ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บันทึก...สยองขวัญ ชาวหออาบน้ำแช่ศพ
เจ้าของหอพักทำใจขาดทุน หลังพบศพในถังน้ำ ชาวหอสยอง อาบน้ำ-ใช้น้ำ "แช่ศพ" หนุ่มโรงงานขยะแขยงจนต้องซื้อยาฆ่าเชื้อมาทำความสะอาดร่างกาย
แม้เหตุการณ์จะผ่านไป 3 วันแล้ว ทว่าบรรยากาศในหอพักพัชรินทร์ เลขที่ 82/286 ซอยไทยธานี 31 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ก็ยังคงเต็มไปด้วยเสียงกระซิบกระซาบถึงเรื่องราวสยองขวัญเมื่อวันวาน
"ราตรี หมั่นดี" สาวคาราโอเกะ วัย 26 ปี ย่านวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกฆาตกรรมแล้วนำศพไปทิ้งไว้ในถังเก็บน้ำบนดาดฟ้า จะนานเท่าไรไม่ทราบได้ แต่ร่างของเธอถูกค้นพบเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังจากนั้นอีก 3 วัน ตำรวจก็สามารถจับกุม "อริยธัช โกมลเกษรักษ์" วัย 25 ปี ซึ่งสารภาพว่า สาเหตุมาจากบันดาลโทสะ
หอพักรวมชาย-หญิง 4 ชั้น 31 ห้อง ที่เคยคลาคล่ำไปด้วยผู้คน มาบัดนี้เงียบเหงาวังเวง เพียงชั่วข้ามคืนข่าวพบศพหญิงสาวถูกฆาตกรรมแล้วหมกศพไว้ในถังเก็บน้ำขนาด 2,000 ลิตรบนดาดฟ้า นานกว่า 3 วันจึงมีคนระแคะระคายและล่วงรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้น้ำมีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนชั้น 3-4 ซึ่งอยู่ติดใกล้ชิดเหตุการณ์มากที่สุด ถึงวันนี้แทบทุกห้องว่างร้างผู้คน แม้ว่า "สมพร สัตย์ซื่อ" เจ้าของหอพัก วัย 49 ปี จะเปลี่ยนถังเก็บน้ำใบใหม่และเปลี่ยนระบบท่อน้ำใหม่ทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยไปหมาดๆ แล้วก็ตาม
ขณะเดียวกันก็เปิดไฟฟ้าตลอดทั้งหอพัก โดยเฉพาะชั้น 3-4 แม้จะไม่มีคนเช่าก็เปิดไฟให้แสงสว่างตลอดทั้งคืน เพื่อสร้างความสบายใจและขวัญกำลังใจแก่คนเช่าและตัวเอง จากนั้นจะนิมนต์พระมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป
"ตอนนี้ยอมขาดทุน ยอมเสียค่าไฟ เปิดตลอดทั้งชั้น 3-4 แม้จะไม่มีคนเช่า ฉันเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น เข้าใจความรู้สึกของคนเช่าดี"
ด้วยค่าเช่าที่ค่อนข้างถูก ตกเดือนละ 1,600 บาท ห้องขนาดไม่เล็กแคบจนเกินไป ทำให้ผู้เช่าหลายคนที่ย้ายออกไปนับตั้งแต่เกิดเรื่องลังเลที่จะกลับเข้ามาอยู่อีกครั้ง บางคนจ่ายเงินค่าจองเอาไว้ล่วงหน้ารอเวลาที่เจ้าของหอจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบท่อน้ำในหอก่อน
ทว่าก็มีบางคนที่ทำใจยังไม่ได้กับเรื่องราวขนพองสยองเกล้าที่เกิดขึ้นกับตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่รู้ว่าใช้น้ำ-อาบน้ำจากถังเก็บน้ำที่มีศพคนตายแช่อยู่จนเน่าเหม็น !?!
เอก หนุ่มโรงงานวัย 27 ปี ยืนกระต่ายขาเดียวว่า อย่างไรเสียก็จะไม่กลับไปอยู่ที่หอพักเดิมอีก แม้ห้องเช่าแห่งใหม่จะเล็กแคบไม่เหมือนที่เก่า แต่ก็ยังพออยู่ได้เมื่อคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
"ผมเป็นผู้ชายมีความอดทนนะ แต่บางสิ่งมันก็เกินความคาดหมาย เราอาบน้ำมารู้ทีหลังว่ามีศพคนตายอยู่ในถังเก็บน้ำก็รู้สึกขยะแขยง เพราะน้ำมันแช่ศพอยู่ หลังจากย้ายไปอยู่ที่ใหม่ผมไปซื้อยาฆ่าเชื้อมาทำความสะอาดร่างกายเลยนะ เพราะไม่รู้ว่าศพแช่อยู่ในน้ำมันจะมีเชื้อโรคอะไรหรือเปล่า รู้สึกรับไม่ได้"
หนุ่มโรงงานวัย 27 ปี รู้ว่ามีผู้เช่าหลายคนที่จะกลับไปอยู่ที่เดิม แต่เขาเชื่อว่าคงไม่ใช่ห้องเลขที่ 31 ที่เกิดเหตุ !?!
