คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : Chapter 20 [ End ]
Chapter 20 [ End ]
ทงเฮยืนมองเตียงกว้างซึ่งมีร่างบางของฮยอกแจที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วนอนพิงหัวเตียงเล่นโทรศัพท์อยู่ฝั่งซ้ายของเตียงสลับกับหันออกไปมองด้านนอกตำแหน่งของที่ตั้งโซฟาอย่างคนที่ตัดสินใจไม่ถูก
“นอนด้วยกันก็ได้” ฮยอกแจเอ่ยบอกโดยที่ไม่ได้ละสายตาออกจากเครื่องมือสื่อสารตรงหน้า
“ปิดไฟเลยมั้ย” ทงเฮต้องบังคับตัวเองอยู่ครู่หนึ่งไม่ให้ปากหยักเผยยิ้มออกมามากเกินไปจนอีกคนอาจจะไม่ไว้ใจเขาไปเสียก่อน
เมื่อคนที่อยู่บนเตียงพยักหน้าร่างหนาก็เดินไปปิดประตูห้องนอน คว้ารีโมทตรงโต๊ะหัวเตียงขึ้นมากดปิดไฟ ก่อนจะนั่งลงบนเตียงนุ่มและแทรกตัวลงในผ้าห่มผืนเดียวกันนอนพิงหัวเตียงมองอีกคนที่ยังคงเล่นโทรศัพท์อยู่ อยากจะพูดอีกสิ่งที่ค้างจากเมื่อตอนหัวค่ำแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี
“ฮยอกแจ” เสียงทุ้มเรียกชื่ออีกคนเพื่อดึงความสนใจของร่างบางออกจากโทรศัพท์ตรงหน้า
“หืม” แต่ฮยอกแจก็ทำเพียงแค่ขานรับในลำคอ ไม่ได้ละสายตาออกมามองคนเรียก
“คุยกันหน่อยได้มั้ย ผมมีบางอย่างอยากจะบอก”
“ว่า” มือบางลดโทรศัพท์ลงก่อนจะหันมาถาม และเมื่อได้สบกับสายตาของอีกคนที่มองมาฮยอกแจก็อยากจะยกโทรศัพท์กลับขึ้นมาทำเป็นกดเล่นเหมือนเดิมเหลือเกิน ไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้เลยจริงๆ
ดวงตาสีน้ำตาลที่มองมาอย่างจริงจังและแฝงไปด้วยความอ่อนโยนมันทำให้หัวใจของฮยอกแจเต้นไม่เป็นจังหวะ ถ้าเปลี่ยนใจไม่คุยตอนนี้ยังทันมั้ย เขามุดเข้าผ้าห่มได้มั้ย หรือนอนหันหลังหนีไปเลยได้หรือเปล่า ใครก็ได้โทรเข้ามาตอนนี้หน่อยเถอะ
“ผมคิดว่าผมระ.....”
“พ่อคุณเป็นยังไงบ้าง” อยู่ๆฮยอกแจก็โพล่งถามออกมาเสียงดังกลบเสียงนุ่มทุ้มของทงเฮที่กำลังจะเอ่ยบอกความรู้สึกพร้อมกับแววตาชวนละลาย
ทงเฮระบายลมหายใจออกมาอย่างขัดใจก่อนจะสูดลมหายใจเข้าไปใหม่ลึกๆระงับตัวเองไม่ให้จับคนตรงหน้านี่ฟัดให้จมที่นอนเพราะความหมั่นเขี้ยวไปเสียก่อน
“ก็ยังต้องรอผลอยู่ พรุ่งนี้น่าจะรู้ผล”
เมื่อเปลี่ยนมาพูดเรื่องนี้น้ำเสียงของทงเฮก็เศร้าลงอย่างที่ทำให้คนถามนั้นรู้สึกผิดที่ถามขึ้นมา เพราะเมื่อตอนหัวค่ำทงเฮก็เล่าให้ฟังแล้วว่าซูมานอาจจะต้องผ่าตัดถ้ากระดูกสะโพกหัก อีกคนคงจะกำลังเครียดเรื่องนี้อยู่ไม่น้อยเพราะนี่ก็หลายวันมาแล้วที่หมอ ยังไม่ให้คำตอบเสียที
“ผมไม่น่าถามเลยเนอะ คงไม่มีอะไรหรอกขอให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดีของครอบครัวคุณนะ” มือบางเคลื่อนออกมาวางบนหลังมือหนาและบีบเบาๆเพราะต้องการให้กำลังใจและเป็นการไถ่โทษที่เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา
