ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Bad Boy เป็นของฉันได้ไหมนายตัวแสบ - HaeEun feat. WonKyu

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 01

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ย. 57


      

     

    Chapter 01





     



     

    ฮงแด(Hongdae) ถนนสายอาร์ทย่านมหาวิทยาลัย ฮงอิก แหล่งกินเที่ยวของชาวอินดี้เกาหลี เป็นย่านที่มีความหลากหลายรวมอยู่ ถือเป็นศูนย์รวมวัยรุ่นเด็กแนวชาวเกาหลี และเป็นสถานที่โชว์ของ ของนักร้องใต้ดิน อินดี้ มาร้องเพลง โชว์ผลงานของตัวเองให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้นได้ดูกัน มีทั้งร้านอาหาร คอฟฟี่ช็อป ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายเครื่องสำอางค์ เกสเฮ้าส์ รวมไปถึง ผับ บาร์  



     

    SWAG สถานบันเทิงเปิดใหม่ในย่านฮงแดที่เปิดตัวได้เพียงไม่ถึงปีก็เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งวัยรุ่นและวัยทำงาน จนติด Top 3 ผับที่น่าเที่ยวที่สุดในย่านนี้ ด้วยความทันสมัยของของการออกแบบตัวร้าน แนวเพลงที่เปิด การแสดงสดของนักร้องนักดนตรีประจำผับที่ขึ้นชื่อ รวมไปถึงการแบ่งโซนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโดยมีทั้งโซนสำหรับนักดื่มและวัยรุ่นที่ต้องการมาออกสเตป



     

    ชั้นล่างของตัวผับเป็นฟลอร์ขนาดกว้างสำหรับขาแดนซ์ที่ต้องการโชว์สเตป ไม่ว่าจะลีลาขั้นเทพประหนึ่งจะเตรียมเดบิวต์หรือแค่ต้องการมายักย้ายส่ายสะโพกเพื่อความสนุกสนาน รวมถึงหนุ่มสาวทั้งหลายที่ต้องการออกล่าเหยื่อในยามราตรีกับเหล่าผีเสื้อใต้แสงไฟ ด้านหน้ามีเวทีขนาดกลางสำหรับดีเจใช้เป็นพื้นที่ในการโชว์มิกซ์เพลง และนักร้องประจำผับที่สลับกันมาโชว์เสียงร้องและวาดลวดลายเอาใจนักท่องเที่ยว



     

    ชั้นบนของตัวผับมีลักษณะเหมือนชั้นลอยล้อมรอบฟลอร์ โดยเป็นชั้นยกตัวขึ้นไปจากด้านล่างมีระเบียงกระจกความสูงไม่เกิน 1.20 เมตรกั้น มีโต๊ะและเก้าอี้เป็นชุดๆไว้สำหรับรองรับนักดื่มที่ต้องการมาเพื่อสังสรรค์ โดยในชั้นนี้ยังมีมุมที่แยกตัวออกไปต่างหากเป็นโซน VIP ซึ่งจะมีชุดโซฟากำมะหยี่สีแดงสดถูกจัดไว้เป็นชุดๆเข้ากันกับโต๊ะกระจกเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัว



     

    อี ทงเฮ ชายหนุ่มวัย 25 ทายาทเพียงคนเดียวของอีคอปเปอร์เรชั่น ยักษ์ใหญ่ทางด้านซอฟต์แวร์การจัดการและบริหารระบบขนส่ง และเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของ SWAG จะว่าหุ้นส่วนก็คงไม่ใช่เสียทีเดียวเพราะทุกวอนที่ก่อร่างสร้างตัวมาเป็น SWAG ได้จนถึงทุกวันนี้ล้วนมาจากเงินของทงเฮทั้งสิ้น โดยมีเจ้าของผับในนามคือแจ็คสัน หวังเด็กหนุ่มเชื้อสายฮ่องกงเป็นผู้ดูแลและจัดการทั้งหมด



     

