ตอนที่ 34 : ตอนที่ 33
...พูดถึงขนาดนี้จะเข้าใจกันหรือยัง...
ผมอยากตีก้นอินรินทร์ซะจริง ผู้หญิงอะไร ตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยทำให้อารมณ์ผมสงบสักวันเดียว เริ่มจากหมั่นไส้สถานะเด็กเส้นของหล่อน กลั่นแกล้งกันไปมาและสุดท้าย
ผม...
หัวใจผมมันเต้นด้วยจังหวะที่เปลี่ยนไป
เพราะคุณไงอินรินทร์
จู่ ๆ ผมก็โพล่งตอบประโยคในใจออกมาดัง ๆ ทำให้ผู้หญิงในอ้อมกอดหน้าเหลอ
.
ผมเป็นอย่างนี้ก็เพราะคุณ หัวใจผมตอนนี้มันเหมือนเขื่อนกักเก็บน้ำไว้มากเกินไปจนถึงขั้นแตกร้าวและล้นทะลักลงมาในที่สุด สมองผม ความรู้สึกของผม และคำพูดต่าง ๆ มันวิ่งวุ่นอยู่ข้างในเพราะปากไม่สามารถพรั่งพรูพูดออกไปได้หมดในคราวเดียว ผม...
ดวงตากลมมองผมปริบ ๆ ตื่นตระหนกแกมงุนงง แน่ล่ะในเมื่อผมกำลังจะคลั่งตายเพราะไม่เข้าใจการกระทำของอินรินทร์ ไม่เข้าใจสักนิดเดียว ทั้งที่เราเหมือนจะสนิทกัน ถึงจะยังทะเลาะกันบ้างแต่ก็ไม่จริงจังนัก และทั้ง ๆ ที่บางอย่างมันบอกกับผมว่าเรามีความรู้สึกที่ดีต่อกันแต่...
เราจะญาติดีกันไม่ได้เลยเหรออินรินทร์คุณถึงต้องหลบหน้า ผมมัน... เออ! เห็นตัวโต ๆ แบบนี้ผมก็น้อยใจเป็นเหมือนกันและยิ่งรู้สึกมากขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อคนคอยหลบหน้าคนนั้นคืออินรินทร์ หล่อนงงเป็นไก่ตาแตกส่วนผมเองก็หมดความอดทนในการรอคอยให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง และทางเดียวที่มันจะจบได้ก็คือเคลียร์กันซะตอนนี้ ผมมันทุเรศมากนักหรือไงคุณถึง
เปล่านะ!
อินรินทร์ตะโกนสวนกลับมา แววตาว้าวุ่นตรงหน้าพัดพาเอาความน้อยใจของผมหายไปในพริบตา
แล้ว
แล้วอะไรเล่า วิญญาณสาวมั่นคงกลับมาประทับร่างอินรินทร์สำเร็จ หล่อนถึงพูดจาฉะฉานแถมสะบัดตัวไปมาหวังจะหลุดจากอ้อมกอด ขอโทษครับคุณผู้หญิง ตอนนี้ผมยังไม่อนุญาต อยู่อย่างนี้ไปก่อนเถอะจนกว่าทุกอย่างจะเคลียร์ ปล่อยสักทีได้มั้ย คุณเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอยู่ ๆ มาแสดงบทหนุ่มขี้ใจน้อย ตัวออกโตหัวก็ไม่ล้านสักหน่อย
อินรินทร์จุปาก ค้อนใส่ แต่พวงแก้มซับสีชมพูเข้มให้ผมได้รู้ว่ากำลังเขิน อะไรของเขานะ ประเดี๋ยวเขินประเดี๋ยวทำเฉยชาหลบหน้า
ไม่ต้องโยกโย้ คุณแกล้งให้ผมหัวหมุนใช่มั้ย
ไหนหมุน ก็ยังตั้งดีอยู่นี่นา
ซะดีมั้ง!
