ตอนที่ 8 : EP 05 : Remnants of memories 1
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบตั้งแต่เอ็มม่าหยุดร้องไห้ ทุกคนมองไปที่เอ็มม่าที่ถูกอาเคเดีย เด็กหนุ่มผู้คุมเรือนจำบาปเกียจคร้านนอนหนุนตักกอดเอวร่างเล็กอย่างไม่สนใจผู้ใด เรย์มองภาพนั้นอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกแปลกๆ ไม่ใช่ว่าเขาทนได้หรือไม่คิดอะไรหรอกแต่พอโวยวายไป เอ็มม่าก็บอกว่าไม่เป็นไรให้ปล่อยไป
"เอาล่ะ..งั้นเรามาเข้าเรื่องดีกว่า..เอ็มม่าบอกพวกนั้นถึงสิ่งที่เธอได้คืนไปแล้วสิ..ฉันจะได้ต่อส่วนที่เธอสงสัย จะได้รู้พร้อมๆกันเลย"
"ค่ะคุณวาซตี.."
ร่างบางสูดหายใจเข้าเล็กน้อยก่อนจะหันไปหาทุกคนด้วยแววตาที่เปลี่ยนเป็นจริงจัง ก่อนจะเอ่ยเล่าถึงเรื่องที่เธอเห็นทุกอย่างที่คูวิทิดาบาอีกครั้งรวมถึงสิ่งที่ |£;*~•^ บอกเธอหลังจากนั้นเรื่องคืนความทรงจำครั้นพันปีของเธอ
"ม..หมายความว่าไงเมื่อพันปีก่อน"ดอนมองอย่างไม่เชื่อสายตาจะบอกว่าเอ็มม่าคือเด็กสาวเมื่อพันปีก่อนที่มาเกิดใหม่อย่างนั้นเหรอ
"จากความทรงจำที่ |£;*~•^คืนให้ฉัน พันปีก่อน ฉันคือคนของราชวงศ์ทรอยแมร์ ราชวงศ์ที่คอยเป็นกลางระหว่าง มนุษย์และปีศาจ ไม่ฝักฝ่ายใดๆทั้งสิ้น "
จบประโยคเอ็มม่าก็หันไปหาหนุ่มๆทัณฑ์บาปที่พยักหน้าอย่างรู้กัน วาซตีตัดสินใจเอ่ยต่อ
"และพวกเราก็คือพี่น้องตระกูลวอร์ทาเรีย แห่งแดนทัณฑ์บาป ที่คอยคุมเรือนจำนักโทษ ที่มีความผิด7ฐาน ฉันคือ วาซตี ผู้คุมเรือนจำ บาปโลภะ ของทุกสิ่งบนโลกคือของของฉัน รวมถึงพวกนายก็ด้วย "
'เอ๋!!!!!!!!????'
ทุกคนทำหน้าเอ๋อทันทีที่ชายหนุ่มเรือนผมสีแดงเอ่ยจบก็มีผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาบอกว่าตัวเองเป็นของของเขาก็ต้องใจเป็นธรรมดาเหล่าผู้คุมแห่งบาปได้แต่ส่ายหน้าระอาไปตามๆกันเว้นแต่เอ็มม่าที่ยิ้มบางๆพร้อมหัวเราะน้อยกับท่าทีที่เธอคุ้นเคยเมื่อนานมาแล้ว
"คิกๆเป็นการแนะนำตัวที่สมกับเป็นคุณวาซตีจริงๆนะคะ"
"เฮ้อหมอนี่นี่นะ..ฉัน ผู้คุมเรือนจำบาปอัตตา ซูแปรบีอา "
"ต่อไปฉัน ผู้คุมเรือนจำบาปริษยา เวดี้! ไม่ต้องพิธีรีตองกันนักล่ะ เพื่อนของเอ็มม่าก็เหมือนเพื่อนของฉันนั่นแหละ!"
"ผมผู้คุมเรือนจำบาปโทสะ อิระ ครับ "
"เอ๋!!!"
