คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Part 1
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสีดำดวงตาสีแดงฉานดุจหยาดโลหิต กว่าเหล่าผู้คนจะรับรู้ถึงการมีตัวตนของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสีดำนี้ มันก็มีอายุเยอะจนกล้าแกร่งจนยากที่จะกำราบปราบจิ้งจอกตัวนี้ได้เสียแล้ว...
และนั่นก็คือข้า คิวบิ คุโรกิ อายุของข้าก็เกิน 900 ปี ไปแล้ว หางที่เก้าก็งอกออกมาแสดงถึงอายุของข้าในตอนนี้ =__= แต่หัวใจของข้าก็ยังคงไม่อยากจะยอมรับอายุนี้เลยจริงๆ T^T
“ตอนนี้ คุโระคุงก็อายุ 912 ปีแล้วสินะ ^__^”
“เงียบไปเลยเจ้าเทพยาจก =__=”
“T0T เจ้าร้ายจังคุโระคุง อีกอย่างเราไม่ใช่เทพยาจกนะ”
“ไม่มีคนมาสักการบูชานอกจากวันปีใหม่ก็ถือว่าเป็นเทพยาจกนั่นล่ะ =__= ”
“>0< ไม่ใช่นะ บางวันก็มีคนมาขอพรกับเรานะ”
ในตอนนี้ข้ากำลังอยู่ที่ศาลเจ้าของเทพประจำเมืองนี้ แต่ถึงจะเรียกว่าเทพประจำเมือง แต่ก็ไม่ค่อยมีใครมาสักการะเลย นอกจากวันขึ้นปีใหม่เท่านั้นละที่ศาลเจ้าแห่งนี้จะคึกคัก และบุคคลที่ข้าสนทนาก็ไม่ใช่ใครอื่น ก็เจ้าของศาลเจ้าเทพประจำเมืองนามว่า คิมาโมโตะ ซึ่งเป็นเทพของที่ศาลเจ้านี่... =_= ถ้ามนุษย์รู้ว่าเทพนี่นิสัยอย่างไรคงเลิกสักการบูชาเป็นอันแน่แท้
“เฮ้อ...ข้าขอตัวไปทำงานต่อล่ะ -__-”
ข้าไม่อยากสนทนาอะไรไปมากกว่านี้ ข้ามาศาลเจ้านี่ทุกวันเพื่อที่จะทำการสักการะเจ้าเทพยาจกคิมาโมโตะเพียงอย่างเดียว ในสายตาของภูตผีปีศาจต่างก็คิดว่าข้านั้นมันบ้า =__= ถึงจะไม่อยากยอมรับแต่มันก็เป็นแบบนี้...
“ดะ...เดี๋ยวคุโระคุง”
เทพคิมาโมโตะเมื่อเห็นข้าหันหลังและพร้อมจะเดินจากไป ท่านก็เรียกข้าไว้ทำให้ข้าหยุดฝีเท้าและหันกลับไปมอง
เทพคิมาโมโตะที่ยืนอยู่ศาลเจ้าก็เดินเข้ามาและยื่นหน้าเข้ามาหาข้าอย่างใกล้ชิด 0_0 เข้ามาไม แต่ก็เอาแต่จ้องหน้าของข้า =__= รู้สึกแปลกๆ
“เจ้าระวังป่าไว้หน่อยดีกว่านะ เพราะเจ้าอาจจะเจอเรื่องน่าปวดหัวที่ไม่มีทางจะทำให้มันหายไปตลอดปีนี้.....มั้ง >__<”
“=___= จะทำนายจะต้องมีมั้งด้วยเหรอ? เชื่อมั่นในคำทำนายของตัวท่านด้วยสิ ช่างเถอะเอาเป็นว่าขอบคุณที่เตือนข้า ข้าจะระวังเรื่องป่า ไปล่ะ...”
หลังจากนั้นข้าก็ใช้พลังของข้าลอยตัวลงจากศาลเจ้าที่ตั้งอยู่เนินเขามายังสถานที่ข้าทำงานพิเศษ และใช้พลังปีศาจของข้าทำให้มนุษย์ปกติเห็นตัวข้าได้แบบปกติ
ที่นี่คือสถานที่ทำงานเป็นร้านอาหารในย่านการค้า ข้าเป็นเด็กเสิร์ฟและเรียกลูกค้าให้ร้าน และลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่เอาแต่จ้องมองข้าอย่างตัณหา =~= รู้สึกคลื่นไส้จริงๆเลยไม่ว่ายุคไหนมนุษย์ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ คนหน้าตาดีมันก็แบบนี้ล่ะนะ
“มาแล้วครับ!”
