ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Otaku Girl มัดหัวใจยัยคนบ้าตูน

    ลำดับตอนที่ #4 : มันอะไรกันแน่!?

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 57


    ทั้งสองคนเป็นอะไรกันแน่นะ? เมฆานั่งขุ่นคิดอย่างมากโดยไม่ได้ตั้งใจฟังอาจารย์สอน

     

    "นายเมฆาตอบคำถาม"

    เขาก็ยังคงเหม่อลอย

    "นายเมฆา!!"

    "ครับ!?"

    "เหม่ออะไร ตอบคำถามมา!!"

    อาจารย์น่ากลัวชะมัด เมฆาก็ชั่งกล้าเหม่อในอาจารย์วิชาชีวที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหด น่านับถือสำหรับคนไม่ดีจริงๆ

    "อ่า...คำตอบคือ..."

    เนตรที่นั่งข้างๆยื่นกระดาษคำตอบให้ดู

    "ไซเล็มครับ"

    "งั้นถามอีกข้อ วาสคิวลาร์เรย์ มีอยู่ในใบเลี้ยงเดี่ยวกับใบเลี้ยงคู่ไหม? และมีลักษณะอยู่เป็นอย่างไร "

    "อ่า...ในใบเลี้ยงคู่มีแต่ใบเลี้ยงเดี่ยวไม่มี ส่วนลักษณะก็เป็นกลุ่มท่อเรียงตัวเป็นวง"

    "เชื่อมต่ออะไรกับอะไร!?"

    เล่นตะโกนถามแบบนี้เล่นเอาเกือบหัวใจวายสุดๆ

    "ชะ...เชื่อมต่อระหว่างคอร์เทกซ์ละ...และพิธ ครับ"

    อาจารย์มองเมฆาอย่างเรียบเฉย เมฆาก็เริ่มเหงื่อตกมากขึ้น คนในห้องต่างก็ลุ้น อาจารย์รู้ดีการที่เมฆาตอบคำถามได้เพราะเพื่อนที่นั่งข้างๆ เอาเถอะ ผ่อนคลาย ผ่อนคลาย

    "ถูกนั่งได้แล้วก็ตั้งใจเรียนหน่อย ถ้าไม่สบายก็ไปห้องพยาบาลซะ"

    พูดจบอาจารย์ก็เริ่มสอนต่อ เมฆาก็เกือบใจหายถ้าตอบไม่ได้ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น เกือบไป เกือบไป แต่มันก็อดคิดไม่ได้เกี่ยวกับเมื่อตอนกลางวัน
     

    เมื่อตอนที่เมฆาได้ตามหาเพื่อบอกกลับด้วยกันนั้นไม่ได้แล้วแต่แล้วก็ไปเจอกาลคุย กันอย่างสนุกสนานกับคิวและดันไปได้ยินประโยคที่ข้องใจอย่างถึงจะแนะนำตัวกัน ไปแล้วก็เถอะ

    ณ ตอนนั้นเมื่อทั้งสองหันมาเจอเมฆาก็ตกใจเล็กเล่นโผล่มาบอกไม่ให้ซุบให้เสียง

    "เหวอ!? เมฆานี่คุณมาทำอะไรที่นี่เหรอครับ?"

    คิวถามพร้อมกับรอยยิ้ม และรอยยิ้มนั้นทำให้คิวดูดีและหล่อขึ้น 70%

    "มาเข้าห้องน้ำ แล้วทั้งสองคนละ?"

    ทั้งสองมองหน้ากัน เป็นเชิงสื่อสารว่าเอาไงกันดี ทำไมต้องทำแบบนั้นละ!? เมฆาเก็บความรู้สึกอยากชกหน้าคิวไว้และกล้ำกลืนถามออกไป

    "พวกเรามาคุยเล่นกัน"

    คิวพยักหน้าเพื่อเป็นการที่จะยืนยันเรื่องที่กาลได้กล่าวมา

    "ว่าแต่ว่าทำไมนายต้องมาถามพวกเราด้วย ฉันกับกาลจะทำไปไหนหรือคุยอะไรก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนายนิน่า"

    คิวขมวดคิ้วและถามออกไป ใช่ทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกันนิน่า

    "คิว ไม่ใช่ว่าเมฆาจะไม่เกี่ยวนะ"

    "เอ๊ะ!?"

    "ฉันกับเมฆาเป็นแฟนกันน่ะ"

    เมื่อกาลบอกเรื่องความสัมพันธ์ของเธอในตอนนี้ให้ฟัง คิวถึงกับตะลึงจนไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน เมฆาก็อยากรู้ความสัมพันธ์ของทั้งสองแต่ก็ต้องไว้ถามทีหลังหรือจะถามเลย เพื่อจะให้คิวรู้ด้วย

    "นี่กาลแล้วคิวเป็น..."