ทุกคนมองตะลึงอีกรอบเมื่อชายหนุ่มเรือนผมสีฟ้าใบหน้าอ่อนโยนพึ่งบอกว่าตัวเองเป็นคนคุมบาปโทสะซึ่งค่อนข้างย้อนแย้งสุดๆ
"....โทสะ..ดูไม่เหมือนเลยนะ"
"คุณอิระน่ะถ้าโกรธครบ3ครั้งจะน่ากลัวสุดๆเลยล่ะนะ"
เรย์มองอย่างเหงื่อตกพรางนึกถึงใครบางคนที่อยู่ห่างไกล
'นอร์แมน2เหรอ?'
"ฉัน ผู้คุมเรือนจำบาปตะกละ แกร็ด.."
"ฉันก็ ผู้คุมเรือนจำ บาปราคะ ลัส..เรื่องนั้นช่างเถอะเอ็มม่ากลับไปนอนกอดกันที่ห้องแล้วปล่อยที่เหลือแนะนำตัวกันเองเถอะน้า~"
"ไม่ได้นะคะคุณลัส..."
"ลัส..ถ้าคุณไม่หยุดสร้างความลำบากใจคุณเอ็มม่าผมจะตัดมือคุณทิ้งซะ"
อิระลุกพรวดพรางปัดมือลัสให้ห่างจากร่างบางของเอ็มม่าพร้อมแผ่ออร่าดำที่ทำเอาทุกคนรอบๆสั่นด้วยความหวาดกลัว
"ค..คุณอิระใจเย็นค่ะ"
เอ็มม่าที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบห้ามทันที
"อ๊ะ..ข..ขอโทษด้วยนะ...คงทำให้กลัวกันสินะ..ขอโทษจริงๆครับ"
"ฮึๆ อิระก็ยังน่ากลัวเหมือนเดิมเลยน้า~ไม่ไหวเลย คุมโทสะให้ดีกว่านี้หน่อยสิ~"
"ผมไม่อยากโดนคนอย่างคุณที่มีแต่ราคะมาว่าหรอกนะครับ"
"พวกนายพอได้แล้วน่า.."
เวดี้ที่เห็นท่าไม่ดีรีบไปแยกทั้งคู่ทันทีก่อนจะมีการปะทะกันต่อหน้าเด็กๆ
ซูแปรบีอามองอย่างระอาก่อนจะหันกลับไปพูดต่อ
"แล้วก็คนที่หลับอยู่ตรงเอ็มม่าคือ อาเคเดียผู้คุมเรือนจำบาปเกียจคร้าน...พวกเราไม่ใช่ทั้งปีศาจและมนุษย์ เป็นอะไรที่มากกว่านั้น "
"พวกเราคือตระกูลที่มีสายเลือดอมตะไม่แก่ไม่ตาย เป็นเหมือนยมทูตแต่ก็ไม่ใช่ พวกเราจะคอยคุมนักโทษ ที่มีความผิดฐานบาปทั้ง7 นี่ล่ะคือเรื่องของพวกเรา"
"หนึ่งพันปีก่อน...ไม่สิ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนสำหรับเราคุณเอ็มม่าก็คือคนสำคัญ พวกเราทุกคนน่ะรู้จักกันตั้งแต่พวกเราเกิดตอนที่ยังเด็กๆ นั่นแหละครับ"
เมื่ออิระพูดจบก็หันไปหาโอลิเวอร์ที่นั่งจิบชาที่ลูก้านำมาเสริฟ
"ส่วนฉันเองก็เป็นหนึ่งในตระกูลเครือญาติของทรอยแมร์ที่มาเกิดใหม่เพื่อสานเรื่องของเอ็มม่าเหมือนกัน"
"เรื่องที่ฉันพอจำได้ก็มีแค่เท่าที่เล่านั่นแหละนะ|£;*~•^น่ะบอกฉันมาแค่นี้"
เมื่อเอ็มม่าพูดจบเรย์ก็ส่งสายตาหงุดหงิดให้เธอทันทีราวกับมองตาก็รู้ใจร่างบางถึงกับสะดุ้งไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ ถ้าการคาดเดาไม่ผิดเรย์คงหงุดหงิดที่เธอไม่ยอมเล่าเรื่องนี้ให้ฟังแต่ก็ยังเคารพการตัดสินใจของเธอเสมอ
"ขอโทษนะ.."