เรื่องเฉไฉพูดกันสามวันไม่ได้ความยกให้หล่อนเถอะ แต่วันนี้ผมไม่เขว คุณเสร็จแน่อินรินทร์ เมื่อครู่ตอนเข้ามาหล่อนคงไม่ทันสังเกต ผมจัดการล็อกประตูแล้วเสร็จสรรพ อย่างน้อยถ้าใครมันคิดจะมาขัดจังหวะการเคลียร์ปัญหาหัวใจตอนนี้ก็หมดสิทธิ์โผล่พรวดเข้ามาเหมือนไอ้โต้คราวก่อนที่ดันทะลึ่งโผล่มาพร้อมขนมครก
หนูอิน เรามาพูดกันดี ๆ สักครั้งได้ไหม
ผมอ้อนเสียงเบา แต่รัดวงแขนแน่นเข้า อินรินทร์รีบยกแขนขึ้นกั้นกลางระหว่างตัวหล่อนกับผมไว้แทบไม่ทัน หล่อนคงนึกว่าแขนเล็ก ๆ แค่นั้นกันผมห่างได้ผมจึงปล่อยให้ทำตามสบายเพราะไม่คิดจะล่วงเกินหรือทำมากมายไปกว่าใช้ไม้ตายปราบเด็กดื้อที่มีผลพลอยได้คือความอิ่มเอมเมื่อมีหล่อนแนบชิด
ก...ก็พูดดี ๆ อยู่นี่ไง
สีชมพูเข้มบนพวงแก้มเริ่มจัดขึ้นเป็นแดงและกระจายเป็นวงกว้าง ผมแกล้งก้มลงไปใกล้อีกนิด
โอเค งั้นตอบมาว่าไม่เกลียดกันแล้วหลบหน้าผมทำไม
คุณคิดไปเอง ฉันก็มาทำงานทุกวันแล้วเราก็เจอกันจะว่าหลบได้ไง
อย่าโกหก
กลิ่นหอมอ่อน ๆ นี่เริ่มเป็นกลิ่นที่ผมคุ้นเคย อินรินทร์อาจไม่ใช่ผู้หญิงสวยโฉบเฉี่ยวขนาดใครเห็นแล้วต้องเหลียวหลังแต่ก็น่ารักน่ามองชนิดที่ไม่มีวันเบื่อ
ฉึก! นี่ผมรู้สึกต่ออินรินทร์มากมายอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ไม่ใช่นะ อินรินทร์เถียง ดึงผมหลุดจากอารมณ์หวานเมื่อครู่ คุณเองต่างหากเป็นอะไร ทำไมต้องคอยจับผิดกันด้วย งานเรายังยุ่งกันไม่พอหรือไงถึงมาหาเรื่องกัน
ผมไม่ได้หาเรื่องคุณ และไม่มีทางใช่ เพียงแต่ผมรู้สึกถึงบางอย่างพอกพูนในใจ มันกำลังหาทางออกแต่แล้วก็พบทางตันเมื่อจู่ ๆ อินรินทร์มาหลบหน้ากัน บอกมาเถอะ ถ้าไม่เกลียดแล้วมีอะไรไม่พอใจ
...
