คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Indication - การแสดง
"อะ...อืม...อือ..."
อรัญลิ้มรสความหวานบางสิ่งที่เป็นของแข็งและเป็นแท่งอย่างอดใจไม่อยู่ อรัญทั้งดูดเลียมันอย่างโหยหา เหงื่อที่เริ่มปุดออกจากร่างกายก็ไหลอาบร่าง
"อะ...อืม...อา...อร่อยจัง...อะ...อืม"
ใบหน้าอรัญถูกแต่งแต้มเป็นสีแดงระเรื่อทั่วใบหน้าแต่ที่เด่นชัดสุดคือที่แก้ม อรัญยังคงลิ้มรสมันอย่างไม่คิดจะหยุด และต้องการมากกว่านี้และมากขึ้นไปเรื่อยๆ
"อ๊ะ!?"
จู่ๆโรก็ร้องอุทานเพราะของเหลวหนืดสีขาวหยดเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าที่เขาใส่
"นายท่านระวังหน่อยสิเจ้าค่ะ กินไอติมแท่งก็กินแบบรัญจังสิเจ้าค่ะ"
ทั้งสองคนมองไปยังอรัญที่ทำหน้าบอกได้เลยว่าร้อนมากห้องนี้ ร่างกายและใบหน้ามีเหงื่อซึมออกมามาก ตอนเล่นเกมมาก็ไม่ร้อนอะไรขนาดนี้แต่ตอนนี้มันร้อนขึ้นมาจนแทบจะคลั่ง
“แต่แบบนั้นมันดูไม่ค่อย...ดีหรอกมั้งนะ...."
โรที่มองไปยังอรัญก็ส่ายหน้าโบกมือไม่ทำตามเพราะจะให้ทำอย่างอรัญคงดูไม่ดีแน่ อรัญทั้งดูดและเลียไอติมแบบสลับกันไปมาไม่สนว่ามันจะทุเรศหรือไม่
"ไอติมแท่งนะเจ้าค่ะก็ต้องกินแบบรัญจังมันถึงจะถูกเจ้าค่ะ"
เพราะคิดว่ากินแบบอรัญมันอาจจะทำให้เขาทำหน้าแปลกๆก็เป็นไปได้ เลยแค่ค่อยๆเลีย และส่วนที่กินไม่ทันนั้นก็หยดใส่เสื้อของเขาเสียเองจนมันเปรอะเปื้อนเหนียวไปหมด
แต่ว่าตอนนี้โรก็ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นเลยสักนิด
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ย้อนไป
"พอเถอะ! นารี"
"!?"
อรัญพูดขึ้นเสียงทำให้นารีและโรต่างสะดุ้งตกใจ โรมองไม่เห็นสีหน้าของอรัญในตอนนี้เลย ทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวเหมือนกับว่าอรัญที่อยู่ตรงนั้นไม่ใช่คนที่เขารู้จัก
"เธอรู้สินะว่าฉันมาที่นี่เพื่ออะไร? คงรู้ดีอยู่แก่ใจ"
อรัญทำหน้าเคร่งเครียดมองไปยังนารีที่ทำหน้าสลดและพยักหน้าแทนคำตอบ เธอรู้ดีอยู่แล้วล่ะนะอรัญ เธอจ้องมองอรัญอย่างไม่ละสายตา
"เพราะงั้นฉันขอโทษจริงๆนะ ที่ฉันไม่สามารถทำสำเร็จ"
"ไม่เป็นไรหรอกรัญจัง ก็รัญจังพยายามเต็มที่กับภารกิจแล้วล่ะนะ"
"แต่ว่า... ฉันก็ยังรู้สึกผิดมากเลยล่ะ"
ทั้งสองคนทำหน้าเศร้าสลดกันไป แต่ก็มีคนทำหน้าเอ๋อไม่เข้าใจอะไรเลย ใช่แล้วจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากโร นี่ทั้งสองคุยเรื่องอะไรกันอยู่? อย่าทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นคนนอกแบบนี้สิ
"ดะ...เดี๋ยวนะทั้งสองคน กำลังคุยเรื่องอะไรกัน?"
โรงุนงงไม่เข้าใจทั้งสองกำลังพูดเรื่องอะไร แล้วที่นารีรู้มันเรื่องอะไรกัน ทั้งสองก็ให้ความสนใจมาที่โรแทน ทั้งสองไม่อยากเล่าเรื่องราวของตนให้ฟังเสียเลย...
