ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love Story Bad End

    ลำดับตอนที่ #1 : Witch_ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 57


    เป็นเวลานานขนาดไหนกันแล้วที่ข้าได้ยอมสละ ครอบครัว อุทิศทั้งหมดโยนลงสู่ห้วงมืดแห่งความหวาดกลัวสิ้นหวังเพื่อแลกกับอำนาจมืด ที่ยิ่งใหญ่ทั้งที่มีอำนาจมืดแห่งเวทมนต์แล้ว

     

    เป็นเวลานานเพียงใดที่ข้าต้องอยู่แบบนี้ และก็คงจะดำเนินต่อไปเช่นนี้หรือ?

    เช่นใดข้าถึงเอาชนะพวกโง่เขลาอย่างเหล่ามนุษย์พวกนั้นไม่ได้กัน? ตอบข้าสิท่านปีศาจแห่งความมืดทำไมเพื่อนพ้องแห่งความมืดของข้าจึงต้องจบสิ้น ชีวิตลงอย่างน่าอนาถสังเวชโดนเผ่าทั้งเป็น

    เพื่อนพ้องของข้า อา... พวกเจ้าคงทุกข์ทรมานแสนสาหัสเกินเยียวยาจากการถูกฆ่าทั้งเป็น เจ้าพวกมนุษย์ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะแก้แค้นให้พวกเจ้าเอง เอาเกียรติของแม่มดผู้มีชื่อเสียงเรียงนามอันโด่งดัง อย่าง แม่มดแห่งซากสีดำ เอลเลน ของข้าเป็นประกัน

    ณ เมืองซอน่า เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการปลูกผลไม้ที่มีชื่อว่า ซาว ผล ไม้สีขาวมีรสหวานเปรี้ยวแสนอร่อยเป็นของขึ้นชื่อที่ทำให้เมืองค่อนข้างโด่ง ดังอย่างมาก และมีการบริการที่ดีถือเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่น่าชมอีกถานที่หนึ่งใน โลกนี้

    ทั้งที่มีความคิดและมุ่งมั่นเช่นนั้นแท้ๆแต่พอข้าเพียงได้เห็นชายคนนั้นหัวใจข้าก็เหมือนกับมันเต้นระรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

    ลูกชายของเจ้าของเมืองแห่งนี้ เมืองที่ข้าจะทำลายให้เป็นน่ากองแต่พอได้เห็นบุตรชายของเจ้าเมืองผู้แสนหล่อ เหลาสง่างามและจิตใจชั่งดีงามดุจเทพได้จุติลงมาเกิด แต่ ด้วยภาระหน้าที่ของเขาก็ทำให้ข้าหวาดกลัวต่อความรู้สึกที่มีให้เขา หน้าที่ของเขาคือกวาดล้างฆ่าแม่มดทั้งหมดที่เจอ ถึงจะจิตใจชั่งดีต่อพวกเดียวกันแต่จิตใจคงไม่ดีให้กับสิ่งมีชีวิตที่หน้าตา คล้ายกันแต่มันกับไม่ใช่ เหล่าผู้มีเวทมนต์ดำอย่างข้าได้แต่รับความเกลียดชั่งจากเขา ไม่มีทางได้รับความรัก

    เพราะอย่างนั้นข้าต้องการเขา ข้าต้องการ ข้าอยากได้ไม่ว่าอะไรก็ต้องได้ความรู้สึกและความอยากทำให้ความเห็นแก่ตัวของ ข้าตื่นขึ้นมาข้าต้องได้เขามาในครอบครองไม่ว่าจะใช้เวทมนต์ดำใด นี่ละคือการแก้แค้นเหล่ามนุษย์ด้วยการทำให้คนที่เคารพยิ่งนักยิ่งหนาของพวก มันสั่งให้เข่นฆ่ากันเอง

    ข้าไม่คิดรีรอใช้เวทมนต์ดำเพิ่มเสน่ห์ให้ผู้ที่เห็นเป็นต้องหลงไม่ว่าจะต้องใช้ วิธีไหนเจ้าชายของข้า ข้าจะเอาเจ้ามาเป็นเครื่องมือของข้าให้ได้ เครื่องมือในการทำลายเมืองที่ท่านรัก และผู้คนที่รักท่าน

