ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สามก๊ก ฉบับ ORIGINAL

    ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้นสู่กลียุค

    • อัปเดตล่าสุด 27 มิ.ย. 51


    ...................ยุคสมัยของสามก๊กเกิดขึ้นตั้งแต่พุทธศักราช 722 เป็นต้นมา เป็นเวลาร่วมร้อยปี เบื้องหน้าแต่จะเกิดยุคสามก๊ก แผ่นดินจีนได้เกิดกลียุคการรบราฆ่าฟันกันจนแตกออกเป็น 7 หัวเมือง ทั้ง 7 หัวเมืองนี้บางทีก็ผูกมิตรกัน บางครั้งก็ทำสงครามกัน สงครามและสันติภาพเกิดขึ้นสลับกันไป ประวัติศาสตร์จีนได้เรียกขานยุคนี้ว่าเป็นยุค เลียดก๊ก จนถึงสมัยหนึ่งแคว้นจิ๋นมีผู้ปกครองชื่อว่า จิ๋นอ๋อง ได้รวบรวม 7 หัวเมืองไว้เป็นแผ่นดินเดียวกัน สถาปนาราชวงศ์จิ๋นปกครองแผ่นดินจีนแต่นั้นมา...................

     

    .....................ชื่อประเทศที่ถูกรวมเข้าเป็นหนึ่ง จึงถูกเรียกตามชื่อของแคว้นจิ๋นว่าเป็นประเทศจีน ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จิ๋นอ๋องเป็นผู้ใฝ่อำนาจ เห็นว่าคำว่า อ๋อง ยังเป็นคำต่ำเสมอเจ้าเมืองธรรมดา ไม่สมกับความชอบของพระองค์ที่สามารถรวบรวมแคว้นทั้งปวงเข้าเป็นแผ่นดินเดียวกันได้ จึงให้ขุนนางคิดหาสมญาณามให้สมกับความชอบของพระองค์.........................

     

    ......................เป็นธรรมเนียมของขุนนางทุกยุคทุกสมัยที่มักประจบผู้มีอำนาจ บรรดาขุนนางในยุคนั้นจึงได้คิดค้นสมญาณามสำหรับจิ๋นอ๋องว่า ฮ่องเต้ ซึ่งหมายถึงความเป็นใหญ่ใน 5 แผ่นดิน หรือความเป็นใหญ่เหนือแผ่นดิน ภูเขา แม่น้ำ ความดีและความชั่ว ซึ่งสมญาณามนี้เป็นที่ต้องพระทัยยิ่งนัก ดังนั้น จิ๋นอ๋องจึงได้สถาปนาพระนามาภิไธยของพระองค์ว่า จิ๋นซีฮ่องเต้ ความใฝ่ฝันในอำนาจและความคิดที่จะเป็นใหญ่ในจักรวาล เป็นแรงวิริยานุภาพภายในตัวของจิ๋นซีฮ่องเต้ ประกอบกับการเป็นคนรู้ใช้คน ดังนั้น คนมีฝีมือในแผ่นดินจำนวนมาก จึงเข้ามาอาสารับใช้ชาติ แผ่นดินจีนในยุคนั้นจึงเกรียงไกร....................

     

    .......................แต่กระนั้นความยิ่งใหญ่ที่มีอยู่ก็ไม่สามารถยับยั้งความแก่เอาไว้ได้ เมื่ออายุล่วงไว้มากเข้า จิ๋นซีฮ่องเต้จึงคิดกลัวตาย ดังนั้น จึงพยายามแสวงหายาอายุวัฒนะ เมื่อความอยากเกิดขึ้น ความโง่ก็เข้าครอบง่ำ พวกแพทย์หลวงตลอดจนแพทย์บ้านแม้กระทั่งนักพรต ต่างได้อาสาทำยาอายุวัฒนะ แต่ในที่สุดก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ความแก่ยังครอบง่ำจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้พระองค์รู้สึกว่าวันเวลาแห่งความตายได้ย่างกรายเข้ามาเยือน พระองค์ใกล้เข้ามาทุกที ในที่สุดทรงตั้งรางวัลจำนวนมหาศาลให้แก่ใครก็ตามที่แสวงหายาอายุวัฒนะมาถวายได้..................

     

    .....................รางวัลจำนวนมหาศาลย่อมจูงใจผู้คนย่อมสามารถทำให้คนแกร่ง กล้าไม่กลัวผี ไม่กลัวฟ้า ไม่กลัวดิน ไม่กลัวบาป และไม่กลัวตาย ดังนั้น จึงมีพวกหมอกลุ่มหนึ่งเห็นว่าขืนอยู่ไปก็อาจเสี่ยงต่อการถูกประหาร จึงอาสาเดินทางโดยทางเรือไปทางด้านตะวันออก เพื่อแสวงหายาอายุวัฒนะ หลังจากเดินทางไปแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย เหตุที่ไม่ยอมรับว่าความตายจะมาถึง จิ๋นซีฮ่องเต้จึงไม่ได้เตรียมการใด-ใด เพื่อรับมือกับเหตุการณ์หลังการตายของพระองค์ ดังนั้นเมื่อความตายมาถึงกลียุคจึงเกิดขึ้นในบ้านเมือง ขันทีตั้งต้นเป็นใหญ่ใช้อำนาจ หยาบช้าต่ออาณาประชาราษฎร จนบ้านเมืองเกิดจลาจลขึ้น สมัยนั้นขุนศึกต่าง-ต่างได้ยกทัพเข้าเมืองหลวง ด้านหนึ่งเพื่ออ้างว่าเพื่อฟื้นฟูพระราชวงศ์ ชูธงแห่งความภักดีขึ้นเป็นที่รวมใจของขุนนางและอาณาประชาราษฎร ในขณะที่อีกด้านหนึ่งมีวาระซ่อนเร้น อยู่ในใจที่จะยึดอำนาจเสียเอง.....................