“ผมขอกอดคุณได้มั้ย” น้ำเสียงที่เอ่ยขอนั้นเรียกให้หัวใจของอีกคนอ่อนยวบ ฮยอกแจพยักหน้าเป็นการอนุญาตก่อนจะหันมองไปอีกด้านของเตียงเมื่อรู้สึกว่าเลือดกำลังสูบฉีดขึ้นหน้าไม่ต่างจากตอนที่ดื่มเหล้าเข้าไปเลย
และเพราะแบบนั้นจึงไม่ได้เห็นแววตาเจ้าเล่ห์กับมุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยของอีกคน ทงเฮปรับสีหน้าให้เป็นโหมดเศร้าเหมือนเดิมก่อนจะโผเข้ากอดร่างบาง ใบหน้าคมซบอยู่แถวซอกคอของฮยอกแจ ลมหายใจอุ่นๆที่ตั้งใจเป่ารดอยู่ตรงต้นคอทำให้ร่างบางเกร็งตัวจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเข้าออก
“คุณ !!!” ฮยอกแจร้องออกมาเมื่อรู้สึกถึงความอุ่นร้อนจากริมฝีปากของทงเฮประทับอยู่แถวลำคอก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนไปบริเวณที่อยู่ใกล้เคียงกัน มือบางจะผลักอีกคนออกแต่ทงเฮก็ขืนตัวไว้
“ขอให้ผมได้กอดคุณ อยู่กับผมคืนนี้...นะ..ฮยอกแจ” ทงเฮเอ่ยร้องขอออกมาพร้อมกับหยุดนิ่งทุกการเคลื่อนไหวเพื่อรอคำตอบ
น้ำเสียงวอนขอของทงเฮพร้อมกับอาการนิ่งค้างไปแบบนั้นเพื่อรอคำอนุญาตทำให้ใจที่จวนเจียนจะอ่อนอยู่แล้วของฮยอกแจหลอมละลายไปทันที มือบางที่จับไหล่ของอีกคนไว้เตรียมจะผลักออกก่อนหน้านี้เลื่อนลงมาลูบหลังเป็นการปลอบใจและให้คำตอบไปในตัว
แต่ฮยอกแจคงไม่รู้เลยว่าต่อให้ตนเองจะไม่อนุญาต คืนนี้คนเจ้าเล่ห์ที่ซุกซบอยู่ตรงคอก็คงไม่มีทางปล่อยให้ร่างบางรอดไปได้ ก็ในเมื่อตั้งใจจะเอ่ยปากบอกรักกันดีๆแล้วอยากขัดกันดีนักก็บอกรักกันด้วยภาษากายนี่แหละ
เมื่อรับรู้ได้ถึงมือบางที่เคลื่อนจากต้นแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามมาโอบกอดเขาไว้แทนทงเฮจึงสานต่อการกระทำก่อนหน้านี้ทันทีอย่างไม่ต้องให้คนอนุญาตเอ่ยปากซ้ำ
ปากหยักกดลงบนต้นคออย่างแผ่วเบาก่อนจะระเรื่อยขึ้นมาตามสันกรามได้รูปของใบหน้าหวาน จมูกคมกดซึมซับกลิ่นหอมของโฟมล้างหน้าบนแก้มนุ่ม กลิ่นของโฟมล้างหน้าสำหรับผู้ชายที่เขาใช้มันอยู่ทุกวันแต่เมื่อมันอยู่กับผิวของฮยอกแจแล้วทำไมถึงได้หอมชวนหลงใหลขนาดนี้กัน เพียงไม่นานปากหยักก็ลากไล้มาบรรจบกับริมฝีปากบางที่เผยอรออยู่แล้วอย่างรู้ดีว่าจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น
“ขอบคุณนะ”
เสียงทุ้มกระซิบชิดริมฝีปากก่อนจะกดปากลงบดเบียดกับกลีบปากบาง ขบเม้มเบาๆอย่างไม่รีบร้อนไม่นานก็ส่งปลายลิ้นอุ่นชื้นออกมาแตะเบาๆเพื่อขอให้อีกคนเปิดปากออกรับมัน ซึ่งฮยอกแจก็ให้ความร่วมมือแต่โดยดีริมฝีปากบางเปิดออกรับปลายลิ้นของทงเฮเข้าไปในโพรงปาก ก่อนจะตวัดปลายลิ้นตนเองหนีคล้ายจะยั่วให้อีกคนไล่ต้อน