    สีตานัยน์สีมรกตงดงามดุจดั่งเพชรมณีที่งดงามของข้าที่ข้าได้แสรกสรรให้เพื่อ เจ้าได้หลงใหลข้าแทนสีแดงเลือดสดที่จะทำให้เจ้าหวาดกลัว และกลิ่นหอมที่เพียงแค่เจ้าเท่านั้นที่จะได้รับกลิ่นดอกกุหลาบอันแสนหอมหวาน แทนกลิ่นความตายอันเหม็นเน่า ข้าขอมอบให้เจ้าได้หลงใหลไปกับภาพมายาที่ข้าได้สร้างขึ้นอย่างบรรจงประดุจ เป็นงานที่ยากเย็นแสนเข็นต้องใช้เวลาในการทำเนินนานเหลือเกิน

    ในช่วงเวลาไม่นานข้าก็ได้รับรู้ถึงสายตาของที่จับจ้องมายังข้าเจ้าไม่มองข้า ราวกับได้เจอบางสิ่งที่ตามหา ใช่แล้วสายตาอย่างนั้นละที่ข้าปรารถนาจากเจ้า เจ้าชายของข้า มองข้าจนกว่าเจ้าจะเดินห่างไกลไปจากสายตาข้า และเจ้าต้องกลับมาหาข้าในไม่ช้าอย่างเป็นแน่แท้

    ในเวลาย่ำค่ำดวงสุริยากำลังจะเคลื่อนคล้อยลงลับขอบฟ้าไป ท้องฟ้าถูกย้อมด้วยสีส้มแสดทีแสนงามลายลมที่พัดมาเรื่อยๆเส้นผมของข้าพัด ปลิวไปตามแรงลม เสียงของสายลมมันทำให้ข้านึกถึงอดีต ที่แสนขมขื่นปวดร้าวหัวใจเกินที่จะมีสิ่งใดมาเยียวยาได้ นอกจากกาลเวลาเท่านั้นที่ข้าเชื่อว่ามันจะทำให้ความขมขื่นนี้บรรเทาลงได้

    สายลมทำให้ข้านึกย้อนอดีตครั้งที่เสียครอบครัวไป ข้าเป็นคนทำลายครอบครัวที่แสนมืดมนของข้าลงด้วยน้ำมือสองข้างของข้านี้ ใช่ข้าเป็นคนจบเรื่องราวคอบครัวของข้าลงเอง ครอบครัวที่มีแต่ความทุกข์ของข้าไม่สมควรจะมีอยู่ในโลก

    แต่แล้วความนึกคิดและความทรงจำครั้งอดีตของข้าต้องหยุดเมื่อเสียงฝีเท้า กำลังใกล้เข้ามา ข้าจำได้กลิ่นอันแสนหอมหวานของวิญญาณอย่างนี้ใช่แล้ว วิญญาณของเจ้าชายของข้า ไม่ใช่เพียงแค่ว่าข้าจะให้เจ้าหลงเพราะความงามของข้าแต่ข้าจะทำให้เจ้าหลง ทั้งน้ำเสียงของข้า

    เมื่อเสียงฝีเท้าหยุดลงพร้อมกับความมืดที่เข้าปกคลุมพื้นที่สวนแห่งนี้พลันเกิด แสงสว่างจากโคมไฟที่ติดขึ้นเองแสงไฟส่องสว่างขึ้นและส่องสว่างมายังตัวของ ข้า นี่ละคือช่วงเวลาแห่งความงามในยามฝันอันแสนหอมหวานของข้า ข้าเริ่มเปล่งเสียงร้องเพลง เพลงที่ร้องออกมานั้นมันชั่งดูเศร้าสร้อย ข้าไม่อาจเปล่งเสียงร้องเพลงที่ดูแลมีความสุขได้ ใช่แล้วเพราะหัวใจของข้าไม่เคยรับอะไรเช่นนั้น เพลงที่ร้องออกมาจึงได้ดูเศร้า แต่สำหรับเจ้า เจ้าชายของข้ามันคงไพเราะใช่หรือไม่ละ

    เมื่อข้าเปล่งเสียงลากยาวเป็นการจบเพลง ข้าจึงหันไปมองเขา สายตาของข้าและของเขาได้ประสานกันยิ่งมองลึกลงไปในนัยน์ตาคู่งามของเจ้าชาย เหมือนหัวใจข้าจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ อย่างไม่อาจจะเอื้อนเอ่ยได้ ข้า กลัว กลัวเขาเหลือเกินข้าไม่อาจข่มใจได้จึงถอยหนีแทนการเข้าหา เมื่อเจ้าชายของข้าเดินเข้ามาใกล้ ข้าจึงรีบวิ่งหนี ถึงจะเขาจะตะโกนเรียกให้หยุดแต่ข้าก็ไม่กล้าจะหยุด  วิ่ง ต้องวิ่งให้เร็วขึ้น ไม่อย่างนั้นเขาจะตามทัน เขาจะฆ่าข้า ไม่นะ ไม่เอา