“โอ้! คุโรกิ เร็วๆเข้า ร้านเราต้องการคนเพิ่ม มาช่วยเร็วเข้า”
“ครับ!”
ข้ารีบขึ้นไปแต่งตัวใส่เครื่องแบบของร้านและทำหน้าที่ของตนที่ทำเป็นประจำจนจำได้ขึ้นใจ
“ดูสิ คุณคุโรกิ หล่อมากเลยนะ”
“ใช่ๆ อยากเป็นแฟนของเขาจัง...”
ประโยคสนทนาของหญิงสาวเมื่อยามมองข้ามันก็ทำนองนี้กันทั้งนั้น ข้าไม่ชอบเสียเลยที่เหล่ามนุษย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ประเสริฐกับทำตัวต้องการตัณหาขนาดนี้
5 ชั่วโมงผ่านไปเป็นเวลายามเย็น ข้าก็ต้องเลิกงานที่นี่และต้องกลับบ้านแล้ว ทุกท่านคงสงสัยทำไมข้าต้องทำงานพิเศษทั้งที่ข้าเป็นปีศาจจะปล้นจี้มาก็ได้ และไม่มีมนุษย์หน้าไหนหยุดข้าได้ด้วย
เหตุผลที่ข้าไม่ทำเพราะข้าไม่อยากทำร้ายมนุษย์และก่อความชั่วหากไม่จำเป็นจริงๆ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ข้าก็ถูกมนุษย์ช่วยชุบเลี้ยงข้า และถูกปลูกฝังแต่เรื่องดีๆ เพราะอย่างนี้ล่ะนะที่ทำให้ข้าเลือกที่จะแบบนี้มากกว่า
ข้ามองนาฬิกาข้อมือของข้า เข็มยาวชี้ไปยังเลข 3 และเข็มสั้นนั้นชี้ไปยังเลข 5 แต่ท้องฟ้าก็ค่อนข้างจะแดดยังร้อนแรงอยู่ ก็ตอนนี้เป็นช่วงหน้าร้อน รีบกลับไปดีกว่า คงต้องใช้ทางลัดผ่านป่าไป
ข้าตัดสินใจว่าจะผ่านป่าไปเพื่อจะได้ถึงที่พักของข้าอย่างรวดเร็ว...หากในตอนนี้หากเขาจำคำพูดของเทพคิมาโมโตะไว้ล่ะก็ชะตาของเขาคงอาจจะไม่พลันเปลี่ยนก็เป็นได้....
‘ใครก็ได้ ได้โปรดช่วยฉันด้วย...’
เสียงหนึ่งลั่นเข้ามาในโสตประสาทของข้า และซ้ำไปซ้ำมาอยู่นานพอสมควร และมันเป็นภาษาต่างประเทศ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะข้าเรียนรู้ภาษามาเยอะเลยรู้ว่า ใครกำลังขอความช่วยเหลืออยู่ ข้ามองซ้ายมองขวา และก็ต้องหันไปทางซ้ายทางที่พุ่มไม้นั้นสั่นๆเหมือนมีบางอย่างจะกระโจนออกมา และนั่นก็เป็นอย่างที่ข้าคิดไว้ จู่ๆก็มีชายหนุ่มกระโจนใส่ข้า
“โอ๊ย! แกทำบ้าอะไรวะ!”
อย่างไรข้าก็ไม่ได้หลบและปล่อยให้ชายหนุ่มคนนั้นกระโจนใส่ข้ามา จนต้องไปนอนกองกับพื้นพร้อมกับเจ้าหนุ่มนั่น แต่ทำไมมันขึ้นคร่อมข้าได้ล่ะ? =__=
“ละ...เลือด...”
“หา... -0-”
ไม่ทันอะไรเจ้าหนุ่มนั่นก็แยกเขี้ยวอันแหลมคมให้ข้าก่อนจะฝังเขี้ยวลงบนต้นคอของข้าอย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วกายของข้า แต่ข้าก็ไม่ได้เจ็บอะไรมาก ว่าแต่... =[ ]=!! เจ้านี่ไม่ใช่มนุษย์เหรอ? =w= มันก็ต้องอย่างนั้นสิมนุษย์ที่ไหนจะกระโจนเข้าหาปีศาจที่ไม่ได้แสดงฤทธิ์ให้เห็นนอกจากปีศาจหรือผู้มีญาณที่จะมองเห็น
“ปล่อยนะ!! ”
ข้าตะคอกใส่ให้ปล่อยแต่เจ้านี่กับจับข้าแน่นและยังคงสูบเลือดของข้า เป็นยุงหรือไรกัน =__= มาดูดเลือดของข้าแบบนี้
“เจ้าอาสทัสอยู่นั่น!!”
