ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kyubiki Kuroki จิ้งจอกสีดำ

    ลำดับตอนที่ #1 : Part 1

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 58


    ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสีดำดวงตาสีแดงฉานดุจหยาดโลหิต กว่าเหล่าผู้คนจะรับรู้ถึงการมีตัวตนของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสีดำนี้ มันก็มีอายุเยอะจนกล้าแกร่งจนยากที่จะกำราบปราบจิ้งจอกตัวนี้ได้เสียแล้ว...

    และนั่นก็คือข้า คิวบิ คุโรกิ อายุของข้าก็เกิน 900 ปี ไปแล้ว หางที่เก้าก็งอกออกมาแสดงถึงอายุของข้าในตอนนี้ =__= แต่หัวใจของข้าก็ยังคงไม่อยากจะยอมรับอายุนี้เลยจริงๆ T^T

    “ตอนนี้ คุโระคุงก็อายุ 912 ปีแล้วสินะ ^__^

    “เงียบไปเลยเจ้าเทพยาจก =__=

    T0T เจ้าร้ายจังคุโระคุง อีกอย่างเราไม่ใช่เทพยาจกนะ”

    “ไม่มีคนมาสักการบูชานอกจากวันปีใหม่ก็ถือว่าเป็นเทพยาจกนั่นล่ะ =__=

    >0< ไม่ใช่นะ บางวันก็มีคนมาขอพรกับเรานะ”

    ในตอนนี้ข้ากำลังอยู่ที่ศาลเจ้าของเทพประจำเมืองนี้ แต่ถึงจะเรียกว่าเทพประจำเมือง แต่ก็ไม่ค่อยมีใครมาสักการะเลย นอกจากวันขึ้นปีใหม่เท่านั้นละที่ศาลเจ้าแห่งนี้จะคึกคัก และบุคคลที่ข้าสนทนาก็ไม่ใช่ใครอื่น ก็เจ้าของศาลเจ้าเทพประจำเมืองนามว่า คิมาโมโตะ ซึ่งเป็นเทพของที่ศาลเจ้านี่... =_= ถ้ามนุษย์รู้ว่าเทพนี่นิสัยอย่างไรคงเลิกสักการบูชาเป็นอันแน่แท้

    “เฮ้อ...ข้าขอตัวไปทำงานต่อล่ะ -__-

    ข้าไม่อยากสนทนาอะไรไปมากกว่านี้ ข้ามาศาลเจ้านี่ทุกวันเพื่อที่จะทำการสักการะเจ้าเทพยาจกคิมาโมโตะเพียงอย่างเดียว ในสายตาของภูตผีปีศาจต่างก็คิดว่าข้านั้นมันบ้า  =__= ถึงจะไม่อยากยอมรับแต่มันก็เป็นแบบนี้...

    “ดะ...เดี๋ยวคุโระคุง”

    เทพคิมาโมโตะเมื่อเห็นข้าหันหลังและพร้อมจะเดินจากไป ท่านก็เรียกข้าไว้ทำให้ข้าหยุดฝีเท้าและหันกลับไปมอง

    เทพคิมาโมโตะที่ยืนอยู่ศาลเจ้าก็เดินเข้ามาและยื่นหน้าเข้ามาหาข้าอย่างใกล้ชิด 0_0 เข้ามาไม แต่ก็เอาแต่จ้องหน้าของข้า =__= รู้สึกแปลกๆ

    “เจ้าระวังป่าไว้หน่อยดีกว่านะ เพราะเจ้าอาจจะเจอเรื่องน่าปวดหัวที่ไม่มีทางจะทำให้มันหายไปตลอดปีนี้.....มั้ง >__<

    =___= จะทำนายจะต้องมีมั้งด้วยเหรอ? เชื่อมั่นในคำทำนายของตัวท่านด้วยสิ ช่างเถอะเอาเป็นว่าขอบคุณที่เตือนข้า ข้าจะระวังเรื่องป่า ไปล่ะ...”

     

    หลังจากนั้นข้าก็ใช้พลังของข้าลอยตัวลงจากศาลเจ้าที่ตั้งอยู่เนินเขามายังสถานที่ข้าทำงานพิเศษ และใช้พลังปีศาจของข้าทำให้มนุษย์ปกติเห็นตัวข้าได้แบบปกติ

    ที่นี่คือสถานที่ทำงานเป็นร้านอาหารในย่านการค้า ข้าเป็นเด็กเสิร์ฟและเรียกลูกค้าให้ร้าน และลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่เอาแต่จ้องมองข้าอย่างตัณหา =~=  รู้สึกคลื่นไส้จริงๆเลยไม่ว่ายุคไหนมนุษย์ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ คนหน้าตาดีมันก็แบบนี้ล่ะนะ

    “มาแล้วครับ!