ไม่มีคำตอบอีกแล้ว อินรินทร์หันหน้าหนี จังหวะที่หล่อนหันไปนั้นผมทันเห็นบางอย่างในแววตาซึ่งเป็นบางอย่างที่ฉายแสงแห่งความหวังให้ผมไม่น้อย
หรือว่าเรื่องเชอร์รี่ หล่อนหันขวับมาสบตาผมแทบทันที ใช่จริง ๆ สินะ
ผู้หญิงนี่น้าทำไมเวลาคิดอะไรไม่ยอมบอกตามตรงปล่อยให้ผมเป็นบ้าวันละสามเวลาอยู่ซะหลายวัน คำตอบที่มีแต่ความเงียบกับแววตาวูบวับเหมือนจะยืนยันข้อสันนิษฐานเพิ่มพูนกำลังใจผมขึ้นอีกมากโข ผมกดศีรษะอินรินทร์แนบอกเจ้าตัวไม่วายขืนตัว แต่เพราะใจอ่อนลงแล้วหรืออยากหลบตากันก็ไม่แน่ใจสุดท้ายก็ยอมอิงแอบอยู่อย่างนั้นจนได้
เชอร์รี่น่ะก็แค่เพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง
ที่สนิทกันมาก
แบบนี้เรียกประชดใช่ไหมหนอ ผมยิ้มอยู่เหนือศีรษะคนช่างประชดและขี้งอนที่สุดในโลก
ไม่มาก ผมแก้ความเข้าใจนั่นเสียใหม่พร้อมอธิบายอีกนิด ผมทำงานกับศิลปินมาตั้งมากแล้วนะคุณ ผู้ชายก็มากผู้หญิงก็แยะ เวลาทำงานมันก็ต้องมีพูดคุยกันบ้างเป็นธรรมดาแต่ไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง
อินรินทร์เงียบไปอีกแล้ว ทีอย่างนี้ทำไมไม่โต้เถียงอะไรออกมาบ้างเผื่อมันจะกลบเสียงหัวใจเต้นโครมครามในอกผมให้เบาลง คิด ๆ แล้วยิ่งอยากจับหล่อนลงโทษนัก ก็ทำไมถึงเข้าใจ ที่ผมแสดงออกทั้งหมดแถมยังพูดมาตั้งยาวยังไม่พอยืนยันอีกหรือว่าผมคิดยังไง
เฮ่อ!
เกิดมาไม่เคยพูดคำนี้กับใครสงสัยจะต้องพูดกับคนขี้งอนนี่ซะแล้ว
คุณนี่มันน่าตีจริง ๆ นะ ผมยืนยันอีกทีก็ได้ว่าไม่เคยคิดกับเชอร์รี่หรือใคร ๆ มากกว่าเพื่อนร่วมงาน
แล้วมาบอกฉันทำไม
อ้าววววววววว...
อินรินทร์เงยหน้าขึ้นจากอก ดวงตายิบ ๆ ที่มองผมมันเหมือนสัญญาณจากกรรมการบอกให้เปลี่ยนข้าง ผมไม่ใช่ฝ่ายรุกเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว
ก็เพราะคุณ ผมย้ำให้อีกฝ่ายรู้ตัว อยู่ ๆ ก็เกิดงอแงหลบหน้ารู้ไหมว่าผมเครียดแค่ไหน
แล้วทำไมจะต้องเครียด จริง ๆ ฉันจะเป็นยังไง รู้สึกยังไงก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับคุณนี่นา เด็กเส้นอย่างฉันน่ะ คุณคอยนับวันจะให้เด้งออกจากบริษัทตลอดเลยไม่ใช่หรือไง
โดนเข้าแล้วไอ้ต้นฝน บูมเมอแรงอันเบ้อเร่อตวัดกลับมากลางอกผมซะจุกแอ้ก ถ้าเป็นตอนเจอหน้ากันใหม่ ๆ เราคงเถียงกันหน้าดำหน้าแดง แต่ตอนนี้จะว่ายังไงผมก็ยอมแล้วเพราะหัวใจดันแพ้ราบคาบให้เจ้าหล่อนซะนี่
อย่าพูดแบบนี้อีกนะอินรินทร์
ทำไมล่ะคะคุณหัวหน้า
ท่าทางแค้นครั้งเก่านั่นอินรินทร์คงฝังกลบไว้ใกล้ตัวรอวันขุดขึ้นมาแก้แค้นผมเป็นแน่แท้ พอถึงคราวหล่อนจึงตะลุยผมทุกเม็ด แต่ก็น่าแปลกอีก ผมไม่โกรธสักนิดซ้ำยังขำแกมเอ็นดูหน้าสวย ๆ ที่เชิดขึ้นยั่วจนอดใจไม่ไหวก้มลงไปจุ๊บปลายจมูกนั่นทีหนึ่ง
คุณ! อินรินทร์ร้องลั่น หดคอ ผลักอกผมใหญ่ อย่ามาทำรุ่มร่ามกับฉันนะ
ก็แล้วใครใช้ให้ยั่วกันนักล่ะ
เด็กดื้อทำปากยื่นชิดจมูก ไอ้ผมก็คนหนุ่ม อยู่ใกล้คนที่ตัวเองรู้สึกพิเศษใจก็คอยจะเตลิดไป เห็นท่าไม่ดีกลัวจะลืมจุดประสงค์ผมจึงรีบพูดออกไปให้เข้าใจกันสักที
เอาล่ะ ฟังผมพูดให้ดี ๆ
ฉ...ฉันอยากเข้าห้องน้ำ
พอผมจริงจังอีกฝ่ายก็ลุกลี้ลุกลนขั้นมาทันทีทั้ง ๆ แก้มแดงเป็นลูกตำลึงสุกเห็นแล้วทำให้นึกถึงการ์ตูนตอนที่ตัวเอกกำลังเขิน ผมรู้ดี อินรินทร์พยายามจะเลี่ยง จะเพราะอะไรก็ตามที แต่...