เจ้าหนุ่มนั่นเมื่อได้ยินอย่างนั้นจึงหันไปมองคนที่ตะโกนก่อนจะลุกจากตัวข้าและรีบหนีไป ทิ้งให้ข้านอนอยู่บนพื้นหญ้า ให้ตายสิ เจ้าเด็กไร้มารยาท ข้ารีบลุกขึ้นยืนก่อนที่เจ้ามนุษย์ที่น่าจะเป็นนักล่านั่นจะเดินมาตรงที่ข้าอยู่และเหยียบข้าแน่ เพราะดูท่าแล้วมองไม่เห็นข้า
“นี่มัน...”
“เซราฟอะไรเหรอนั่น”
“เลือด...”
“ก็ของเจ้าอาสทัสไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ใช่นี่มัน...ไม่ใช่เลือดของเจ้านั่น...”
ข้าไม่ฟังบทสนทนาของเหล่ามนุษย์ต่อและลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า ข้าน่าจะลอยตัวไปตั้งแต่แรกก็น่าจะดีไม่น่าจะคิดออกกำลังกายเดินกลับที่พักของข้าเลย เพราะอย่างนี้ข้าเลยต้องมาเจอเรื่องบ้าๆ
ข้าจับตรงต้นคอที่ถูกกัดรอยเขี้ยวหายไปแล้วด้วย หวังว่าในร่างกายข้าคงไม่มีอะไรบุบสลายหรอกนะ -__-
‘ใครก็ได้ ได้โปรดช่วยฉันด้วย...’
และเสียงนั่นก็ดังในโสตประสาทของข้าอีกครั้งแต่ครั้งนี้กับได้ยินอย่างชัดเจนมาก เสียงของเจ้าหนุ่มนั่นกำลังขอความช่วยเหลือ และแน่นอนว่าข้าไม่ไปช่วยแน่นอน ใครจะไปช่วยเจ้ายุงดูดเลือดกัน =__= ปล่อยให้นักล่ากำจัดไปนั่นล่ะ
ชายหนุ่มรีบวิ่งหนีอย่างสุดชีวิตไม่มีแม้แต่เป้าหมายปลายทางที่จะไป แต่ไม่ว่าอย่างไรหากในตอนนี้เขาหนีไม่พ้นละก็ ชายหนุ่มต้องถูกกำจัดแน่ แต่เพราะได้สูบเลือดมาทำให้มีแรงขึ้นมา แต่ก็ได้แรงกลับมาค่อนข้างเยอะ เลือดนั้นช่างหอมหวานและรสเลิศที่สุดเท่าที่เขาได้ลิ้มรสมา
“!?”
เจ้าหนุ่มนั่นหยุดวิ่งเมื่อเห็นตัวข้าได้ยืนอยู่ขวางทางเบื้องหน้าของเจ้าหนุ่มอยู่ ถึงจะไม่อยากช่วยก็เถอะ....
“เลิกตะโกนขอความช่วยเหลือได้ไหมมันน่ารำคาญ!”
“นี่...นายทำไมถึง...”
ยังไม่ทันได้พูดอะไรนักล่าก็กระโจนตะครุบเจ้าหนุ่มนั่นเสียแล้ว ไม่นึกเลยว่าจะตามมาเร็วดีแท้ =__=
“ในก็ที่สุดก็จับเจ้าได้เสียทีนะ อาสทัส”
“ปล่อยนะ!!”
เจ้าหนุ่มนั่นดิ้นไปมา ก่อนจะเอื้อมมือมาทางข้า =__= จะให้ข้าช่วยสินะ เฮ้อ~~ ช่วยก็ได้...
จู่ๆสายลมพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงจนทุกคนตรงนั้นต่างต้องปิดตา สายลมที่ข้าสร้าง นักล่าต่างก็เอามือปิดหน้าถึงจะใส่ฮู้ดไว้ก็ใช่ว่าจะกันทรายที่จะเข้าดวงตาที่ไม่ได้มีการป้องกันอะไรเลยได้
ข้าใช้โอกาสนั้นช่วยเจ้าหนุ่มมาและพาลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าและหายลับไป ทิ้งสายลมรุนแรงนั่นไว้ให้นักล่าลำบากที่จะตามมาไปก่อน แต่เดี๋ยวลมนั้นมันก็สงบไปเอง…
ความคิดเห็น