ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kyubiki Kuroki จิ้งจอกสีดำ

    ลำดับตอนที่ #2 : Part 2

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 58


                    หลังจากที่พาเจ้าหนุ่มที่ถูกนักล่าตามอยู่ มา ณ ศาลเจ้าประจำเมืองที่สถิตของเทพซึ่งมีนามว่า คิมาโมโตะ แล้ววางร่างไว้ที่บันไดของศาลเจ้าสำหรับจะขึ้นไปใส่กล่องปัจจัย

    หลังจากวางลงข้าก็เพียงแค่จ้องมองร่างของเจ้าหนุ่มซึ่งเย็นเชียบราวกับน้ำแข็ง สีผิวที่ซีด กระทั่งลมหายใจและชีพจรก็ไม่มี ตายแล้วเหรอ? =__=? ขนาดนี้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแล้วลูก

                    “คุโระคุง อย่าเอาศพมาเซ่นไหว้เทพอย่างฉันนะ =[ ]=!!

                    “=___=

                    “คุโระคุงคงไม่ทำจริงๆหรอกนะ แหะๆ ^0^;

                    “เป็นความคิดที่ไม่เลว -0-

    =[ ]=!!

    “ถ้าท่านไม่พูดข้าก็จะเอามันไปที่พักของข้าและ -__-

    “ไม่นะ!! ={ }=!!

    “ข้าไปล่ะ ฝากด้วยละกันนะท่านเทพคิมาโมโตะ -0-

    หลังจากนั้นข้าก็ใช้สายลมอำพรางกายของข้าที่ข้าถนัดลบกลิ่นอายและร่างของข้าให้มองไม่เห็นหรือรับรู้ไม่ได้แล้วรีบเผ่นออกมาทันที

    “เดี๋ยวสิ!!! คุโระคุง!!! ={ }=!!

    “อย่างไรก็ตามหมอนั่นก็ไม่ใช่มนุษย์ไม่ต้องห่วงว่านั่นเป็นศพมนุษย์...”

    ข้าทิ้งท้ายไว้อย่างนี้และจากมา เดินทางกลับที่พักของตน แค่เอา(ศพ)เจ้าหนุ่มนั่นไปวางไว้ที่ศาลเจ้าเทพคิมาโมโตะก็ไม่ได้เดือดร้อนท่านอะไรหรอก....มั้ง =__=

    เมื่อกลับมาถึงที่พักของข้าถึงจะบอกว่าเป็นที่พักมันก็แค่บ้านโทรมๆถูกสร้างไว้มาเนิ่นนานตั้งแต่ข้ายังวัยละอ่อนอายุอานามประมาณ 15 ได้ล่ะนะ และที่นี่ข้าก็มั่นใจมากที่จะไม่มีทางจะถูกเจอ เพราะข้ากางอาคมของข้าไว้ หากไม่ใช่ผู้มีพลังวิญญาณสูงก็ยากที่จะเจอ

    เอาล่ะไม่ต้องคิดอะไรมากและไปทำธุระส่วนตัวแปรงฟันแล้วเข้านอนตั้งแต่ 6 โมงเย็นดีกว่าแล้วก็ตื่นตอนตี 3 เพื่อเริ่มใช้ชีวิตวันใหม่

    ข้าทำแบบนี้ประจำมานานจนจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าทำแบบนี้ไปนานขนาดไหนแล้ว ชีวิตการอยู่อาศัยต้องปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในรอบ 100 ปี เพราะการปรับเปลี่ยนอย่างนั้นชีวิตของข้ามันถึงมีอะไรมากมายแปลกใหม่ตลอด

    ส่วนเรื่องอาหารที่จะประทังชีวิตของข้านั้น แน่นอนว่าคือวิญญาณอยู่แล้ว แต่ก็สามารถดื่มกินได้แบบปกติทั่วไป แต่ 1 เดือนข้าจะขาดวิญญาณไม่ได้ดังนั้นข้าจึงทำลายชีวิตหนึ่งชีวิตเป็นการให้ข้ามีชีวิตต่อไป...

    >{ }<  หาววอด... เมื่อกายที่ถูกทิ้งลงนอนบนเตียงนุ่ม ข้าก็เข้าสู่ห้วงนิทราของข้าทันที...

     

    ที่นี่ที่ไหนกัน? ข้ามองซ้ายมองขวาไปมา ก็พอคิดได้ว่าที่นี่เป็นสวนหลังคฤหาสน์? ที่นี่ข้าเห็นผู้คนกำลังทำกิจกรรมของตน บ้างก็ดื่มน้ำชา บ้างก็นั่งอ่านหนังสือ และเหล่าเด็กๆก็วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน แต่ชุดที่พวกเขาใส่เหมือนกับชุดของฝรั่งเศสทั้งชายและหญิงเลย

    หญิงสาวคนหนึ่งเจ้าของเรือนผมสีแดงฉานดุจเลือดเดินไปหาเด็กที่กำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน

    “เจ้าลูกไม่รักดี!!!

