ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศึกสะท้านภพสาม

    ลำดับตอนที่ #2 : ท้าวสักกเทวราชปราบอสูร

    • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 52


    เมื่อหลวงตาธรรมถอดกาย มายังสวรรค์แล้วพบว่านี่มันอะไรกัน สวรรค์หรือนรกกันแน่
    หลวงตาเห็นสภาพสงครามและนึกถึงเรื่องราวในพุทธกาลดังนี้
     

    ในอดีต ณ ดาวดึงส์สรวงสวรรค์ กาลนั้นอสูรทั้งหลายทำตัวเสเพล เกเรในหมู่เทพสวรรค์ ท้าวสักกเทวราชจึงให้จับพวกอสูรที่เมามายสลบไสลไร้สติโยนลงไปที่เชิงเขาสิเนรุโดยพลัน พวกอสูรสร่างเมาฟื้นขึ้นมายังนึกว่าอยู่บนสวรรค์ดังเดิม
     จนฤดูกาลผันผ่าน พวกอสูรพากันมาดูต้นปาริฉัตรออกดอกประจำปี แต่ต้นไม้ที่พวกตนมารอดูกลับออกเป็นดอกแคฝอย 
    จอมอสูรพลันตาสว่างขึ้นทันทีคิดว่าที่นี่มิใช่เทวโลกเสียแล้ว ชะรอยเจ้าท้าวสักกะจะโยนเราลงมาตอนเราเมาแล้วยึดเทพนครไว้ผู้เดียว 
              "ไปกันเถอะพวกเรา! ไปรบกับท้าวสักกะกัน" จอมอสูรกล่าวอย่างโกรธแค้น 
              เทพอสูรเรียกรวมพลเป็นการด่วน กองทัพอสูรดาหน้าพากันเหาะขึ้นเขาสิเนรุเป็นทิวแถวยาวเหยียดราวมดแดงไต่เสา ท้าวสักกะได้ข่าวจากหน่วยสอดแนมจึงทรงรีบนำทัพเหาะไปรบต้านสกัดพวกอสูรมิให้ขึ้นไปถึงดาวดึงส์ได้ พวกอสูรมีฤทธิ์มิใช่น้อย ไล่ล่าท้าวสักกะอย่างสนุกมือจนพระองค์    ต้องทรงล่าถอยไปสุดสมุทรสาคร มาตลีเทพบุตรควบเวชยันตรถพาท้าวสักกะหนีด้วยความเร็วสูงสุด ตะลุยเข้าเขตป่าไม้งิ้ว ทำลายไม้งิ้วราบเป็นหน้ากลอง ลูกนกครุฑพลัดตกลงมาพากันร้องเสียงขรม..
              "เฮ้ย! นั่นมันเสียงอะไรกันหน่ะ?" ท้าวสักกะตรัสถามเทพสารถี 
              "เสียงลูกนกครุฑร้อง พระเจ้าข้า โอ้! ช่างน่ากรุณาจริงๆ" เทพมาตลีทูล
              ท้าวสักกะทรงสลดพระทัยรีบรับสั่งให้หยุดรถ ตรัสว่า..
              "มาตลีผู้สหาย! ลูกนกครุฑเหล่านี้ต้องมาลำบากเพราะเรา มันอาจตายได้เพื่อรักษาชีวิตพวกลูกครุฑเหล่านี้เอาไว้ เราจะสละชีวิตให้แก่พวกอสูรมัน ท่านจงกลับรถโดยเร็วเถิด"
              เทพมาตลีกลับรถหันหน้ามุ่งลุยฝ่ากลับไปยังเทวโลก พวกอสูรเห็นท้าวสักกะกลับรถพุ่งฝ่าเข้ามาทำท่าจะสู้ตาย เกิดตกใจกลัวกันหมดว่า..
              "เห็นทีท้าวสักกะจากจักรวาลอื่นจะพากันระดมพลมาช่วยเป็นแน่แล้ว จึงหาญกล้ากลับรถมาลุยโดยตรงเช่นนี้ เฮ้ย! พวกเรารีบถอยด่วน" จอมอสูรกล่าวอย่างรนราน
              กองทัพอสูรพากันหนีหัวซุกหัวซุน ท้าวสักกะเสด็จกลับเทพนครโดยสวัสดี เวลานั้นเอง เวชยันตปราสาทสูงพันโยชน์ได้ชำแรกปฐพีผุดขึ้นฉลองชัยชนะอันขาวสะอาดของพระองค์ จากนั้นมา ท้าวสักกะทรงตั้งทัพอารักขาภพดาวดึงส์ไว้ 5 ชุดคือทัพนาค ทัพครุฑ ทัพกุมภัณฑ์ ทัพยักษ์ และท้าวมหาราชทั้ง 4 เป็นด่านสุดท้ายก่อนมาถึงตัวพระองค์ในเวชยันตปราสาท
              ตั้งแต่นั้น เหล่าอสูรก็ขึ้นมาท้ารบอยู่ทุกๆ ปีที่เห็นดอกแคฝอยผลิบาน เป็นแคฝอยประทับรอยแค้น แต่ดีที่สุดยังคงเป็นเรื่องท้าวสักกะทรงยอมสละชีวิตและทิพยสมบัติทั้งปวง เพียงเพื่อช่วยชีวิต  ลูกนกครุฑโดยไม่ลังเล..
                        "แสวงหาสุขตน           บนทุกข์คนอื่น
                        ปลายทางขมขื่น          ชื่นสุขไม่มี"



    "นี่คงถึงช่วงคอกแคฝอยบานสินะ"หลวงตารำพึง

    ท้าวสักกะแม้มีอำนาจศักดิ์ใหญ่ก็ไม่คิดทำลายชีวิตผู้อื่น ดังนั้นบุคคลพึงมีใจอ่อนโยน ไม่คิดว่าชีวิตตนมีค่ากว่าชีวิตผู้อื่น แล้วหาสุขใส่ตนโดยเบียดเบียนสุขผู้อื่น ฉะนี้แล้วสัตว์ทั้งหลายก็จะชื่นบาน ได้รับการค้ำจุนทั่วถึงกันด้วยอำนาจเมตตาธรรม 
              เรื่องการยอมลำบากเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุขนั้น 

    "เราเองก็อย่ายอมแพ้ต้องกอบกู้โลกให้ได้ จะขอเข้านิพพานคนสุดท้าย "หลวงตากล่าว

    ก่อนที่จะไปตามหาท้าวสักะท่ามกลางสงครามอันเดือดพล่านระหว่างเทพและอสูร
    จบตอนที่2 โปรดติดตามตอนต่อไป

    ขอความกรุณาโปรดแนะนำติชมด้วยเพื่อปรับแก้ต่อไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×