"เฮ้อ...เอาเถอะ ยังไงซะก็รู้แล้วว่าทำไมเธอทำตัวแปลกๆ"
"ก..ก็แปลว่าเอ็มม่าก็เป็นคนที่อยู่มาพันๆปีแต่ความจำเสื่อม ส่วนโอลิเวอร์ความจำครบถ้วนเหรอ"ยูโกะเอ่ยถามขึ้นเพราะเขายังค่อนข้างตกใจกับสถาณการณ์ข้างต้นอยู่วาซตีมองก่อนจะส่ายหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด
"เกือบใช่แต่ไม่...ทั้งคู่น่ะมาเกิดใหม่จากพันปีก่อนทั้งคู่นั่นแหละ "
"เรื่องต่อจากนี้ ขอให้ทุกคนดูเองเถอะนะครับ..."
สิ้นคำพูดของอิระพวกเขาก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนภายในปราสาทอย่างหนักหน่วง
"อ.. อะไรเนี่ย!!!!"
"นี่มัน..คล้ายตอนนั้น..."
ทุกคนจมลงไปในกระแสน้ำสีทองที่มาจากไหนก็ไม่รู้ ก่อนจะค่อยๆมลายหายไปเหลือความว่างเปล่า
ภาพรอบๆค่อยๆเลือนรางก่อนจะปรากฏสถานที่ที่เขามากันในตอนแรก หน้าปราสาทวอร์ทาเรีย
"นี่มัน..หมายความว่าไงเนี่ย!!!"
"ที่นี่คืออดีตครับ เป็นแค่ภาพที่ถูกจารึกไว้ "
"คอยดูเฉยๆเถอะทุกคน"
ร่างของหญิงสาวอรชรปรากฏขึ้นกลางสวนดอกไม้หลากสี ผมสีส้มยุ่งนิดๆด้านบน ที่สยายยาวโอบกอดร่างเธอไว้กับดวงตาสีเขียวสวยสดใสทำให้เธอดูราวกับภาพวาด ใช่ทุกคนรู้จักเธอดี 'เอ็มม่า ทรอยแมร์'
'สายแล้วเหรอเนี่ย..ต้องรีบแล้วสินะ..อ๊ะ..พวกคุณวาซตีออกมาพอดีเลย'
มือเรียวมองดูนาฬิกาที่สวนใหญ่ก่อนจะรีบวิ่งออกจากสวนทันทีเพื่อไปขึ้นรถม้า
ภาพถูกเปลี่ยนไปยังปราสาทหลังใหญ่แห่งหนึ่งและรถม้าคันเดิมที่เคลื่อนมาจนถึงสถาณที่แห่งนี้
'กำลังรออยู่เลยครับ องค์หญิงรัชทายาทแห่งทรอย์แมร์ องค์ชาย โอลิเวอร์ แห่งอัลเคเมียและเหล่าเจ้าชาย แห่งวอร์ทาเรียแดนทัณฑ์บาปทั้ง7การประชุม ร่างพันธสัญญาใกล้จะเริ่มแล้วเชิญทางนี้เลยครับ'
คนรับใช้รีบเดินมาเปิดประตูรถและรีบนำทางทั้ง9คนทันที
ทุกคนเข้าไปในสภาณศักดิ์สิทธิ์ สถาณที่เต็มไปด้วยตึงเครียดและเริ่มประชุมทันทีโดยแบ่งคนเป็น4ฝ่าย ปีศาจ, ตระกูลราทรี,กลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับการร่างพันธสัญญาและสุดท้ายกลุ่มที่ไม่เข้าฝ่ายใด กลุ่มของเอ็มม่า
'พวกเราจะขอร่างสัญญาเพื่อแยกสองดินแดนออกจากกัน โดยปีศาจจะไม่ล่ามนุษย์อีกและเราจะทิ้งคนกลุ่มนึงเพื่อเป็นของขวัญแก่พวกท่านไว้เพาะเลี้ยงเพื่อการอยู่รอดของพวกท่าน'