-----------------------โคมไฟ ------------------------
“ผมรักคุณนะฮยอกแจ เป็นของผมได้มั้ย”
เสียงทุ้มกระซิบถามอยู่ตรงหน้า ลมหายใจอุ่นๆยังเป่ารดอยู่แถวจมูกรั้นในขณะที่ส่วนล่างก็ยังคงสอดประสานกันอยู่
“แล้วนี่ยังไม่เป็นอีกหรือไงเล่า” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับขยับช่วงสะโพกที่ยังเชื่อมต่อกันอยู่อย่างประชด ตัวตนของอีกคนยังค้างอยู่ในช่องทางเขาอยู่เลย ช่างพูดมาได้ว่าเป็นของผมได้มั้ย
“ผมหมายถึงตรงนี้ต่างหาก” ทงเฮใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปที่หน้าอกข้างซ้ายของร่างบาง
“คนบ้า” บทจะโรแมนติกก็พูดออกมาได้ แล้วสภาพอย่างเขาตอนนี้จะทำอะไรได้นอกจากหันหน้าหนี ไม่อยากจะสบตากับอีกคนให้ได้เขินหนักไปมากกว่านี้
“ได้มั้ย เป็นของผมนะ”
“แล้วคุณล่ะ ตรงนี้เป็นของใคร” ฮยอกแจจิ้มลงไปแรงๆที่อกข้างซ้ายของทงเฮบ้าง
“เป็นของคุณ.....นานแล้ว....I’m yours” ใบหน้าหล่อตอบพร้อมกับรอยยิ้มอย่างมั่นใจ จนคนที่เขินเป็นทุนอยู่แล้วยิ่งเขินมากกว่าเดิมไปกันใหญ่ สงครามรักที่เพิ่งจบไปยังทำให้อี ฮยอกแจเขินได้ไม่เท่ากับตอนที่อีกคนกำลังบอกรักกันซึ่งๆหน้าแบบนี้เลย ให้ตายเถอะ
“เดี๋ยวก็หายไปอีก” แต่ถึงจะแอบดีใจขนาดไหนก็อดจะพูดออกไปไม่ได้อยู่ดี
“ไม่หาย จะอยู่กับคุณตลอดเลย”
“ไม่เชื่อหรอก ไล่นิดเดียวก็ไปแล้ว” ร่างบางนึกถึงตอนที่มีความสัมพันธ์กันครั้งแรกที่เขาไล่ทงเฮกลับไปเพราะความสับสนและเสียหน้าแล้วอีกคนก็หายเงียบไปเลย
“ไม่ไป”
“แล้ววันนั้นที่คอนโดผม”
“ไม่ได้อยากไป ก็โดนไล่...กะว่าจะกลับไปตั้งหลัก แต่ที่บ้านมีปัญหานิดหน่อยก็เลยต้องเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อน”
“มีปัญหาอะไร” ฮยอกแจเริ่มขยับตัวหนีและจะผลักอีกคนออกเพราะอยากจะคุยกันดีๆ แต่ทงเฮก็ไม่ยอม
“คุยกันแบบนี้แหละอบอุ่นดี” ใบหน้าหล่อยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งมาให้ ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องของตนเองต่อ
“พ่อท่านสุขภาพไม่ค่อยดี หลังจากวันนั้นที่คอนโดคุณผมก็ไปเป็นเพื่อนท่านตรวจร่างกายแล้วผลที่ออกมาไม่โอเคเท่าไหร่เลยตัดสินใจเข้าไปเรียนงานที่บริษัท อยากจะแบ่งเบาภาระท่านออกบ้างกับอีกเหตุผลนึงคือ...กะว่าจะตั้งใจทำงานเอาให้ยุ่งจนลืมคนแถวนี้.......แต่ทำไม่ได้ อยากไปเจอหน้า สุดท้ายก็เลยก็ต้องพาตัวเองไป พูดก็พูดเถอะวันนั้นผมโกรธคุณนะ”
“โกรธเรื่องอะไร”
“ก็คุณจะไปกับผู้หญิงคนนั้น”
“มันก็เรื่องปกติ”
“ไม่ปกติแล้ว จากนี้ห้ามไปกับใครอีก”
“จะมาห้ามได้ไง”
“ทำไมจะห้ามไม่ได้ นี่ไง” ทงเฮแกล้งขยับสะโพกเสียดสีเข้าออก จนมือบางต้องจับเอวหนาให้หยุด