    หญิงสาวคนนั้นก็ใช้ฝ่ามือข้างขวาของหล่อนตบไปยังเด็กหนุ่มที่มีเรือนผมสีแดงฉานเหมือนกับหล่อนเข้าฉาบหนึ่งจนไปนั่งกองกับพื้น ลูก? ทำร้ายลูกแบบนั้นเลยเหรอ? ทุกคนต่างก็ไม่ใส่ใจและยังคงทำกิจกรรมของตนไป เด็กที่วิ่งเล่นกับเด็กผมแดงนั่นก็ยืนอยู่เงียบๆไป

    “ถ้ามีเวลาว่างมากก็ไปอ่านหนังสือซะ!

    เธอชี้หน้าใส่เด็กหนุ่มผมแดงนั่น ก่อนจะหันไปที่เด็กหนุ่มอีกคนที่มีเรือนผมสีแสดปนแดง เด็กผมสีแสดนั่นก็เงียบและจ้องมองไปที่หญิงสาว

    “อาสเรย์ เห็นว่าลูกเล่นเปียโนได้ลูกใจนายท่านสินะ ทำได้ดีมาก”

    หญิงสาวคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ส่งรอยยิ้มอ่อนโยนให้พร้อมกันกับลูบหัวเด็กผมสีแสดนั่นอย่างเอ็นดู

    “ขอบคุณครับ”

    เด็กผมสีแสดก็พูดขอบคุณอย่างเรียบเฉย เหมือนกับไม่สนใจคำพูดของหญิงสาวเท่าไร ราวกับแค่ตอบกลับประโยคของหล่อนไปเท่านั้น...

     

    0__0!? ข้ามองรอบๆและพบว่าที่นี่คือบ้านพักของข้าเอง เมื่อกี้ฝันเหรอ? ฝันบ้าบออะไรฟะนั่น เฮ้อ~~ ตอนนี้กี่โมงแล้ว?

    ข้าหยิบนาฬิกามาดูเข็มยาวและสั้นชี้บอกว่าเป็นเวลาตี 3 เป็นช่วงเวลาที่ข้าต้องทำกิจธุระกับร่างของข้าล่ะนะ

    ที่ๆข้าจะไปนั้นคือน้ำตกในป่าข้ามักจะไปชำระร่างกายและทำธุรกิจของข้าที่นั่นเป็นประจำแต่มันก็ค่อนข้างไกลพอควรเพราะอย่างนั้นนอนเร็วตื่นเร็วจะได้ไม่ใช้เวลามากนัก

    เพราะข้าต้องไปทำงานตอนตี 5 ส่งหนังสือพิมพ์เสียด้วย ข้าก็ไม่ได้มีเวลามากนักแค่จากที่พักของข้าไปน้ำตกก็ใช้เวลาตั้งชั่วโมงบวกกับตอนกลับก็ประมาณ 2 ชั่วโมงพอดี ที่จะไปเอาหนังสือพิมพ์

    และหลังจากส่งหนังสือพิมพ์เสร็จ ข้าก็ไปหาซื้อของเป็นของเซ่นถวายเทพคิมาโมโตะ เมื่อข้าทำทุกสิ่งจบ ข้าก็ไปที่ศาลเจ้าของท่านเทพคิมาโมโตะเพื่อนำของเซ่นไหว้ไปให้ท่านเทพ

    และตอนนี้ข้าก็อยู่ที่ศาลเจ้าของเทพคิมาโมโตะ

    “คุโระคุง TT0TT!!!

    “-___- ?”

    “คุโระคุง ศพนั่นหายไปแล้วหรือถูกปีศาจตนอื่นลากไปรับประทานแล้ว >__<

    “ลากลงไปกินในน้ำเหรอ? =__=

    “ศพนะไม่ใช่ไก่ -0-

    “ปีศาจนะไม่ใช่ตะกวด =__=

    “แล้วมันใช่เรื่องเหรอ >0<; คุโระคุง!!

    ข้าถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เจ้านั่นจะเป็นอย่างไรก็ช่างสิข้าไม่รับรู้ด้วยแล้ว ข้าไม่อยากไปยุ่งกับใครให้มากนัก

    “ช่างมันเถอะน่า ท่านเทพก็ไม่รู้ว่ามันไปไหนก็หาใช่ว่าท่านต้องผิดอะไร ในเมื่อท่านไม่รู้ -0-

    “ก็... แต่มันก็ไม่ได้ >0< เป็นเทพแล้วจะมาโล่งอกที่จะไม่ช่วยใครแบบนี้ได้อย่างไรกัน”

    “นี่ท่านเทพจะเป็นเทพปีศาจเหรอ? -__- ?”