"เราทั้งสองกำลังคุยเรื่องภารกิจกันอยู่น่ะเจ้าค่ะ"
ยิ่งงงหนักกว่าเดิมอีก แล้วทำไมนารีถึงรู้ได้กันล่ะ? พวกเขาทั้งสอง อรัญและโรแค่บังเอิญมาเจอนารีที่นี่เท่านั้นเอง และไม่คิดง่าดดอลเลดี้จะเป็นนารีด้วยในตอนแรกเสียด้วย ถึงโรจะเอะใจแล้วก็ตาม
"อ๊ะ!? นารี โรเขาไม่รู้เรื่องนี้หรอกนะ"
"จะว่าไปมันก็จริงนะเจ้าค่ะ"
เขาไม่รู้เรื่องนี้? ภารกิจที่ทั้งสองดูเคร่งเครียดมันไม่ใช่ภารกิจที่อรัญรับมาให้กำจัดดอลเดเลดี้นั่นหรอกเหรอ? แล้วมันเป็นภารกิจอะไรกัน? ช่วยกรุณาเล่าให้ฟังทีไม่เช่นนั้น โรก็รู้สึกเหมือนเป็นคนนอก
"คือว่านะ นายท่าน..."
"มันเป็นภารกิจที่ฉันกับนารีคิดกันเล่นๆแล้วฉันก็ทำไม่เสร็จ ก็เลยได้แต่กลัวว่านารีจะโกรธไหม และพอมาเจอก็ยิ่งกังวลกลัวโดนนารีงอน แต่ดูแล้วเหมือนนารีจะไม่ได้เป็นแบบนั้นรู้สึกโล่งอกเลยล่ะ"
นารีที่จะอธิบายให้โรฟัง แต่ก็ถูกอรัญแย่งบทพูดอธิบายไป แถมยังมีสารภาพความรู้สึกมาด้วย ถึงอยากจะงอน แต่นารีก็ไม่ใช่ปีศาจที่จะมีความรู้สึกแบบนั้นอยู่หรอก...มั้งนะ มันก็ยังไม่ค่อยเคลียร์เท่าไรแต่ก็เป็นภารกิจที่แค่เล่นๆกันก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
"ตามตรงเลยนะ รัญจัง คือตอนแรกฉันก็ลืมไปเหมือนกัน แหะๆ เพิ่งมาได้ตอนที่กำลังคิดๆว่าของหวานครบรึยังน่ะ"
"เอ๋~~ ใจร้ายพอฉันรู้ว่าเป็นนารีก็เริ่มรู้สึกกังวลเครียดขึ้นมาเลยนะ"
อรัญเอาคางวางไว้ที่ขอบของพนักพิงเก้าอี้และมองนารีด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวไปตามอารมณ์ ในตอนนี้อรัญทำแก้มป่องและทำสายตาสื่อว่าไม่ค่อยพอใจเสมองไปทางอื่น หรือก็คงจะเป็นอาการของคนงอน
"ขอโทษนะรัญจัง"
เธอได้แต่กล่าวคำขอโทษ ที่น่าจะพอทำให้อรัญหายงอนขึ้นมานิดหนึ่ง ถึงอย่างนั้นแค่กล่าวคำขอโทษใช่ว่าทุกอย่างจะจบลง แต่เรื่องนี้มันไม่ได้เป็นอะไรที่ร้ายแรงและอรัญก็ไม่คิดอะไรมาก อีกอย่างนารีก็คิดไว้แล้วล่ะว่าอรัญไม่มีทางทำมันสำเร็จได้หรอก
"ก็ได้ ยอมยกโทษให้ก็ได้"
เปลี่ยนอารมณ์เร็วไปไหม? เมื่อตะกี้ยังทำหน้างอนมองไปทางอื่น แต่จู่ๆก็หันมามองแล้วพูดจบยกยิ้ม ลืมเร็วไปรึเปล่านะนั่น? ถึงอรัญจะยิ้มแย้มยกโทษให้ แต่ภายในใจนั้นยากที่ยกโทษให้ตัวเขาเองที่ทำไม่สำเร็จแถมยังลืมเรื่องนี้ไปอีก
"ไหนๆก็ปรับความเข้าใจกันไปแล้ว... ก็มาเล่นเกมอีแก่กินน้ำกันเถอะ~~"
ดูท่าเจ้าของที่นี่จะไม่ยอมให้แขกได้นั่งอย่างสงบเลย ชวนคุย ชวนเล่นไปเรื่อย แน่นอนว่าอรัญก็ไม่รู้จะทำอะไรก็ยอมตกลงเล่น โดยที่โรก็ถูกบังคับให้มาเล่นด้วย
ทั้งสาม อรัญ นารี โร และตุ๊กตาอีก 4 ตัวก็ร่วมเล่นด้วยกันมาหลายเกม จนภายในห้องจู่ๆก็ร้อนขึ้นมาอย่างกะทันหัน โรและอรัญต่างก็คิดว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ยังไม่ปริปากพูดอะไร แต่อรัญนั้นอยากจะถาม หากแต่ยังไม่ทันพูดอะไรออกมานารีก็ยื่นของหวานแสนเย็น ไอติมแท่งให้ทั้งสองทาน...