ฟังผมก่อนเถอะไม่งั้นอกผมมันคงจะระเบิดแน่ ๆ ผมเลื่อนนิ้วทาบเรียวปากอินรินทร์ไว้เพื่อหยุดคำพูดเกเรทั้งหมด ไม่รู้อุณหภูมิในห้องทำงานเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ร่างกายผมมันจึงร้อนฉ่าขนาดนี้แถมใจยังเต้นรัวราวกับกลองศึกก็ไม่ปาน ไม่รู้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่รู้ไหมตอนนี้ในใจผมมีแต่คุณ ถ้าหัวใจผมเป็นปากกามันคงสะกดเป็นอยู่ชื่อเดียวก็คืออินรินทร์ ทีนี้เข้าใจความรู้สึกของผมหรือยังเด็กขี้แง
ส...สารภาพกันแล้ว
ฮิ้ววววววววววววววว
กองเชียร์ช่วยกันเฮหน่อย 555+
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปล.โอยยยยยยยยยยข้อดีจากการไม่ได้อ่านมานานได้อ่านหลายๆตอน แต่ข้อเสียคือรู้อะว่ายังมีอีกแต่อ่านไม่ได้แย้ว ทำงานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ TT TT
หวานจนน้ำตาลขึ้นแล้วค่า
ฝากนิยาย มุมไกลด้วยน้าา http://writer.dek-d.com/moomglai/story/view.php?id=622174
งานนี้เตรียมตัวแพ้ได้เลย
555+++ หลงเสน่ห์นู๋อินเข้าเต็มเปา
เฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สารภาพกันซะที
อ่านไปเขินไป
อยากมีแบบนี้บ้างจัง ><
แหล่มเลย
ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
อยากขะเอาหน้ามุดคอม แบบว่าถ้าอยู่ในบรรยากาศแบบนั้น
คงเขิน หัวใจวายตายแหงๆ
ในที่มุดก้สารภาพกันแล้วววววววว
แว่ว แว่ว อินรินทร์ หวั่นไหว
ต้นฝน หวั่น หวั่น หวั่นใจ
สะท้านไหว ใจสองดวง
เพราะเราแอบฟังอยู่หน้าประตู
ต้องรีบไปบอกพี่แบมกับพี่เหน่ง!!!!!!!
แหม นู๋อินง่ะ ทำไก๋ซะจนจบตอนเลย พี่ต้นฝนทำงานหนักแฮะตอนนี้
ไม่ไหวจะรออ่านต่อแล้วค่ะ อัพคืนนี้เลยได้ไหมค๊า ฮ่าๆๆๆๆ
ถ้าหัวใจผมเป็นปากกามันคงสะกดเป็นอยู่ชื่อเดียวก็คืออินรินทร์
อิจฉาหนูอิน
ตอนหน้าขอหวานกว่านี้อีกนิดนะคะ อย่าเพิ่งให้มีใครมาขัดจังหวะเล้ย...สาธุ
เย้ เย้ เย้ เข้าใจกันแล้ว