ตอนที่ 4 : EP 02 - To the right place
'อีกแค่นิดเดียว อดทนหน่อยนะ'
EP 02
'มาอยู่ที่นี่เองเหรอครับ เอ็มม่า'
เสียงทุ้มอันอ่อนโยนเรียกเด็กสาวผมสีส้มที่กำลังนั่งมองสวนดอกไม้ด้วยแววตาอ่อนโยน
'หืม..คุณอิระเองเหรอคะ'
'สวยจังเลยนะครับ..ในที่สุดก็บานสินะครับ'
'ค่ะ..อันนี้ช่วยกันกับอาเคเดียคุงแล้วก็เวดี้คุงปลูกน่ะค่ะ...'
'อาเคเดียที่ปกติจะไม่ยอมออกมาทำอะไรให้เหนื่อย...แต่ยอมออกมาแบบนี้เพราะคุณเอ็มม่าเลยนะครับ'
'โถ่คุณอิระบอกกี่ครั้งแล้วให้เรียกฉันแค่เอ็มม่า'
'ฮึๆแต่คุณก็เรียกผมว่าคุณอิระเหมือนกันนี่ครับแค่นี้ก็หายกันนะ'
'โถ่...'
'แต่ดอกไม้นี่ดีจังเลยนะครับ ทั้งมีสีที่แน่นอน...ไม่เหมือนจิตใจของพวกมนุษย์หรือปีศาจ'
'นั่นสินะคะ...แต่ว่าแม้แต่ดอกไม้สีบริสุทธิ์แบบนี้ก็คงมีวันที่ถูกย้อมเปลี่ยนสีแน่แท้...และถึงแบบนั้นวันนึงก็ต้องเหี่ยวเฉาไป...ฉันคิดว่าแบบนั้นก็ไม่ต่างจากมนุษย์หรือปีศาจเท่าไหร่นะคะ'
'นั่นสิครับ..วิธีคิดแบบนั้นก็สมเป็นคุณดี'
ฝ่ามือหนาของเจ้าของเรือนผมสีฟ้าประทับไปบนผมสีดวงตะวันนุ่มนิ่ม
'อีกไม่นานแล้วสินะคะ...'
'ครับ...แต่ไม่เป็นไรหรอกครับพวกผมสัญญาว่าเราจะไม่ทิ้งคุณให้เดียวดาย...ขอสาบานด้วยเกียรติผู้คุมบาปโทสะเลยครับ'
'ค่ะ..ฉันเชื่อใจพวกคุณนะคะ'
'เฮ้! เอ็มม่า! อิระ! ได้เวลาของว่างแล้วนะ '
'ค่ะ!..จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะคุณวาซตี...ไปกันเถอะคุณอิระ'
'ครับ..ไปกันเถอะ'
"เอ็มม่า.."
"...."
"เอ็มม่า!!!"
"ห๊ะ!...อ้าวเรย์..."
"ตื่นได้แล้วน่า...จะเดินทางกันต่อแล้วนะ"
"อื้อโทษที..ไปกันเถอะ.."
"เป็นอะไรไปจ๊ะเอ็มม่าแปลกนะที่เธอหลับลึกผิดปกติ"
"ไม่มีอะไรหรอกกิลด้า...แค่ฝันแปลกๆน่ะ"
เอ็มม่ามองไปที่ทุกคนด้วยรอยยิ้มพรางนึกถึงความฝันเมื่อครู่ ไม่ค่อยได้ฝันถึงคนอื่นมานานแค่ไหนแล้วนะ แต่ทำไมกันนะทั้งที่แค่ฝันกลับเหมือนกับความจริงที่ฝังอยู่ในอดีตอันยาวนาน
เธอตัดสินใจสลัดความคิดไร้สาระออกจากหัวและเก็บของใส่เป้เตรียมตัวเดินทางต่อ
"เฮ้อ...ช่างเถอะก็แค่ฝัน..."
(ไม่ใช่แค่ฝันหรอกนะครับ..คุณเอ็มม่า)
'เอ๊ะ!!!?'
(รีบเข้านะ..ไปให้ถึงคูวิทิดาลา...แล้วคุณจะพบมันเอง)
"อิระขี้โกงแอบติดต่อเด็กคนนั้นผ่านจิตความทรงจำแบบนี้"
"เงียบไปเลยครับ หรืออยากให้ผมช่วยเย็บปากดี ลัส?"