อรัญกลืนคำถามลงคอและรับไอติมแท่งมาทาน โรนั้นก็พอกันแทนที่จะถามเกิดอะไรขึ้นแต่ดันถามวิธีกินของหวานแสนเย็นนี้แทน โดยนารีแนะนำให้ดูอรัญ…
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
และเรื่องราวก็มาถึงปัจจุบัน
"นี่นารีทำไมจู่ๆห้องก็ร้อนขึ้นมาแบบนี้ล่ะ? ร้อนตับจะแตกแล้ว ไม่สิจะสุกได้ที่แล้วด้วย"
อรัญที่กินไอติมแท่งหมดก็ถามขึ้นมาพลางหยิบถุงน้ำแข็งที่ตุ๊กตาน้องกระต่ายยื่นให้มาและแปะหน้าผากเอาก็ลูบไล้ไปทั่วเพื่อลดความร้อน
"ก็นะ แบบว่ามันมีเหตุและก็ต้องมีผลสินะ เอาล่ะเรามาดูกันที่เหตุดีกว่า"
นารีเดินไปยังรูปขนาดใหญ่ที่เป็นรูปป่าไม้ที่มีเพียงรูปเดียวในห้อง เธอแตะกรอบรูปภาพนั้น ภาพก็เปลี่ยนไปทันที กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ถือดาบค่อนข้างยาวมากกำลังปะทะกับฝูงตุ๊กตา
"เขาเป็นนักเรียนคลาสปราบมารที่อยู่ข้างๆเมืองสเกลาร์แห่งนี้ชื่อนภา แล้วเขาก็เป็นคนรักของฉันเอง"
นารีพูดเล่าด้วยท่าทางเขินอายบิดตัวไปมาเป็นอะไรซักอย่าง แต่อรัญเขาคิดว่าไม่น่าใช่แบบนั้นอย่างแน่นอนเพราะคนที่ชื่อนภาเล่นทำหน้าโกรธแค้นและเชือดตุ๊กตาตัวพวกนั้นอย่างไม่มีความปรานี คงเป็นรักแบบแค้นจนอยากฆ่าสินะ
"ล้อเล่นเจ้าค่ะ เขาคือนักปราบมารที่ค่อยมากำจัดฉันทุกครั้งที่เขารู้ว่าฉันอยู่ไหนล่ะนะ เลยรู้จักเขาน่ะเจ้าค่ะ"
เพราะสีหน้าของอรัญและโรที่บ่งบอกว่าไม่น่าใช่ ทำให้นารีต้องเฉลยความจริงออกมาด้วยท่าทางที่ลำบากใจนิดหน่อย และเมื่อได้ยินคำว่า ‘ปราบ’ อรัญก็นึกเหตุผลจริงๆที่ลืมไปของการมาที่นี่ได้
"จะว่าไปฉันมาที่นี่ก็เพื่อต้องการกำจัดดอลเลดี้ เอาคะแนน 1 แสน"
"อะไรนะเจ้าค่ะ!? รัญจังจะกำจัดฉันเหรอ อึก ฮือๆๆ"
อรัญพูดจุดประสงค์ที่มาที่นี่ออกมาลอยๆ ลืมเสียสนิทเลย โรมองอรัญอย่างเลื่อนลอย เพิ่งจะระลึกชาติได้เหรอ? นารีได้ยินอย่างนั้นก็บีบน้ำตาร้องไห้โฮออกมา กระโจนเข้ากอดอรัญ
"ฉันไม่ทำหรอกน่า ก็เป็นนารีนี่นาถ้าเป็นคนอื่นเชือดตั้งแต่เห็นหน้าและ""
ทุกตนที่อยู่ที่นั่นรู้สึกได้ว่าคำพูดของอรัญมันเหมือนมีอะไรอย่างแอบแฝงมาด้วย อรัญพูดพร้อมกับกดความรู้สึกที่อยากจะเชือดเจ้าของวางกับดักพวกนั้นทิ้งเสียซะ
"จริงนะ"
"จริงสิ"
"แน่นะ"
"แน่สิ"
“sure?”