    เป็นไงมั่งพี่ คุ้มค่าเงินรึเปล่าล่ะ” แจ็คสันถามด้วยความกระตือรือล้นปนความภาคภูมิใจเมื่อเขาพาเจ้าของเม็ดเงินมานั่งชื่นชมความสำเร็จได้ครึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว
     

    ก็ดี ไม่เสียเงินเปล่า” หลังจากนั่งดื่มและมองบรรยากาศโดยรอบได้สักพักทงเฮก็นึกชื่นชมรุ่นน้องอยู่เหมือนกัน


     

    เขากับแจ็คสันเป็นสายรหัสกันตอนเรียนมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ แต่ด้วยความที่หมอนี่พูดเกาหลีได้และชอบปีนเกลียวรุ่นพี่อยู่ตลอด เลยทำให้รู้จักและสนิทกัน และยิ่งนิสัยของแจ็คสันที่เป็นคนรักสนุก ชอบเที่ยวเล่น รักความท้าทาย ไม่เกรงกลัวกับอำนาจของใครแม้ว่าจะอยู่ต่างถิ่นไม่ต่างจากทงเฮ เขาจึงเอ็นดูแจ็คสันเสมือนน้องชายคนหนึ่ง จนกระทั่งเขาจบออกไปต่อปริญญาโทก็ยังคงไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ



     

    เมื่อแจ็คสันเรียนจบและมาปรึกษาเรื่องที่อยากจะเปิดผับในเกาหลีเขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะสนับสนุน เพราะตัวเองก็พอมีพวกพ้องอยู่บ้างและเรื่องเงินทุนก็ไม่ใช่ปัญหา เขาเชื่อในตัวของแจ็คสันว่าจะต้องสามารถทำมันออกมาได้ดี และเพียงแค่ไม่ถึงปีเขาก็ได้รู้แล้วว่าหมอนี่สามารถทำมันได้จริงๆ


     

    วง Lucifer น่ะพี่ อีกเดี๋ยวก็จะขึ้นมาเล่นแล้ว นักร้องนำโคตรเด็ดนะ คนเดียวเอาอยู่ทั้งผับ ไอ้นี่ตัวทำเงินชั้นดีเลยละ” แจ็คสันพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อแนะนำวงดนตรีหลักของผับให้ทงเฮฟัง ยามเมื่อเห็นชายหนุ่มมองไปยังเวทีด้านล่างที่เริ่มมีคนขึ้นมาเซตเครื่องดนตรี
     

    ราคาคุยรึเปล่า” ทงเฮแกล้งแซวอีกคนเล่นเพราะเห็นรุ่นน้องภาคภูมิใจนักหนาในการนำเสนอ
     

    เดี๋ยวดูเลย อันนี้ของแท้” แจ็คสันว่าพร้อมกับยกแก้วที่อยู่ในมือขึ้นชี้ไปทางเวทีด้านล่าง

     





     

    (It’s over I’m sorry)
    (Do it do it do it now Do it do it do it now)

    มอ รา โก นัน นี มัล โม รึ เก็ต ซอ [ว่าไงนะ เธอพูดอะไรชั้นไม่เห็นจะรู้เรื่อง ]

    นา ชิน ดา นึน นิ มัล รึล โม รึ เก็ต ซอ [ เกลียดชั้นงั้นเหรอ? ชั้นฟังไม่เห็นจะเข้าใจ]

    วัน จอน ฮี มิ ชย็อต ซอ จอง ชิน ชา ลยอ มิ ชย็อต ซอ [นี่มันบ้าชะมัด มีสติหน่อยสิ เธอบ้าไปแล้ว ]

    R U crazy (R U crazy) [นี่เธอบ้าป่ะเนี่ย ]


     

    คัน ดา โก ซึล พึน ช็อก ยอน กี มัล โก [บอกว่าจะไป ก็ไม่ต้องแสดงละครทำเป็นเศร้า ]