'พวกเจ้าจะบ้าเหรอ แบบนั้นมันไม่เห็นแก่ตัวไปรึไงที่จะทิ้งชนมนุษย์ไว้เป็นอาหารพวกกินคน '
'การทำแบบนี้ก็เพื่อมนุษย์ส่วนมาก! เราก็จะได้เปรียบทั้งสองฝ่ายอีกด้วย'
การโต้เถียงของฝั่งที่ต้องการทำสัญญาและฝั่งที่ไม่เห็นด้วยยังคงดำเนินการต่อไป
'ถ้างั้นท่านคิดว่าไงองค์หญิงทรอยแมร์ เสียงของท่านก็ถือว่าสำคัญมากนะครับ'
เอ็มม่ามองตระกูลราทรีที่เอ่ยถามตนก่อนจะพิจารณา ใช่เสียงของเธอเป็นเสียงที่สำคัญมากเพราะมันจะตัดขาดการโต้เถียงกันครั้งนี้
เธอรู้ดีว่าการทำสัญญาเป็นหนทางที่ดีในการแบ่งดินแดนเป็นสองฝั่ง แต่แล้วมนุษย์ที่เหลืออยู่ล่ะ
'เป็นทางเลือกที่ยากจริงๆนะ'
โอลิเวอร์เอ่ยพรางมองเนื้อหาการร่างพันธสัญญาแบ่งดินแดนจริงอยู่ที่มนุษย์ส่วนใหญ่จะอยู่รอด แต่คิดจะเอามนุษย์ที่เหลือเป็นของขวัญเพื่อการแบ่งดินแดนโดยให้เพาะพันธุ์กันไป มีชีวิตอยู่เพื่อการเป็นอาหารของพวกกินคนแบบนี้มันไม่ได้ดีเลย
'ไม่มีหนทางที่แบ่งดินแดนโดยไม่มีการสูญเสียเลยเหรอ?'
เอ็มม่าพึมพำอย่างหนักใจ เธอในฐานะเจ้าหญิงผู้เป็นศูนย์กลางมันเป็นการตัดสินใจที่ลำบากมาก
'ฉันคิดว่า...'
'ปัง! ปัง!'
ไม่ทันที่เอ็มม่าจะเอ่ยอะไรเสียงปืนกลับดังลั่น พริบตาเดียวสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ก็วุ่นวายกันกว่าเดิม ร่างอรชรของรัชทายาทแห่งทรอยแมร์ล้มลงต่อหน้าต่อตาผู้คนนับหลายร้อยคนในสถานศักดิ์สิทธิ์ ชุดสีขาวสะอาดตาถูกย้อมเป็นสีแดงทันควัน
"เอ็มม่า!!!!!!!!!/ท่านเอ็มม่า!!!!!!!!"
เสียงผู้คนส่งร้องออกมาอย่างตกใจที่บุคคลผู้เป็นหัวใจของคนหลายล้านคนในดินแดนแห่งความแตกแยกล้มลงต่อหน้าต่อตา ด้วยอาวุธร้ายแรง
"เอ็มม่าทำใจดีๆไว้นะ..เอ็มม่า!!!"
"ทำอะไรกัน!!รีบเรียกหมอหลวงเร็ว!!!"เวดี้รีบตะโกนไปทางข้ารับใช้ที่ยังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ตรงหน้า
"ไปตามหาตัวคนยิงลูก้า!"วาซตียืนขึ้นก่อนรีบวิ่งออกจากที่เกิดเหตุพร้อมโอลิเวอร์และลูก้าเพื่อตามหาคนยิงทันที
คนรักแสนสำคัญของพวกเขาโดนยิงต่อหน้าต่อตาแบบนี้คงไม่มีคนทนได้แน่แท้
"เอ็มม่า..ทำใจดีๆไว้...เอ็มม่า!! โถ่เว้ยหมอมัวทำอะไรอยู่!!"