“พอเถอะ เบื่อตอบ...”
นารียังคงกอดอรัญไว้แน่น ว่าแต่เล่นกอดกันแบบนี้ก็ทำให้อรัญรู้สึกร้อนกว่าเดิมขึ้นอีก ช่วยกรุณาปล่อยทีได้ไหม?
"แล้วจะเอายังไงต่อล่ะอรัญ?"
โรถามขึ้นทั้งที่กำลังกินไอติมแท่ง ยังไม่หมดอีกเหรอ? ไม่สิยังไม่ละลายจนหมดอีกเหรอ? ทั้งสองอรัญและนารีก็มองหน้ากัน
"นี่ฉันต้องเป็นคนคิดสินะ"
"รบกวนด้วยนะ รัญจัง แหะๆๆ"
“ถ้าอย่างนั้น นารีร่างจริงของเธอยังอยู่ทวีปเอเชียใช่ไหม?”
“ใช่แล้วล่ะเจ้าค่ะ ทำไมเหรอ?”
“ถ้าร่างของเธอที่อยู่นี่ถูกทำลายเธอจะเป็นอะไรมากไหม?”
“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะแค่ความรู้สึกเจ็บนิดหน่อยจะถูกส่งไปที่ร่างต้น และอีกอย่างใกล้ๆนี่ก็มีร่างฉันอยู่ด้วย แล้วถ้าอรัญจะทำลายฉัน ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก และก็ถเาฉันสามารถช่วยอรัญได้ ฉันก็จะช่วยเต็มที”
“ถ้าอย่างนั้นก็...”
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ทางด้านของนภาเขาใช้ดาบยาวปราบมารประจำตนร่ายรำเพลงดาบของเขาฟาดฟันทำลายตุ๊กตาที่ถือมีดไว้ทุกตัว เขาไม่มีการปรานีต่อตุ๊กตา เหล่าตุ๊กตาที่ถูกฟันก็จะกลายเป็นฝุ่นผงสีดำและสลายหายไป
"ชิ! ทำไมเจ้าพวกตุ๊กตานี่มันถึงพยายามไม่ให้เข้าไปนะ"
เขาสบถออกมาเพราะว่าเขาก็ไล่ล่าดอลเลดี้มาหลายครั้งแล้วแต่ครั้งนี้ที่แปลกมาก ราวกับว่าพยายามขัดขวางไม่ให้เขาเข้าไปง่ายๆ ปกติจะเข้าไปได้ง่ายเพราะเหล่าตุ๊กตาจะไปรวมตัวกันที่ดอลเลดี้
เขาคิดได้เพียงแค่ว่าดอลเลดี้กำลังสู้กับคนที่กดรับเควสไปอยู่แน่ แต่ไม่คิดว่าดอลเลดี้จะชอบสู้เป็นรายคนมากกว่าสู้หลายๆคนพร้อมกัน
ในขณะที่เขากำลังฟาดฟันก็มีเงาขนาดใหญ่เกิดขึ้นทันที เปลวไฟถูกพ่นออกมาจากปากมังกรทำให้เหล่าตุ๊กตาถูกเผาและมลายหายไป
“ทำอะไรอยู่พ่อหนุ่มนัมเบอร์วันของคลาสปราบมารปีหนึ่ง”
มอคค่าตะโกนถามคำถามน้ำด้วยเสียงแบบกวนๆนิดหน่อย มังกรของเขาล่อนลงให้อยู่ในระดับที่นภาจะขึ้นมาได้
“ขึ้นมาสิ เราจะรีบไปกัน ถ้านักเรียนคลาสฉันเป็นอะไรขึ้นมา ประธานคลาสปราบมารอย่างเธอคงลำบากนะ”
นภามองมอคค่าด้วยสายตาเย็นชาและเฉียบคมเหมือนใบมีดแต่ก็ไม่เถียงไม่แย้งอะไร เขากระโดดขึ้นไปนั่งขี่มังกรแต่โดยดี
การขึ้นนั่งมังกรปีศาจทำให้เขาซึ่งเป็นนักเรียนคลาสปราบมารไม่ชอบเอาเสียเลย แต่ถ้ามันทำให้ไปถึงจุดหมายเร็วถึงจะไม่ชอบอย่างไรก็ต้องขี่มัน แต่ยิ่งมาซ้อนท้ายมอคค่าด้วยก็ยิ่งไม่สบอารมณ์แต่พอคิดถึงคำพูดของอาจารย์มอคค่าที่ว่า ถ้านักเรียนของคลาสฝึกปีศาจเป็นอะไรขึ้นมาเขาต้องลำบากหนักเพราะการลงเควสของคลาสปราบมารเป็นแน่