    ตอ นัน ดา โก พิง กเย โด คือ มัน มัล แร [บอกว่าจะเลิกกัน คำแก้ตัวก็เลิกพูดซะด้วย ]

    วัน จอน ฮี มิ ชย็อต ซอ จอง ชิน ชา ลยอ มิ ชย็อต ซอ R U crazy [นี่มันบ้าชะมัด มีสติหน่อยสิ เธอบ้าไปแล้ว นี่เธอบ้าป่ะเนี่ย ]

    (I’m really want you to get away)


     

    นิ มา จิ มัก มัล รึน คือ ชา กา อุน มัล รึน [คำพูดสุดท้ายของเธอคำนั้นมันช่างเย็นชา]

    I’m sorry (I’m sorry)

    I’m sorry (I’m sorry)

    ซา รัง ฮัน ดา ตอ นิ นา พัก เก ออบ ตา ตอ นิ Oh [ที่เคยบอกว่ารัก ที่เคยบอกว่านอกจากชั้นแล้วไม่มีใคร]

    คือ ร็อค โก คือ รอน คอ จิต มัล ยา [ถ้าอย่างงั้น ทั้งหมดที่พูดมา ก็มีแต่คำโกหกทั้งนั้น ]

    นิ อี พยอล ลี มัล รึน คือ ทัง ทัง ฮัน มัล รึน [คำบอกลาของเธอ คำพูดที่พูดออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ ]

    I’m sorry (I’m sorry)
    You tell me sorry (You tell me sorry)

    โม ดู กา พยอน แน โด นอ มัน นึน อา นิ รัน มัล Oh [ถึงทุกอย่างจะเปลี่ยนไป แต่เธอเคยบอกว่าเธอจะไม่เปลี่ยนแปลง]
    นู กู นา มัล รา นึน คือ รือ ปอน ฮัน มัล อิล ปุน ยา [แต่แล้วเธอพูดคำนั้นออกมา คำง่ายๆที่ใครๆก็พูดกัน]


     

    เพลง I’m sorry - CNBLUE

    Korean transcription & Thai trans : toeyparii@welovecnblue.com




     

     

    เสียงนักร้องนำที่นุ่มแต่แฝงไปด้วยความหนักแน่นในน้ำเสียงเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งจากด้านบนและด้านล่างได้อย่างดี ตามมาด้วยดนตรีเพลงร็อคจังหวะหนักๆบ่งบอกว่าเวลาที่ทุกกำลังรอคอยมาถึงแล้ว ระเบียงชั้นบนเรียงรายไปด้วยสาวๆจนทงเฮเองต้องลุกขึ้นมายืนกอดอกดูอยู่ตรงระเบียงโซน VIP เช่นกัน


     

    นักร้องนำในชุดเสื้อยืดมีสไตล์สีขาว กางยีนสีดำที่ขาดรุ่ยไปแทบจะทั้งตัวตั้งแต่ข้อเท้าขึ้นมาถึงโคนขา ที่ข้อมือมีกุญแจเหล็กอันใหญ่ที่เจ้าตัวเพิ่งจะสลัดให้หลุดออกมาจากสายโซ่ที่คล้องติดอยู่กับฉากด้านหลัง ก่อนที่ฉากจะถูกแยกออกไปด้านข้างเผยให้เห็นมือกลอง มือกีต้าร์และมือเบส


     

    ทงเฮจ้องมองร่างบอบบางของคนบนเวทีไม่วางตา ผมสีน้ำตาลทองรับกับโครงหน้าเรียวได้รูป แสงที่สาดจากบนเวทีช่วยขับให้เจ้าของเรือนร่างดูน่าสนใจมากขึ้นไปอีก ถึงจะเห็นจากที่ไกลแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนบนเวทีดึงดูดสายตาเขาได้ดีขนาดไหน



     