ซูแปรบีอามองอย่างหัวเสีย ลัสทนรอไม่ไหวจึงช้อนตัวร่างบางขึ้นทันทีและรีบหาทางไปห้องพยาบาลอย่างรวดเร็ว
เพราะความวุ่นวายนี้การประชุมในวันนั้นถูกหยุดไว้ด้วยเหตุการลอบปรงพระชนม์องค์หญิงรัชทายาทแห่งทรอย์แมร์ พวกวาซตีได้จับตัวคนยิงได้ว่าเป็นนักฆ่าว่าจ้างแต่จับตัวคนว่าจ้างไม่ได้เพราะหลังจากที่จับตัวนักฆ่า ก็ได้ถูกอิระตัดแขนทิ้ง ทีแรกอิระตั้งใจจะฆ่าทิ้งแต่จำเป็นต้องเก็บปากให้หมอนี่พูดได้เพื่อบอกเรื่องคนว่าจ้าง แต่ไม่กี่วันจากนั้นนักฆ่าว่าจ้างก็ถูกยิงทิ้งเพื่อปิดปากทันที
ภาพถูกเร่งไปที่ห้องพยาบาลของปราสาทวอร์ทาเรีย
'ปิ๊ป..ปิ๊บบ..ปิ๊บ'
'เอ็มม่า..ยังไม่ฟื้นเลยนะ'เวดี้เอ่ยพรางกุมมือเด็กสาวบนเตียงอย่างเป็นห่วงไม่ต่างจากคนที่เหลือ
'ปัง!'
มือหนาของโอลิเวอร์ชกไปกำแพงอย่างโมโหที่จับตัวคนร้ายตัวจริงไม่ได้จริงอยู่ที่เอ็มม่ายังไม่ตายแต่ นี่ไม่ต่างกับให้เธอเจ็บตัวฟรีเลยจริงๆ
'โถ่เว้ย...ถ้าจับแกได้แกไม่ตายดีแน่!!!!'
ทุกคนในห้องมองไปที่เตียงอย่างเจ็บปวดที่ไม่สามารถปกป้องบุคคลอันเป็นที่รักไว้ได้ได้แต่รอให้เธอฟื้นเท่านั้น
"เอ็มม่า..คือเจ้าหญิงราชวงศ์ทรอยแมร์งั้นเหรอ..."
"แถมยังถูกลอบปรงพระชนม์ในวันกำหนดความเป็นความตายของกลุ่มปศุสัตว์..."
ผมมองภาพเรื่องราวด้วยใจที่สับสน ภาพของครอบครัวคนสำคัญที่โตมาด้วยกันในอดีต ตัวเธอเมื่อพันปีเป็นบุคคลสำคัญคนนึงที่ถูกลอบทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส
"ง..งั้นเราต้องเรียกเธอว่าเจ้าหญิงรึเปล่าเนี่ย"
คุณลุงยูโกะมองไปที่เอ็มม่าก่อนจะถามด้วยเสียงกลัวๆ นั่นสินะเธอเป็นถึงเจ้าหญิง แต่ยังไงเอ็มม่า..
"ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ถึงในอดีตฉันจะคือรัชทายาทลำดับสุดท้ายของราชวงศ์ทรอยแมร์ แต่ฉันในตอนนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในปศุสัตว์เด็กจากเกรซฟิลด์ เป็นแค่เอ็มม่าเหมือนที่ทุกคนเคยรู้จักนะ"
หึๆ...สมกับเป็นเธอ ยังไงซะเธอก็คือเอ็มม่าที่พวกเรารู้จัก ใจดี อ่อนโยน ไร้เดียงสาแต่ก็เข้มแข็ง
ผมตัดสินหันกลับไปยังภาพตรงหน้าที่เริ่มเคลื่อนไหวอีก
'ปัง!!'
เสียงประตูถูกเปิดอักครั้งร่างภาพของบุคคลมาใหม่ทำให้ทุกคนถึงกับหน้าถอดสีอีกครั้ง
'นี่!เอ็มม่าเป็นยังไงบ้าง!!!!'