ไม่นานนักก็ถึงโรงงานเพราะเหล่าตุ๊กตาโจมตีอะไรมังกรตัวนั้นไม่ได้เพราะตุ๊กตาไม่อาจจะลอยสูงไปจู่โจมมังกรได้ แต่พอลงมาก็ต้องเตรียมสู้ทันทีเพราะเหล่าตุ๊กตามาเยอะกว่าเดิม
“ทำไมที่นี่มันถึงเยอะจังนะ”
มอคค่าบ่นออกมา เขาก็ต้องใช้ดาบของตนฟันเหล่าตุ๊กตาและรีบวิ่งเข้าโรงงานไปพร้อมกับนภา
พวกเขาก็วิ่งไปไม่ได้ไกลเท่าไรเลยเพราะเหล่าฝูงตุ๊กตามันยิ่งมีเยอะมากขึ้นและ ทำให้ทั้งสองคนและหนึ่งตนเข้าไปได้ยากขึ้น
“โถ่เว้ย!? ออกมาสิเฟ้ย!? เอาแต่ส่งตุ๊กตาพวกนี้มาอยู่ได้!!”
การตะโกนของนภาจบลง จู่ๆเหล่าตุ๊กตาก็กลายเป็นฝุ่นผง ทำให้ทั้งสามต่างงุนงงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นพวกเขาจึงรีบวิ่งเข้าไปในโรงงาน ยิ่งเข้าไปลึกความมืดก็ยิ่งปกคลุม แต่พวกเขาทั้งสองก็ไม่หยุดที่จะวิ่งและมุ่งตรงเข้าไป
พอเข้ามาวิ่งตรงลึกเข้ามา พวกเขาก็เห็นแสงสีแดงที่รอดผ่านประตูที่เปิดแง้มไว้ พวกเขาก็รีบวิ่งเข้าไปและเปิดประตูออก
ทุกสิ่งถูกย้อมเป็นสีแดงด้วยเปลวเพลิง ตุ๊กตาเด็กสาวงดงามที่เหมือนกำลังค่อยๆพังยืนอยู่กลางห้องโดยมีชายหนุ่มกำลังจับดาบที่เสียบทะลุกลางอกของตุ๊กตาหญิงสาวงดงามนั้น และเด็กหนุ่มกำลังยืนอยู่โดยตามร่างกายมีบาดแผลและเลือดไหลออกมา เสื้อผ้าขาดตามรอยที่ถูกฟันถูกกรีดด้วยของมีคม และเด็กหนุ่มก็ล้มลงไปนอนกองกับพื้น
ชายหนุ่มดึงดาบที่เสียบทะลุตุ๊กตาเด็กสาวนั้นออกและดาบนั่นก็ถูกปล่อยให้หล่นลงพื้นพร้อมกับตุ๊กตากำลังกลายเป็นฝุ่นผงสีดำและสลายหายไป
ทั้งสามที่มาถึงก็ตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นก่อน มอคค่าที่ได้สติก็รีบเข้าไปหาอรัญที่นอนสลบกองกับพื้น แต่สายตาของนภากับจับจ้องไปที่โรและภาพในความทรงจำของเขาก็ซ้อนทับกับสิ่งที่เขามองในตอนนี้
ภาพของปีศาจตนหนึ่งที่ยืนอยู่โดยมีเปลวเพลิงเป็นฉากหลัง ร่างกายถูกเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดโลหิตของคนที่เขารู้จักมากมาย เลือดของคนในหมู่บ้านของเขาและเมื่อปีศาจตนนั้นหันมาใบหน้านั้นช่างเยือกเย็น และน่ากลัวจนทำให้ขาของเขาสั่นขึ้นมาเล็กน้อย
แต่เมื่อโรหันมาเขาก็ได้สติเพราะภาพซ้อนนั้นได้หายไป เพราะมีความแตกต่างกันไป เขามีใบไม่มีเค้าโครงหน้าเหมือนปีศาจตนนั้นเลยและสีหน้าของเขาก็เป็นใบหน้าที่ดูเป็นห่วงเป็นใยบางอย่าง โรรีบวิ่งไปหาอรัญทันที
“อรัญ! อรัญ!”
