ตอนที่ 5 : พบกันอีกครั้ง
เพลงสากลหวานซึ้งคลอแผ่ว ชายหนุ่มเจ้าของห้องชุดทิ้งตัวนั่งแผ่เหยียดขายาว เอนศีรษะพิงพนักโซฟาพลางหลับตา ห้องเงียบกับการอยู่ลำพังเป็นสิ่งธรรมดาหากพอมีใครคนหนึ่งเข้ามาแล้วก้าวออกมา เสียงแหวคลับคล้ายตราไว้ทุกหนแห่ง
อัคนีผงดศีรษะขึ้น สีหน้าหงุดหงิดเต็มที่ ยกมือตบขมับสองสามทีไล่ความคิดบ้า ๆ ที่ดันหวนคำนึงถึงหญิงสาวนามนีนนาราออกจากสมอง
ก็แค่เด็กใจแตก
เขาแค่นยิ้มพึมพำ
โทรทัศน์ถูกเปิดค้างไว้เฉย ๆ เพราะเขาหาได้สนใจจะดู งานที่ว่ามีก็ใช่ว่าจะเร่งร้อนถึงขนาดต้องทำวันหยุด เสียงโทรศัพท์ดังทำให้ร่างสูงผุดลุกก้าวขายาว ๆ ถึงผนังฝั่งตรงข้ามคว้าโทรศัพท์มากดรับ
อัคนีครับ
ป้าเองลูก หญิงวัยกลางคนส่งเสียงใจดีมาตามสาย หายไปเลยนะเรา เรียนหนักเรอะ จะเอาให้ถึงด็อกเลยหรือไง
คนถูกถามหัวเราะร่วนทั้งกับคำถามและสำเนียงแปร่ง ๆ อย่างชาวต่างจังหวัด
ด็อกเตอร์ครับ ไม่ใช่ด็อก ป้าสบายดีหรือเปล่าครับ ผมมัวยุ่ง ๆ เลยไม่ค่อยได้โทรหา ขอโทษนะครับ
ไม่เป็นไรลูก ป้าเป็นห่วงเท่านั้นแหละลุงเขาก็ถามถึง
ผมกำลังเร่งทำวิทยานิพนธ์ครับ ถ้าเสร็จเมื่อไหร่จะรีบกลับไปหานะครับป้า ฝากสวัสดีลุงด้วยนะครับ
จ้ะ ๆ
บทสนทนามีต่ออีกสักพัก ญาติผู้ใหญ่หนึ่งในสองที่เขาเหลือในชีวิตจึงวางสาย มันเป็นการพูดคุยกันอย่างหาสาระไม่ได้แต่แฝงมาด้วยสายใยแน่นเหนียวของความห่วงใยอาทรให้กับหลานชายที่บ้าเรียนอย่างเขา พอได้ยินเสียงป้าก็หวนนึกถึงสวนผลไม้ที่จังหวัดจันทบุรี ธรรมชาติอันร่มรื่นบรรยากาศเงียบสงบแตกต่างจากความวุ่นวายในเมืองหลวงลิบลับ สองปีล่ะมังที่ไม่ได้กลับไป มีเพียงโทร. หาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ
อีกไม่นาน
ชายหนุ่มหมายมั่น ถ้าวิทยานิพนธ์เสร็จสิ้น อีกเพียงสองเดือนเขาก็จะได้วุมิการศึกษาปริญญาโท คิดถึงการเรียนให้ชวนหงุดหงิดทุกครั้ง เขาสงสัยนักว่าหนึ่งปีที่ผ่านมามัวทำอะไรทำไมจึงเรียนช้ากว่าเพื่อนในคลาส
น้ำสีดำเข้มในเครื่องต้มใสเดือดปุด ห้องครัวคือส่วนแยกใกล้ ๆ นั่นเอง ชายหนุ่มรินกาแฟดำใส่แก้วเนื้อดี เขาเคยพยายามเลิกดื่มมันเพราะนับวันยิ่งติดมากขึ้นบางทีดื่มถึงวันละสี่แก้วโดยเฉพาะช่วงเร่งสรุปผลงานวิจัย แต่จนแล้วจนรอดยังทำไม่ได้