    สนใจเหรอพี่” แจ็คสันเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าทงเฮจ้องมองนักร้องนำของวงไม่วางตาแถมสายตานั่นก็สื่อความหมายว่าพึงพอใจจนปิดไม่มิด หรือบางทีเจ้าตัวก็ไม่ได้คิดที่ปิดบังมัน
     

    ได้มั้ยล่ะ” ทงเฮถามโดยที่สายตาคมไม่ได้ละออกมาจากใบหน้าเรียวเลยแม้แต่น้อย
     

    ยากว่ะพี่ ไอ้นี่ผู้ชายแท้ ฟันแต่สาว” แจ็คสันตอบกลับไปตามที่เคยได้เห็น


     

     

    อี ฮยอกแจ นักร้องนำของวง Lucifer วงดนตรีร็อคอินดี้ที่แจ็คสันจ้างให้มาเล่นประจำให้กับ SWAG ถึงแม้ว่าถ้าล้างเครื่องสำอางค์ออกไปแล้วชายหนุ่มจะมีใบหน้าหวานเสียจนผู้หญิงหลายคนยังต้องยอม แต่เกือบปีที่รู้จักกันเขาก็ไม่เคยเห็นว่าฮยอกแจจะมีทีท่าสนใจเพศเดียวกัน หมอนี่มักจะได้สาวสวยไม่ซ้ำหน้ากลับไปด้วยเสมอและสำหรับฮยอกแจแล้ว ไม่เคยมีตัวจริง ก็แค่ One night stand ถ้าสวย หุ่นดี หรือลีลาถูกใจก็อาจจะมีครั้งต่อๆไป แต่ไม่นานก็ถูกเขี่ยทิ้ง



     

    ในช่วงแรกเขาเคยเตือนๆเรื่องนี้เพราะเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องชู้สาวจนมีผลกระทบกับร้าน แต่หมอนี่ก็ไม่ได้รับปากว่าจะฟังไอ้ที่เขาตักเตือน และเหมือนว่าไอ้ที่เขาเตือนไปก็จะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเพราะฮยอกแจก็ยังทำตัวเหมือนเดิม จนเขาเบื่อที่จะเตือนและอีกอย่างการที่ฮยอกแจเป็นแบบนี้ก็ช่วยเรียกลูกค้าให้กับผับจำนวนมาก หญิงสาวมากว่าครึ่งเลือกที่จะมาเที่ยวที่นี่เพียงเพราะอยากจะมีโอกาสได้ใกล้ชิด “เจ้าชายน้ำแข็ง”



     

    น่าสนใจดีนี่ ไปหามาจากไหน” มุมปากหยักยกยิ้มพึงพอใจกับคำค้านของรุ่นน้อง เหมือนเขาจะเจอของเล่นถูกใจเข้าแล้วละ ยิ่งยากก็ยิ่งน่าลองไม่ใช่หรือไง
     

    เด็กต่างจังหวัดน่ะพี่ เข้ามาเรียนมหาลัยในโซล จบแล้วก็ไม่อยากกลับบ้านเลยรวมกลุ่มกับเพื่อนตั้งวงดนตรีอินดี้เล่นอยู่แถวฮงแดนี่แหละ มีคนเค้าแนะนำมา เห็นว่ามีคนไปดูเยอะผมเลยลองไปคุยดู” แจ็คสันเล่าไปเรื่อย แต่เหมือนสิ่งที่พูดมาจะไม่ใช่ประเด็นที่ทงเฮอยากรู้ ชายหนุ่มเลยหันมามองด้วยหางตาประมาณว่าถ้ายังอ้อมโลกอยู่ได้โดนดีแน่
     

    อี ฮยอกแจ อายุ 22 โสด ไม่มีแฟนเพราะไม่เคยคบใครจริงจัง คืนเดียวผ่านตลอดและที่สำคัญไม่นิยมเพศเดียวกันไม่ว่าจะรุกหรือจะรับ จบมั้ยครับคนนี้” แจ็คสันร่ายยาวพร้อมตัดจบความสนใจของทงเฮทันที







     