"นายนี่ใจดีแค่กับเธอคนนั้นจริงๆน้าา~"
"ช่วยหุบปากซักทีได้รึปล่าวครับ หรืออยากให้ผมช่วยเย็บปากด้วยเข็มกับด้ายนี่ดี?"
"พอเถอะน่าลัส เดี๋ยวอิระ3ครั้งออกมาจะยุ่งยากนะ "
"รู้แล้วน่า~ วาซตี นายก็อย่าจริงจังมากนักสิ"
"ฉันเองก็อยากส่งจิตผ่านเด็กคนั้น ทั้งอิระ ทั้งวาซตี ก็ขี้โกงทั้งคู่นั่นแหละ!"
"ผมเอง...ก็....หาวว..อยากคุย..กับเอ็มม่า...จัง....จังเลย...Zzz"
"อดทนหน่อยสิพวกนาย "
"ซูแปรบีอา เดือนก่อนนายยังบ่นว่าเมื่อไหร่จะไปรับเด็กคนนั้นอยู่เลยไม่ใช่เรอะ!!!"
"ก็เหลืออีกแค่เดือนกว่าๆเธอก็จะรู้สิ่งที่ควรทำแล้วนี่...ฉันจะอดทน...รอมาได้ตั้งพันปีกว่ารออีกนิดจะเป็นอะไรไปล่ะ"
"อยากที่ซูแปรบีอาว่านั่นแหละ เลิกโวยวายได้แล้วเวดี้"
"พวกนายก็พูดได้สิฟะ!! ฉันเป็นผู้คุมบาป ริษยานะ!แค่คิดว่ามีพวกตัวผู้ที่ลุ่มหลงฟีโรโมนที่ดึงดูดผู้คนแบบไม่เลือกหน้าเข้ามาใกล้ยัยนั่นฉันก็..."
"ถึงได้บอกให้ทนหน่อยไง...ไม่นานหรอก..เธอใกล้จะไปถึงแล้ว"
"เฮ้!เอ็มม่า...เธอฝันเรื่องอะไรน่ะ"
เสียงเพื่อนสนิทแสนคุ้นเคยดังขึ้นทำให้ฉันหันไปยิ้มแบบปกติที่สุดและตัดสินใจโกหกคำโตออกไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แค่ในความรูัสึกฉันบอกว่ายังไม่ควรพูดเรื่องความฝันออกไป
"เรื่องที่เกรซฟิลด์น่ะ"
"งั้นเหรอ...เธอคิดถึงพวกเขามากจริงๆสินะ"
"เรย์เองก็ด้วยไม่ใช่เหรอ"
"นั่นสินะ...เพราะงั้นเราต้องรีบทำภารกิจให้สำเร็จนะ"
ฝ่ามือหนาที่ประทับลงมาบนหัวฉันทำให้รู้สึกเดจาวู ฉันค่อนข้างจำความฝันเมื่อครู่ได้แค่พอจะนึกชื่อคนในความฝันฉันกลับนึกไม่ออก
'แปลกจัง..ในความฝันเราเรียกชื่อคนๆนั้นแน่ๆ'
"อื้ม...รีบไปกันเถอะเรย์"
"อา..."
'ซ่าา...ซ่าาา'
"ได้ยินรึเปล่าว"
"อาจจะเป็นแม่น้ำ...ตามแผนที่แล้วมันมีอยู่ข้างหน้าพวกเรานี่แหละ"
ดอนหันไปตอบคำถามไวโอเล็ตพรางชี้ไปทางที่ตนคาดเดาและจำได้จากแผนที่ เมื่อแซ็คเห็นดังนั้นจึงอดเอ่ยถามไม่ได้
"นายสามารถบอกตำแหน่งได้โดยไม่ต้องดูแผนที่เลยเหรอ?"
"อืม..ฉันจำมันได้"
"จ..จำได้..."
เมื่อเห็นแซ็คเอ่ยด้วยสีหน้าแปลกใจกับความจำที่ดีเกินไปของเด็กจากเกรซฟิลด์กิลด้าเลยเอ่ยต่อ
"ตามคำแนะนำของเรย์..พวกเราต้องฝังทุกแผนที่ในหนังสือโบราณให้เข้าสมองและแผนที่อื่นในห้องเก็บของน่ะจ้ะ"
"เทียบกับการทดสอบประจำวันแล้วนี่มันง่ายมากเลยนะ?...ทำให้รูัสึกอิสระที่มีคนถึง4คนจดจำแผนที่ได้ตลอดไง"
"ฮะฮะๆ../ฮะฮะๆ.."
