คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Witch_ตอนที่ 2
แสงแดดจากพระอาทิตย์ของวันนี้ทำให้ข้ารู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน ทำไมกันนะ อะไรในตัวข้ากำลังเปลี่ยนแปลงกัน ข้าตอนนี้กำลังยืนรอคอยเจ้าชายของข้า ในหัวใจข้าเต้นแรงทุกทีที่นึกถึงท่าน ข้าเป็นอะไรไปหรือ ทำไมหัวใจข้าถึงเต้นแรงเช่นนี้กันเล่า
“ เอลเลนเจ้ารอข้านาน ”
“ไม่เลยละเจ้าค่ะ”
“ดีจังที่ไม่ให้เจ้ารอนานมาก”
“ไม่ต้องกังวลหรอกเจ้าค่ะ”
“ขอโทษจริงๆนะ”
เจ้าชายทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดอย่างมาก เขาทำสีหน้าที่บ่งบอกว่าเขารู้ว่าข้ามารอ อา...อย่าทำห้าเช่นนั้นเจ้าชายที่รักของข้า ท่านทำให้ข้ามีความสุขกับสีหน้านั้นของท่าน... แต่มันก็รู้สึกเจ็บปวดด้วย ทำไมกันนะที่ข้าถึงได้เจ็บปวดที่เห็นหน้านั้นของเจ้าชาย ข้าควรจะดีใจสิ นี่มันเกิดอะไรกับข้ากันแน่นะ
ข้ากับท่านเจ้าชายที่รักของข้าก็คุยกันอย่างสนุกสนานตามเดิมเหมือนที่เคยทำกัน มาที่ได้รู้จักพบปะกัน เจ้าชายที่รักของข้าท่านก็มักจะเล่าเรื่องราวแสนสนุกและมีสันให้ข้าฟังตลอด มันทำให้อะไรบ่งอย่างในหัวใจของข้ากำลังพังทลายลง ข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่
“ นี่ก็ผ่านมานานเกือบครึ่งปีแล้ว เอลเลน เจ้าทำใจเรื่องบ้านเกิดได้รึยัง ”
เมื่อท่านถามเช่นนั้นข้าก็ได้แต่แสดงสีหน้าเศร้าสลดออกไป เหมือนกับยังทำใจไม่ได้เท่าไรให้ท่านได้รับชมกับการแสดงของข้าเช่นนี้ ทำให้ท่านเจ้าที่รักของข้าเศร้าใจไปด้วยมันทำให้ข้ามีความสุข อ๊ะ!? อีกแล้วทำไมข้า ข้าถึงถึงเจ็บเหลือเกินหัวใจข้าเจ็บเหลือเกินที่เห็นท่านทำหน้าแบบนี้
“ข้าไม่เป็นอะไรมากแล้วละค่ะ”
ข้าเอ่ยตอบออกด้วยเสียงทีสั่นคลอนไปพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนเศร้าสร้อยและข้าก็ เริ่มรู้สึกร้อนเหลือเกินที่ริมขอบดวงเนตรและภาพที่ข้ามองเห็นก็สั่นคลอนบิด เบี้ยวและเมื่อนั้นหยาดหยดน้ำตาของข้าก็ไหลออกจากดวงเนตรจากนั้นข้าก็ไม่อาจ ควบคุมตัวเองได้ มันเกิดอะไรขึ้นกับข้าแล้ว มันคืออะไรกัน บางอย่างมันหายไปจากใจข้า มันคืออะไรกันแน่
“ดีแล้วละนะ”
รอยยิ้มของท่านเจ้าชายที่ข้ารักมันชั่งอ่อนโยนเหลือเกิน จนในใจของข้าต้องร่ำไห้ เหมือนจะทำให้ดวงตาของข้าออล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความโศกเศร้า