โรตะโกนเรียกชื่อของเจ้านายตนอย่างเคร่งเครียดผสมปนเปด้วยความห่วงใย เขาทำหน้าแบบว่ากลัวจะต้องสูญเสียคนสำคัญไป และพอได้ยินเสียงของโร นภาก็ยิ่งคิดว่า ‘ฉันเครียดมากหรือไรกันนะที่เห็นเจ้านี่เป็นปีศาจตนั้นทั้งใบหน้าและน้ำเสียงนั้น ไม่มีอะไรที่คล้ายคลึงจนต้องนึกถึง’
“อย่างไรก็รีบรักษาอรัญเบื้องต้นก่อนละกัน หลง”
หญิงสาวงดงามใช้มือสัมผัสกับร่างอรัญ แสงสีขาวพลันปรากฏขึ้นบนฝ่ามือและบาดแผลมากมายที่เกิดขึ้นบนร่างของอรัญก็ค่อยๆหายไป
เพดานในห้องเริ่มพังทลายลงเพราะถูกเปลวไฟที่กัดกิน พวกเขารีบออกจากห้องนั้นทันทีอย่างไม่รีรอชักช้าอะไร พวกเขารีบวิ่งออกมาจากโรงงาน
โรที่วิ่งออกมาก็ได้รู้ว่าห้องที่เขาอยู่มันไม่ใช่ห้องใต้ดินจริงๆด้วยแต่ เป็นห้องปิดตายและช่องที่อรัญและเขาร่วงลงไปนั่นก็เป็นประตูเชื่อมต่อทำให้เขารู้ว่านารีมีความสามารถในการเชื่อมโยงมิติเป็นเรื่องที่เขาไม่รู้มาก่อน
“เร็วเข้า!”
มอคค่าที่ออกมาเป็นคนแรกก็ตะโกนให้คนที่ยังไม่ออกมารีบวิ่ง
และเมื่อพวกเขาออกมากันหมดจนครบแล้ว โรงงานแห่งนั้นก็ลุกเป็นไฟทันที ทำให้พวกเขาต้องออกห่างออกมาอีก
“อรัญ”
โรเรียกชื่อของเจ้านายตนและกอดร่างของเจ้านายตนไว้แนบแน่นราวกับหวงหา มอคค่า หลงและนภาก็ได้เพียงแต่มองเท่านั้น เพราะก็รักษาไปเบื้องต้นแล้ว พลังของหลงไม่อาจทำให้มันหายได้ทันที บาดแผลยังคงหลงเหลืออยู่แต่มันก็ค่อยๆสมานกัน
“อย่างไรก็กลับโรงเรียนกันเถอะ”
ไม่มีใครพูดคัดค้านหรืออะไรอีกหลังจากมอคค่าพูด หญิงสาวกลายร่างเป็นมังกร แต่กลายร่างครั้งนี้มีมีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิมพอให้ทุกคนขึ้นไปนั่งบนหลังได้...
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
“อ๊ะ!? อา... มันรู้สึกแปลกๆจัง โร”
อรัญไม่มองโร เขาหลับตาและทนกับความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นกับตัวเขา
“เท่านี้ล่ะนะ”
โรพูดพร้อมกับมองของเหลวไหลออกมาจากอรัญ อรัญมองร่างกายตน ที่มีแต่บาดแผลเกิดขึ้นเต็มไปหมดแต่เขาไม่รู้สึกว่าเจ็บเลยสักนิดเดียว
“อรัญกินนี่เข้าไปนะ มันเป็นยานอนหลับ”
อรัญพยักหน้าและรับมา โยนมันเข้าไปปากทันทีที่อยู่ในมือ และเบนหน้าไปทางนารีที่กำลังทำให้ตัวเองดูเหมือนจะพังใบหน้ามีรอยร้าวตามแขนขาก็เช่นกัน
“เท่านี้ก็ใช้ได้แล้วสินะ?”