'เกรซฟิลด์น่ากลัวจริง/เกรซฟิลด์น่ากลัวจริง'
เอ็มม่าหัวเราะเล็กน้อยกับคำ. พูดของเรย์และสีหน้าท่าทางของ4คนที่เหลือ
"แต่ว่าข้อมูลก็เก่ามากแล้วล่ะ..คงคิดแค่ว่าเป็นไกด์ไลน์ก็พอ..ภูมิประเทศอาจจะยังเหมือนเดิมแต่ก็ไม่สามารถพึ่งพาข้อมูลเรื่องที่อยู่ของหมู่บ้านปีศาจได้"
"อา..ยิ่งไปกว่านั้นแผนที่มันก็ไม่ได้บอกประเภทของปีศาจที่ต้องเจอด้วย"
"เป้าหมายหลักคือต้องไม่ให้พวกมันเจอตัว ระวังเรื่องการทิ้งร่องรอยคอยดูด้านหลังเสมอและลบตัวตนของตัวเองออกไป"
เรย์กับเอ็มม่าใช้เวลาในการเดินทางคอยสอนอีก4คนถึงวิธีการระวังตัวและจัดการกับพวกปีศาจเป็นตัวอย่าง
"และถึงอย่างนั้นพวกเราก็ยังวิ่งได้ แค่ซ่อนตัวก่อนที่จะถูกเห็นตัว...และถ้าถูกเห็นตัวเข้าล่ะก็..."
เอ็มม่าที่คอยช่วยเรย์อธิบายหันไปสังเกตุเห็นปีศาจกิ้งก่าที่เห็นพวกเธอ มือเล็กไม่ลังเลที่จะหยิบธนูคู่ใจมาและยิงมันทิ้งทันที ดอนอ้าปากค้างมองไปที่ร่างบางที่ใจเย็นมาก
"ส..สุดยอด"
"อา..ต่อจากเมื่อกี๊..ฆ่าพวกมันก่อนที่จะเรียกปิศาจตัวอื่น"
"....."
เอ็มม่ามองดูปิศาจที่เธอยิงไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่เธอไม่เข้าใจก่อนจะเบนสายตากลับไปที่พวกเรย์เหมือนเดิม
"สิ่งที่แย่ที่สุดคือพวกที่มีความฉลาดแบบมนุษย์..พวกเราต้องทำทุกอย่างเพื่อออกจากเมืองและที่ตั้งฐานของมัน"
'เป้าหมายของเราคือ D528-143'
และแล้ว
หลังจากการเดินทางอันยาวนานของพวกเราพวกเราก็ได้มาถึงแล้วสถานที่ที่เราต้องมาหาความจริง
"ที่นี่น่ะเหรอ คูวิทิดาลา?"
ทั้งหกคนมองไปรอบๆอย่างพิจารณา รอบๆมีแต่ซากปรักหักพังราวกับเมืองที่ล่มสลายในอดีต
"หินพวกนี้...ซากโบราณสถาณเหรอ?"
เอ็มม่าเอ่ยขึ้นพรางใช้สายตาสำรวจอย่างรวดเร็ว เรย์เองก็สำรวจรอบๆก็จะพูดทวนสิ่งที่จำได้จากหนังสือเก่าที่เชลเตอร์
"นั่นคือที่พำนักของมังกรไม่มีทีซ่อนจากดวงตาของมัน ผู้คนจากทุกสารทิศต่างถูกดึงดูดมาสู่คูวิทิดาลาพวกเขาต่างปราถนาในดวงตานี้ คูวิทิดาลาคือเมืองแห่งมังกร"
"ถ้ามีมังกรอยู่ที่นี่มันจะเป็นของจริงหรือเปล่านะ?"