“อ๊ะ..ยะ..หยุด”
“เสียงแบบนี้ชักไม่อยากหยุดแล้วละ ต่อกันเถอะ”
“เชิญต่อไปคนเดียวเถอะ ลุกได้แล้ว”
“จะต่อคนเดียวได้ไงล่ะ มันต้องทำสองคน”
“อี-ทง-เฮ” ฮยอกแจเรียกชื่ออีกคนเสียงรอดไรฟัน
“คร๊าบบบ” แต่ทงเฮก็ไม่ได้สะทกสะท้านยังคงส่งยิ้มทะเล้นกลับไปให้
“ตกลงจะเป็นของผมได้หรือยัง” ร่างหนาเอ่ยถามออกมาอีกเมื่อเห็นว่าบรรยากาศนั้นเริ่มกลับมาสู่ในทิศทางที่ดีแล้ว
“ก็เป็นอยู่นี่ไง” ฮยอกแจตอบแต่ไม่กล้าสบตา ดวงตาเรียวหลุบต่ำลงก่อนจะเฉไฉมองออกไปด้านข้าง
“ตรงไหน” ทงเฮยังคงไล่ต้อนถามอย่างไม่ลดละ ดวงตาสีน้ำตาลนั่นเป็นประกายระยับเหมือนเด็กรอลุ้นอะไรสักอย่าง
“จะตรงไหนก็เป็นของคุณทั้งนั้นแหละ ผมเป็นของคุณ อีฮยอกแจเป็นของอีทงเฮ ชัดพอหรือยัง” ฮยอกแจตอบออกไปเสียงดังทั้งต้องการจะบอกและต้องการจะประชด แต่ผลที่ได้ก็คือใบหน้าที่เห่อร้อนของตนเองจนเจ้าตัวก็รู้สึกได้ว่ามันต้องแดงมากแน่ๆ แถมทงเฮยังส่งมือออกมาประครองใบหน้าเขาไว้อีกและในตอนนี้ถึงอยากจะหันหน้าหนีเพราะความอายก็ทำไม่ได้อย่างใจคิดก็เล่นกักเขาไว้แบบนี้ทั้งร่างกาย
“ผมก็เป็นของคุณ
ผมรักคุณนะ..ฮยอกแจ”
ดวงตาสีน้ำตาลส่งผ่านถึงความจริงจังในคำพูดไปให้อีกคน ร่างบางไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีกแล้ว มีเพียงรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนริมฝีปากบางอย่างห้ามไม่อยู่กับมือเรียวที่โอบกอดคนด้านบนด้วยหัวใจรักที่ไม่ต่างกันกับความรู้สึกที่ทงเฮมี ฮยอกแจไม่อยากปฏิเสธหัวใจตนเองอีกต่อไปแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมาช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเขารู้สึกกับทงเฮเช่นไร
“ต่อกันอีกรอบนะ ไปรำลึกความหลังที่โซฟากัน”
ยังไม่ทันจะได้ซาบซึ้งกับคำบอกรักได้นานส่วนล่างก็รู้สึกถึงความวูบโหวงเพราะร่างกายที่ไม่ได้เชื่อมต่อกันแล้วก่อนที่กายบางจะลอยหวือขึ้นไปอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น ถึงจะเคอะเขินกับท่าทางการอุ้มในแบบเจ้าสาวของอีกคนแต่ฮยอกแจก็ไม่ได้ผลักไส มือบางส่งออกไปคล้องประสานกันไว้บนลำคอของคนอุ้มแต่ใบหน้ากลับหันออกไปอีกทางไม่กล้าพอที่จะซบลงไปบนอกแกร่ง
ทงเฮอุ้มร่างบางเดินออกไปด้านนอกทั้งที่ร่างกายยังเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ ถึงแสงไฟในห้องจะมืดมิดแต่ก็ไม่เป็นปัญหากับคนที่คุ้นชินกับสถานที่เป็นอย่างดี เมื่อพ้นออกจากห้องนอนไปแล้วปากหยักก็บดเบียดกับปากบางปิดกั้นคำประท้วงที่ดังงุ้งงิ้งอยู่ตลอดทางตั้งแต่ที่เตียงจนออกไปถึงข้างนอก เหลือไว้เพียงเสียงครางหวานๆของค่ำคืนแห่งความสุข
