คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : อภิมหาสงครามล้างโลก
คงไม่มีใครเชื่อว่าในช่วงเริ่มต้นสตวรรษที่ 30 โลกใบนี้ได้ถูกเฝ้าดูโดยสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดกว่ามนุษย์ ในทุกวันที่มนุษย์หมกหมุ่นแต่เรื่องของตัวเอง เขาเฝ้าดูเฝ้าศึกษา ไม่ต่างกับที่มนุษย์ส่องกล้องดูเหล่าจุลชีพเติบโตและแตกตัวในน้ำหยดเล็กๆด้วยความลำพองใจ มนุษย์ได้เงื้อมือเข้าควบคุมโลกและเชื่อมั่นว่าอาณาจักรนี้ได้อยู่ในกำมือ ทว่าอีกฟากของห้วงอวกาศ สิ่งทรงภูมิยิ่งใหญ่ เลือดเย็นและไร้ความปราณี ได้จับจ้องดาวเคราะห์ของเราด้วยความอิจฉา และแอบวางหมากอันแยบยลเพื่อจัดการกับเหล่ามนุษยชาติ
มันเริ่มขึ้นจากการเกิดพายุขนาดยักษ์ที่แปลกที่สุด เมื่อลมถูกพัดเข้าไปในตาของพายุ ฟ้าผ่าที่ไม่มีเสียงแล้วยังผ่าลงจุดเดิมถึงยี่สิบหกครั้ง ผู้คนจากทั่วสารทิศทั่วมุมเมืองมุ่งมาที่จุดเดียว
คือถนนลินคอร์นซึ่งเป็นจุดที่ถูกฟ้าผ่าเป็นหลุมลึกกว่าสิบเมตร ก้อนหินที่อยู่รอบหลุมที่น่าจะร้อนจนแทบแตะไม่ได้แต่กลับเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็งขั้วโลก พื้นดินเริ่มขยับตัวอย่างช้าๆเหมือนกำลังมีบางสิ่งบางอย่างกำลังจะโผล่ขึ้นมา ตึกน้อยใหญ่ที่อยู่ข้างๆทรุดลงมาอย่างรุนแรงและทันที ทำให้เป็นหลุมที่กว้างยิ่งกว่าเดิมกว้างมากพอที่ยานต่างดาวสามขา หุ้มเกราะที่แข็งแรง สูงกว่าห้าสิบเมตรจะโผล่ขึ้นมาได้
การโจมตีที่รุนแรงและรวดเร็วเริ่มเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ลำแสงที่ถูกยิงออกมามีความรุนแรงยิ่งกว่าการระเบิดที่ฮิโรชิม่ากับนางาซากิในประเทศญี่ปุ่นถึงสี่เท่า มนุษย์คนใดที่โดนลำแสงนั้นจะไหม้จนแทบไม่เหลือแม้แต่ซาก ที่มีเหลือก็เพียงแค่เสื้อผ้าที่ลอยขึ้นไปในอากาศและตกลงมามากมาย การวิ่งหนีเอาตัวรอดอย่างอลมานโดยไม่สนใจคนรอบข้างว่าจะมีชะตากรรมแบบใด
นั้นคือความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ที่หวังจะให้ตัวเองรอดเพียงผู้เดียว ต้นไม้ล้มอย่างระเนระนาด ฝูงนกต่างๆกว่าร้อยสายพันธุ์ที่บินหนีไปในทิศทางเดียวกันกำลังบินหนียานต่างดาวที่มาจากมุมเมืองอื่นๆอีกมากมายหลายตัว เรือที่ลอยลำอยู่กลางแม่น้ำถูกถล่มให้จมลงไปจากพวกที่โผล่ขึ้นมาจากใต้บาดาลเพียงไม่ถึงนาที ยิ่งมนุษย์วิ่งหนีเพื่อให้ตัวเองรอดเท่าใดยานต่างดาวเหล่านั้นก็ยิ่งใช้อาวุธที่รุนแรงขึ้นไปทุกที การดิ้นรนเอาตัวรอดของมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวทั้งหลายดูเหมือนจะไร้ค่าอย่างสิ้นเชิง หลังจากสิ้นสุดการโจมตีที่ผู้รุกรานเพิ่งจะเริ่มประกาศศึก แต่เมืองทั้งเมืองถูกถล่มจนราบเป็นหน้ากลองในเวลาแค่สิบนาทีเท่านั้น
บ้านหลังหนึ่งเป็นบ้านที่เคยใหญ่โตจนน่าอิจฉาจนตอนนี้พังหายไปกว่าครึ่ง มีสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่หัวเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ดวงตากลมใหญ่ ผิวสีเทา ลงมาจากยานต่างดาวเพื่อสำรวจมนุษย์ที่อาจจะรอดชีวิตซ่อนตัวอยู่ เป็นครั้งแรกที่สัตว์ต่างดาวเหล่านั้นลงมาสูดอากาศบนโลก เป็นครั้งแรกที่มนุษย์บนโลกได้รู้ว่าตัวเองที่ลำพองตัวอยู่นั้น ไม่ได้อยู่เพียงโดดเดี่ยวในจักรวาล และเป็นครั้งแรกที่เหล่ามนุษยชาติทั้งหลายถูกโจมตีจากสิ่งมีชีวิตที่อยู่นอกโลก ที่มีวิทยาการที่ก้าวหน้ากว่ามนุษย์นับพันปี
การสำรวจสิ้นสุดลงเมื่อมีสัญญาณเตือนจากยานต่างดาว สัตว์ต่างดาวที่ลงมาสำรวจและสูดอากาศบนโลกจึงกลับไปที่ยาน มนุษย์บางคนถูกยานต่างดาวจับได้และถูกดูดเลือดออกจากร่างกายจนหมดสิ้นไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว แล้วเลือดที่ถูกดูดมาออกมาก็ถูกพ่นทางข้างหลังของยาน พ่นไปทั่วเหมือนกับให้ปุ๋ยต้นไม้ พ่นออกมาใส่เถาสีแดงที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เพียงสองชั่วโมงโลกก็ถูกปกคลุมไปด้วยเถาสีแดงเหล่านั้น
ที่มุมเมืองของเมืองบอสตัน เหล่าอีกานกแร้งและเหล่าสัตว์เก็บกินซากทั้งหลายหลากหลายสายพันธุ์กำลังแทะเลมกินเถาสีแดงที่ทำด้วยเลือดของมนุษย์ ไม่นานนักหลังจากที่เถาสีแดงเหล่านั้นเริ่มสังเคราะห์แสง เริ่มใช้อากาศบนโลกเถาสีแดงเหล่านั้นก็เริ่มกลายเป็นสีขาวเพราะไม่สามารถที่จะใช้อากาศบนโลกได้ ทำให้เถาสีแดงเหล่านั้นไม่สามารถที่จะเติบโตได้นานพอที่จะเป็นแหล่งอาหาร ให้กับเหล่าสัตว์ต่างดาวที่มารุกรานโลก สัตว์ต่างดาวและเถาสีแดงจึงตายด้วยเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในอากาศ
เมื่อผู้บุกรุกย่างกรายถึง สูดอากาศของเราเข้าเขมือบบริโภค พวกมันก็ถึงฆาต ถึงคราวชะตาขาด ถูกเด็ดชีพ ไม่ใช้โดยสรรพาวุธของมนุษย์ แต่ด้วยเหล่าจุลชีวิต ( เชื้อโรค ) ที่พระเจ้าวางหมากไว้ เพื่อให้มนุษย์และสิ่งมีชีวิตในโลกรอดจากการถูกโจมตีจากผู้ท้าทาย
ความคิดเห็น