"บ้าน่ามันคงเป็นอีกหนึ่งปริศนาแหละ...ฉันก็อยากพูดแบบนี้นะแต่ ฉันก็ไม่รู้หรอก...ปีศาจยังมีจริงเลยนี่"
กิลด้าตอบดอนด้วยสีหน้าอ่อนๆใช่เธอรู้ดีโลกนี้นะมันพูดด้วยความสมเหตุสมผลยากมานานแล้วล่ะ
"เอาน่า...อย่างน้อยเราก็มันใจอย่างหนึ่งแล้วคือไม่มีมังกรอยู่แถวนี้เลย หรือแม้แต่เมืองสักเมืองก็ไม่มี"
"อย่างที่ไวโอเล็ตพูดนั่นแหละ นี่ก็แค่พื้นที่ร้างห่างไกล ซากโบราณที่ถูกทิ้งร้างให้กลายเป็นฝุ่น"
'หืม..ลูกศรอะไรน่ะ'
เอ็มม่ามองไปที่ลูกศรบนซากโบราณสถานอย่างสนใจก่อนจะเดินสำรวจต่อ
"แต่ถ้ามันเป็นโบราณสถาณแบบนี้งั้นสถานที่นี้เป็นอะไรมาก่อนล่ะ"
"ตั้งสมาธิไว้กุญแจของที่นี่อาจไม่ใช่เมืองหรือมังกรมันเป็น'ดวงตาของมังกร' "
ดอนฟังที่เรย์ตอบเขาก่อนจะค่อยๆทวนประโยคในข้อมูลที่อยู่บนปากกา
"ค้นหากลางคืนและกลางวันในดวงตาแห่งมังกรคูวิทิดาลา..."
"บางทีควรหาคำใบบางอย่างที่ซากโบราณสถาณนี้.."
เอ็มม่าแทบไม่ได้ฟังที่ดอนกับเรย์คุยกันซักนิดร่างบางเดินตามทิศที่เห็นลูกศรและไปหยุดที่ซากหินก้อนหนึ่ง
มือเรียวปัดฝุ่นบนหินก้อนนั้นก็จะต้องผงะออกอย่างตกใจ
'ด..ดวงตา'
และเมื่อดวงตาสีมรกตคู่หวานหวานส่องเข้าไปในรอยสลักรูปดวงตานั้นภาพรอบตัวเธอก็เปลี่ยนไป
เอ็มม่ามองรอบๆอย่างตกใจภาพทุกอย่างเปลี่ยนผ่านสายตาเธอเร็วมาก ทั้งมังกรที่บินโฉบผ่านร่างเธอ การบูชาบางอย่างในสถานที่โบราณสถาณนี้ การทำสัญญาระหว่างมนุษย์และปีศาจ ผู้คนที่ล้มตายเพราะสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ เด็กๆปศุสัตว์ที่ถูกปีศาจทำให้เป็นสินค้า
'นี่ต้องเป็น.."
"ที่เธอเห็นเป็นอดีตน่อ"
เสียงหนึ่งทำให้เธอหันไป พบปีศาจตัวเล็กๆที่ยืนมองเธอ
"แปลกจังเลยนะมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่เหรอ...อยากถามแบบนั้นหรอกนะแต่...ได้เจอกันสักทีสินะ..."
'เด็ก...ปีศาจเด็ก?..ไม่..ไม่มีทาง..แต่ว่า.."
"อา..เข้าใจล่ะ..หนึ่งพันปีแล้วสินะ..จะลืมไปแล้วคงไม่แปลกเธอมาเพื่อคืนความทรงจำนี่นะ..."
'หนึ่งพันปี?'
"ตอนนี้เธอทำได้แค่เพียงเห็นภาพเท่านั้น...เข้ามาสู่ของจริงสิ ค้นหาทางเข้าให้ได้"
'นี่คือสถานที่กลางคืนและกลางวันงั้นเหรอ'
ดวงตาคู่หวานมองไปรอบๆอย่างตกใจ
"ไม่มีสิ่งใดอยู่ที่แห่งนี้แต่มันก็มีทุกสิ่ง..ทางเข้าไม่มีอยู่ที่แห่งใด แต่เพราะมันอยู่ทุกที่.."
"อ๊ะ..ด..เดี๋ยวก่อน!!!!"
"เข้ามาสิจะได้สนุกกัน...ยังไงเธอก็เคยมาอยู่แล้ว..ความสนุกครั้นพันปีไงล่ะ"
"เดี๋ยว..หมายความว่าไงน่ะ!!!"
"อา เกือบลืม หลังจากนี้ เมื่อเธอบอกทุกสิ่งที่เธอควรบอกแก่คนที่มาด้วย...ฉันจะส่งคืนความทรงจำที่พวกนั้นฝากมา...มันพันปีแล้วล่ะนะ...พวกเราดีใจที่เธอเกิดใหม่นะ...ยัยหนู"
"เดี๋ยวก่อน!!!!"
ภาพทุกอย่างเริ่มเร็วขึ้นและย้อนกลับไปอย่างรวดเร็ว
"เฮ้ เอ็มม่า!!!"
"เอ็มม่า!!"