นารีถามด้วยน้ำเสียงสดใสแถมยิ้มให้ในตอนท้ายด้วย อรัญที่มองก็พยักหน้าเป็นเชิงว่าการ Make up ของนารีใช้ได้
“ว่าแต่นะ แบบนี้จะใช้ได้จริงๆเหรอ?”
“เอาน่า ใช้ได้แน่นอน”
นารีถามพร้อมกับลุกขึ้นยืนและเดินไปยืนอยู่กลางห้อง อรัญก็เดินไปตรงจุดที่กำหนดไว้ และโรก็ถือดาบที่อรัญใช้พลังสร้างขึ้นมาเดินไปตรงนารีและทำท่าเตรียมพร้อมจะแทงเข้าไป
“เอาล่ะนะ”
เปลวเพลิงลุกโชนขึ้นพร้อมกับคำพูดของนารี โรถอนหายใจนิดหน่อยและใช้ดาบที่ถือแทงไปยังกลางอกของนารี สักพักไม่นานนัก มอคค่า หลง และนภาก็เข้ามาเห็น ยานอนหลับออกฤทธิ์พอดีทำให้อรัญพลอยหลับไปและล้มลงกับพื้นเลือดออกจากบาดแผล ที่โรกรีดเอาไว้แต่เขาก็ไม่รู้สึกเจ็บเพราะโรใช้ยาชาพิเศษ และทุกสิ่งก็เป็นไปตามแผนอรัญวางไว้หมดทุกประการ
ตุ๊กตางดงาม นารี ก็ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ร่างตุ๊กตาของเธอที่อยู่อีกฝั่งของทางเข้าออกโรงงาน เธอยิ้มอย่างระรื่นและออกเดินไปทิศทางตรงข้ามกับพวกอรัญ แต่เธอก็รู้สึกเจ็บนิดหน่อยจากการไม่ชินร่างเพียงเท่านั้น เธอไม่มีวันตายจนกว่าร่างต้นหรือร่างจริงของเธอจะพัง เธอสามารถย้ายไปสิงตุ๊กตาธรรมดาก็ยังได้ขอแค่เป็นตุ๊กตาไม้เท่านั้น
และนี่คือเบื้องหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น....
ความทรงจำของโรเวล
ในตอนนี้ข้ากำลังจ้องมองปีศาจด้วยสายตาเยือกเย็นในขณะที่ฝ่ายนั้นมองข้าด้วยสายตาหวาดหวั่นร่างกายถูกเสียบทะลุจากคมดาบของลูกน้องตน
“แกเป็นใครกัน”
ข้าเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วไปยืนอยู่ตรงหน้าของมันและใช้เท้าเหยียบหัว ให้หัวแนบติดไปกับพื้น และจ้องมองลงอย่างเหยียดหยาม
“ตอบคำถามของข้ามา”
“อึก!”
เสียงแสดงความเจ็บปวดของเจ้านี่ดังขึ้นหลังจากที่ข้ายกเท้าขึ้นและกระถีบลงไปซ้ำที่เดิม แต่ข้าก็ไม่ได้รุนแรงมากนักเพราะถ้าแรงเกินไปอาจทำให้เจ้านี่ตายได้
“ชาวเมืองที่นี้แค่ทำตามคำสัญญาที่ให้กับข้าเท่านั้น”
“คำสัญญา?”
“ใช่แล้วล่ะ ข้ากับคนในหมู่บ้านให้คำสัญญากันไว้ว่าถ้าสร้างที่นี่ให้เป็นเมืองของข้า ข้าจะมอบความสุขให้”
ข้าหันไปมองทางอื่นและยกเท้าที่เหยียบจ้านั่นออกก้าวเดินไปยังสถานที่ที่ผู้คนในหมู่บ้านกำลังทำงานกันอย่างหนักทุกข์ทรมาน
ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล สีหน้าแสดงความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด ข้าไม่คิดว่าเจ้านั่นจะมอบความสุขให้พวกเขาได้หรอกนะ แต่พลังงานบางอย่างที่ไหลเวียนที่อยู่ที่นี่มันคืออะไรกันแน่ ชวนคลื่นไส้ที่สุด
“ทุกคนจงฟัง!!”
ข้าตะโกนออกไปทำให้ทุกคนหันมามองข้าเป็นตาเดียวกัน ใบหน้าบางคนที่กำลังเจ็บปวดก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยราวกับว่าเห็นข้าเป็นอะไรบางอย่างที่วิเศษ?