“ผมก็รักคุณ...ทงเฮ”
--------------- M-y--B-a-d--B-o-y --------------
เช้าวันใหม่ฮยอกแจงัวเงียตื่นขึ้นมาภายใต้อ้อมกอดของคนรัก สถานะใหม่ที่เปลี่ยนไปเพียงข้ามคืน เมื่อนึกย้อนไปถึงค่ำคืนที่ผ่านมาแล้วริมฝีปากบางก็อดจะยิ้มขึ้นมาไม่ได้ ใบหน้าหวานหันกลับไปมองคนที่นอนกอดตนเองอยู่ด้านหลังก่อนจะตัดสินใจเอ่ยเรียกเบาๆ
“ทงเฮ ตื่นได้แล้ว ไม่ไปทำงานหรือไง”
“หืม...ไม่ไป วันนี้จะไปรับพ่อ” ร่างหนางัวเงียตอบกลับมา เพราะยังคงง่วงอยู่
“ไปรับพ่อ ไปรับทำไม” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันมุ่นเมื่อได้คำตอบที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควรนัก
และเหมือนว่าคำถามของร่างบางจะปลุกให้คนละเมอตื่นขึ้นมาเสียแล้ว แต่ก็ยังคงทำเนียนคว่ำหน้ากับหมอนต่อไปเพราะยังคิดคำตอบไม่ได้
Rrrrrrrrrrrrrrrr
ทงเฮอยากจะขอบคุณใครก็ตามที่โทรเข้ามาได้จังหวะพอดี มือหนาจะเอื้อมหยิบโทรศัพท์เครื่องสวยมากดรับถ้าไม่ติดว่ามือบางจะคว้าไว้ได้เสียก่อน ชื่อแตฮีที่ปรากฏหราอยู่บนหน้าจอทำให้ฮยอกแจถือวิสาสะสไลด์หน้าจอรับสายและกดเปิดสปีคเกอร์โฟนทันที
“ฮัลโหลทงเฮ หมอพัคจีซังอนุญาตให้คุณท่านกลับบ้านได้แล้วนะ อีกไม่เกินสองชั่วโมงคุณมารับเราที่โรงพยาบาลได้เลย ทางนี้เดี๋ยวฉันจัดการเองค่ะ
ฮัลโหล..ทงเฮ ฟังอยู่หรือเปล่าคะ”
“ฟะ..ฟังครับ อะ..เอ่อ อีกประมาณชั่วโมงครึ่งผมคงไปถึง ฝากทางโน้นด้วยนะครับ”
ปลายสายถูกตัดไปแล้วพร้อมกับโทรศัพท์เครื่องสวยที่ถูกเหวี่ยงออกไปกลางเตียงในเวลาไล่เลี่ยกัน
“ไง ไหนบอกรอฟังผล จะผ่าตัด” ฮยอกแจเลิกคิ้วถามด้วยความหมั่นไส้
“ก็ไม่ผ่าแล้วไง หมอก็ให้กลับบ้านได้เลย ไปแต่งตัวกันเถอะ” ทงเฮทำท่าจะลุกออกจากที่นอนตามที่ปากว่า ถ้าไม่ติดว่าฮยอกแจจะคว้าแขนเขาไว้ก่อน
“คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าท่านไม่ต้องผ่าตัด” ร่างบางถามสีหน้าเอาจริง แต่ก็ยังไม่เท่ากับลำตัวเปล่าเปลือยที่ตอนนี้ขึ้นไปคร่อมอยู่ด้านบนลำตัวของทงเฮที่ไร้อาภรณ์ไม่ต่างกันไว้แล้ว
“หืม..ผมถามว่าคุณรู้เมื่อไหร่” ฮยอกแจจงใจเลื่อนสะโพกลงไปบดกับส่วนนั้นซึ่งร่ำๆว่าจะตื่นขึ้นมาได้ง่ายมากจากสภาพของพวกเขาในตอนนี้ และมันคงไม่ดีแน่เพราะทงเฮจะต้องออกไปรับพ่อภายในอีกชั่วโมงกว่าๆข้างหน้านี้
“ก็..ก็รู้ตั้งแต่วันอังคารแล้ว แต่ถ้าผมไม่บอกคุณแบบนั้นคุณจะมากับผมเหรอ”
“งั้นไอ้ที่ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ อยากได้กำลังใจเมื่อคืนก็ตอแหลสินะ” สะโพกกลมมนกดเบียดลงไปอีกครั้งพร้อมกับมือที่ลากไล้ไปตามลำตัวของทงเฮ