ทุกคนมองเด็กสาวที่นั่งคุกเข่าลงบนพื้นอย่างเหม่อลอยก่อนที่ไวโอเล็ตจะตัดสินใจฟาดเธอไปที
"ตั้งสติหน่อยเอ็มม่า!!!"
"โอ๊ย!!"
ดวงตาสีเขียวอ่อนเบิกกว้างก่อนจะหันไปที่ทุกคนและถามอย่างรวดเร็ว
"เห็นรึปล่าว!?"
"??"
"ห..เห็นอะไร?"
"มังกร!!"
ทุกคนมองเด็กสาวด้วยความตกใจก่อนจะเอ่ยปฏิเสธอย่างงุนงง
'ฉันเป็นคนเดียวที่เห็นมันเหรอ?แค่ฝัน?ไม่สิ..ไม่มีทางแต่..."
เอ็มม่าลุกจากพื้นอย่างรวดเร็วและปีนขึ้นไปบนแท่นหินสูงทันทีก่อนดวงตาคู่หวานจะเบิกกว้างอย่างตกใจ
"เฮ้!"
"เอ็มม่า เดี๋ยว ทำอะไรน่ะ เอ็มม่ามันอันตรายนะ"
"ขอโทษ!ฉันผิดเอง ฉันคงตบหน้าเธอตอนที่ถึงจุดสำคัญสินะ!!"
เรย์เป็นคนแรกที่ได้สติและตัดสินใจปีนขึ้นตามไป
"เอ็มม่ามีอะไร...น...นี่มัน..."
"...."
"ดวงตา...?"
'ใช่แล้ว...ไม่ใช่แค่ฝัน..'
"เรย์...ฉันเห็นมัน..ฉันเห็นภาพในอดีตและมังกร ฉันเห็นอดีตของคูวิทิดาลา และสถานที่ที่กลางคืนและกลางวันเป็นหนึ่งเดียวกัน...และ..ฉันไม่มั่นใจหรอกนะ..แต่ฉันคิดว่าฉันเจอ |£;*~•^ "
"!!!!"
[To Be Continued]
ช่วงTalk with Writer
จบไปอีกตอนรินพยายามหาตัวอักษรให้ใกล้เคียงกับคำศัพท์ลาสบอสที่อ่านไม่ออกในมังงะนะแต่ยากจริงๆจะเอาภาพมันลบแล้วมันก็เอาเข้าในประโยคยากเกิน แต่จะให้ใส่แบบ*** แบบนี้ก็ดูมักง่ายไป;-; เลยพยายามหาสัญลักษณ์ที่ใกล้เคียงมาใส่แทนก่อน เนื้อหาตอนนี้จากค่อนข้างสปอยเนื้อหาในมังงะช่วงตอนที่100ขึ้น ขอให้ทำใจก่อนด้วยนะจ๊ะเพราะหากใครยังไปตามอ่านมังไม่ถึงตรงนี้อาจโดนสปอยอย่างที่เตือนไว้ในข้อมูลเบื้องต้น เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะถูกดำเนินไปในทางมังงะโดยตรงแต่จะมีเพิ่มเนื้อหาจากจินตนาการริน และเพิ่มตัวละครหนุ่มๆทั้ง7ตามที่บอก เอาเป็นว่าขอให้สนุกนะคะอ่านกันแล้วก็มาแสดงความคิดเห็นกันได้ ใครทีมไหนก็มาแชร์ๆกันๆด้เพราะฟิคของรินไม่ได้ยึดใครเป็นคู่หลัก เพราะมันคือAllEmma แต่ใครรอเรือของNoremma ก็คงต้องรอไปอีกระยะเลย แต่เรย์นี่คือลูกรักรินจริงๆ;w; เอาเป็นว่า อยากเห็นใครออกเยอะๆก็มาแชร์กัน
อุ๊ยรูปหล่น
(?) 'รีบมาสิ โอบรัดความอบอุ่นจากเธอไม่ไหวแล้วนะ'
(?) 'น่ารำคาญจังความหิวนี่...รีบกลับมาได้แล้วน่า'
คิๆไว้เจอกันน้าาาา
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นี่ลงได้ทุกเรือค่ะบอแค่น้องเอ็มม่าเป็นเจ้าของฮาเร็ม รีบมาต่อนะคะรอออ
ยังคงหนักแน่นที่เรือ เรย์ม่า ค่ะแต่หวั่นไหวหนุ่มๆแล้วTwT ฮาเร็มน้องแต่ละคนคือดีงามมากๆ