กาแฟแก้วที่สองของวันเข้าสู่ร่างกาย วันพักผ่อนกิจกรรมส่วนใหญ่หมดไปกับการนั่งฟังเพลงภายในห้อง อ่านหนังสือพิมพ์ เล่นเกมคอมพิวเตอร์บ้างบางที ทว่าวันนี้สมาธิกลับแตกกระจาย งานชะงัก เพลงฟังไม่รู้เรื่อง อัคนีคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำเย็น ๆ บางทีคงพอช่วยได้
ผมดำขลับเปียกน้ำลู่แนบลำคอและใบหน้า เงาสะท้อนในดวงตาเหมือนมีบางสิ่งเต้นเร่าดิ้นรนเปิดเผยตัวตน เขาจ้องหน้าตัวเองจากภาพสะท้อนของกระจกบานใหญ่ภายในห้องนอน ลดผ้าเช็ดผม ปล่อยแขนตกห้อยข้างกาย ชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ สังเกตดี ๆ จะเห็นแผลเป็นยาวบริเวณไรผมตรงหน้าผากข้างขวา ทำไมเขาจึงนึกไม่ออกว่าได้มันมายังไง เคยสอบถามจากลุงป้าก็ไม่ได้คำตอบ ท่านว่าท่านอยู่ต่างจังหวัด เขาอยู่กรุงเทพตลอดจึงไม่รู้
ผมยาวแล้วนะอัค ตัดเถอะ เราชอบเวลาอัคตัดผมสั้นมากกว่า
เสียงหวาน ๆ เหมือนเพิ่งจบลงเมื่อนาทีก่อน เสียงของผู้หญิงในรูปใหญ่บนผนัง หล่อนมีอิทธิพลต่อใจเขานักหนา ทุกค่ำคืน เพียงหลับตาจะฝันเห็นเสมอ ในความฝัน หล่อนยิ้ม หัวเราะ บางทีนั่งเอนอิงซบกันช่างดูอ่อนหวานน่ารักอย่างที่ไม่เคยรู้สึกว่าผู้หญิงคนไหนน่ารักเท่านั้น
ชนมน ผมรอ รู้หรือเปล่า
รอบผนังในห้องนอนมีรูปหญิงสาวในภาพฝันเรียงรายทุกอิริยาบถ นิ้วเรียวยาวลากไล่ไปทีละรูปอย่างหลงใหลและแสนคิดถึง
ชนมนเป็นสาวสวยยิ้มง่าย ฝัน...บอกเขาว่าระหว่างกันช่างเป็นสัมพันธ์อันลึกซึ้งดั่งเช่นคนรัก ทว่าความทรงจำเกี่ยวกับหล่อนช่างน้อยเต็มที รู้เพียงหล่อนบินลัดฟ้าเพื่อเรียนต่อต่างประเทศทิ้งให้เขาเฝ้ารอคอยนับคืนวันให้หล่อนกลับมาอีกครั้ง เพื่อกอดประทับร่างนั้นไว้กับอกจริง ๆ ไม่ใช่แค่ยามหลับ
ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียงสิบกว่าก้าว ร้านตัดผมชื่อดังก็ปรากฏแก่สายตา หนุ่มหล่อร่างสูงเดินเอามือล้วงกระเป๋าตรงไปยังร้านดังกล่าวผ่านสายตาชื่นชมระคนหลงใหลจากหญิงสาวมากมาย นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ผลการเรียนเป็นหนึ่งในระดับมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นดารานักร้องหรือนายแบบมากกว่าหนุ่มผู้คร่ำเคร่งกับการเรียน
หวัดดีค่ะพี่เต้
เด็กสาวอายุประมาณสิบเจ็ดปีเดินกึ่งวิ่งมาหา กระพุ่มมือไหว้พลางส่งเสียงใส
อัคนีขมวดคิ้ว มองสายตาเด็กสาวคนดังกล่าวก็พอรู้ว่าหล่อนทักเขาแน่ ๆ หากว่า...