ข้าได้ระบายเรื่องราวและความรู้สึกบางอย่างออกทางการร้องไห้ ตอนนี้เหมือนหัวใจและในหัวของข้าขาวโพลนเหลือเกิน ข้าต้องทำอย่างไรต่อไปนะ ข้าหลับตาลงและทั้งหมดมันก็ขาวโพลนเหลือเกิน
“เอลเลน เจ้าเป็นอะไรไปหรือ ”
“อ๊ะ!? ท่านซารอส ดิฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกเจ้าค่ะ ”
“แต่หน้าเจ้าซีดมากเลยนะ”
“มิเป็นไรเจ้าค่ะ จริงๆนะเจ้าค่ะ”
“เจ้าพักก่อนเถอะนะ”
“เจ้าค่ะ”
เมื่อข้าหลับตาลง ข้าก็เห็นบุคคลคนหนึ่งกำลังคลี่รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาวรูปร่างหน้า ตาคล้ายกับข้า ไม่สินั่นคือข้าเอง คือตัวของข้าเอง ข้ามีความรู้สึกเกินเลยต่อความเป็นแม่มดไปแล้วเหรอ? นี่ข้ารักเจ้าชายจริงๆแล้วเหรอ? มันถึงทำให้ข้าต้องมาอยู่ในส่วนลึกแห่งจิตใต้สำนึกของจิตใจของตัวข้าเองแบบ นี้ข้าต้องการคำตอบแบบไหนให้กับข้ากันนะ นี่ทุกคนช่วยตอบที่สิว่าที่ข้าเป็นแบบนี้เพราะอะไรกัน
‘เพราะเจ้าไม่เคยถูกเกลียดอย่างไรละ’
ไม่จริงหรอก ข้าเคยถูกเกลียดแล้วจากพ่อมั่นบังเกิดเกล้าของข้า และ ชาวเมืองที่ข้าเคยอาศัยอยู่ร่วมกัน ข้าถูกทำร้ายร่างกาย โดย ปาหินใส่ข้าบ้าง จับข้าขังในห้องบ้าง ใช้ไม้ตีข้างบ้าง มันเจ็บและมันทำให้ข้ารู้ว่าพวกเขาเกลียดข้า
‘ แล้วเจ้ารักพวกเขาไหมละ ก็ไม่ เจ้าเคยรักใครไหมละ ก็ไม่ นอกจากตัวเจ้าเองที่เจ้ารัก เพราะตัวของเราเองที่จะเชื่อใจได้ ไม่มีใครรู้จิตใจลึกๆดีไปกว่าเจ้าตัวหรอกนะ ดังนั้นเจ้าถึงไม่รู้อย่างไรละว่าความรู้รักที่เจ้าคิดว่าจะรักตัวเจ้าเพียง คนเดียวเท่านั้น มันก็ทรยศรักกับเจ้าชายที่เจ้าอยากบดขยี้แล้วอย่างไรละ ’
หัวใจของข้าทรยศข้าอย่างนั้นเหรอ ข้าควรทำอย่างไรดี ควรทำอย่างไรให้มันกลับมาหาข้าอีกครั้ง ตอบข้าทีสิใครก็ได้ช่วยตอบข้าที ถ้าหากไม่มีคำตอบใดเลยนั้น ข้าก็จะปล่อยไปตามหัวใจของข้าปล่อยไปตามทางที่หัวใจข้าเลือก ด้วยไม่มีความนึกคิดของข้า
ช่วงเวลาได้ผ่านไปเนิ่นนานเท่าไรกันตัวข้าก็มิอาจจะรับรู้ถึงมันได้เลยตัว ของข้าได้อยู่เคียงข้างกายเจ้าชายที่รักของข้า ข้าลืมเลือนเวทมนต์และลืมเรื่องการแก้แค้นทั้งหมดไปเสียแล้ว ข้ามีความสุขที่ได้ทำตามที่หัวใจข้าได้เลือก
“นี่ เอลเลน เจ้าจะอยู่เคียงข้างเรา และสร้างความสุขของเราด้วยกันได้ไหม”
“ ท่านซารอส ”