    อืม เล่นเสร็จแล้วไปเรียกมาคุยหน่อยนะ” ทงเฮพูดทิ้งไว้แค่นั้นก่อนจะหมุนตัวกลับไปนั่งที่โซฟาตามเดิม


     

    แจ็คสันตบหน้าผากตัวเองเมื่อรู้สึกถึงปัญหาที่กำลังจะมาเยือน คนนึงก็นายทุนของร้านอีกคนก็ตัวเรียกเงินชั้นดี


     

    ไม่ปวดหัววันนี้จะไปปวดหัววันไหนวะไอ้แจ็คสัน”






     

     

    จากเพลงเร็วติดกันสามเพลง ก็เป็นช่วงหยุดพักพูดคุยทักทายกับนักท่องเที่ยวในผับจากนั้นจึงเข้าสู่เพลงช้า และตามด้วยอีกหลายเพลงทั้งช้าเร็วสลับกันไปจนครบเวลาหนึ่งชั่วโมง ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของดีเจที่จะมาเปิดเพลงแดนซ์จังหวะสนุกสนานให้บรรดานักเต้นออกเสตปกันอีกรอบ



     

    ฮยอกแจโบกมืออำลาเพื่อนร่วมวงอีกสามคนหลังจากที่ออกมาจากด้านหลังเวทีแล้ว สายตาเรียวเงยขึ้นไปมองด้านบน เมื่อครู่เด็กในร้านเข้ามาบอกเขาว่าแจ็คสันให้เขาไปพบอี ทงเฮที่โซน VIP ชั้นบน แน่นอนว่าเขาทำงานกับที่นี่มานานย่อมต้องเคยได้ยินชื่อทงเฮมาบ้าง



     

    มาวันแรกก็เรียกหาซะแล้ว คงจะขอบคุณที่เรียกลูกค้าเข้าผับให้มั้ง ดีเลยเผื่อจะได้ค่าตัวเพิ่ม” ร่างบางเดินพูดคนเดียวไปตามทางเดินด้านข้าง แต่ก่อนจะก้าวขึ้นบันไดเพื่อไปยังชั้นบนก็เจอเข้ากับลูกค้าสาวสวยเสียก่อน
     

    พี่ฮยอกแจคะ” เสียงหวานเรียกอย่างออดอ้อนพร้อมกับส่งสองมือออกมาเกี่ยวแขนรั้งเขาไว้
     

    หืม” นึกว่าใคร น้องมินอานี่เอง
     

    พี่ฮยอกแจไม่เห็นโทรหาน้องมินอาเลย”

     

    เอ่อ..จะว่ายังไงดีล่ะ เบอร์โทรบันทึกชื่อไว้ว่าอะไรยังไม่รู้เลย ก็คืนนั้นเจ้าตัวเป็นคนขอโทรศัพท์เขาไปกดยิกๆอยู่พักหนึ่งก็ส่งคืนกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มหวานเชื่อม เขาก็ไม่ได้สนใจจะดูเพราะคืนนั้นสาวเจ้าก็ตกลงจะไปด้วยกันอยู่แล้ว เบอร์โทรศัพท์ก็คงไม่จำเป็นอะไร หลังจากคืนนั้นเขาก็ไปฟีทเจอริ่งกันมาอีก 2-3 ครั้ง แล้วทุกครั้งที่ไปด้วยกันก็คือมาเจอแล้วก็ตกลงกันที่ผับ พอเบื่อๆก็ไม่ได้สนใจเจ้าหล่อนอีก แทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำถ้าไม่มาทักเขาวันนี้



     

    อืม ไม่รู้จะโทรไปทำไมน่ะ ขอตัวนะพี่รีบ”
     

    พี่ฮยอก....................”