พี่ไม่ได้ชื่อเต้ครับ
แหม อย่ามาอำกันเลยค่ะ
หล่อนพูดขณะขยับร่างอวบอัดมาใกล้จนอกหยุ่นเบียดแขนเรียกอารมณ์ชนิดหนึ่งขึ้นมาชั่ววูบ ส่วนสูงมากกว่าหลายสิบเซ็นติเมตรยิ่งทำให้เขาพุ่งสายตาปะทะเนินอกขาวเหนือเสื้อกล้ามสีขาวได้พอดิบพอดีอย่างบังเอิญที่สุด
ขอโทษครับ น้องทักผิดแล้ว
ให้ตายเหอะ ยิ่งนานหล่อนยิ่งกระแซะราวกับจะเอาร่างกายตัวเองมาบดรวมกับเขาอย่างนั้น
พี่เต้อ่ะ เด็กสาวที่ร่างกายไม่มีส่วนไหนเข้าข่ายเด็กกระเง้ากระงอด แนบแก้มกับแขนชายหนุ่ม ยังงอนเกมอยู่ใช่มั้ยคะ งั้น...ถ้าหายโกรธเมื่อไหร่โทรมานะคะ เกมจะรอ
เฮ่ย
กระดาษสี่เหลี่ยมลายการ์ตูนถูกยัดใส่มือ เบอร์โทรศัพท์เขียนจากปากกาเจลปนกากเพชรวาววับยามต้องแดด นัยน์ตาสีเข้มเพ่งมองตัวเลขราวกับจะให้มันแปรเปลี่ยนเป็นคำตอบหรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เข้าใจมากกว่านี้ก่อนเงยขึ้นมองตามร่างอวบขาววิ่งดุ๊ก ๆ ไปนู่น
เด็กสมัยนี้ เขาบ่น ดูเอาเถอะ ถ้าไม่ใช่ทักผิดจริงก็เรียกได้ว่าเป็นวิธีจู่โจมจีบหนุ่มในระยะประชิดมากที่สุดเท่าที่เคยเจอมา คนนะโว้ย มายั่วมาก ๆ เดี๋ยวเหอะ
พวงกระดิ่งเหนือประตูกระจกใสดังกรุ๊งกริ๊งเมื่อชายหนุ่มผู้กำลังเดินบ่นอุบผลักประตูเข้าไป เจ้าของร้านร่างแน่งน้อยผิวขาวเนียน ผมยาวสลวยประบ่าอุทานด้วยความดีใจผละจากโต๊ะ
ดีค่าคุณอัค วันนี้ลมอะไรพัดมาคะ
คุณอัค ยิ้มแห้ง ๆ คุณกิ๊บหรืออดีตคือนายก้องส่งสายตาหวานหยดเข้ากับรูปร่างหน้าตาอันผ่านการโมดิฟายด์ด้วยมีดหมอศัลยกรรมมือหนึ่ง ยื่นมือขาวผ่องลูบแขนเขาเบา ๆ ร้านตัดผมแห่งนี้มีลูกค้ามาก กิจการเฟื่องฟูขนาดต้องรอคิวทีละนาน ๆ ยกเว้นลูกค้าเจ้าประจำอย่างเขาโผล่มาใช้บริการเป็นอันได้แซงคิวเสมอ
ผมยาว รก มาหั่นออกหน่อย
คำตอบราบเรียบทว่าในใจค่อนข้างขบขันเพราะภาพเด็กชายก้องเพื่อนร่วมชั้นประถมถึงมัธยมในอดีตวาบขึ้นซ้อนทับสาวสวยเบื้องหน้า เป็นเพื่อนกันมาเพิ่งมาความแตกว่าตัวหนุ่มหัวใจสาวเมื่อสองสามปีก่อนนี่เอง เขาไม่เคยรังเกียจหรือดูถูกเพศที่สาม เพศไม่ใช่เครื่องระบุหรือกีดกั้นความดีงาม การกระทำกับจิตใจข้างในต่างหากที่ควรพิจารณาให้ดี แต่ก็ไม่ถึงขั้นสนิทสนมชนิดปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดมีความหวังว่าเขาจะชอบ คนเคยเป็นเพศเดียวกัน
จะตัดทำม้าย อย่างนี้ล่ะหล่อแล้ว เซอร์ ๆ เท่ห์ ๆ ถ้าไม่เกรงใจล่ะกิ๊บกรี๊ดสลบตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
ให้มันน้อย ๆ หน่อยไอ้ก้องเกียรติ
เขาแกล้งตีหน้าตายดุเสียงเข้ม กิ๊บหรือก้องเกียรติเป็นข้อยกเว้น ฝ่ายนั้นสนิทสนมฉันเพื่อนแต่ก็ชอบส่งสายตาปิ๊งปั๊งมาเป็นระยะไปอย่างนั้น
