอมเข้าไปยังที่รูปปั้นปีศาจตนหนึ่งที่มีสีขาวบริสุทธิ์แต่ดูท่าอีกไม่นาน ก็จะเสร็จแล้วสินะ
"แกเป็นใครกัน?"
ข้าที่กำลังยืนมองก็หันไปมองต้นเสียงที่อยู่ข้างหลังของข้า คนที่อยู่ตรงหน้าคล้ายกับรูปปั้นนั้นเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อข้าหันไปมองความเจ็บปวดก็แล่นพล่านไปทั่วร่างทันที ข้าหันไปที่ข้างหลังของข้าอยากทนกับความเจ็บปวด
เจ้าพวกสกปรกเล่นลอบกัดกันแบบนี้
ข้ากระตุกยิ้มให้เจ้าคนที่แทงแต่เพราะการทำแบบนี้คงทำให้มันเคืองเลยแทงเข้ามาให้ลึกกว่าเดิม
"กวนดีจังนะเจ้า"
เจ้าปีศาจกระตุกยิ้มและขยับที่แทงข้าไปมาถึงจะเจ็บแต่มันก็ไม่มากเท่าไรหรอก ข้าสำลักเลือดออกมา
"หยุดซะเดี๋ยวมันตาย"
"ขอรับ หึหึ"
เจ้าปีศาจก็เอาดาบที่แทงออกจากหลังข้าและเลียเลือดของข้าอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งที่ไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับตัวข้าเลย
"ตอบมาซะเจ้าหนู"
"นี่...คนในเมืองนี้เต็มใจช่วยท่านรึเปล่า?"
"คิดจะกวนประสาทข้ารึไรกันเจ้าหนู"
"นั่นสินะ"
"!?"
เจ้าปีศาจที่แทงข้าตอนนี้ได้เข้าไปพุ่งแทงเจ้านายตน เจ้านายของมันถึงกับกระอักเลือดออกมาแต่งแต้มพื้นให้แดงฉาน
"ตอบมาสิ ผู้ให้กำเนิดความหวาดกลัว ความเจ็บปวด และความแค้นเอ๋ย"
ความคิดเห็น