    มีเพียงแค่สิ่งหลอกหลอนที่เกิดจากการที่ข้าเป็นแม่มดข้ากลัวเขาจับได้ว่าข้า เป็นแม่มด ข้ากลัวเขาจะฆ่าข้าตามเพื่อนพ้องแสนวิเศษของข้าไป ถึงจะวิเศษอย่างไรข้าก็ไม่อยากตาย ไม่อยากตามพวกเพื่อนพ้องของข้าไป

    ตอนนี้ข้าได้แต่นั่งมองน้ำที่ส่องสะท้อนดวงจันทร์กลมโตสีขาวบริสุทธิ์ที่ขึ้นมา แทนดวงสุริยันอันร้อนแรงปรานจะแผดเผาทุกสิ่ง ข้าเหม่อจนไม่อาจรับรู้สิ่งใดได้ ในตอนนี้ข้าเหมือนกำลังจมลงไปในบ่อน้ำแห่งนี้บ่อน้ำที่สะท้อนดวงจันทร์

    เจอตัวเจ้าแล้ว!!

    “!?

    นี่ ท่าน...

    เสียงทุ้มเข้มของชายคนหนึ่งทำให้ข้าออกจากภวังค์แห่งความคิดและทำให้ข้าไปสนใจ เสียงนั้นแทน อา... เจ้าชายตามข้ามาหรือ ในตอนนี้เริ่มรู้สึกไม่ค่อยหวาดกลัวเท่าไรแล้ว เหมือนใจข้าได้สงบลงและความหวาดกลัวได้ถูกผนึกลงไปพร้อมกับภวังค์แห่งความ คิดเหล่านั้นด้วย

    ข้ามองลึกลงไปในดวงตาของเขาอีกครั้งแต่มันก็เริ่มขึ้นอีกแล้วความหวาดกลัว ไม่นะ ข้าต้องหนี ต้องหนีจากเขา ในขณะที่ข้าจะลุกหนีจากเขา เขาก็จับข้อมือข้า และมองมายังข้า สายตาที่ประสานกันทำให้ข้าต้องหลบหนี

    เจ้าไม่ต้องกลัวข้าหรอก ข้าไม่ทำอะไรเจ้า ข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน เจ้าเป็นนักเดินทาง?”

    เจ้าชายของข้าถามอย่างเป็นมิตร อา... เขาชั่งงดงามจริงๆ ความอ่อนโยนราวกับดวงอาทิตย์นี้ อยากเหลือเกิน อยากที่จะครอบครองมัน และบดขยี้มันทิ้งจนไม่อาจเปล่งประกายได้อีก จิตใจอันแสนอบอุ่นนี้

    ใช่แล้วค่ะ ดิฉันมาจากเมืองวอนารี่ที่ห่างจากเมืองนี้ไป 6 โยชน์ เพื่อมาชื่นชมซาวผลไม้ของเมืองแห่งนี้

    เจ้าเดินทางมาไกลเพื่อมาชมผลไม้หรือ?”

    เจ้าค่ะ

    คงลำบากน่าดูเลยสินะ

    หาใช่เช่นนั้นไม่เจ้าค่ะ

    และการเสวนาก็เริ่มทอดยาวไปเรื่อยๆ ข้าโกหกเขาเกือบทั้งหมด ใช่เกือบทั้งหมดที่ข้าหลอกเจ้าชายที่ข้าและรักและหวาดกลัว แต่เพราะความอบอุ่นที่ได้รับจากเขาทำให้ความหวาดกลัวต่อเขาหายไปและมีความ รู้สึกหนึ่งเข้ามาแทนที่อา... แค้นเหลือเกิน อยากทำลายทุกสิ่งที่เขารัก และอยากทำลายหัวใจของเขาด้วย  

    ห้วงเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนถึง 9 ทุ่ม ข้ารู้สึกได้ว่าเขามีความสุขและงดงามยิ่งขึ้นเมื่ออยู่กับข้า แต่ความรู้สึกของข้ามันตรงกันข้ามกับของเจ้าชายข้ารู้สึกมีความทุกข์มากยิ่ง ขึ้นราวกับว่าเราเป็นกระจกที่สะท้อนซึ่งกันและเฉกเช่นตำนานของจอมเวทย์คน หนึ่ง