    “โอ้! คุโรกิ เร็วๆเข้า ร้านเราต้องการคนเพิ่ม มาช่วยเร็วเข้า”

    “ครับ!

    ข้ารีบขึ้นไปแต่งตัวใส่เครื่องแบบของร้านและทำหน้าที่ของตนที่ทำเป็นประจำจนจำได้ขึ้นใจ

    “ดูสิ คุณคุโรกิ หล่อมากเลยนะ”

    “ใช่ๆ อยากเป็นแฟนของเขาจัง...”

    ประโยคสนทนาของหญิงสาวเมื่อยามมองข้ามันก็ทำนองนี้กันทั้งนั้น ข้าไม่ชอบเสียเลยที่เหล่ามนุษย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ประเสริฐกับทำตัวต้องการตัณหาขนาดนี้

    5 ชั่วโมงผ่านไปเป็นเวลายามเย็น ข้าก็ต้องเลิกงานที่นี่และต้องกลับบ้านแล้ว ทุกท่านคงสงสัยทำไมข้าต้องทำงานพิเศษทั้งที่ข้าเป็นปีศาจจะปล้นจี้มาก็ได้ และไม่มีมนุษย์หน้าไหนหยุดข้าได้ด้วย

    เหตุผลที่ข้าไม่ทำเพราะข้าไม่อยากทำร้ายมนุษย์และก่อความชั่วหากไม่จำเป็นจริงๆ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ข้าก็ถูกมนุษย์ช่วยชุบเลี้ยงข้า และถูกปลูกฝังแต่เรื่องดีๆ เพราะอย่างนี้ล่ะนะที่ทำให้ข้าเลือกที่จะแบบนี้มากกว่า

    ข้ามองนาฬิกาข้อมือของข้า เข็มยาวชี้ไปยังเลข 3 และเข็มสั้นนั้นชี้ไปยังเลข 5 แต่ท้องฟ้าก็ค่อนข้างจะแดดยังร้อนแรงอยู่ ก็ตอนนี้เป็นช่วงหน้าร้อน รีบกลับไปดีกว่า คงต้องใช้ทางลัดผ่านป่าไป

    ข้าตัดสินใจว่าจะผ่านป่าไปเพื่อจะได้ถึงที่พักของข้าอย่างรวดเร็ว...หากในตอนนี้หากเขาจำคำพูดของเทพคิมาโมโตะไว้ล่ะก็ชะตาของเขาคงอาจจะไม่พลันเปลี่ยนก็เป็นได้....

     

    ใครก็ได้ ได้โปรดช่วยฉันด้วย...

    เสียงหนึ่งลั่นเข้ามาในโสตประสาทของข้า และซ้ำไปซ้ำมาอยู่นานพอสมควร และมันเป็นภาษาต่างประเทศ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะข้าเรียนรู้ภาษามาเยอะเลยรู้ว่า ใครกำลังขอความช่วยเหลืออยู่ ข้ามองซ้ายมองขวา และก็ต้องหันไปทางซ้ายทางที่พุ่มไม้นั้นสั่นๆเหมือนมีบางอย่างจะกระโจนออกมา และนั่นก็เป็นอย่างที่ข้าคิดไว้ จู่ๆก็มีชายหนุ่มกระโจนใส่ข้า

    “โอ๊ย! แกทำบ้าอะไรวะ!

    อย่างไรข้าก็ไม่ได้หลบและปล่อยให้ชายหนุ่มคนนั้นกระโจนใส่ข้ามา จนต้องไปนอนกองกับพื้นพร้อมกับเจ้าหนุ่มนั่น แต่ทำไมมันขึ้นคร่อมข้าได้ล่ะ? =__=

    “ละ...เลือด...”

    “หา... -0-

    ไม่ทันอะไรเจ้าหนุ่มนั่นก็แยกเขี้ยวอันแหลมคมให้ข้าก่อนจะฝังเขี้ยวลงบนต้นคอของข้าอย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วกายของข้า แต่ข้าก็ไม่ได้เจ็บอะไรมาก ว่าแต่... =[ ]=!! เจ้านี่ไม่ใช่มนุษย์เหรอ? =w= มันก็ต้องอย่างนั้นสิมนุษย์ที่ไหนจะกระโจนเข้าหาปีศาจที่ไม่ได้แสดงฤทธิ์ให้เห็นนอกจากปีศาจหรือผู้มีญาณที่จะมองเห็น

    “ปล่อยนะ!!