“แต่ความรู้สึกของผมเป็นเรื่องจริงนะ ทุกอย่างออกมาจากใจจริง นอกจากเรื่องพ่อที่..เอ่อ...บอกไม่หมด” ทงเฮแก้ตัวออกมารัวเร็วก่อนที่น้ำเสียงจะแผ่วลงในปลายประโยค
“บอกไม่หมด ? แถวบ้านเรียกจงใจโกหกเถอะ เจ้าเล่ห์นักนะ งั้นที่เหลือก็จัดการเอาเองแล้วกัน” กายบางแนบลงไปจนชิดก่อนจะขยับสะโพกเสียดสีกับส่วนนั้นของทงเฮที่เปลี่ยนสภาพเต็มกำลังไปแล้วอีก 2-3 ครั้ง และลุกออกเดินหายเข้าห้องน้ำไปเลย ทิ้งให้อีกคนนอนค้างอยู่กลางเตียง
--------------- M-y--B-a-d--B-o-y --------------
“จะไม่ไปด้วยกันจริงๆเหรอ” ทงเฮเอ่ยถามคนที่นั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟาอีกครั้งหลังจากตนเองแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ร่างหนาเดินเข้าครัวไปหยิบขนมปังกับบรรดาอุปกรณ์ต่างๆที่มีเพื่อทำแซนวิชให้อีกคนได้ทานรองท้อง เพราะคิดว่าฮยอกแจน่าจะหิวแล้ว
“ไม่ละ พ่อคุณจะตกใจจนช็อคไปเปล่าๆ” ฮยอกแจตะโกนตอบออกไป เพราะห้องครัวที่ไม่ได้มีประตูปิดกั้นจึงทำให้คนด้านในและอีกคนที่นั่งอยู่บนโซฟายังคงสื่อสารกันได้โดยที่ไม่ต้องลุกไปยืนใกล้กัน
“เอาไว้ผมจะหาโอกาสพาคุณไปทำความรู้จักกับท่านนะ”
“อืม”
“ทงเฮ” ฮยอกแจเรียกอีกคนเมื่อนึกขึ้นได้ถึงบางเรื่อง
“ครับ ที่จริงคุณควรเรียกผมว่าพี่นะ หรือจะข้ามขั้นไปเรียกที่รักเลยก็ได้” ทงเฮขานรับคำเรียก ถึงฮยอกแจจะเปลี่ยนมาเรียกชื่อเขาบ้างแล้วในบางครั้งแทนคำว่า “คุณ” กับ “ผม” ที่ใช้กันอยู่แต่ก็ยังไม่วายอยากให้อีกคนเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกให้ดูน่ารักขึ้นกว่านี้ แต่ไอ้คำว่า “ที่รัก” นั่นก็แกล้งแหย่เล่นไปอย่างนั้น รู้ว่ายังไงฮยอกแจก็ไม่มีทางเรียกเขาแบบนั้นแน่
“คำสุดท้ายลบทิ้งจากสารบบไปได้เลย ส่วนพี่ก็เรียกได้นะ ถ้าคุณอยากจะเป็นพี่ชายผม”
“อืม...งั้นก็ไม่ต้อง เป็นผัวนี่ละดีแล้ว”
“คุณนี่มัน !! คนบ้าเอ้ย พูดออกมาได้” ฮยอกแจหยิบหมอนจะปาไปหาอีกคน แต่ก็ต้องวางกลับลงที่เดิมเพราะระยะห่างที่ไกลเกินไป สุดท้ายจึงทำได้แค่บ่นออกไปเสียงดังๆเท่านั้น
“แล้วเรียกทำไม หรือว่าหิวจนทนไม่ไหวแล้ว”
“เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น วันนี้ผมว่าจะไปดูรถ น่าจะซ่อมใกล้เสร็จแล้ว”
“ลองโทรไปก่อนดีกว่าจะได้ไม่เสียเที่ยว”
ในขณะที่มือกำลังวุ่นวายกับการทำแซนวิชสายตาคมก็เหลือบมองคนด้านนอกที่เงียบไป ฮยอกแจกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ คงจะโทรไปศูนย์ซ่อมรถตามที่เขาแนะนำ มือหนาเรียงแซนวิชใส่จานและเก็บของเข้าตู้เย็นโดยไม่ลืมที่จะหยิบกล่องนมออกมาด้วย จากนั้นจึงก้าวยาวๆออกจากครัวไปวางของกินและนั่งเคียงข้างกันกับอีกคนบนโซฟา