แม่ค้าขายของใกล้กับหอพักพัชรินทร์เป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกของผู้เช่าได้อย่างดี เล่าว่า หลังเกิดเหตุผู้เช่าหลายคนมาซื้อของที่ร้านและบอกเล่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นชนิดพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เมื่อรู้ว่าน้ำที่ใช้อาบ ใช้แปรงฟัน นั้นมีศพคนตายแช่อยู่ กระทั่งน้ำเริ่มมีกลิ่นเหม็นและเป็นฟอง ก่อนจะจบลงด้วยความจริงที่เปิดเผยออกมา พวกเขาและเธอเลยต้องย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่
แต่สำหรับ นิด สาวโรงงานวัย 28 ปี กลับมีมุมมองแตกต่างออกไป เธอกับเพื่อนอีกบางคนยังคงปักหลักพักอาศัยอยู่ที่หอพักพัชรินทร์ แม้จะรู้สึกขยะแขยงบ้างเมื่อรู้ว่าน้ำที่เคยอาบเคยใช้มีศพคนตายแช่อยู่นานถึง 3 วัน โดยเธอให้เหตุผลแก่ตัวเองและ "คม ชัด ลึก" ว่าคนตายมาจากที่อื่น ไม่ได้พักอยู่ที่นี่ จึงไม่มีความรู้สึกด้านความสัมพันธ์ ประกอบกับเศรษฐกิจยุคนี้ยากจะหาหอพักในราคาขนาดย่อมเยาเช่นนี้ได้ "ฉันเช่าอยู่ชั้น 1 ส่วนเพื่อนพักอยู่ชั้น 2 แรกๆ ก็หวั่นใจอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าจากนี้ไปคงไม่มีปัญหาอะไร สักพักคงมีคนเข้ามาเช่าเหมือนเดิม" ระหว่างการเปลี่ยนถังเก็บน้ำใบใหม่และเปลี่ยนระบบท่อน้ำใหม่ทั้งหมด สมพรเจ้าของหอได้นำน้ำดื่มถังใหญ่มาวางไว้ให้ผู้เช่าที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดนำไปใช้อุปโภคบริโภคไม่จำกัดจำนวน โดยตั้งวางไว้ที่หน้าหอพัก ใครใคร่หยิบไปดื่มกินหรืออาบชำระล้างร่างกาย ล้างถ้วยล้างจานเท่าไรก็ยกไปได้ตามแต่ใจต้องการ และนี่คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่สมพรบอกว่า ถึงอย่างไรช่วงนี้ก็จะยอมขาดทุน...กระมัง
จาก http://www.komchadluek.net/2008/07/2...news_id=212392
แม้เหตุการณ์จะผ่านไป 3 วันแล้ว ทว่าบรรยากาศในหอพักพัชรินทร์ เลขที่ 82/286 ซอยไทยธานี 31 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ก็ยังคงเต็มไปด้วยเสียงกระซิบกระซาบถึงเรื่องราวสยองขวัญเมื่อวันวาน
"ราตรี หมั่นดี" สาวคาราโอเกะ วัย 26 ปี ย่านวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกฆาตกรรมแล้วนำศพไปทิ้งไว้ในถังเก็บน้ำบนดาดฟ้า จะนานเท่าไรไม่ทราบได้ แต่ร่างของเธอถูกค้นพบเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังจากนั้นอีก 3 วัน ตำรวจก็สามารถจับกุม "อริยธัช โกมลเกษรักษ์" วัย 25 ปี ซึ่งสารภาพว่า สาเหตุมาจากบันดาลโทสะ
หอพักรวมชาย-หญิง 4 ชั้น 31 ห้อง ที่เคยคลาคล่ำไปด้วยผู้คน มาบัดนี้เงียบเหงาวังเวง เพียงชั่วข้ามคืนข่าวพบศพหญิงสาวถูกฆาตกรรมแล้วหมกศพไว้ในถังเก็บน้ำขนาด 2,000 ลิตรบนดาดฟ้า นานกว่า 3 วันจึงมีคนระแคะระคายและล่วงรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้น้ำมีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนชั้น 3-4 ซึ่งอยู่ติดใกล้ชิดเหตุการณ์มากที่สุด ถึงวันนี้แทบทุกห้องว่างร้างผู้คน แม้ว่า "สมพร สัตย์ซื่อ" เจ้าของหอพัก วัย 49 ปี จะเปลี่ยนถังเก็บน้ำใบใหม่และเปลี่ยนระบบท่อน้ำใหม่ทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยไปหมาดๆ แล้วก็ตาม
ขณะเดียวกันก็เปิดไฟฟ้าตลอดทั้งหอพัก โดยเฉพาะชั้น 3-4 แม้จะไม่มีคนเช่าก็เปิดไฟให้แสงสว่างตลอดทั้งคืน เพื่อสร้างความสบายใจและขวัญกำลังใจแก่คนเช่าและตัวเอง จากนั้นจะนิมนต์พระมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป
"ตอนนี้ยอมขาดทุน ยอมเสียค่าไฟ เปิดตลอดทั้งชั้น 3-4 แม้จะไม่มีคนเช่า ฉันเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น เข้าใจความรู้สึกของคนเช่าดี"
ด้วยค่าเช่าที่ค่อนข้างถูก ตกเดือนละ 1,600 บาท ห้องขนาดไม่เล็กแคบจนเกินไป ทำให้ผู้เช่าหลายคนที่ย้ายออกไปนับตั้งแต่เกิดเรื่องลังเลที่จะกลับเข้ามาอยู่อีกครั้ง บางคนจ่ายเงินค่าจองเอาไว้ล่วงหน้ารอเวลาที่เจ้าของหอจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบท่อน้ำในหอก่อน
ทว่าก็มีบางคนที่ทำใจยังไม่ได้กับเรื่องราวขนพองสยองเกล้าที่เกิดขึ้นกับตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่รู้ว่าใช้น้ำ-อาบน้ำจากถังเก็บน้ำที่มีศพคนตายแช่อยู่จนเน่าเหม็น !?!