    เจ้าชื่ออะไรหรือ

    ดะ...ดิฉันคือข้านามว่า

    ข้าต้องบอกชื่อของข้าเช่นไรดีจะนามจริงของข้า หรือนามจอมปลอม ไม่สิ ข้าจะต้องไม่บอกนามจริงออกไป ต้องเอยออกไปว่าข้ามีนามว่า

    เอลเลน

    !? ทำไมกันริมฝีปากของข้าถึงเอ่ยนามข้าจริงๆเช่นนี้ หวังว่าเจ้าชายที่รักของข้าจะไม่รู้หรอกนะ

    อย่างนั้นหรือ เป็นชื่อที่เพาะจังนะ

    ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกเจ้าค่ะ

    ดูถ้าความลับของข้า คงยังจะไม่แตกใช่ไหม ด้วยชื่อจริงของข้านี้ ท่านคงไม่คิดอะไรมากหรอกนะ แต่ท่านก็ทำให้ข้าเจ็บปวดด้วยคำพูดชมเชยนั้น เป็นชื่อที่ไพเราะ เหรอ มันเป็นชื่อที่ข้าไม่ชอบเลยเป็นชื่อของ พ่อแม่ได้ประทานให้แก่ข้า

    เจ้าจะอยู่ที่อีกกี่วันรึ?”

    ดะ...ดิฉันจะอยู่ที่นี่อีก 4 วันค่ะ

    ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าเที่ยวเมืองของข้าให้สนุกจนไม่รู้ลืมเลย

    ถ้าไม่เป็นการรบกวนท่านละก็

    ไม่เลย ข้าดีใจด้วยซ้ำ

    ถ้าอย่างนั้นก็ขอฝากตัวด้วยนะเจ้าค่ะ

    ข้าก็เช่นกัน

    ข้าเจ็บเหลือเกินทุกครั้งที่เขายิ้ม ข้าเจ็บจนหัวใจเหมือนถูกดาบทิ่มแทงลงมา แต่ด้วยเวทมนต์แห่งการลอกลวงของข้านี้ทำให้ยิ่งข้าทุกข์มากเท่าไรใบหน้าที่ เจ้าชายจะได้เห็นคือใบหน้าแห่งความสุขอันจอมปลอมของข้า

    นี่ก็ดึกเป็นอย่างมากแล้ว ข้าไปส่งเจ้าได้ไหม?”

    มะ...ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ ดิฉันไม่อยากให้ท่าไปส่งเลยเจ้าค่ะและอีกอย่างที่พักของดิฉันก็อยู่มิไกลด้วย

    ถ้าอย่างนั้นระวังตัวด้วยละ ไปละนะ

    เจ้าค่ะ โชคดีนะเจ้าค่ะ

    การจากลาและสิ้นสุดความทุกข์ข้าของวันนี้จบลงเพียงเท่านี้ เมืองวอนารี่ รึ เป็นเมืองที่ข้าเกิด ที่นั่นเมืองวอนารี่เมืองแห่งเพชรสีมรกต เป็นเมืองเหมืองแร่ และเลืองลือไปไกลพอสมควร แต่มันคงต้องจบลงแล้ว ลาก่อนบ้านเกิดอันแสนน่ารังเกียจ

    ยามเช้าแห่งรุ่งอรุณดวงอาทิตย์ส่องแสงฉายแสงสว่างกระจายและทอดยาวออกไปบนพื้น ผิวของโลก รู้สึกดีจังยามเช้านี้ราวกับว่าความทุกข์ได้หายไปบางส่วน ถึงจะมีเสียงเอะอะน่ารำคาญของเมืองนี้ก็ตาม ดูถ้าจะเกิดอะไรบางอย่างขึ้นพูดคนในเมืองพูดกันให้แซด และบางคนก็ถึงกับร้องไห้โฮด้วยความโศกเศร้า

    ทุกครั้งที่ข้ามีความสุขพวกเจ้าต้องมีความทุกข์สินะ เด็กสาวตะโกนร้องไห้เรียกหาคุณพ่อที่อยู่ที่นั่น ใช่ที่ๆเป็นสถานที่น่ารังเกียจและอัปยศของข้า บ้านเกิด เมืองวอนารี่ ได้ถูกทำลายลงแล้วเมื่อยามพลบค่ำของเมื่อวาน

    สายลมในวันนี้ของข้ารู้สึกดีจริงๆ เอาละเจ้าชายของข้าต้องรอข้าอยู่สินะ เจ้าชายของข้าท่านจะคิดเช่นไรเมื่อได้ทราบข่าวของเมืองวอนารี่ เมืองที่เป็นบ้านเกิดของข้า หญิงสาวที่ท่านตกหลุมรักอยู่

    ม่านในฉากต่อไปกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×