    "เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เพื่อนธรรมดาแต่เพื่อนสนิทกันสุดๆเลยละ ใช่ไหมละคิว"

    กาลหันไปถามอย่างร่าเริง คิวที่ไม่รู้อะไรก็นิ่งพักใหญ่ เมื่อกาลเรียกชื่ออีกครั้ง ก็รีบตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มตามปกติ

    "ใช่แล้วละครับ"

    "นี่ก็จะเริ่มเรียนและขึ้นห้องเรียนกันเถอะ"

    "อ๊ะ!? กาลวันนี้ฉันกลับกับเธอไม่ได้โทษนะ"

    เมฆาทำหน้าสลดสุดที่ต้องมาเรื่องนี้ แต่ก็น่าจะดีกว่าฝากเพื่อนมาบอกเพราะถ้าฝากคงโดนว่าทีหลังแน่ กาลก็มองเมฆาและขุ่นคิดนิดหนึ่ง

    "เอาเถอะนะ ถ้าเมฆาไม่ว่างก็ไม่เป็น แต่ฉันจะยกโทษให้ ถ้ามาบอกด้วยตัวเองแบบนี้ละนะ"

    เธอยิ้มออกมาถึงจะดูน่ารักแต่รู้สึกถึงความโกรธนิดๆ แบบนี้มันน่ากลัวเหมือนกันนะ แต่เขาคิดถูกจริงๆที่มาบอกเอง เพราะว่าเขาเริ่มเดานิสัยของกาลได้แล้ว

    "พวกนายก็รีบขึ้นห้องนะ ฉันไปละ"

    "อืม แล้วจะโทรไปหานะ กาล"

    เมื่อเมฆาพูดจบกาลก็เร่งรีบฝีเท้าไปยังห้องเรียนของตน ปล่อยให้สองหนุ่มหล่ออยู่กันสองคน

    "แฟน...เหรอ"

    จู่ๆคิวก็พูดขึ้นมาลอยๆ เมฆาหันไปมองงุนงงกับคิว

    "นายเนี่ยมีดีตรงไหนกัน"

    "หา!? ก็หล่อนิสัยดีไง"

    เมฆา พูดเหมือนประชดประชันพอๆกับคิวที่ถามออกไป คิวแสยะยิ้มออกมาเหมือนกับการที่นายจะเป็นแฟนของกาลแต่เขาต้องถือไพ่ที่ เหนือกว่าอย่างแน่นอน

    "ฉันน่ะรู้จักกาลดีกว่านาย"

    "รู้จักดีกว่า? แล้วไงยังไงกาลก็เป็นแฟนฉัน เธอต้องเลือกฉันแน่นอน"

    "หึ กาลน่ะเขาไม่สนใจเรื่องซุบซิบข่าวลือ แต่ถ้ากาลรู้จะเป็นไงกันนะข่าวลือของนาย"

    คิวทำสายตาเย็นชาและมีพลังดุดันอย่างรุนแรง หมายความการที่กาลกับเขาคบกันได้โดยที่กาลไม่หวาดระแวงนั้นเพราะว่าเธอไม่ รู้อย่างนั้นเหรอ?

    "..."

    การที่เมฆาเงียบและเหงื่อตกแบบนี้ แปลว่ารู้สินะว่ากาลไม่รู้เรื่องของเขาถึงข่าวจะแพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียนก็ตาม

    "แปลว่าใช่สินะ ถ้าเอาไปบอกจะเป็นไงกันนะ"

    เจ้านี่มันร้ายจริงๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยให้ตายสิ อย่างที่เนสบอกจริงๆ ซื่อๆ ต๊องๆ แต่ร้ายลึก

    "ขะ...ขอร้องละอย่าบอกเรื่องนี้เลยนะ"

    "เอาไงดีนะ?? "

    ชิ! น่าโมโหชะมัด แต่ถ้ากาลรู้เรื่องข่าวลือของเราคงจะไม่ดีแน่ โถ่เว้ย!

    "จะไม่บอกก็ได้ แต่ถ้ามีเดทกันก็โทรหาฉัน ให้ฉันไปด้วยละกันนะ"

    แบบนั้นมันเป็นการขัดขวางการเดทนิน่า ไม่สิ ไม่แน่หรอก เราจะทำให้เห็นว่ากาลเลือกเขาแต่ก็หวั่นเรื่องข่าวลือนั่นอีก ถ้าหากคิวมันอยากให้เลิกกับกาลแล้วละก็สู้บอกเรื่องนั้นให้กาลเลิกกับเขาก็สิ้นเรื่องแล้วแท้ๆ ปล่อยให้มันดำเนินต่อไปแบบนี้น่ะเหรอ

    "กะ...ก็ได้"

    "ฉันจะเอากาลมาจากนาย กาลจะต้องเป็นแฟนฉัน"

    สายตาดุดันนั่นอีกแล้ว เจ้าคิวนี่เป็นคนอันตรายชัดๆ แต่ทำแบบนี้เหมือนบังคับขู่เข็ญชะมัด

    "ถ้านายอยากเป็นแฟนกับกาลแล้วทำไมไม่บอกแล้วทำให้ฉันกับกาลเลิกกันเลยละ"