เอก หนุ่มโรงงานวัย 27 ปี ยืนกระต่ายขาเดียวว่า อย่างไรเสียก็จะไม่กลับไปอยู่ที่หอพักเดิมอีก แม้ห้องเช่าแห่งใหม่จะเล็กแคบไม่เหมือนที่เก่า แต่ก็ยังพออยู่ได้เมื่อคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
"ผมเป็นผู้ชายมีความอดทนนะ แต่บางสิ่งมันก็เกินความคาดหมาย เราอาบน้ำมารู้ทีหลังว่ามีศพคนตายอยู่ในถังเก็บน้ำก็รู้สึกขยะแขยง เพราะน้ำมันแช่ศพอยู่ หลังจากย้ายไปอยู่ที่ใหม่ผมไปซื้อยาฆ่าเชื้อมาทำความสะอาดร่างกายเลยนะ เพราะไม่รู้ว่าศพแช่อยู่ในน้ำมันจะมีเชื้อโรคอะไรหรือเปล่า รู้สึกรับไม่ได้"
หนุ่มโรงงานวัย 27 ปี รู้ว่ามีผู้เช่าหลายคนที่จะกลับไปอยู่ที่เดิม แต่เขาเชื่อว่าคงไม่ใช่ห้องเลขที่ 31 ที่เกิดเหตุ !?!
แม่ค้าขายของใกล้กับหอพักพัชรินทร์เป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกของผู้เช่าได้อย่างดี เล่าว่า หลังเกิดเหตุผู้เช่าหลายคนมาซื้อของที่ร้านและบอกเล่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นชนิดพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เมื่อรู้ว่าน้ำที่ใช้อาบ ใช้แปรงฟัน นั้นมีศพคนตายแช่อยู่ กระทั่งน้ำเริ่มมีกลิ่นเหม็นและเป็นฟอง ก่อนจะจบลงด้วยความจริงที่เปิดเผยออกมา พวกเขาและเธอเลยต้องย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่
แต่สำหรับ นิด สาวโรงงานวัย 28 ปี กลับมีมุมมองแตกต่างออกไป เธอกับเพื่อนอีกบางคนยังคงปักหลักพักอาศัยอยู่ที่หอพักพัชรินทร์ แม้จะรู้สึกขยะแขยงบ้างเมื่อรู้ว่าน้ำที่เคยอาบเคยใช้มีศพคนตายแช่อยู่นานถึง 3 วัน โดยเธอให้เหตุผลแก่ตัวเองและ "คม ชัด ลึก" ว่าคนตายมาจากที่อื่น ไม่ได้พักอยู่ที่นี่ จึงไม่มีความรู้สึกด้านความสัมพันธ์ ประกอบกับเศรษฐกิจยุคนี้ยากจะหาหอพักในราคาขนาดย่อมเยาเช่นนี้ได้ "ฉันเช่าอยู่ชั้น 1 ส่วนเพื่อนพักอยู่ชั้น 2 แรกๆ ก็หวั่นใจอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าจากนี้ไปคงไม่มีปัญหาอะไร สักพักคงมีคนเข้ามาเช่าเหมือนเดิม" ระหว่างการเปลี่ยนถังเก็บน้ำใบใหม่และเปลี่ยนระบบท่อน้ำใหม่ทั้งหมด สมพรเจ้าของหอได้นำน้ำดื่มถังใหญ่มาวางไว้ให้ผู้เช่าที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดนำไปใช้อุปโภคบริโภคไม่จำกัดจำนวน โดยตั้งวางไว้ที่หน้าหอพัก ใครใคร่หยิบไปดื่มกินหรืออาบชำระล้างร่างกาย ล้างถ้วยล้างจานเท่าไรก็ยกไปได้ตามแต่ใจต้องการ และนี่คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่สมพรบอกว่า ถึงอย่างไรช่วงนี้ก็จะยอมขาดทุน...กระมัง
จาก http://www.komchadluek.net/2008/07/2...news_id=212392
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น