     

    ...................การรบราฆ่าฟันเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง การจลาจลลุกลามขยายตัวไปทั้งแผ่นดิน กลายเป็นสงครามกลางเมืองขึ้นมาอีก ครั้งหนึ่งในสมัยนั้นมีผู้ตั้งตนเป็นผู้กู้ชาติหลายกลุ่ม หลายเหล่า แต่หลังจากสงครามผ่านไปนานวันเข้า บางกลุ่มก็สูญสลายไป บางกลุ่มก็ไปร่วมกับอีกกลุ่มหนึ่ง ในที่สุดเหลืออยู่เพียงสองกลุ่ม กลุ่มแรกนำโดยฌ้อปาอ๋อง กลุ่มที่สองนำโดยเล่าปัง หรือที่เรียกฮั่นอ๋อง ทั้งสองกลุ่มนี้ทำสงครามแย่งชิงเมืองหลวง กันเป็นเวลายาวนาน เปิดสงครามกันถึง 7 ครั้ง และทั้ง 7 ครั้งฮั่นอ๋องเป็นฝ่ายแพ้.................

     

    ....................แต่เนื่องด้วยเล่าปังเป็นคนมีนิสัยเพียรพยายาม มีจิตใจต่อสู้และทรหดอดทน ทั้งพยายามแสวงหาคนดีมีฝีมือมาร่วมงาน ในที่สุดเล่าปังก็ได้สองขุนนางมาร่วมงานด้วย นั่นคือ

    ฮั่นสินซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านทหาร และ เตียวเหลียง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้ายพิชัยสงครามและการปกครอง ในสงครามครั้งสุดท้ายฮั่นอ๋องเป็นฝ่ายชนะ ฮั่นอ๋องหรือเล่าปังเมื่อได้รับชัยชนะแล้วจึงสถาปนาราชวงศ์ฮั่นขึ้น เหล่าขุนนางได้ถวายพระสมัญญาแก่พระองค์ว่า พระเจ้าฮั่นโกโจ จัดเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฮั่น...............

     

    ..................พระเจ้าฮั่นโกโจและพระราชวงศ์ได้ครองราชย์สมบัติต่อ-ต่อถึง 12 พระองค์ ขุนนางชื่อ อองมัง จึงชิงราชสมบัติตั้งตนขึ้นเป็นใหญ่เป็นเจ้าครองแผ่นดินถึง 18 ปี ก็มีเชื้อพระวงศ์ของพระเจ้าฮั่นโกโจชื่อ ฮั่นกองบู๊ ชิงราชสมบัติกลับคืนมาได้ เสวยราชย์สืบเชื้อพระวงศ์ต่อมาอีก 12 พระองค์ จึงเป็นอันสิ้นสุดราชวงศ์ฮั่น....................

     

    ...................ฮ่องเต้องค์ที่สามก่อนสิ้นราชวงศ์ฮั่นทรงพระนามว่า ฮั่นเต้ คงจะเป็นหมันจึงไม่มีพระราชบุตรสืบสันติวงศ์ จึงขอลูกชาวบ้านมาเลี้ยง ตั้งเป็นพระราชบุตร เมื่อได้ดิบได้ดีเป็นรัชทายาทก็ถือตัวว่าเป็นราชวงศ์ฮั่นไปด้วย ครั้นได้เสวยราชย์ได้ทรงพระนามว่า พระเจ้าเลนเต้ ได้อาศัยขุนนางผู้ใหญ่สองคนคอย ค้ำจุนราชบัลลังก์ คนหนึ่งชื่อเตาบูเป็นแม่ทัพใหญ่ อีกคนหนึ่งชื่อตันผวนเป็นราชครู สองขุนนางเห็นความวิปริตแปรผันในบ้านเมืองที่ทำให้ข้าราชการแลราษฎรต้องเดือดร้อนหนัก ซึ่งเกิดจากขันทีเป็นเหตุ จึงวางแผนร่วมกันสังหารเหล่าขันทีชั่วเสีย แต่แผนการรั่วไหลเสียก่อนดังนั้น ทั้งเตาบูและตันผวนพร้อมทั้งครอบครัวจึงถูกเหล่าขันทีสังหารอย่างโหดร้ายทารุณ แต่นั้นมาเหล่าขันทีก็กำเริบเสิบสานมากขึ้น เหล่าขุนนางข้าราชการมีควมเกรงกลัวอิทธิพลเหล่าขันทีชั่วเป็นอันมาก..................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×