เจ้าชายที่รักของข้าจับมือของข้าแล้วได้คุกเข่าพร้อมกับสวมแหวนสีทับทิมงด งามมายังนิ้วนางข้างซ้าย มันทำให้หัวใจข้าเหมือนจะหยุดเต้นทันทีเลย แต่มันก็ยังคงเต้นอย่างเดิมและรุนแรงอย่างมาก เต้นดังขนาดนี้หวังว่าเจ้าชายที่รักของข้าจะไม่ได้ยินนะ ข้าไม่อยากให้ท่านเจ้าชายได้รู้ถึงมัน ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ดีถ้าหากท่านรู้ แต่มันก็ทำให้ข้าเขินอายไปหมด
“ค่ะ ดิฉันจะอยู่เคียงข้างกายท่านจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
เจ้าชายที่รักของข้าได้ยืนขึ้นแล้วก็ได้ทำการประกบริมฝีปากของท่านอันหวาน อ่อนละมุนลงบนริมฝีปากของข้า ในตอนนี้ข้ามีความสุขเหลือล้น จนมิอาจจะมีอะไรมาแทนที่ได้เลย
และแล้วช่วงเวลาที่ข้าจะได้สวมใส่ชุดสีขาวแสนบริสุทธิ์ก็จะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว ข้ารู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูกจนจะหลั่งน้ำตาออกมา แต่ก็ต้องอดกลั้นเพื่อจะได้ไปหลั่งน้ำตาบนโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งที่ควรจะมาถึงในไม่ช้านี้ แต่มันก็ต้องหายไปเพียงพริบตา ทุกสิ่งทุกอย่างถูกความมืดฉุดรั้งลงไปเมื่อ นางผู้หญิงที่เป็นผู้ช่วยของเจ้าชายที่รักของข้าได้เข้ามาพรวดพราดในห้องของ ข้า
“ ในที่สุดข้าก็รู้ว่าเจ้าเป็นใครกัน ”
“!?”
“เจ้าหมายความอย่างไรกัน สการ์เล็ต ที่พูดนั่น”
“ท่านเจ้าชายซารอส นางคนนี้ ไม่สิ เอลเลน เป็นแม่มดแห่งซากสีดำ”
ทุกสิ่งทุกอย่างของเจ้าชายที่รักของข้าคงจะเหมือนกับทุกอย่างหยุดนิ่ง ใช่แล้วข้าเป็นแม่มดที่อันตรายเป็นอย่างมากและก็เป็นแม่มดที่ทำลายเมืองวอนา รี่
ท่านจะทำเช่นไรกันเมื่อได้ยินอย่างนี้ ท่านจะรู้สึกเช่นไรกัน ในตอนนี้ข้าอยากจะรู้ความรู้สึกท่าน เอาแต่นิ่งเงียบแบบนี้ข้าก็ไม่รู้สิได้โปรดเอ่ยอะไรมาทีสิ
“นำหล่อนไปขังคุกซะ”
ไม่นานข้าก็ถูกลากตัวไปขังไว้ในคุกใต้ มีเพียงความมืดที่อยู่ที่นั่น เอาละมันจบลงแล้วสินะสิ่งที่หัวใจข้าได้เรียกร้อง สิ่งที่หัวใจข้าต้องการมันไม่มีทางเป็นจริงได้แล้วมันพังหมดแล้วละ ข้ารู้ดีว่าการที่แม่มดอย่างข้าจะรักท่านเจ้าชายที่เป็นผู้มีความสามารถการ ปราบแม่มดนั่นมันเป็นไปไม่ได้
ข้าไม่ขอร้องหรืออ้อนวอนโชคชะตาอีกแล้ว เพราะ ไม่ว่าจะอ้อนวอนขอร้องเท่าไรมันก็ไม่มีทางเป็นจริงเหมือนกับตอนที่ข้ายัง เป็นเด็ก ถ้าโชคชะตาของเป็นแบบนี้และไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ก็ปล่อยมันไป ข้าจะไม่สาปแช่งมันอีกแล้วละ พอแล้วละ ได้โปรดเถอะ