    0.0 ทำไมพูดงั้นล่ะ?”

    “ข้าก็บอกไปแล้วนะว่ามันไม่ใช่มนุษย์เทพอย่างท่านไม่ต้องไปช่วยหรอกน่า -0-”

    “แต่ว่าฉัน...”

    “ท่านคิมาโมโตะถ้าท่านคิดว่าท่านช่วยเจ้านั่นแล้ว เจ้านั่นจะมาเคารพสักการะท่านอย่างข้าล่ะก็ท่านเปลี่ยนความคิดซะเถอะ”

    “รู้ได้ไงกัน? >w<?”

    “ความรู้สึก มั้ง? ช่างเถอะ =__=

    ตอนนี้ข้าก็ไม่คิดอะไรและคิดเพียงแค่ว่าจะต้องเดินจากที่นี่ เพื่อที่จะไปทำงานพิเศษตอนเช้าต่อ และค่อยกลับมาที่นี่ตอนเที่ยงตามปกติ

    ในตอนที่จะใช้พลังสายลมของข้าพาตัวของข้าไปยังที่ทำงานสายตาก็ไปเห็นคนๆหนึ่งและมีกลิ่นที่คุ้นเคยออกมาจากตัวของเด็กหนุ่มคนนั้นที่เดินขึ้นมา ณ ศาลเจ้าแห่งนี้

    เด็กหนุ่มนั่นสูดหายใจเข้าก่อนจะมองมาที่ศาลเจ้า? แต่เหมือนมองมาที่ข้ามากว่า =__= แต่กลิ่นแบบนี้มันรึว่า?

    “เจ้าตัวเล็ก?”

    “อย่าเรียกว่าตัวเล็กนะ เจ้าหมาดำ >0<!!

    เจ้าหนูนี่คือคนของตระกูล อนเมียวจิ ชื่อ คิริชิม่า ชินยะ ที่เคยมาอยู่กับข้าตอนเด็กๆ และเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะดันไปทำให้เท็นงูโกรธเนื่องจากไปทำร้ายเขาก่อน ทั้งที่ยังอายุแค่ 10 ขวบเพียงเท่านั้น... 

    แต่นั่นก็เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้านั่นกับข้าได้รู้จักกันล่ะนะ ถึงเจ้าเด็กนั่นจะปากร้ายจนข้าอยากเอาสุนัขในปากออกมาให้หมดจริงๆ =__=

    “จิ้งจอกไม่ใช่หมา -__-

    “ก็เหมือนกันนั่นล่ะ -0-

    =___= ข้าไปล่ะ”

    “เดี๋ยวดิ!!! -0- ฉันมีธุระกับนาย”

    ข้ารู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ ธุระที่อนเมียวจิมีกับปีศาจมันมีที่ไหนกัน? นอกจากกำจัดทิ้ง =__= แต่อย่าหวังว่าจะกำจัดข้าได้ง่ายๆเลยเจ้าหนู -__-

    “ธุระ?”

    “อ๊ะ!? ท่านเทพคิมาโมโตะอรุณสวัสดิ์ครับ”

    “อรุณสวัสดิ์ ชินยะคุง ^0^

    บอกว่ามีธุระกับข้าแต่เจ้านั่นก็ไปคุยกับเทพคิมาโมโตะเสียแล้ว เจ้านี่มันจะกวนประสาทข้าให้ถึงที่สุดหรือไงกัน? =__= ไม่สนแล้วโว้ย!!!

    “ข้าไปทำงานล่ะ”

    “เดี๋ยวดิ! =[ ]=!!

    “มีธุระอะไรก็ว่ามาข้าต้องไปทำงานพิเศษ -0-”

    “เรื่องนั่นล่ะ”

    “-___- ?”

    “คุโรกิเลิกทำงานและมีอยู่กับฉันซะ -0-

    “หา!!! =[ ]=!!!

    คนที่อุทานด้วยความตกใจไม่ใช่แค่ข้าคนเดียว ท่านเทพคิมาโมโตะก็อุทานลั่นเช่นกัน จู่ๆก็มาบอกให้เลิกทำงานเนี่ยนะ =__= แล้วดูมันทำหน้าสิ มันทำหน้าเย็นชาใส่ข้า รู้สึกเหมือนโดนมองต่ำด้วย =__=

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×