(ม...ไม่จริงน่า)
[To Be Continued]
ของแถมวันนี้ขอเสนอโดสั้นๆอีกตามเคยยย
'โฟกัสหน้าคนด้านหลังด้วยจ้าา555'
'อย่าราดใส่เอ็มม่าน้าาา'
ช่วง talk with Writer
น้องเอ็มม่าจะเป็นไงต่อไป แล้วใครกันที่มาใหม่น้าาา จบไปอีกตอนแล้ววและวันนี้ก็เอาหนุ่มๆมารายงานตัวแร้ววว
ตัวละครที่ปรากฏ
วาซตี
'เพราะฉันโลภมากนั่นละ
กับแค่โลกใบเดียวและผู้หญิงคนเดียว
ฉันมั่นใจว่าสามารถดูแลมันได้น่ะ'
เจ้าชายแห่งอาณาจักรวอร์ทาเรีย แดนทัณฑ์บาป
ทำหน้าที่เป็นผู้คุมเรือนจำที่คุมขังนักโทษผู้ก่อความผิดเพราะ "โลภะ"
มีนิสัยชอบคิดว่าทุกอย่างบนโลกเป็นของตนเอง
แต่เขาก็ให้ความสำคัญกับของของตนเอง แม้จะเป็นเพียงปากกาด้ามเดียวก็ใช้อย่างทะนุถนอม
คติประจำใจ : ของของฉันก็คือของของฉัน ทุกสิ่งบนโลกใบนี้เป็นของของฉัน
สิ่งที่ชอบ : ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในครอบครอง
สิ่งที่ เกลียดไม่มี
อิระ
'แต่ว่า......ยังไงก็ระวังไว้หน่อยนะ เพราะผมก็
ไม่รู้ได้เลยว่าพอโกรธแล้วผมจะทำอะไรลงไปบ้าง'
เจ้าชายแห่งวอร์ทาเรีย แดนทัณฑ์บาป ทำหน้าที่ดูแลเรือนจำคุมขัง
ผู้ก่อบาป "โทสะ" ปกติเป็นคนนุ่มนวล แต่ถ้าโกรธครบสามครั้ง
จะระเบิดความโกรธออกมา และเวลาโกรธจะเปลี่ยนไปพูดสุภาพ
คติประจำใจ : อดทนจนกว่าจะถึงครั้งที่ 3
สิ่งที่ชอบ : โกโก้ใส่วิปครีมเยอะๆ
สิ่งที่เกลียด : เรื่องที่ทำให้หงุดหงิด
ซูแปรบีอา
'ให้ตายสิ..เธอเนี่ยเฉิ่มเหมือนเดิม แต่แววตานั่นก็ยอดเยี่ยมเหมือยเดิมเลยนะ'
เจ้าชายแห่งอาณาจักรวอร์ทาเรีย แดนทัณฑ์บาป
ทำหน้าที่เป็นผู้คุมเรือนจำซึ่งคุมขังนักโทษผู้กระทำผิดเพราะ
“โอหัง” เป็นคนหยิ่งไม่สนใจใคร ปกติพูดจาแบบผู้หญิง
เป็นคนพูดตรงไม่ว่าเรื่องดีหรือร้าย ใส่ใจกับเรื่องรูปลักษณ์
ภายนอก ยามว่างจากงานราชการก็เป็นนายแบบและดีไซเนอร์
คติประจำใจ : เกลียดคือด้านตรงข้ามของชอบ♥
สิ่งที่ชอบ :ชุดที่ใส่แล้วดูรูปร่างดี ผลไม้ตระกูลส้ม
สิ่งที่เกลียด : ชุดเชยๆ มันฝรั่งนึ่ง แบบไม่ปรุงรส
ลัส
'ห้ามประมาทเด็ดขาดเลยนะ จุดเริ่มต้นของความรัก
มักจะเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัวนะ...'
เจ้าชายแห่งวอร์ทาเรีย แดนทัณฑ์บาป ทำหน้าที่ดูแลเรือนจำคุมขัง
ผู้ก่อบาป "ราคะ" ปกติแล้วเป็นคนอ่อนโยน
เพราะเป็นคนมีเสน่ห์จึงมีหญิงสาวเข้ามาหามากมาย
แต่เขาก็มีนิสัยไม่ปฏิเสธผู้เข้ามาหา สิ่งที่เขาเชื่อมีแต่ความอบอุ่น
ในตอนกอดกัน ไม่มั่นใจว่าจะสามารถรักใครจากใจได้
เพราะมีสาเหตุมาจากเหตุการณ์ในสมัยอดีตจนได้มาพบเอ็มม่า
คติประจำใจ : เข้าหา มองมา สัมผัส
สิ่งที่ชอบ : อุณหภูมิร่างกายคน
สิ่งที่เกลียด : สภาพแวดล้อมที่ไม่สามารถสนุกกับความรักได้อย่างอิสระ
เวดี้
'...ก็ฉัน
ไม่ชอบให้เธอไปคุย
กับคนอื่นนี่..'