เมื่อข้าให้ลูกน้องของเจ้านั่นแบกร่างมันมาด้วยทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึง
“จงตอบข้ามา พวกเจ้าทำงานที่นี่เพื่อหมอนี่อย่างเต็มใจหรือเปล่า?”
“พวกเราถูกเจ้านั่นข่มขี่มาตลอด!!”
“แล้วพวกเจ้าสัญญาอะไรกับเจ้านี่รึเปล่า?”
“ไม่!!”
ดูท่าจะหาบทสรุปได้แล้ว ข้าหันไปมองเจ้านั่นที่กำลังตัวสั่นและแสดงสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด ว่าแต่...พลังที่นี่น่าคลื่นไส้ชะมัด
ข้าหันไปทางคนในหมู่บ้านและยื่นมือออกไปหาพวกเขาและกำมือที่แบอยู่ทำให้พวกเขาสลายเป็นฝุ่นผงไปบางคน คนที่เหลือต่างก็กรีดร้องและแสดงความหวาดกลัวออกมา เจ้าพวกนี้...
‘นี่โรเวลช่วยเขาคนนั้นที่เถอะนะ’
จู่ๆ ข้าก็ได้ยินเสียงคนที่ข้ากำลังออกตามหาอยู่ในตอนนี้ อยากได้ยินมากกว่านี้ และสติก็เลือนลางลง มีเพียงแค่เสียงเพลงนั้นเท่านั้นที่ข้าได้ยิน... อ๊ะ!? สติของข้ากลับมาเมื่อข้ารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นพล่านขึ้นมา ข้าหันไปมองและพบกับชายหนุ่มที่ข้าได้ช่วยไว้กำลังใช้มีดเสียบทะลุหัวใจของข้า แต่หาใช่ว่าข้าจะตาย แต่ข้าก็ได้สติและมองไปยังสิ่งรอบข้าง บนพื้นถูกแต่งแต้มแปดเปื้อนไปด้วยสีเขียวราวกับว่าสิ่งนั้นเป็นหยาดโลหิต
“ตื่นได้แล้ว เห็นเจ้าใจลอยก็เรื่อยปลุกวิธีนี้ล่ะนะ”
ชายหนุ่มคนนั้นดึงดาบออกมา ใบหน้าแสดงสีหน้าพึงพอใจอะไรบางอย่าง นี่ข้าทำอะไรลงไป จำไม่ค่อยได้เลย...
“มันเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อข้าถามอย่างนั้นชายหนุ่มคนนั้นก็ดึงดาบที่แทงทะลุหัวใจข้าออก
“ขอบคุณที่ปลดปล่อยข้า”
ใบหน้าแย้มยิ้มอย่างน่าขนลุกปรากฏขึ้นใบหน้าของชายหนุ่มคนนั้นแต่ข้าก็จ้องมองใบหน้านั้นอย่างเรียบเฉย
“ข้าอยู่ที่นี่มาเนิ่นนานเพียงลำพัง ข้าเป็นปีศาจที่ครอบครองพื้นดินแห่งนี้ จนกระทั่งกลุ่มปีศาจพวกนี้ผนึกข้าไว้และเอาพลังของข้าไปใช้ตามใจชอบ และใช้เลือดของพวกมันเองที่ได้รับพลังจากคริสตัลนั่นเปลี่ยนเลือดสีเขียวของพวกมันให้กลายเป็นสีแดงและมีพลังบางอย่างที่ใช้สะกดข้า แต่พอเจ้าฆ่าพวกมันทำลายคริสตัลนั่น ข้าก็ตื่นขึ้นมา ข้าเป็นหนี้เจ้าเสียแล้วสินะ ท่านโรเวล...”
ข้าฟังชายหนุ่มนั่นเล่าเรื่องอย่างไม่ค่อยเข้าใจกระทั่งเจ้านั่นเรียกนามของข้าออกมา
“เจ้ารู้นามของข้าได้อย่างไรกัน”
“นี่เจ้าลืมข้าไปแล้วเหรอเนี่ย ช่างเถอะ ข้ามีนามว่า เดส ข้าจะทำตามสิ่งที่เจ้าร้องขอเอง ท่านโรเวล..”
ข้ายังคงไม่เข้าใจอะไร ไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายคนนี้หรือเดสนั้นบอกกล่าวเลยสักนิดเดียว...
ความคิดเห็น