“พี่เค้าบอกยังไม่เสร็จ อีกนานเลย ต้องรออะไหล่จากเยอรมัน เหมือนว่าโรงงานเขามีปัญหาอีกเป็นเดือนเลยกว่าจะผลิตอะไหล่ส่งมาได้” ฮยอกแจว่าอย่างเซ็งๆก่อนที่มือบางจะหยิบกล่องนมสีชมพูออกมาเปิดดื่ม
“ก็ไม่เป็นไรนี่ เอารถผมไปใช้ก่อนหรือไม่ก็เดี๋ยวผมไปรับไปส่งคุณแบบนี้ก็ได้”
“ลำบากคุณน่ะสิ”
“ไม่ลำบากเลย เต็มใจ ยินดีให้บริการ...ทั้งชีวิต” ใบหน้าหล่อยกยิ้มส่งมาให้จนฮยอกแจอดจะหมั่นไส้ไม่ได้
“แหวะ เลี่ยน” แสร้งว่าก่อนจะวางกล่องนมลงบนโต๊ะ
“นมหรือผม” ทั้งที่รู้อยู่แล้วแต่ก็ยังแกล้งถาม ฮยอกแจจะรู้มั้ยนะว่าเวลาที่ตนเองทำท่าทางแบบนี้แล้วน่ารักในสายตาเขามากมายขนาดไหน
“อย่างหลัง” ริมฝีปากที่ฉ่ำวาวเพราะน้ำนมที่ดื่มเข้าไปเมื่อครู่ตอบออกไปเสียงดังฟังชัด
ทงเฮยกยิ้มอย่างชอบใจ มือหนาลูบผมอีกคนเล่นด้วยความรักใคร่แต่ฮยอกแจที่ไม่ชินสะบัดศีรษะออกทันทีจนอีกคนได้แต่ยิ้มขำ
“ทานซะนะ ผมไปละ อาจจะอยู่บ้านโน้นสักพักแล้วเย็นๆจะเข้ามารับไป SWAG” ทงเฮเลื่อนจานแซนวิชไปตรงหน้าฮยอกแจเมื่ออีกคนทำท่าจะคว้ากล่องนมขึ้นไปดื่มอีกครั้ง
“อืม ขับรถดีๆนะ”
“ครับ”
ริมฝีปากหยักกดลงบนปากบางอย่างรวดเร็วก่อนที่ปลายลิ้นจะสอดเข้าไปในโพรงปากกวาดชิมความหวานของนมสตอร์เบอร์รี่ที่เจ้าตัวเพิ่งดื่มเข้าไป เพียงไม่นานทงเฮก็ผละออกมาจูบบนปากบางเบาๆและละออกไปกดลงบนหน้าผาก ดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกายมองหน้าของคนขี้เขินที่ตอนนี้ใบหน้าหวานกลายเป็นสีชมพูไปหมดลามไปจนกระทั่งถึงใบหูอย่างล้อๆ จนโดนกำปั้นน้อยๆทุบเข้าที่อก
“พอแล้ว เจ็บๆ” มือหนากุมมือบางเอาไว้แนบอกเมื่ออีกคนทำท่าจะทุบซ้ำลงมาอีกครั้ง เห็นมือเล็กๆอย่างนี้ก็หมัดหนักใช่เล่นเหมือนกัน
“ไปได้แล้ว ป่านนี้พ่อคุณคงรอแย่” ฮยอกแจดึงมือออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยปากไล่ โดยที่ดวงตาเรียวได้แต่หลุบต่ำลงมองโต๊ะตรงหน้า ไม่กล้าสบกับดวงตาของอีกคนที่เอาแต่จ้องมองมาที่ตนเองอยู่ตลอดนั่นเลย
ทงเฮกดจมูกลงบนแก้มขาวอีกครั้งก่อนจะตัดใจผละออกมาเพราะไม่อยากจะเป็นลูกที่อกตัญญูไปมากกว่านี้ มัวแต่ใช้เวลากับคนรักจนเกือบจะลืมพ่อไปเสียแล้วอี ทงเฮ
ร่างหนาเดินควงกุญแจรถเข้าลิฟท์ไปอย่างอารมณ์ดี ปากหยักยกยิ้มขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตนเองขอร้องไว้กับชินดงเจ้าของศูนย์รถยนต์ที่เอารถของฮยอกแจไปซ่อม
ย้อนกลับไปช่วงสายของวันอาทิตย์
“ชินดง....
(มีอะไรให้รับใช้อีกครับคุณเพื่อน)
Porsche 911 สีขาวคันนั้นมีคนมารับไปหรือยัง
(ยังนี่.. นึกว่านายจะมารับเอง แต่รถมันยังไม่เสร็จนะ)
ยังไม่เสร็จเหรอ อีกนานมั้ย
(วันอังคารก็เข้ามาเอาได้แล้ว กะว่าพรุ่งนี้เย็นๆจะโทรไปบอกอยู่พอดี)
อะไรนะ !!!