    เมฆามองคิวด้วยสายตาราวกับว่าจะกินเลือดกินเนื้อ การแสดงออกแบบนี้ทำให้คิวรู้สึกดีที่ตนเหนือกว่า

    "นายก็ลองใช้สมองตัวแกคิดเองสิ หึ"

    สีหน้าเย้ยหยันบวกกับคำพูดแล้วคูณด้วยน้ำเสียงเป็นสมการใหม่ที่ชวนทำให้คนได้ยินอย่างเมฆาอยากจะชกจนเสียโฉมมากไอ้หน้าตาหล่อเหลานั่น

    "ฉันไปละนะ"

    คิวหันหลังแล้วเดินจากไป ถึงจะไม่อยากเห็นแต่ดันอยู่ห้องเดียวกันมันก็ต้องเจอแต่ถ้าคิวไม่มาก็ไม่ ต้องเห็นหน้า แต่ดูท่าคิวจะเป็นคนร่างกายแข็งแรงและสุขภาพร่างกายดีละนะคงต้องทนแล้วละ และก็มาสถานการณ์ปัจจุบันที่เมฆานั่งนึกย้อนไปเมื่อตอนกลางวันจนไม่มีสมาธิในการเรียน และแล้วคาบเรียนวันนี้ก็มันลงไป

    "เนตรฉันมีเรื่องปรึกษานาย"

    เมื่อเนตรได้ยินอย่างนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น มันจะปรึกษาอะไรกันนักกันหนา

    "มีไร"

    น้ำเสียงที่พูดออกมาแสดงถึงความหงุดหงิดได้ชัดเจน คงเพราะการบ้านเยอะละนะวันนี้

    "นายหงุดหงิดอยู่มันคงไม่ดีหรอกที่ฉันจะปรึกษา"

    ใช่แล้วเพราะถ้าปรึกษาตอนที่เนตรกำลังหงุดหงิดละก็คงพูดกระโชกโฮกฮากไม่ฟังอะไร และก็เมื่อให้คำปรึกษาจบก็จะบอกว่าปัญหาง่ายๆแบบนี้ยังแก้ไม่ได้ไปกินหญ้าไป แน่นอน เนตรสูดหายใจเข้าลึกๆและหายใจออกมาอย่างช้าและพอดี

    "ฉันอารมณ์ดีแล้ว"

    จะว่าอย่างไรดีถึงเนตรจะพูดและยิ้มออกมาแต่มันไม่ปกติจนเห็นได้ชัด ยังไงก็คงหงุดหงิดอยู่ดีสินะนั่น แต่เขาก็ต้องการคำปรึกษาความคิดเห็นตอนนี้เลย

    "งั้นเรื่องก็มีอยู่ว่า..."

    และแล้วเมฆาก็เล่าเรื่องเมื่อตอนกลางวันให้ฟังจนจบ

    "นายคิดว่าไงละเนตร เจ้าคิวมันคิดอะไรอยู่กันแน่"

    "แล้วนายคิดว่ามันคิดอะไรอยู่ละ"

    "ฉันไม่รู้ถึงถามไง"

    เมื่อเมฆาตอบออกไปเหมือนจะให้เนตรคิดคนเดียวแบบนี้ เนตรก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมา

    "นี่แกกะจะไม่ใช้สมองตัวแกเลย"

    เนตเลิกคิ้วมอง เมฆาก็ย้ำคำที่คิวเคยพูดเอาไว้

    "นายก็ลองใช้สมองตัวแกคิดเองสิ มันพูดบอกนี้จะให้ฉันทำตามคำแนะนำของมันรึไง "

    "ปัญญาอ่อน"

    เมฆาตะลึง ไหงว่าเขาแบบนั้นละ

    "ถ้านายมีเพื่อนที่ไม่ใช่ฉัน แล้วก็ซื่อโง่นายจะถามแบบนี้ไหมละ"

    "ไม่อ๊ะ"

    "แล้วนายจะทำไง"

    นั่นสิสุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่ใครอื่นก็ต้องเป็นเขาที่ต้องคิดเองเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างที่เนตรพูดละนะ แต่ตอนนี้เขามีเพื่อนที่ให้คำแนะนำเก่งแบบนี้จะคิดเองทำไม ต้องช่วยกันคิด

    "กะ...ก็คิดเอง แต่ฉันมีเพื่อนแสนฉลาดอย่างนายนิน่า"

    "เฮ้อ~~ ให้ตายสิ ฉันนี่ชั่งเป็นคนบ้ายอจริงเลยๆ ผับผ่าสิ งั้นฉันจะเดาออกมานะว่าการที่คิวไม่ไปบอกก็เพราะ"

    "เพราะ?"

    เมฆาตั้งตารอการคาดเดาของเพื่อนรักของเขาอย่างตื่นเต้นเพราะการคาดเดาของเนตรนั้นสุดยอดโอกาสที่จะตรงตามที่คาดไว้มีถึง 80%เลยละนะ....

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×