เจ้าชายแห่งอาณาจักรวอร์ทาเรีย แดนทัณฑ์บาป
ทำหน้าที่เป็นผู้คุมเรือนจำที่คุมขังนักโทษผู้ก่ออาชญากรรมเพราะความ "ริษยา"
มีนิสัยขยันขันแข็ง ซื่อตรง เคยมีประสบการณ์ "ริษยา" มาหลายรูปแบบแล้ว แต่ยังไม่เคยริษยาเรื่องรักจนได้มาพบเอ็มม่า จึงไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกนั้น
คติประจำใจ : อยากได้อะไรต้องได้
สิ่งที่ชอบ : อาทิตย์อัสดงสีแดงฉาน
สิ่งที่เกลียด : คนไร้ความพยายามที่ดีแต่บ่น
อาเคเดีย
'เฮ้อ...แค่หายใจยังขี้เกียจเลย
ถึงจะขี้เกียจยังไง ฉันก็คงไม่พูดขนาดนั้นหรอก'
เจ้าชายแห่งวอร์ทาเรีย แดนทัณฑ์บาป
ทำหน้าที่ดูแลเรือนจำคุมขังผู้ก่อบาป "เกียจคร้าน"
เป็นพวกเกลียดความยุ่งยาก จึงวางทุกอย่างที่จำเป็นเอาไว้
ในบริเวณที่สามารถหยิบถึงจากเตียง เขาสามารถสั่งงานลูกน้อง
ได้เรียบร้อยจากบนเตียง
คติประจำใจ: ใครทำงานก่อนแพ
้สิ่งที่ชอบ :ตอนนอน ตอนที่ไม่มีสติ
สิ่งที่เกลียด : แบบฝึกหัดการคำนวณที่ไม่รู้ทำไปทำไม
แกร็ด
'จะกลิ่นแย่แค่ไหนก็กินได้หมดแหละ'
เจ้าชายแห่งอาณาจักรวอร์ทาเรีย แดนทัณฑ์บาป
ผู้ลงทัณฑ์นักโทษที่มีความผิดฐาน "ตะกละ"
ไม่สนใจอะไรเลยนอกจากเรื่องกิน แน่นอนว่าความรักก็ด้วย
ด้วยนิสัยเงียบๆ ทำให้รู้สึกเหมือนเขาเป็นคนเอื่อยๆ
แต่เขามักจะทำอะไรตามใจตนเอง จึงมีด้านที่หัวรั้นด้วย
คติประจำใจ : ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง
สิ่งที่ชอบ : อาหาร
สิ่งที่เกลียด : เหม่อลอย
ลูก้า
'ผมก็แค่ มีชีวิตเพื่อคอยรับใช้เหล่าเจ้านาย'
ข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ของวอร์ทาเรียแต่เดิมเคยเป็น ข้ารับใช้ส่วนตัวของเอ็มม่าแต่พอเอ็มม่าตายจึงได้ทำสัญญารับใช้วอร์ทาเรียเพื่อรอวันที่เอ็มม่าฟื้นและรอล้างแค้น
คติประจำใจ : ทุกสิ่งทุกอย่าเพื่อองค์หญิง
สิ่งที่ชอบ : การชงชา การวิจัยเล่นแร่แปรธาตุ
สิ่งที่เกลียด : คนที่ไร้สัมมาคารวะ
เนื้อเรื่องดำเนินค่อนข้างเร็วรึปล่าวน้าาเพราะแค่ไม่กี่ตอนก็เจอหนุ่มๆและรู้อดีตแล้วแต่บอกเลยค่ะ ว่ายังอีกยาวๆ5555ฟิครินมีแต่ความคาดเดาไม่ได้เพราะรินไม่รู้จะจบยังไงดี--;)แถมยังชอบตัดบทพีคไปพีคมาอีก จะจบโดน Happy end หรือ Bad end ตัวรินเองยังไม่รู้เลย
ก็เอาเป็นว่าไว้เจอกันตอนหน้านะคะ~
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จากที่อ่านแล้วลงทุกเรือแน่นวลล ติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ ฟิน~~~~~~~~~????????????
เอ็มม่าเป็นเจ้าหญิงทรอยแมร์จะมีนาวิด้วยรึปล่าวเนี่ย555