(บอกว่ารถเสร็จไม่ใช่รถหาย จะตกใจทำไมวะ)
งั้น...ถ้าเจ้าของรถเขาโทรหานาย บอกเขาว่ารถยังไม่เสร็จนะ บอกไปเลยอีกเดือนนึง ต้องรออะไหล่ โรงงานที่เยอรมันติดปัญหาส่งอะไหล่ไม่ได้ จะไฟไหม้ น้ำท่วมอะไรก็ได้ แต่อย่าให้เขารู้ว่ารถเสร็จแล้ว กลางเดือนหน้าหรือลากยาวไปปลายเดือนเลยก็ได้ค่อยให้เขาไปเอารถ
(ทำไมวะ)
เออน่า นึกว่าช่วยเพื่อนหน่อยแล้วกัน
(เออๆ หวังว่าจะไม่ไปทำอะไรที่มันไม่ดีนะเว้ยยย)
สบายใจได้ ไม่มีอะไรผิดกฎหมายหรอกน่า ขอบใจมากเพื่อน
(ไม่เป็นไร เอาไว้เจอกันเลี้ยงเหล้าตอบแทนก็พอ)
ได้...แล้วเจอกัน...บาย”
ถ้าร่างบางรู้ความจริงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคราวนี้จะเป็นยังไงบ้าง นี่ยังไม่รวมที่ไปสั่งแจบอมให้คอยจับตาดูฮยอกแจเวลาที่อยู่ในผับแล้วให้รายงานหากเห็นว่าอีกคนมีทีท่าจะไปกับใคร ไหนจะกับฮีชอลที่เพิ่งไปสานสัมพันธ์ไว้ตอนที่โทรไปถามเรื่องฮยอกแจกลับบ้าน ยอมลงทุนเปิดเผยความรู้สึกตนเองกับเพื่อนรุ่นพี่ของร่างบางเพื่อแลกกับการที่ฮีชอลจะคอยกันคนอื่นออกไปให้ ถ้าร่างบางรู้เข้าคงต้องแก้ตัวกันยาว
ทำยังไงได้ ก็ดันไปหลงรัก Bad Boy ตัวพ่อเข้านี่นะ แสบขนาดนี้ความจริงใจอย่างเดียวคงจะเอาไม่อยู่ต้องอาศัยเล่ห์เหลี่ยมกันบ้าง
จากนี้ไป...นายคือ My Bad Boy ของฉัน..คนเดียวเท่านั้น
อี ฮยอกแจ My Bad Boy ของอี ทงเฮ
------------------- The End ----------------------
หุหุ อี ทงเฮก็ต้องเป็นอี ทงเฮแหละน๊า
มันจบแล้วจริงๆ น้ำตาจิไหล อยากบอกว่าขอบคุณมากๆเลยที่อยู่ด้วยกันมา 4 เดือนกว่าๆ ไม่คิดเลยว่าจะมีคนอ่านขนาดนี้ ไม่คิดว่าจะมีคอมเม้นท์แปดเก้าร้อย มันเป็นอะไรที่เกินคาดมาก ขอบคุณที่มาเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำดีๆ ขอบคุณที่ทำให้เรามีแทกฟิค ขอบคุณที่ทำให้เรามีเล่ม ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว ขอบคุณจริงๆค่ะทุกคนเลย
สำหรับสเปฯ คงไม่มีแล้วนะคะ สารภาพว่าเอาไปรวมในเล่มแล้ว อาจจะตัดมาเป็นสปอยนิดหน่อย เดี๋ยวดูความเหมาะสมอีกที คนที่ตอบคำถามถูกว่าเฮอึนเจอกันครั้งแรกที่ไหน เฉลยตรงนี้เลยละกัน เจอกันที่งานแข่งรถที่อเมริกา super_pigked ตอบถูกนะคะ ติดต่อเรามาด้วย ของรางวัลคือเซตของแถม (เข็มกลัดกับโปสการ์ดยกเซต)
ช่วงนี้อาจจะเงียบๆไปไม่ได้อัพเรื่องอะไรจนกว่าเล่มจะสมบูรณ์แล้วก็อาจจะกลับมาเขียนเรื่องสั้นเมื่อเล่มเสร็จแล้ว พอมีพล็อตอยู่นิดหน่อย หนึ่งในนั้นก็ Touch Me Please !!! ภาค 2
ฟิคยังจองได้อยู่ คำถามชิงฟิคยังไปตอบกันได้อยู่นะคะ
สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกคนอีกครั้ง รักคนอ่านน๊า ถึงเรื่องจะจบแต่อย่าลืมพี่ทงเฮคนเจ้าเล่ห์กับน้องฮยอกแจคนแมนน๊า ที่สำคัญอย่าลืมเราด้วย ^^
ความคิดเห็น