ไอ้เวร สาวแตกเก๊กเสียงหล่อสบถตอบ รอคิวเลยมึง ปากดีนัก
เออ ทำงานเหอะ วันนี้ว่างรอคิวได้
ขาดคำเด็กในร้านตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ วันหยุดลูกค้ายิ่งมาก กิ๊บจึงปล่อยให้เพื่อนนั่งรอคิวยาวเหยียดด้วยรอยยิ้มสะใจเล็ก ๆ
ร้านตัดผมกว้างสองคูหานี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบโมเดิร์น รอบร้านมีภาพนักร้องทั้งไทยและเทศเน้นเฉพาะส่วนใบหน้านอกนั้นยังมีหนังสือแบบทรงผมชายและหญิงอีกตั้งใหญ่รวมถึงนิตยสารแฟชั่นด้วย กระดาษสีสวยจดเบอร์โทรศัพท์เมื่อครู่ปลิวลงถังขยะเป็นสิ่งแรก จากนั้นชายหนุ่มเลือกหนังสือมาเปิดผ่าน ๆ ฆ่าเวลาทั้งที่ไม่เคยพิศวาสหนังสือพวกนั้น
เล่มแล้วเล่มเล่าผ่านตา ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นเป็นพัก ๆ เพื่อคำนวณคิวว่าอีกนานแค่ไหนกับมองตามสายตาหลาย ๆ คนที่นั่งจ้องเอา ๆ จนเขารู้สึก หากแล้วเปลือกตาก็กะพริบถี่ คิ้วขมวด ยกหนังสือกางค้างคาขึ้นใกล้มากกว่าเดิม
นิตยสารแฟชั่นคอลเลคชั่นฤดูร้อนมีนางแบบสี่ห้าคนโพสต์ท่าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มร่าเริง หนึ่งในนั้นคือหญิงสาวนัยน์ตาสวย ผมยาวหยัก ยิ้มสดใสเหมือนจงใจใส่นัยน์ตาเขากระแทกหัวใจเต็ม ๆ
นีนนาราค่ะ
คงไม่แจ็กพ็อตขนาดมีฝาแฝดหรอกนะ ผู้หญิงในรูปคือแม่ลำยองคนเมื่อคืนเป็นแน่ ยิ้มในภาพดูบริสุทธิ์สดใสเหมือนตัวตนจริง ๆ ที่เพิ่งส่งยิ้มให้เขาเมื่อเช้า
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นอยากรู้ขึ้นมาตงิด ๆ ว่าหล่อนถึงบ้านปลอดภัยหรือไม่ นอกร้านมีคนเดินผ่านไปมามากมาย ส่วนมากเป็นหนุ่มสาว ฝั่งตรงข้ามเรียงรายด้วยร้านต่าง ๆ คั่นกลางด้วยถนนสายเล็ก อัคนีลุกขึ้นพรวดพราด ทำไมเขาถึงเป็นไปได้ขนาดนี้
หน้าร้านซึ่งปิดประตูแน่นหนาราวกับปิดกิจการมีกระดาษแผ่นหนึ่งแปะไว้ นีนนารายืนหอบกระเป๋าคอตก
อ้าวคุณอัค งอนแล้วเหรอ จะถึงคิวแล้ว เดี๋ยวซี่
ไม่รู้ทำไมเขาจึงไม่หันกลับไปตอบหรือพูดอะไรสักอย่างกับกิ๊บ ใจมุ่งแต่ว่าต้องข้ามถนนไปให้ทันก่อนนีนนาราจะหายไปจากตรงนั้น
__________________________________________________________________________________
ผิดพลาดอย่างรุนแรงที่ไม่สามารถมาโพสต์วันจันทร์ได้ตามสัญญา TT^TT
คลาดไป 1 ชั่วโมง เหอ ๆ (เข้าวันอังคารเลยตรู)
ขออภัยอย่างแรงเนื่องจากไปธุระเพิ่งกลับมา
แต่ก็มาอัพให้แล้วเน้อๆๆๆๆ
เม้นท์ ๆ โหวต ๆ - โหวต ๆ เม้นท์ ๆ
- Mu se-
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

2,395 ความคิดเห็น
-
#1548 เสี่ยวหลงเปา (จากตอนที่ 5)วันที่ 5 กันยายน 2551 / 16:56บัง้อิญหรือว่าพรหมลิขิตกันแน่นะเนี่ย ฮิฮิ#1,5480