     

    ไม่ได้อยู่ฟังจนจบประโยคฮยอกแจก็แกะมือปลาหมึกที่เกาะแขนตนเองออกแล้วรีบเดินขึ้นชั้นบนไปทันที น้องมินอาจริงๆก็สวยหุ่นดีอยู่หรอกนะ แต่ลีลาติดลบไปหน่อย ครั้งแรกก็ยังพอเข้าใจว่าน้องเขาไม่เคย น้องเขาบอกแบบนั้นน่ะนะ ซึ่งอาจจะขัดกับหลักฐานนิดหน่อย แต่ครั้งที่สองที่สามก็น่าจะเรียนรู้ได้มั่งแล้ว ไม่ใช่กี่ครั้งกี่ครั้งก็นอนครางอย่างเดียวเหมือนเดิม น่าเบื่อ

     








     

    คุณอี ทงเฮ ? ผมอี ฮยอกแจ แจ็คสันบอกว่าคุณอยากพบผม” ฮยอกแจแนะนำตัวและถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับโค้งทักทายอย่างสุภาพ
     

    ใช่ ผมอี ทงเฮ นั่งก่อนสิ” ทงเฮผายมือไปยังโซฟาฝั่งตรงข้ามที่ว่างอยู่

     

    ฮยอกแจมองคนตรงหน้าอย่างนึกทึ่ง นี่น่ะหรืออี ทงเฮ เจ้าของ SWAGตัวจริง ดูดีสมกับที่เคยได้ยินแจ็คสันคุยโม้เอาไว้ ทุกองค์ประกอบในใบหน้าคมคาย ไม่ว่าจะเป็นคิ้วหนา ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งและปากหยักได้รูปนั่น ขนาดเขาเป็นผู้ชายยังรู้สึกชื่นชม



     

    ในขณะที่ทงเฮเองก็กำลังจ้องมองคนตรงหน้าไม่วางตา ใบหน้าเรียวที่ล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีน้ำตาลทอง ดวงตาเรียวถูกกรีดด้วยอายไลน์เนอร์สีดำเพิ่มความคมชัดจนดูเซ็กซี่ จมูกรั้นที่บ่งบอกลักษณะนิสัยของเจ้าตัวได้ดีว่าคงจะดื้อรั้นเอาการ และสุดท้ายคือปากบางสีชมพูน่าจูบนั่น ยิ่งมองใกล้ๆก็ยิ่งถูกใจ



     

    คุณมีอะไรจะพูดกับผมเหรอครับถึงได้เรียกให้มาพบ”



     

    เมื่อดูแล้วอีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะเอ่ยอะไรออกมาก่อน ฮยอกแจจึงถามออกมาอย่างเป็นทางการเพื่อคลายความอึดอัด เพราะคุณทงเฮอะไรนี่นอกจากไม่พูดธุระของตนเองออกมาแล้วยังจ้องเขาไม่วางตาอีกต่างหาก และสายตาที่มองมานั้นมันชวนขนลุกมาก บอกเลย














     

    ผมอยากได้คุณ”






     

     

    --------------------- TBC ---------------------

    อยากได้ก็บอกอยากได้เนอะ พระเอกของเราเป็นคนตรงๆค่ะ ^____^

     

    เรื่องนี้แรงบันดาลใจมาจากรูปฮยอกแจใน SS6 และรูปจากคัมแบคสเตจเพลง Evanescence ที่นางไปเต้นกับแดนเซอร์มันดูแบดบอยดี แต่สไตล์เราก็เหมือนเดิมค่ะ คงจะไม่ได้เลวสุดขั้วชั่วสุดขีดขนาดนั้น เลวนิดหน่อยพอเป็นพิธีให้สาวกรี๊ด เรื่องนี้ไม่ดราม่าเท่านอราโกค่ะ บอกเลย

     

    ขอบคุณสำหรับ 17 เฟบ และ 9 คอมเม้นท์ สำหรับใครก็ตามที่เผลอมาอ่าน ถ้ารักถ้าชอบกันก็บอกกันไว้นิดนึงเนอะ เราจะได้กระดี๊กระด๊ามีแรงไปแต่งต่อ

     

     


     

    © themy butter
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×