“ เอลเลน ”
เสียงที่แสนคุ้นหูที่ได้ยินท่ามกลางความมืดที่ข้าไม่อาจจะมองเห็นได้ เสียงของเจ้าชายที่รักของข้า ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่ ไม่สิมันก็ไม่ใช่น่าแปลกที่ท่านเจ้าชายจะมาดูหน้าแม่มดแสนชั่วช้าของข้า
“เอลเลน ได้ยินเสียงของข้าไหม”
ข้าได้ยินสิได้ยินอย่างชัดเจนเลย ได้ยินจนน้ำตาข้าหลั่งรินออกจากดวงตาของข้าจนรู้สึกร้อนที่ใต้ตาไปหมด ข้าอยากอยู่กับท่านอีกนิดก็ยังดีแต่มันเป็นไปไม่ได้แล้ว
“ได้ยินอย่างชัดเจนเลยละเจ้าค่ะ ท่านซารอส”
เสียงของข้าไม่ได้สั่นเครือใช่ไหม ขอร้องท่านอย่าได้ถามถึงน้ำเสียงของข้าเลยได้โปรดทีเถอะ ข้าไม่อยากคุยกับท่านอีกแล้วได้โปรดไปทีเถอะ
“เอลเลน เธอตอบเราทีคนที่ทำลายเมืองวอนารี่ รึเปล่า ”
“ท่านซารอส เป็นคำถามที่ดูๆก็รู้ว่าฝีมือของผู้ทำลายเมืองนั้นคือใครกัน เหตุใดท่านจึงจะถามเช่นนั้น ”
“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะเป็นคนทำ”
“มันเป็นความจริงแท้ยิ่งกว่าแท้อีกนะ ท่าซารอส”
“เมืองนั่นเป็นเมืองที่เจ้าเกิดมาไม่ใช่หรือ ”
“ ฮึๆ ท่านซารอสเชื่อรึว่านั่นคือบ้านเกิดของข้า ”
“อย่างนั้นรึ”
“ใช่แล้วละ ท่านซารอส ยอมรับความจริงเสียเถอะ”
หยุดทีเถอะท่านเจ้าชายที่รักของข้า ข้าไม่อยากจะตอบคำถามไปมากกว่านี้ เรื่องที่เคยเล่าให้ท่านฟัง เรื่องราวนั้นมันก็ผสมปนเปไปความจริงที่ไม่อาจจะเอื้อนออกมาได้โดยตรง ข้าไม่อยากจะพูดความจริงออกไป ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ขอเก็บมันไว้และให้ความมืดที่เปรียบเปรยเหมือนในห้องมืดที่ข้าอยู่นี้ได้แอบ ซ่อนข้าแต่ก็มีเหล่าผู้คนรู้ว่าที่แห่งนี้มีข้า แล้วมันก็เหมือนกันกับความจริงที่หลบซ่อนในคำพูดแห่งความโปปดเหล่านั้น ขอร้องหยุดที!! ข้าไม่อยากตอบรับอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้วนะ
“ ถ้าอย่างนั้น เอลเลน จงตอบเรามาซะว่าเจ้าคิดอย่างไร อย่างไรกับเรื่องของเรากันเรื่องราวที่ผ่านมาเหล่านั้น!! ”
คำถามที่ข้าไม่อยากให้ถาม ทำไมกัน ราวกับว่าท่านเจ้าชายที่รักของข้ากำลังต้อนไล่ข้าให้จนตอกไม่มีทางหลุดหนีไป ได้แม้เพียงจิตใจและหัวใจของข้าเลย ทำไมกัน ท่านถึงต้องถามคำถามไร้ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับสิ่งที่จะเป็นประโยชน์แก่ท่าน และชาวเมืองเลยละ ท่านเจ้าชายที่รักของข้า....
ความคิดเห็น