    ข้าตะคอกใส่ให้ปล่อยแต่เจ้านี่กับจับข้าแน่นและยังคงสูบเลือดของข้า เป็นยุงหรือไรกัน =__= มาดูดเลือดของข้าแบบนี้

    “เจ้าอาสทัสอยู่นั่น!!

    เจ้าหนุ่มนั่นเมื่อได้ยินอย่างนั้นจึงหันไปมองคนที่ตะโกนก่อนจะลุกจากตัวข้าและรีบหนีไป ทิ้งให้ข้านอนอยู่บนพื้นหญ้า ให้ตายสิ เจ้าเด็กไร้มารยาท ข้ารีบลุกขึ้นยืนก่อนที่เจ้ามนุษย์ที่น่าจะเป็นนักล่านั่นจะเดินมาตรงที่ข้าอยู่และเหยียบข้าแน่ เพราะดูท่าแล้วมองไม่เห็นข้า

    “นี่มัน...”

    “เซราฟอะไรเหรอนั่น”

    “เลือด...”

    “ก็ของเจ้าอาสทัสไม่ใช่เหรอ?”

    “ไม่ใช่นี่มัน...ไม่ใช่เลือดของเจ้านั่น...”

    ข้าไม่ฟังบทสนทนาของเหล่ามนุษย์ต่อและลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า ข้าน่าจะลอยตัวไปตั้งแต่แรกก็น่าจะดีไม่น่าจะคิดออกกำลังกายเดินกลับที่พักของข้าเลย เพราะอย่างนี้ข้าเลยต้องมาเจอเรื่องบ้าๆ

    ข้าจับตรงต้นคอที่ถูกกัดรอยเขี้ยวหายไปแล้วด้วย หวังว่าในร่างกายข้าคงไม่มีอะไรบุบสลายหรอกนะ -__-

    ใครก็ได้ ได้โปรดช่วยฉันด้วย...

    และเสียงนั่นก็ดังในโสตประสาทของข้าอีกครั้งแต่ครั้งนี้กับได้ยินอย่างชัดเจนมาก เสียงของเจ้าหนุ่มนั่นกำลังขอความช่วยเหลือ และแน่นอนว่าข้าไม่ไปช่วยแน่นอน ใครจะไปช่วยเจ้ายุงดูดเลือดกัน =__= ปล่อยให้นักล่ากำจัดไปนั่นล่ะ

     

    ชายหนุ่มรีบวิ่งหนีอย่างสุดชีวิตไม่มีแม้แต่เป้าหมายปลายทางที่จะไป แต่ไม่ว่าอย่างไรหากในตอนนี้เขาหนีไม่พ้นละก็ ชายหนุ่มต้องถูกกำจัดแน่ แต่เพราะได้สูบเลือดมาทำให้มีแรงขึ้นมา แต่ก็ได้แรงกลับมาค่อนข้างเยอะ เลือดนั้นช่างหอมหวานและรสเลิศที่สุดเท่าที่เขาได้ลิ้มรสมา

    !?”

    เจ้าหนุ่มนั่นหยุดวิ่งเมื่อเห็นตัวข้าได้ยืนอยู่ขวางทางเบื้องหน้าของเจ้าหนุ่มอยู่ ถึงจะไม่อยากช่วยก็เถอะ....

    “เลิกตะโกนขอความช่วยเหลือได้ไหมมันน่ารำคาญ!

    “นี่...นายทำไมถึง...”

    ยังไม่ทันได้พูดอะไรนักล่าก็กระโจนตะครุบเจ้าหนุ่มนั่นเสียแล้ว ไม่นึกเลยว่าจะตามมาเร็วดีแท้ =__=

    “ในก็ที่สุดก็จับเจ้าได้เสียทีนะ อาสทัส”

    “ปล่อยนะ!!

    เจ้าหนุ่มนั่นดิ้นไปมา ก่อนจะเอื้อมมือมาทางข้า =__= จะให้ข้าช่วยสินะ เฮ้อ~~ ช่วยก็ได้...

    จู่ๆสายลมพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงจนทุกคนตรงนั้นต่างต้องปิดตา สายลมที่ข้าสร้าง นักล่าต่างก็เอามือปิดหน้าถึงจะใส่ฮู้ดไว้ก็ใช่ว่าจะกันทรายที่จะเข้าดวงตาที่ไม่ได้มีการป้องกันอะไรเลยได้

    ข้าใช้โอกาสนั้นช่วยเจ้าหนุ่มมาและพาลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าและหายลับไป ทิ้งสายลมรุนแรงนั่นไว้ให้นักล่าลำบากที่จะตามมาไปก่อน แต่เดี๋ยวลมนั้นมันก็สงบไปเอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×